แล้วขี้ปลาเนี่ย ทราบว่า ถ้ามันมากเกิน มันก็เกิดแอมโมเนีย แล้วถ้าขี้ปลาลงไปในช่องว่างของพื้นหินที่ปูไว้ มันก็ดูดไม่ได้ ไม่แย่กว่าเก่าเหรอครับ

หรือเราเอากรองนอกตู้ดีๆมาใช้แล้วปล่อยพื้นโล่งไว้

แล้วถ้ามันมีขี้ปลาหลุดค้าง ไม่เข้าไปให้ถูกกรอง มันจะเป้นการกรองที่สูญเปล่าไหมครับ

คำถามก็ประมาณนี้ เพราะผมลองไม่ปูพื้น มันก็มีขี้ปลา แล้วถ้าปูพื้นด้วยหินภูเขาไฟ ใช้กรองใต้กรวด ( หรือเพื่มกรองอื่นๆในตู้ เช่นกรองนอก กรองแขวน ฯลฯ ) ขี้ปลามันจะสลายไปยังไง

ซีเรียสไปรึป่าว
ถ้าเป็นผมนะไม่ปูอะไร หรือถ้าปูก็
กรองใต้กรวดธรรมดา แล้วหากรองแขวนหรือกรองกล่องกระปุก
สี่เหลี่ยมที่ตั้งตรงมุมมาใส่เพิ่มเท่านี้ ถ้ามีขี้ปลาในกรณีปูกรวด ก็ใช้
ที่ดูดขี้ปลาครับ ดูเสร็จก็ถ่ายน้ำเข้าออกปกติอยู่แล้ว
ผมว่าคุณไม่ต้องกังวลมาก หาเวลาเอาใจใส่ถ่ายน้ำ ดูดขี้ปลา ปลาคุณก็ไม่ตาย พวกปลาบอลลูน ซัลฟิล สอดหางนกยูงไรนั่น เลี้ยงแบบในอ่าง
หรือท่อปูน ตามบ้านไม่มีอ็อกมันยังไม่ตายเลย
ผมว่ามันทนมากๆแล้วนะครับ ถ้าตู้คุณเล็ก คุณต้องมาคิดว่าต้อง
หาเวลา ถ่ายน้ำ พักน้ำ ดูดขี้ปลา ล้างกรองล้างตู้แค่นี้ ก็จบครับ

ปล เลี้ยงปลา ผมว่ายังไงยากกว่าหมาแน่ๆครับ เพราะปลา
มันยากที่จะคาดเอา มันสื่อสารกับคนไม่ได้ มันป่วยไม่สบายไม่ได้
แสดงอาการ หรือร้องให้เราได้ยิน อยู่ที่เราต้องดู และหมั่นสังเกต
พฤติกรรมมันครับ

ซื้อกรองนอกมาใช้
จบ

ความจริง ซื้อกล่องกรอง มาดีกว่าครับ ดูดขึ้ปลาดี
ไม่ก็ ใช้ พวกกรองนอกอันเล็กๆ ก็ดีครับ ผมว่าปลาหางนกยูง นี่อึดนะครับ ไม่มีอ็อกซิเจนให้มัน ก็อยู่ได้ โชคดีครับ

ปลาคุณที่ตายไม่ได้เป็นเพราะกรอง แต่เป็นเพราะคุณไปใส่น้ำยาต่าง ๆ ตะหากล่ะ

รู้ไว้ด้วยครับ คนเลี้ยงปลาจริง ๆ เขาเรียกน้ำยาพวกนี้ว่า "ของหลอกเด็ก"


เลิกจิตตกได้แล้วครับ กลับมาตั้งสติใหม่ !

เหนด้วยอย่างแรง คุณวิตกจริตมากไป
ดูแลเรื่องน้ำดีๆ เลี้ยงปลาให้เหมาะกับตู้ กับกรอง แค่นี้ก็ยาวแล้ว
ครับ ปลาหางนกยูง ปลาสอด ทิ้งไว้ในถังในไหเลี้ยงยังไม่ตายเลย
ส่วนมากพวกนี้ทนแล้ว ส่วนมากคนเลี้ยงปลาเป็นเขาไม่ใส่ยาครับ

