เคยไปแต่ประเทศแถบบ้านเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน แต่เขาไม่มีตลาดปลาแบบบ้านเราค่ะ ส่วนใหญ่ ร้านปลาจะเป็นร้าน ๆ กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วไป ถ้าจะไปดูร้านปลาในประเทศที่ว่านี้ ควรจะมีที่อยู่ของร้านที่แน่นอนก่อน ไม่อย่างนั้น จะหายากหรือเหนื่อยซะก่อนค่ะ

ที่มาเลเซียจะมีร้านปลาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะแถว ๆ jahor , penang , butterworth แต่ร้านปลาของเขาไม่สวยงาม สะอาดเหมือนบ้านเรา ปลาที่ขายปลีก ราคาสูสีกว่าบ้านเรามาก ส่วนฟาร์มต่าง ๆ ก็จะอยู่ออกไปนอกเมือง ถ้าเทียบกับกรุงเทพ ก็จะอยู่แถว ๆ รังสิต ค่ะ

ส่วนสิงค์โปร์ ร้านปลาส่วนใหญ่เป็นร้านเล็ก ๆ เพราะเนื้อที่ของประเทศนี้แพงมาก ๆ ว่ากันว่า สิงคโปร์เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุด แต่ ตลาด ในที่นี้หมายถึง เป็น distributor คือสั่งปลาจากประเทศอื่น แล้วกระจายไปยังประเทศปลายทางต่อไป ที่สิงค์โปร์ ก็จะมีฟาร์มปลาเหมือนบ้านเรา อยู่ในแนวถนนที่เรียกว่า farmway ทั้ง 1 และ 2

ลักษณะตลาดปลาแบบบ้านเรา คือ เซเว่นเดย์ ซันเดย์ จตุจักรพลาซ่า ศรีสมรักษ์ เป็นลักษณะเฉพาะตัวที่ดีกว่าประเทศอื่นแล้วค่ะ ลูกค้ามาที่เดียวสามารถเลือกชมได้มากมายหลายร้อยร้าน แต่การแข่งขันกันก็ค่อนข้างสูง ถ้าบ้านเราสามารถเป็น distributor ที่มีความสามารถเช่นสิงค์โปร์ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลย คิดว่าในอนาคตน่าจะมีการพัฒนาจากการเป็นผู้ส่งออก มาเป็น distributor ได้นะคะ

ไม่ทราบคุณลีนุกซ์ไตรทอง เลี้ยงเฉพาะปลาหมอสีเหมือนดิฉันหรือเปล่า แล้วเลี้ยงอะไรอยู่บ้าง ถ้าว่าง ช่วยตอบมาบ้างนะคะ

คุณลีนุกซ์ไตรทองเป็นคนช่างคิดนะครับ มีมุมมองที่ใหม่ๆที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร แต่ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจ บางครั้งของดีๆที่อยู่ใกล้ตัว ถ้าไม่ลองมาคิดดูก็ไม่รู้ได้นะครับ อย่างเช่นกระทู้ที่ถามมานี้

เห็นด้วยครับ มุมมอง และความคิด ต่างๆ บางครั้ง ทำให้ ผม ฉุก คิด ได้เหมือนกัน

ที่ hongkong เตยไปเดินตลาดปลาแถวๆๆ ย่าน momgkok เป็นถนนความยาวผมกะประมาณ กิโลกว่าๆๆ น่าจะได้ ทั้งสองฝากร้านขายปลาและอุปกรณ์เลี้ยงปลา ผมว่าใหญ่สู้ จตุจักรไม่ได้
ที่japan ส่วนใหญ่เป็นร้านขายปลาและฟารม์อยู่แยกกันไป ปลาหมอแพงกว่าบ้านเรามากเอาการ ร้านสะอาดมาก ทีดีมาก คือ อุปกรร์เลี้ยงปลา มีหลากหลายมากกว่าบ้านเราเยอะครับ

