Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

Exotic Fishes สำหรับคนที่หลงใหล และ ชื่นชอบ ในความแปลก ฉีกความจำเจ พื้นๆ กับ สายพันธุ์ปลาแปลกๆ จากอะเมซอน, ปลาแม่น้ำของไทย, สัตว์น้ำแปลกๆ, สัตว์เลื้อยคลาน (Reptile) โพสต์ข้อความแลกเปลี่ยนความรู้ กันได้ที่ ห้องนี้

0004045

เค้าหลอกให้กัว หรือเป็นเรื่องจริง ว่าปลายปีนี้

777
777 (61.91.104.214) [2005-09-27 22:19:29]

มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ปลายปี พ.ศ.2548 นี้ จะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้มีคนตายจำนวนมหาศาล ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไปจะรอด โดยจะเกิดน้ำท่วมภาคใต้ และจะร้ายแรงมากกว่าสึนามิหลายเท่า ผู้คนที่รอดชีวิตจำต้องเดินทางขึ้นทางเหนือเพื่อให้พ้นภัย โดยระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก
นี่ไม่ได้แช่งนะ! หากท่านไม่เชื่อ คอยดูปลายปี พ.ศ.2548 นี้ให้ดี ใครที่ไม่เคยเข้าวัดก็รีบซะตอนนี้ยังทัน รีบหาของดี วัตถุมงคลติดตัวไว้ แต่ถ้าเป็นคนมีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดี และสุดท้ายให้ฝึกนั่งสมาธิ เพราะไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้นอกจากสมาธิ และผู้ปฏิบัติสมาธิที่ได้อภิญญา เรียกว่าให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้
และปีหน้า (พ.ศ.2549) พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตในตอนนี้ จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ (ท่านลงมาเกิดคราวนี้ ไม่ใช่จะมาเป็นพระพุทธเจ้า เพราะยังไม่ถึงวาระนั้น แต่ครั้งนี้ท่านจะมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือได้ไหวครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจากภัยสงครามครั้งมหึมาที่จะทำให้มีคนตายมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น)
นี่ผมก็ได้เปิดเผยคำพูดของท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง ซึ่งความจริงลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งบอกว่า อย่าไปบอกใครนะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบ้า แต่กระผมก็อดที่จะบอกท่านไม่ได้ ผมยอมเป็นคนบ้า ถ้าหากว่าความบ้าของผม มันจะสามารถช่วยชีวิตของคนจำนวนมากได้
หากท่านไม่แน่ใจว่าตัวท่านมีความดีพอที่จะรอดพ้นจากมหาภัยพิบัติครั้งนี้ละก็ ขอให้หาของดีติดตัวไว้เป็นดี หรือถ้าหาของดีไม่ได้จริง ๆ ก็จงทำตัวท่านเองให้เป็นคนดี เพื่อความดีจะได้รักษาตัวของท่านเอง
หากท่านไม่เชื่อ ก็จงอย่าเพิ่งปฏิเสธ เช่น เชื้อโรคที่ตาเปล่าของเรามองไม่เห็น แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันไม่มี เพราะเรามีเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศน์ที่จะส่องเห็นแล้ว ส่วนเรื่องอย่างเช่นสิ่งที่ผมกล่าวไปก่อนหน้า เครื่องมือที่จะเห็นก็มีแล้วคือการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ แต่อยู่ที่ท่านจะใช้เครื่องมือ หรือรู้วิธีใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง
ผมเคยอ่านหนังสือที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเขียนไว้ว่าอีกไม่กี่ร้อยปีจะมีพระมหากษัตริย์ท่านหนึ่งเดินทางจากทางเหนือมาบูรณะวัดท่าซุง ซึ่งตอนที่ท่านบอกให้ และขณะนี้ก็ตาม วัดท่าซุงก็ยังเป็นปกติดี ประเทศไทยก็ยังปกติดี
แสดงว่าหลังจากนี้ไม่นานมันต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้วัดท่าซุงร้าง ซึ่งปัจจุบันวัดท่าซุงยังมีคนไปทำบุญ ถือศีล ปฏิบัติธรรม อยู่ไม่ขาดสาย แต่จะมีเหตุใดเล่าที่ทำให้เป็นวัดร้างได้ นอกจาก..... (อาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างชาติอาหรับและอเมริกา ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดอภิมหาสงครามครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ก็เป็นได้)
ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ จงหมั่นทำดี เพื่อรักษาชีวิตรอดเทอญ
แผ่นดินไทยที่สาบสูญ
บริเวณที่หายถาวรทั้งแผ่นดิน
นราธิวาส สตูล พังงา ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์
หมู่เกาะ ตะรูเตา หมู่เกาะทะเลตรัง ตราด เกาะช้าง
