0000042

สัมผัส ทะเลซีกโลกใต้ ที่เมลเบอร์น อแควเรี่ยม

สภาพและบรรยากาศของนครเมลเบอร์น ครับ

สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้เวปนายเก๋า ขออาสาพาเพื่อนๆ เหิรฟ้าข้ามทวีป ไปชมความงามของเมลเบอร์น อแควเรียม สถานที่ท่องเที่ยว ในรูปแบบ ปลา ปลา ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองท่า ในรัฐวิคตอเรีย ของประเทศออสเตรเลียกันครับ

เมลเบอร์น อแควเรียม เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 1998 แล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 1999 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือน มาราคม ปี2000 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ได้เข้ามาสัมผัสกับ ความงามของทะเลทางฝั่งซีกโลกใต้ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทีเดียว

บริเวณนอกอาคารของ เมลเบอร์นอแควเรียม

สถานที่ตั้งของอแควเรียมนั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของนครเมลเบอร์น พอดิบพอดี ลงจากสถานีรถไฟ Flinder Station (หรือ ที่เรียกกันจนติดปากคนไทยที่นี่ว่า หัวลำโพง) แล้วเดินเลียบแม่น้ำ ยาร่า มาเรื่อยๆ ข้ามถนนสองสามเส้น ลอดใต้สะพานมาซักหน่อย ก็ถึงแล้ว ส่วนชั่วโมงทำการนั้น จะเปิดบริการตั้งแต่ 9.30น ถึง 18.00 น. ทุกวัน ตามเอกสารเข้าชมนั้นผู้เข้าชม จะสามารถเข้าชมได้ สองชั่วโมง ถึงสองชั่วโมงครึ่ง ต่อครั้งเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว เขาก็ไม่ได้เข้มงวดในส่วนนี้กันมากนัก เพราะถึงแม้ว่าเราจะออกไปจากตัวอแควเรียมแล้ว เราก็ยังสามารถที่จะใช้ ใบเสร็จกลับเข้ามาชมในวันนั้นๆ ได้อีกจนกว่าจะหกโมงเย็น ถ้าจะเอาให้คุ้ม ควรเข้าไปชมสองรอบขึ้นไปครับ อิอิอิ

ปลาสีสันสวยๆงามๆที่ถูกเอามาจัดแสดงไว้ด้านหน้า

มาถึงในส่วนของค่าเข้าชม ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนักสำหรับเราๆท่านๆ เพราะถ้าเทียบเป็นเงินไทยแล้ว ถือว่าสูงพอสมควรทีเดียว (ในขณะที่ปั่นต้นฉบับ 1$ Aus = 29 บาท) ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ 22$ เด็ก อยู่ที่12$ (อายุตั้งแต่ 4-16) ในส่วนของนักศึกษาและผู้ได้รับสิทธิพิเศษ อยู่ที่ 14$ อันนี้ต้องโชว์บัตรนักศึกษาด้วย (ถ้ามีบัตรนักศึกษาของไทยจะลองโชว์ดูด้วยก็ได้)

ปะการังสีสันสวยๆ ที่จัดคู่ไว้กับปลาการ์ตูน

เอาละทีนี้เรามาเริ่มเดินทางกันเลย ในส่วนแรก พอผ่านส่วนของช่องขายบัตรเข้ามา ก็จะมีปลาหลากหลายชนิด ให้ชมกันเลยทีเดียว รวมถึงปะการังสวยๆด้วย ช่วงนี้ปลาการ์ตูน หรือ เนโม ค่อนข้างฮิต เขาเลยเอามาใส่ตู้หน้า ให้เด็กๆ ได้ชมตัวจริงกัน จะจะ อ๊ะ อ๊ะ สำหรับคนที่ หวังจะเข้ามาชมปลาน้ำจืดบ้างบางชนิด (เหมือนผม) ก็คงต้องผิดหวังกันไปตามๆกันละครับ เนื่องจากที่นี่เขาจะเน้นในส่วนของปลาทะเลเป็นหลัก ไอ้ที่แอบหวังลึกๆ ว่าจะมี อโรวาน่า อาราไพม่า หรือปิรันย่าละ ก็ ไม่มีเลยครับ

กุ้งมังกร ที่จัดไว้คู่กับถังขยะ แบบขัดตา

เอาละกลับมาต่อ ในชั้นแรก หรือชั้นของจุดเริ่มต้นนี้ ส่วนมากก็จะมีปลาเล็กปลาน้อย และกุ้งมังกรหลากสีสันให้ดูกันเพลินๆ ก่อนที่จะเข้าไปเห็นปลาตัวใหญ่ๆข้างใน นอกจากจะให้ชมเพื่อความเพลิดเพลินแล้ว จุดหมายหลักๆ ของที่นี่คือ ให้ผู้เข้าชมได้รู้จักและเข้าถึงวิถีชีวิต ของปลาน้ำเค็ม และถิ่นที่อยู่ ของพวกเขาได้อย่างใกล้ชิด

แมงกระพรุนลักษณะแปลกๆ

หลังจากที่จุใจกันพอสมควรกับปะการังและปลาการ์ตูนหลากสีสัน ชั้นสองก็จะเป็นส่วนของสระปลากระเบนน้ำเค็ม ตัวขนาดกลางๆ และสัตว์เลื้อยคลานเช่นกิ้งก่า บางชนิดให้ดูด้วย ถัดมาจะเป็นห้องสำหรับ เจ้า Jelly fishes หรือ แมงกระพรุนนั่นเอง ดูแมงกระพรุนว่ายน้ำแล้วก็ค่อนข้างเพลินบอกไม่ถูก เพราะลักษณะการว่ายน้ำของเขาดูแปลกตา ไม่สิ้นสุด แมงกระพรุนบางตัวมีลักษณะ สวยเหมือน เห็ดหูหนู ดู แล้วก็สวยไปอีกแบบครับ

ปลาทะเลสวยๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป้นอย่างดี

พอเดินผ่านห้องนี้เข้าไป จะเห็นปลาหลากชนิด อยู่ในตู้กระจกโค้งๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างคละกันไป ส่วนมากจะเป็นปลาที่เราค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เช่นปลาเก๋าตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่ากิน เอ๊ยน่ากลัว ปลาเสือ และงูทะเล เป็นต้น

ปลาทะเลหัวโหนกรูปทรงคล้ายๆ เรดเดวิล

พอเดินผ่านห้องนี้เข้าไป จะเห็นปลาหลากชนิด อยู่ในตู้กระจกโค้งๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างคละกันไป ส่วนมากจะเป็นปลาที่เราค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เช่นปลาเก๋าตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่ากิน เอ๊ยน่ากลัว ปลาเสือ และงูทะเล เป็นต้น

ปลา แปลกๆบางชนิด ผมเองก็ไม่รู้จัก แต่ตัวค่อนข้างใหญ่มาก ใหญ่ประมาณสุนัขตัวกลางๆ คงได้ แถมยังมีโหนกมาให้ดูโก้ๆ อีกต่างหาก ส่วนมากปลาในตู้กระจกนี้ จะมีหลากหลายชนิดมาก ตั้งแต่ใหญ่มากจนถึงปลาตัวเล็กๆ ขนาดเท่าเหาฉลาม แต่เท่าที่สังเกตดู ปลาทุกตัวก็อยู่กันอย่างสันติดีครับ ไม่ค่อยมีการทะเลาะเบาะแว้งกันให้เห็น

เยี่ยมชมฝูงปลา ผ่านหลอดแก้ว

จากจุดนี้ไป ต้องเดินลงบันไดไปในชั้นใต้ดินล่างสุดครับ จุดนี้น่าจะเป็น ไฮไลท์ ของที่นี่ดังเช่น ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอื่นๆครับ นั่นคือ อันเดอร์ วอเตอร์ เวิลด์ ที่เราต้องเดินผ่านหลอดแก้วโค้งๆ ยาวๆ เข้าไปลอดใต้ท้องปลาฉลาม และปลากระเบนตัวใหญ่ ๆ สวยๆ อลังการนั่นแหละ ในชั้นนี้ดูเหมือนว่าปลาจะถูกบังคบให้ว่ายเป็นวงกลม เพื่อความเคลื่อนไหวที่สวยงาม และเป็นระเบียบ ตรงกลางของชั้นนี้จะเป็นห้องสำหรับดูปลาโดยเฉพาะ ซึ่งดูแล้วเพลินตามากๆ ที่น่าสนใจคือ ทุกๆรอบ เขาจะมีการสาธิต การให้อาหารปลาฉลาม กฎและการปฏิบัติตัวเมื่อเจอฉลามจังๆ และอื่นๆ อีกมากมาย

ห้องสำหรับดูปลา แบบเพลินๆ

หลังจากที่ชมการสาธิตเกี่ยวกับฉลามกันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะขึ้นสู่ทางออกชั้นบน ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัด “Simulator ride” ซึ่งก็คือการนั่งเรือจำลองเข้าไปสำรวจ ซากเรือใต้ท้องทะเล โดยใช้ภาพยนต์และการเคลื่อนไหวเสมือนจริงของยานโยกไปเยกมา ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในเรือดำน้ำ ลำนั้นจริงๆ การแสดงแต่ละรอบจะอยู่ที่ประมาณ สิบถึงสิบห้านาที โดยที่เขาแนะนำว่าเด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากการกระแทกค่อนข้างรุนแรง หลังจากที่ร่วมเดินทางกับเขาเสร็จเรียบร้อย บันไดเลื่อนก็จะพาเราขึ้นไปสู่ จุดขายของชำร่วย ซึ่งสนนราคาก็รู้ๆกันอยู่ ว่าค่อนข้างแพงเลยทีเดียว

ตัว โลโก้ของ เมลเบอร์น อแควเรียม

เอาละครับ สุดท้ายการเดินทาง คร่าวๆ ในทริปนี้ก็จบลงเรียบร้อย ใช้เวลาเดินดูเรื่อยๆ ประมาณ ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป ใครที่อยากจะเข้าไปดูอีกรอบ อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในตอนต้นแล้วว่า สามารถเข้าไปชมได้อีก ตราบเท่าที่ยังเวลาในวันนั้นๆ ยังไม่สิ้นสุด สำหรับเพื่อนๆ ที่มีโอกาสได้เข้ามาเที่ยว ที่เมลเบอร์น ถ้าสนใจก็ลองแวะเข้าไปเที่ยวชม ที่เมลเบอร์น อแควเรียมนี้ดู ส่วนเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีโอกาส หรือเวลาไม่อำนวย ถ้าว่างๆ ก็ลองแวะเข้าไปชม อันเดอร์ วอเตอร์ เวิลดิ์ ที่พัทยาก็ได้ครับ เพราะเพื่อนๆผมบอกว่าดีไม่แพ้กัน แถมสนนราคา ก็อยู่ในราคาที่ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไปนัก อ้าวเกือบบ่ายสองแล้วหรือนี่ เดี๋ยวผมขอตัวไปทานข้าวก่อนละกันนะครับ มิน่าเห็นปลาเมื่อกี้แล้วมันรู้สึกหิวๆ แปลกๆ ไปก่อนละครับ บายๆ

Reference Wasabi (pan_wasabi@hotmail.com) Website อ้างอิง www.melbourneaqurium.com.au