----- วงชีวิตผมมันแคบๆ เลยมักมองโลกด้วยจินตนาการ ซะส่วนมาก ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามา แสดงวิสัยทัศน์(คำโก้ดี)
----- หากใครสักคนที่มี เพาเวอร์ พอแนะให้รัฐบาลหันมามอง ตลาดปลาของไทยแห่งนี้ ให้ความสนับสนุนจัดระเบียบ อำนวยสาธารณูปโภค เช่น ถนน ไฟ น้ำ ระบบความสอาด ที่จอดรถ
----- มีการประชาสัมพันธ์ ให้คนทั่วโลกได้รู้จักอยากมาชมมาเลือกซื้อปลา ผลประโยชน์ ก็เข้าประเทศในอีกทาง
พูดถึง ตลาด จตุจักร นี่ ไปอีกนิดก็ถึง สนามบินดอนเมืองแล้ว คนจากประเทศรอบๆบ้านเรา น่าจะมาสดวกนะครับ
----- ทางหน่วยราชการ เช่นกรมประมง อาจมาตั้งสถานที่อำนวยความสดวกในการนำปลาออกนอก ถึงที่ตลาดแห่งนี้เลย
----- ฟุ้งไปเรื่อยๆ.................

คำพูดบางคำ การกระทำบางอย่าง แม้จะเล็กๆ หน้อยๆ
ถ้าทำถูกที่ถูกเวลา
ก้อสามารถสร้างประโยชน์ หรือ โทษได้มหาศาล
ถ้ามีคนจุดประกาย
ดังเช่นไม้ขีดไฟก้านเดียวที่สามารถ
เผาป่าราบเป็นร้อยๆ ตารางไมล์ได้
ก้อสามารถ สร้างจินตนาการใหญ่ๆ
ให้เป็นความจริงได้
ติดแต่ว่าเมื่อไหรน่ะสิ จะถึงวันนั้น
คนที่ติดได้แบบเดียวกันมีอยู่
ถ้าได้รวมพลังกันสักนิด คงสร้างปาฏฺหารย์ได้ไม่ยาก นัก
(เจมส์ขอแจม)

เมื่อคืนผมดูรายการ เมืองไทยวันนี้ เค้าคุยกันเรื่องการปรับปรุงหน้าตาของสถานีรถไฟกรุงเทพ โดยจะย้ายสถานีใหม่มาอยู่ที่ตลาดจตุจักร ปัจจุบัน ผมฟังไม่ถนัดนะคับ คือแบบหลับๆตื่นๆอ่ะ แต่เห็นในรูปที่เค้า ทำไว้ มันเป็นสถานีขนาดใหญ่ ถ้าดูรูป ไม่ผิดนะคับ มันสร้างทับลงบนตัวตลาดพอดีเลยหล่ะคับ แต่โครงการนี้เป็นโครงการระยะยาว คงอิกเป็นสิบปีอ่ะคับ

คุณลีนุกซ์ไตรทองครับ....ผมนับถือคุณจริงๆ
นอกจากมองต่างมุมแล้ว
คุณยังมองภาพอนาคตตลาดปลา(ที่ใหญ่ที่สุดในโลก)ที่เป็นไปได้(ซึ่งจริงๆมันเป็นไปแล้ว).......หากแต่รัฐบาลแค่เหลี่ยวมามองแบบคุณ....สิ่งอำนวยสาธารณูปโภคต่างๆเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาลอยู่แล้ว เพียงแค่ส่งเสริมอีกนิด...ฝันนั้นก็ใกล้เป็นจริง

ผมอยากให้มีการปรับปรุงที่จอดรถให้ดีกว่านี้นะครับเพราะว่าพื้นเป็นดินขรุขระมากครับ คนก็ใช้บริการมากอยากให้มีการปรับปรุงตรงจุดนี้ด้วย ผมว่าจะมีคนมามากกว่านี้เยอะครับ