หมู่เกาะทะเลตราด เกาะสมุย เกาะพงัน อ่างทอง ชะอำ
บริเวณที่เหลือเพียงบางส่วน แต่จะกลายเป็นเกาะเล็กๆ
เกาะยะลา เกาะปัตตานี เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม
เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร
บริเวณที่หายเป็นส่วนใหญ่ จะเหลือเพียงบางส่วน
ยะลา หาดใหญ่ พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรปราการ อุบลราชธานี
แผ่นดินริมแม่น้ำโขงตลอดแนว กาญจนบุรี
ฯลฯ
ประเทศไทยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ได้แก่พื้นที่ในส่วนภาคกลางอันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
และบริเวณในส่วนของภาคใต้ที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ๆ
ได้แก่
1. บริเวณตั้งแต่ชุมพรฝั่งตะวันตก ท่าแซะ ระนอง
สุราษฎร์ธานีฝั่งตะวันตก บริเวณด้านบนของอำเภอพนม
อ.เทียนชา อ.บ้านนาเดิม นครศรีธรรมราชตอนบน ขนอม
2. บริเวณตั้งแต่จังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช
ที่ต่อแดนกับจังหวัดกระบี่ด้านบน ฉวาง ร่อนพิบุลย์ ชะอวด
จังหวัดตรังด้านตะวันออก จังหวัดพัทลุงด้านตะวันตก หาดใหญ่
จังหวัดยะลา ด้านตะวันตก
นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก เกาะน้อยที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายเกาะ
ได้แก่เกาะสัต***บ เกาะยะลา เกาะปัตตานี
เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร
บริเวณที่จะกลายเป็นพื้นที่ติดกับทะเล
ดินแดนที่จะมีอาณาเขตติดกับทะเล ได้แก่
สงขลาทางด้านตะวันตก ยะลาทางด้านตะวันออก
หาดใหญ่ กระบี่ตอนบน ด้านที่ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และด้านที่ติดกับจังหวัดพังงา
ตอนกลางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตั้งแต่ อ.พนม อ.เคียงซา จรดเขตจังหวัดกระบี่
ชุมพรด้านใน ท่าแซะ
ตอนล่างของเมืองประจวบคีรีขันธ์
และถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออกตลอดแนว
ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ถนนชลบุรี-ปากท่อ ช่วงสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
ตัวเมืองแปดริ้ว บ้านค่ายปลวกแดง จ.ระยอง ตัวเมืองจันทรบุรี
และตลาดท่าใหม่วังน้ำเย็น จรด จ.สระแก้ว
เหนือเขื่อนเขาแหลมด้านตะวันตก
กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร
นครพนม เลย หนองคาย อำนาจเจริญ
บ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก
อุตรดิตถ์ ด้านที่ติดกับประเทศลาว น่าน ด้านตะวันออกตอนล่าง
บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะกลายเป็นดินแดนชายฝั่งทะเล !
ประเทศไทยเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์
ที่จะได้รับการปกป้อง คุ้มครองรักษาไว้
ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก
และจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ
เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ถูกคลื่นยักษ์ที่มาพร้อมกับพายุไซโคลนกระหน่ำ
ทั้งเกาะจะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
พิลิปปินส์ ถูกพายุไซโคลนกระแทก
ก่อนเกิดเหตุจะแลเห็นน้ำทะเลเป็นสีดำหม่นหมอง
บรรยากาศหดหู่ เวิ้งว้าง
ไม่นานนักจะเกิดพายุไซโคลนก่อตัวขึ้น
พายุไซโคลนที่รุนแรง ข้างล่างดูด ข้างบนตี กระแทก
จนกระทั่งเกาะทุกเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล
ไอแลนด์เหนือและใต้ อากาศหนาวจัด
อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
ในขนะเดียวกันจะถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
ในขณะที่หนาวจัดนั่นเอง
ฮ่องกงถูกทะเลคลั่ง น้ำทะเลสูง
ชินจุงจะหายถาวร
เกาะสนามบินแห่งใหม่
จะถูกคลื่นตีแตกหายไปในทะเล
ในบริเวณแถบนั้นจะเหลือแต่เพียงเกาะเกาลูน
และประเทศจีนบางส่วนเท่านั้น
เกาะมาเก๊า เผชิญพายุฝนอย่างหนัก
รวมทั้งคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ
จนกระทั่งเกาะทรุดเอียง น้ำทะเลขึ้นสูง
ยามรุ่งเช้าหลังจากพายุสงบ
จะเหลือเพียงโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งกับบาทหลวง
ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาเพียง 3 รูปเท่านั้น

