0000213

พาเพื่อนๆ ไปดูโลมา ที่แม่น้ำบางปะกง


ช่วงนี้ใกล้จะถึงช่วงเทศกาลต่างๆ มากมาย เพื่อนๆ เว็บนายเก๋าหลายๆ คนคงจะมองหาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อพาครอบครัวไปพักผ่อนกัน แต่วันนี้หนูตูนยินดีเสนอ แหล่งเที่ยวที่ใหม่ ที่น่าสนใจมากๆ เพราะ นอกจากจะได้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แล้ว ยังได้ศึกษา ธรรมชาติ ของสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ซึ่งหลายๆ คนมองว่าเป็นปลา แต่จริงๆ แล้วมัน คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเล นั่นคือ “โลมา” น่ะเอง แต่คราวนี้ไม่ต้องออกทะเลไปไกลแสนไกล เพื่อจะหาโลมาสักตัว เพียง แค่เพื่อนๆ แวะไปแถวๆ แม่น้ำบางปะกง เท่านั้น เพื่อนๆ อาจจะโชคได้ได้เจอโลมา เจ้าถิ่นประจำแม่น้ำบางปะกงก็ได้น่ะ

ระหว่างเดือนธันวาคม ไปจนถึงกุมภาพันธ์ (ช่วงนี้พอดี๊ พอดี) น้ำทะเล ในอ่าวไทย หนุนสูง ในช่วงกลางวัน ทำให้ระดับน้ำบริเวณ ปากแม่น้ำบางปะกง ค่อนข้างสูงและคงที่ สามารถพบเห็นโลมาอิรวดี โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และโลมาเผือกหลังโหนก ได้ง่าย

โลมาทั้งสามชนิด ที่พบเห็นใกล้ปากแม่น้ำบางปะกง เป็นโลมา ในกลุ่ม ที่ชอบหากินใกล้ชายฝั่ง พบได้บ่อยในทะเลเขตร้อน สิ่งที่ดึงดูด ให้โลมา เข้ามาหากินในบริเวณนี้ ก็เนื่องจากบริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งเป็น จุดบรรจบ ระหว่างน้ำจืด และน้ำเค็ม มีแถบของป่าชายเลน ตลอดแนวชายฝั่ง และลำน้ำ องค์ประกอบทางธรรมชาติเหล่านี้ทำให้มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ได้แก่ แพลงก์ตอนพืช และสัตว์ ปริมาณมหาศาล เป็นอาหารของ ปลานานาชนิด ได้แก่ ปลากะพง ปลากระบอก ปลาดุกทะเล ฯลฯ โดย เฉพาะอย่างยิ่งปลาดุกทะเล ซึ่งเป็นอาหารโปรด ของโลมาอิรวดี จะพากันว่าย เข้ามาหาอาหารบริเวณปากแม่น้ำ เป็นฝูงใหญ่ พวกโลมาจึงตามเข้ามาจับกิน

โลมาอิรวดี จะรวมฝูง 5 - 10 ตัว ช่วยกันต้อนเหยื่อให้อยู่ในวงล้อม แล้วว่าย โฉบ เข้าไปกัดกิน บางครั้งจะพุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำ เห็นครีบหลังสีเทา ที่มีลักษณะ เป็น แนวโค้ง ตัดกับยอดคลื่น หรือพากันลอยตัวขึ้นผิวน้ำ แล้วพ่นฝอยน้ำ ออกจากช่องขับน้ำ ด้านบนของลำตัว เกิดเป็น เสียงหวีด หวิวเบาๆ

พฤติกรรมการหาอาหารของโลมา เป็นภาพที่น่าประทับใจ และดึงดูด ให้ผู้คนหลั่งใหลกันมาชม จนเกิดเป็นกิจกรรมนำชมฝูงโลมาของชาวประมง มานานกว่า 10 ปี