ผมเห็นด้วยกับความคิดที่ดีๆของคุณลีนุกซ์ไตรทอง ว่ารัฐบาลน่าจะลองมามองดูผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติตรงนี้บ้าง เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ถ้าคิดที่จะทำจริงๆจังๆ เราจะได้เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดของโลกจริงอย่างว่า แต่ปัญหาที่จะต้องแก้ใน เจเจ ที่เห็นๆคือ 1. ที่จอดรถทำให้ดีมีมาตรฐานกว่านี้(เพราะรายได้ดีอยู่แล้ว ลงทุนหน่อยสิ) จะเทพื้นใหม่หรือจะเอาหินดินมาถมแล้วเกลี่ยพื้นให้เรียบก็โอเคแล้ว 2.ไฟดับประจำโครงการศรีสมรักษ์ ดูๆปลาอยู่ดีๆเดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ เซ็งจริงๆ

----ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเดินที่ จตุจักร บ่อยๆ แทบทุกอาทิตย์ก็ว่าได้ ผมก็มีความเห็นเหมือนกับหลายๆ คนเรื่องที่จอดรถครับ ว่าควรที่จะปรับปรุงเสียที เดี๋ยวนี้ไม่กล้าที่จะเอารถไปแล้ว ถ้าไม่ได้ซื้ออะไรที่หนักหรือมากๆ ก็ไปรถเมล์ดีกว่า
----ภาครัฐมีส่วนอย่างมากในการส่งเสริมเรื่องนี้ แต่ผมว่าคงอีกนานครับ เพราะถ้าผู้ประกอบการไม่มีการรวมต้วหรือแสดงพลังให้รัฐบาลเห็นถึงมูลค่าการตลาดมากมายที่เราต้องเสียไปโดยต้องไปผ่านประเทศเพื่อนบ้านอย่างทุกวันนี้ อย่างว่ารัฐบาลเค้าไม่ค่อยมองอะไรหรอกเนอะ นอกจากจะทำอย่างไรให้ตัวเองนั่งเก้าอี้ได้นานๆ

ตลาดปลาจตุจักรของเมืองไทย ใหญ่มากนะครับแต่ไม่แน่ใจว่าจะใหญ่ที่สุดในโลกรึเปล่า

พูดกันถึงเรื่องของ Singapore กับการเป็น Distributor ของเค้า ผมละงงจริงๆว่ามันเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดได้ยังไง สั่งปลาจากประเทศอื่นแล้วกระจายออก เรื่องของเรื่องคือต้องมีเงินทุนก่อนแล้วสิงคโปร์ก็เป็นเมืองท่าเสียด้วย ที่ดินเค้าก็เล็กนิดเดียว ประเทศไทยเราได้เปรียบหลายด้านมากๆ แต่ขาดอยู่อย่างเดียวคือเรื่องเงินสนับสนุนและความสามัคคีกันนะซิครับ

ถ้าพัฒณา สวนจตุจักรให้มีมาตรฐาณขึ้นก็ขาดเรื่องเงินพัฒณาไม่ได้นะครับ แล้วใครจะเป็นคนพัฒณาก็คงจะไม่พ้นรัฐบาลและหน่วยงานควบคุม ถ้าจะให้ พ่อค้าแม่ค้าสามัคคีทำกันคงจะเป็นไปไม่ได้เพราะ แต่ละคนก็จ้องแต่จะหาผลประโยชน์ใส่ตัวแล้วที่สำคัญตอนนี้ประเทศไทยเป็นหนี้อยู่กี่ล้านๆ ละครับ จะทำยังไงให้ได้มาตรฐานแล้วลงทุนน้อยที่สุด ?

ตลาดจตุจักรโดยรวมเน้นแต่การค้าภายในประเทศ ในความคิดของผมเราควรจับมือกัน ทำตลาดส่งออกให้ใหญ่ขึ้นนะครับ ที่ดินภูมิประเทศเราเป็นต่ออยู่แล้วคนอื่นมีความคิดยังไงบ้างครับ ??