ผมหล่อไหมครับ ตาโปนแบบนี้ ไปปรึกษาห้างแว่นตาบิ้วตี้ฟลูซันเดย์ดีก่า อิอิ ม่ายดิ ต้องไปทำเลสิก ต่างหาก ว่าแล้วก็ไปหาหมอดีก่า อิอิ
สาเหตุของโรค น่าจะเกิดจากเจ้าเชื้อ สเตปโคคอกคัส น่ะครับ ถ้าจำไม่ผิด เมื่อเชื้อระบาดเข้าสู่อวัยวะภายใน โดยเฉพาะที่ไตปลา ไม่ใช่แกงไตปลาน่ะ ฝรั่งเรียกว่า Kindney อ่ะ อาการที่แสดงออก ก็คือ ตาจะเริ่มโปนออกมาทีละข้าง ถ้าไม่รักษาก็จะตายในที่สุด

คราวนี้มาที่วิธีการรักษาเลยดีกว่า(โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมและเก็บเกี่ยว ถ้าไม่เชื่อวิธีการโปรดปิดกระทู้ซะ)
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เอมอกซิลินถึงแม้จะเป็น Broad Spectum ก็จริง แต่อะไรที่มันครอบจักรวาลในการรักษา ไม่มีประสิทธิผลทั้ง 100 เปอร์เซนต์หรอก ซิบอกไห่
ดังนั้นการใช้ยาที่ตรงตามการรักษา จะให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการรักษา เต็ม 100 ตรงประเด็นที่สุด ดังนั้นวันนี้ตัวยาที่พี่ทอมจะขอแนะนำก็คือ แต๋นๆแต้น.....
เจ้า Erythomycin เวลาไปซื้อ มองซ้ายมองขวาดีดีเด้อ เพราะเจ้ายาตัวนี้ ใช้ในการรักษา หนองในในโรคเพศสัมพันธุ์ บอกเค้าว่าเอาไปรักษาปลา อิอิอิ(รูปหลังจากการให้ยามาแล้วราวๆ 12วัน)

วิธีใช้ ก็คือ เอายามาบดหรือบางร้านจะมีแบบ แคปซูล ก็เอามาใช้ได้ทันที เอายามา 1 เม็ด ขนาดราวๆๆ100 มก. มาใส่ใน หลอดดูดยา ผสมน้ำให้ได้ราวๆ 3 ซีซี แล้วจัดการฉีดยาเข้าปาก เอาไส้ไก้หรือสายยางมาต่อที่หลอดดูดยาก่อนเด้อ แล้วฉีดเข้าไปลึกๆกันยาออกมาทางเหงือก

ทำซ้ำประมาณ 21 วัน เปลี่ยนน้ำทุกวันด้วย 10 วันแรก งดอาหารไปก่อนก็ได้ เพราะปลาไม่กินอยู่แล้ว ควรให้ยาต่อเนื่องกันทุกวันจนกว่าจะหายขาด ถ้าต้องการให้เร็ว ก็สามารถให้ยาเช้า-เย็นก็ได้ ทำแบบเดียวกัน ในสองสามวันแรกหลังจากให้ยา ตาจะโปนมากขึ้น จนเกือบทะลักออกมานอกเบ้า ไม่ต้องตกใจ แต่ปลาจะไม่ตาย หลังจากให้ยามาครบอาทิตย์ อาการจะดีขึ้นตามลำดับ
หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนน่ะครับ

อโรคายา ปรมาราภา -หวังว่าคงเขียนถูกเด้อ

ขอบคุณครับ ^^

เหอๆ เจ๋งมากๆเพ่ ลงทุนลองทำเองเลย อิอิอิ

สิ่งที่เจอเป็นประจำสำหรับน้องๆที่รักษาปลาด้วยยาปฏิชีวนะ คือ

1. ขี้เกียจเปลี่ยนน้ำทุกวัน
2. เปลืองยาที่จะต้องมาใส่ทุกวัน
3. พอเห็นว่าปลาค่อยยังชั่วก้อหยุดรักษา

สิ่งที่พี่ทอมหรือพวกพี่ๆพร่ำบอกกัน เป็นสิ่งที่ทดลองและทดสอบมาแล้วกับปลาของพวกพี่ น้องๆไม่ต้องมาลองผิดลองถูกกับยาอีกให้เหนื่อย แค่ทำตามขั้นตอนทุกอย่างให้ครบและสม่ำเสมอเท่านั้นก็พอ บางทีการรักษาไม่ครบโด๊สแม้ว่าอาการของปลาจะดีขึ้นแล้วก็ตาม แล้วหยุดยามันยิ่งจะกลายเป็นว่าทำแบคทีเรียหรือโปรโตซัวที่ก่อให้เกิดโรคได้พัฒนาเกราะของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งปกติแล้วยาปฏิชีวินะจะเข้าไปทำลายเกราะของแบคทีเรีย ฯลฯ แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเม็ดเลือดขาวเข้าไปจัดการทำลาย เมื่อเชื้อโรคเกิดอาการดื้อยาแล้ว การรักษาต่อจะค่อนข้างลำบากมาก เพราะฉนั้นควรจะขยันในการเปลี่ยนน้ำและให้ยาให้ครบโด๊สเท่านั้นก็เพียงพอแล้วครับ บางทีปลาที่เรากำลังรักษาเกิดตายเราก็โทษแต่ยาว่าใช้ยาผิด แต่เรากลับมองข้ามความผิดพลาดของตัวเราเองในการดูแลปลาและวิธีการใช้ยาเลย
ปล.ช่วงนี้หน้าหนาวตู้ปลาบ้านใครวัดอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา ก็ควรหาฮีตเตอร์มาใช้ได้แล้วนะครับหรือเปิดไฟตู้ไว้ตลอดเพื่อเพิ่มอุณหภูมิตู้ก็พอช่วยได้ครับ อย่าปล่อยให้เกิดโรคแล้วค่อยรักษา เราควรที่จะดูแลเพื่อไม่ให้เกิดโรคด้วยนะครับ ^_^

ปลาบ้านผมก็เคยเป็นครับ เลยจับลงบ่อน้ำใหญ่ๆทิ้งไว้ ไม่กี่เดือนผ่านไปหายเป็นปกติ ตาใสแจ๋วเลยครับ แต่วิธีนี้ไม่แนะนำให้ทำตามนะครับ

แวะมาทักทายก๊าบบบ
คห.ที่4 ลูกพี่ทอมป่าว น่ารักดีนะพี่ แต่ขวดด้านหลังน่ารักกว่า อิอิ

ขอบคุณมากๆคร๊าบบ...พี่ทอม และก็ พี่นัทด้วย