นิวซีแลนด์ถูกพายุโซนร้อนถล่ม
ฝนที่ตกลงมาจะมีเม็ดโตเท่าลูกเห็บ
น้ำท่วมสูงแต่เกาะจะไม่สูญหายถาวร

สหรัฐอเมริกาจะถูกพายุที่รุนแรงถล่มอย่างหนักหน่วง
พร้อมทั้งเกิด แผ่นดินไหวฉับพลัน 24 ริกเตอร์
เป็นระยะเวลานานถึง 8 ชั่วโมง
ซี่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกนี้
อเมริกาจะถูกแบ่งออกเป็นสองซีก
กลายเป็นเกาะ 2 เกาะ
นิวยอร์กจะทรุดตัวเหลือเพียงบางส่วน
นอกนั้นจะจมหายลงไปในท้องทะเลจนหมดสิ้น

ตุรกี แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง 16 ริกเตอร์

คิวบา จมหายลงไปใต้ทะเล
( ห่างจากอเมริกา 10 นาที )
เกาะสิงคโปร์ หายไปจากแผนที่โลก
เนื่องจากถูกพายุไซโคลนกระแทกอย่างหนัก

อินโดนีเซียถูกพายุไซโคลนกระแทก
จนกระทั่งหายไปจากโลก
เหมือนเช่นที่พิลิปปินส์
จะเหลือเพียงเกาะเล็กๆ
ในส่วนที่เคยเป็นยอดเขาของกรุงจากาต้าเท่านั้น

เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เกิดน้ำท่วมใหญ่
แม่น้ำกลายเป็นทะเล
แผ่นดินซีกตะวันออกจะจมหายไปทั้งหมด
เกาหลีใต้จะจมหาย

ประเทศญี่ปุ่นหายไปจากโลก
ก่อนเกิดเหตุจะมีบรรยากาศเงียบงัน
วังเวง หดหู่เวิ้งว้าง
มนุษย์จะเห็นเหตุการณ์ประหลาด
เมฆสีเทาก้อนใหญ่ 2 ก้อน
ลอยเคลื่อนตัวเข้าหากัน
แล้วชนกันแตกกระจายเป็นฝนเม็ดโตๆ
ใต้ทะเลเกิดคลื่นไซโคลนขยายตัว
พุ่งเข้าหาหมู่เกาะ
จะกระแทกทุกเกาะเหมือนล้อมรั้ว
เกาะทุกเกาะจมหายลงไปในทะเล