โลมาเป็นสัตว์สังคม มักพบรวมกันเป็นฝูงใหญ่ มีการสื่อสาร กันใน กลุ่ม ด้วย เสียงที่ซับซ้อน ฉลาด และเป็นมิตร อาจกล่าวได้ว่า เป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ และให้ความรู้สึกเป็นมิตรกับมนุษย์มากกว่าสัตว์ชนิดใด และแม้จะล่า ปลากินเป็นอาหาร แต่ชาวประมงในละแวกปากแม่น้ำบางปะกง ก็ไม่ถือว่า เป็นศัตรู แต่ยังมีรูปแบบที่เกื้อกูลกัน กล่าว คือ การปรากฏตัว ของโลมา บอกได้ว่าฤดูที่ปลาใกล้ปากอ่าว ชุกชุมมาถึงแล้ว อีกทั้งการ รวมฝูง ล่าเหยื่อ ของโลมา ทำให้ชาวประมง ทราบถึงตำแหน่ง ของฝูงปลา ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้เกิดราย ได้จากการนำนักท่องเที่ยว ล่องเรือชมพวกมันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การเกื้อกูลที่ดำรงอยู่นี้ ดำเนินไป โดยปราศ จากการ จัดการที่ยั่งยืน บางครั้งอาจก่อ ให้เกิดผลร้าย กับฝูงโลมาจาก ความ รู้เท่าไม่ถึง การณ์ ด้วยเหตุนี้ ความร่วมมือในการจัดทำแผนการจัดการที่ดี สำหรับโลมาบริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ตลอดจน อ่าวไทยตอนใน จึงมีความจำเป็น เนื่องจากโลมามิใช่เพียงตัวละครเอก ในธุรกิจท่องเที่ยว เท่านั้น หากแต่มีหน้าที่ ที่สำคัญกว่านั้นมากนัก ในการเป็นกลไกหนึ่ง ของระบบนิเวศชายฝั่งอันอุดมสมบูรณ์

รู้จักโลมา โลมา และ วาฬ เป็นสัตว์ในกลุ่มเดียวกัน เป็นสัตว์เลือดอุ่น เลี้ยงลูกด้วยนม หายใจด้วยปอด ปรับตัวมาอาศัยในทะเลมานานกว่า 65 ล้านปี เท่าที่มีรายงานพบในน่านน้ำประเทศไทย มีทั้งสิ้น 25 ชนิด แต่ที่พบเห็นได้บ่อยใกล้ชายฝั่ง มี 3 ชนิด คือ โลมาอิรวดี, โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และ โลมาเผือกหลังโหนก

โลมา และวาฬ เป็นผู้บริโภคระดับบนในห่วงโซ่อาหาร ช่วยสร้างสมดุลย์ ให้กับระบบนิเวศในทะเล การกินปลาเป็นอาหาร เป็นการควบคุม ประชากรปลา ในขณะเดียวกัน ยังช่วยกำจัดปลาที่อ่อนแอ ไม่แข็งแรง มิให้มีโอกาสกระจายพันธุ์ต่อไปได้ เช่นเดียวกับหน้าที่ของสัตว์ผู้ล่า ในป่าบนแผ่นดิน การรวมฝูงล่าปลาขนาดกลาง และขนาดเล็ก กินอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โลมา ช่วยรักษาสมดุลให้กับท้องทะเล ขณะเดียวกัน พวกมันยังส่งผ่านพลังงานต่อไป

เมื่อตกเป็นเหยื่อของปลานักล่าขนาดใหญ่ ได้แก่ ฉลาม ไม่เพียง หน้าที่ ในระบบนิเวศ มนุษย์ยังเชื่อกันว่าโลมา เป็นมิตร หลายต่อ หลายครั้ง ที่พวกมัน ช่วยเหลือมนุษย์จากการโจมตีของฉลาม เป็นผู้ช่วยที่ดี ในการหาปลา ของชาวประมงพื้นบ้าน และยังสร้างความสุข ให้กับมนุษย์ เมื่อได้พบเห็นการรวมฝูงในธรรมชาติ

โลมาทั้ง 3 ชนิด ที่พบได้บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง แม้จะ ไม่ถูกคุกคาม จากการล่าโดยตรง แต่พวกมันก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามอื่นๆ โดยมนุษย์ ทั้งจากกิจกรรมทางน้ำที่หนาแน่น ทั้งการขนส่ง และการประมง การนำ เรือออกไล่ตาม เพื่อติดตามดูพฤติกรรม โดยขาดความเข้าใจ ปัญหามลพิษ การทำลายป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ำ