จริงครับ ไม่ต้องใส่ยาอะไรทั้งนั้น ผมไม่เคยใส่ยาอะไรเลย ใส่แค่เกลือ (ผมใช้เกลือบ้านที่ใช้ทำกับข้าวอะครับ) ก็รอดมาได้ 7 เดือนแล้ว มีตายไป 1 ตัว เพราะดันเข้าไปติดกรอง เพราะตอนวื้อมาใหม่ๆ ตัวมันเล็ก มันหมุดเข้าไปกินเศษอาหารที่ติดในกรอง (ตายเพราะตะกะ) กลับมาดูไม่ทัน ตายคากรอง

การที่คุณใส่ใจกับปลามากเกินเหตุนั้นแหละคับ

สาเหตุที่ทำให้มันตาย

เวลาเราไปสนใจ จับจ้องเปลี่ยนนู้นเปลี่ยนนี้

ใส่นู้นใส่นี้ มันมักจะตายเสมอ

เริ่มต้น ต้องแก้ไขความเข้าใจที่ผิดๆ นิดนึง คนส่วนมากที่เพิ่งหัดเลี้ยงปลาจะเข้าใจว่า ตู้เล็กๆมันง่าย กะว่า ถ้าเลี้ยงตู้เล็กๆรอดค่อยลองตู้ใหญ่ต่อไป ซึ่งเป้นความเข้าใจที่ผิด การจัดตู้เล็กให้ลงตัว ให้ปลาอาศัยอยู่ได้ ยากกว่าตู้ใหญ่มากๆครับ เรียกว่าตู้ยิ่งใหญ่เท่าไร่ยิ่งง่าย ปลามีโอกาสที่จะไม่ตายสูง การจัดตู้เล็กๆ จึงเหมาะกับคนที่เลี้ยงปลามาพอสมควรแล้วเข้าใจระบบทุกอย่างและอยากได้ความท้าทาย(ให้ลองสังเกตุดูตามร้านไม้น้ำจะมีตู้เล็กๆ เลี้ยงปลาตัวเล็กๆ โชว์อยู่ในร้าน ตู้พวกนี้ ระดับ โปร ครับ ฮุฮุ) สำหรับขนาดตู้ที่แนะนำ ถ้าหัดเลี้ยงปลา น่าจะเป้นตู้ 24 นิ้วกรองข้างขึ้นไป จะค่อนข้างง่าย ถ้าเล็กกว่านี้ความยากจะตามมาเรื่อยๆครับ
เอาละ ตอบกระทู้ดีกว่า
สำหรับหินภูเขาไฟ เท่าที่ทดลองใช้มา เป็นวัสดุกรองที่ดีมากๆ สามารถนำมาปูพื้นก็ได้ แต่มีข้อเสีย คือมันจะเบา อาจะจะปลิว หรือลอยขึ้นได้ง่าย น่ารำคาณเท่านั้น ถ้าจะใช้ แนะนำให้ ปูหินภูเขาไป แล้วโรยกรวดทับ ก็จะช่วยได้ครับ
การจัดการตู้ที่บอกมาถือว่าดีแล้ว เรื่องการเปลี่ยนน้ำให้ปลา ตู้เลี้ยงปลาขนาดเล็กๆ เช่นหางนกยูงหรือปลาสอด ถ่ายน้ำ เดือนละ 1 ครั้งก็ได้ เพราเป็นปลาที่มีของเสียไม่มาก สารเคมีทุกอย่าง ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องใส่ แม้แต่เกลือ เพราะปลาพวกนี้มีขนาดเล็ก ถ้าเราใส่มากไปนิดเดียวอาจจะตายได้
เรื่องขี้ปลา ถ้าระบบเซ็ตตัว ขี้ปลาที่ลงมาติดใต้แผ่นกรองหรือตามซอกของวัสดุกรองจะมีแบคทีเรียย่อยสลายได้เองครับ มันจะหมดไป เหลือตกข้างค่อนข้างน้อยเราถ่ายน้ำก็แทบหมด สำหรับตู้นี้กรองใต้กรวดอย่างเดียวก็พอแล้ว
ปล. การเลี้ยงปลา ยากกว่าเลี้ยงหมาจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย ค่อยๆศึกษา ก็จะทำได้ครับ และเห้นด้วยกะ คคห ด้านบน ว่า การใส่ใจกับปลามากเกินเหตุ ถ้าคิดว่าระบบดีแล้ว ปล่อยๆ มันบ้าง ปลาจะไม่ตายครับ

กำ พิมพ์ ยาวเกินหลุดเลย ฮุฮุ

+1 ครับคุณแมว