โลมาอิรวดี

พบเห็นได้บ่อย และง่ายที่สุดใกล้ปากแม่น้ำบางปะกง ตลอดจน อ่าวไทย ตอนใน ชื่อ โลมาอิรวดี มาจากแหล่งที่พบครั้งแรกโดยชาวตะวันตก ในแม่น้ำอิรวดี ซึ่งโลมาชนิดนี้ สามารถว่ายน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ตาม ลำน้ำขนาดใหญ่ ในอินเดีย บังคลาเทศ พม่า ไทย และ กัมพูชา โลมาอิรวดี เมื่อโตเต็มที่มีขนาด2.1-2.6 เมตร ลำตัวสีเทาเข้ม หัวโหนก ค่อนข้างกลม ไม่มีจงอยปากยื่นยาวเหมือนโลมาชนิดอื่น แต่ปากค่อนข้างงุ้ม เต็มไปด้วยฟันแหลมคม ครีบหลังทรงสามเหลี่ยมปลายกลมมน ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับโลมาชนิดอื่น อยู่ค่อนไปทางหาง โลมาอิรวดี ว่ายน้ำค่อนข้างช้า มักโผล่ครีบหลังขึ้นมาให้เห็นเพียงช่วงสั้นๆ ชอบโผล่ส่วนหัวขึ้นมาเหนือน้ำ และมองออกไปโดยรอบ การรวมฝูงล่าปลาเป็นอาหาร ทำให้พวกมันเป็นผู้ช่วยที่ดีของชาวประมง เนื่องจากฝูงปลาที่แตกตื่นจะเตลิดเข้าไปติดอวนของชาวประมง

โลมาหัวบาตรหลังเรียบ

ลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับโลมาอิรวดี ทั้งสีผิว ลักษณะหัว จงอยปาก และพฤติกรรม แต่มีขนาดเล็กกว่า คือ ระหว่าง 1.0 - 1.9 เมตร และไม่มีครีบหลัง เป็นโลมาที่อาศัยใกล้ชายฝั่ง ในเขตน้ำตื้นแม้จะพบแพร่กระจายในเขตอ่าวไทย แต่ก็พบเห็นได้ยากเนื่องจากไม่มีครีบหลังให้สังเกต จากรายงานของชาวประมงบริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ระบุว่า บางครั้งพบหากินร่วมกับโลมาอิรวดี

โลมาเผือกหลังโหนก

มีขนาดใหญ่กว่าโลมาอิรวดีมาก โตเต็มที่มีขนาดถึง 3.2 เมตร จุดเด่นอยู่ที่สีผิวที่ซีดขาว หรือสีชมพูจางๆ พบทั่วไปใกล้ชายฝั่ง มหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้ รวมถึงชายฝั่งอ่าวไทย โลมาเผือกหลังโหนก มีรูปร่างยาว ปากเรียวยาว สีที่ลำตัว มีหลากหลายทั้งสีน้ำตาลเหลือซีด เทาจางๆ ไปจนถึงขาวอมชมพู และยิ่งอายุมาก สีที่จะงอยปากจะยิ่งจางลง เนื่องจากมีขนาดใหญ่ และสีอ่อน ว่ายน้ำได้ช้า โลมาเผือกหลังโหนกจึงเห็นได้ง่าย และเห็นได้จากระยะไกล ประกอบกับครีบหลัง ที่ฐานโค้งกว้างมาก มีขนาดเกือบ 1 ใน3 ของหลัง ยิ่งทำให้เห็นได้เด่นชัด อย่างไรก็ตาม โลมาชนิดนี้ ค่อนข้างระแวดระวัง เรือ ไม่ชอบว่ายเข้ามาใกล้ หรือว่ายนำเรือ แต่ชอบใช้หางตีน้ำ หรือตะแคงตัวว่ายน้ำ

ข้อควรปฏิบัติในการดูโลมา

  1. เมื่อเข้าใกล้ฝูงโลมาควรเคลื่อนเรือให้ช้าทีสุด เบาเครื่อง หรือ ให้เรือเดินช้าๆ
  2. รักษาระยะห่างไม่ควรเข้าใกล้เกิน 30 เมตร
  3. ไม่ควรนำเรือเข้าฝ่ากลางฝูงโลมา หรือไล่หลังโลมา ควรดูอยู่ข้างๆ ฝูง
  4. ไม่ควรนำเรือไปดักหน้า หรือขวางหน้าฝูงโลมา
  5. ไม่ควรเร่งเครื่องเรือ หรือเร่งความเร็วกะทันหัน
  6. ไม่ควรให้อาหารโลมา เพราะจะทำให้นิสัยการกิน อาหารเปลี่ยนไป และอาจขาด ธาตุอาหาร ที่ร่างกายต้องการ

สำหรับผู้ที่สนใจไปชมโลมาที่แม่น้ำบางปะกงสามารถเดินทางได้ ตามแผนที่ หรือจะไปที่ท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะจุดนี้เป็นจุดที่พบโลมาได้บ่อยที่สุด

ขอได้รับความขอบคุณจาก

WWF Greater Mekong Programme

สำหรับรายละเอียดและข้อมูล

เกี่ยวกับการอนุรักษ์โลมาในลุ่มแม่น้ำบาง ปะกง