ไต้หวัน เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
ตอนกลางเกาะถูกแบ่งออกเป็นสองซีก
จากนั้นจะโดนคลื่นยักษ์กระหน่ำซ้ำเติม
เกาะทั้งเกาะจะจมหายไป
แผ่นดินที่สาบสูญ
สหรัฐอเมริกา
( แผ่นดินถูกผ่ากลางหายสาบสูญไปหลายรัฐ
กลายเป็นเกาะ 2 เกาะ )
เม็กซิโก ( บางส่วนจะกลายเป็นเกาะ )
แคนาดา ( จะกลายเป็นหมู่เกาะใหญ่ น้อยมากมาย )
ไต้หวัน ญี่ปุ่น กัวเตมาลา เม็กซิโกซิตี้
เบนนิส ฮอนดูลัส เอลสวาดอร์ นิคารากัว
คอสตาริก้า ไหหลำ แผ่นดินจีนด้านตะวันออก
เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า พิลิปินส์ ศรีลังกา ฯลฯ

วิกฤตการณ์เลวร้ายน่าหวาดหวั่นจะบังเกิดขึ้นทั่วโลก
ความหวาดกลัวไม่จำเป็นจะต้องรับรู้ผ่านหน้าจอทีวี
เพราะมนุษย์ทุกคนบนโลก
จะได้รับรู้รสชาติแห่งความกลัวตายทุกคน !!

มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้จะเข้าสู่ยุคใหม่จะมีจิตใจที่ดีงาม
และมีอายุขัยที่ยืนยาวจนน่าประหลาดใจ
มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้า
โดยที่มิได้สร้างเทคโนโลยี่ที่ก่อปัญหา
ให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสื่อสาร
กับเพื่อนมนุษย์จากต่างดาวได้
ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันบางคนก็ไม่เชื่อว่า
สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม

ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก
และเป็นประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้
เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน
โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้
ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
และทรัพยากรธรรมชาติของโลก
ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์
จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต
ในระยะเวลาไม่นานนัก ( ภายใน 6 ปี )
พระศรีอริยะเมตไตรยจะเปิดเผยพระองค์
เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจให้กับมวลมนุษยชาติ
ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจ
ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว
กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนา
และพระองค์ได้มาปรากฎที่ประเทศไทยนี่เอง !!

รายละเอียดของมหันตภัยที่จะเกิดขึ้น
สถานที่แห่งแรกในประเทศไทย
ที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก
จะเกิดขึ้นจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาคอีสาน
ตามรอยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว
เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน
จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ
ก่อให้เกิดนำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรง
จนสุดที่จะเยียวยาได้
โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่
ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดมันจนหมดไปจากโลกนี้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัว
และจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าตอนที่ถูกมนุษย์ปราบมันไปตอนนั้นเสียอีก
ซึ่งมันสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในระยะเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

**********************************
ท้องฟ้ามืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าท่วมแผ่นดินในหลายๆ พื้นที่
พายุไซโคลนจะพัดกระหน่ำ
ซึ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 กม./ชม.
พัดผ่านกรุงเทพ ผ่านช่องแม่น้ำเจ้าพระยา
ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่อยู่ใกล้กับสะพานกลางเก่ากลางใหม่
ในย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมา
จากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ
มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 600 คน

ในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก
ตึกสีขาวที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจะพังทลายตามลงมา
ยอดตึกที่พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำ
ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา
หลังคาบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจะปลิวว่อน
เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรงของลมพายุ
******************************

ตึกสูงย่านประตูน้ำ ในกรุงเทพมหานคร
ผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น
ด้วยความรุนแรงของลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง
อย่างเหลือที่จะคณานับ
*******************************

เทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา
เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง
ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟที่ซุกซ่อนอยู่
หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟลูกแรกในประเทศไทย
จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
เสียงดังกึกก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพ
ธารลาวาจะไหลลงไปยังฝั่งพม่า
ไม่นานนักระเบิดลูกที่สอง และลูกที่สามก็ตามมา
ลูกที่สี่ จะรุนแรงอย่างถึงที่สุด
ซึ่งจะสร้างความอำมหิตให้กับภาคเหนือและภาคอีสานต่อไป
********************************

ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จัดหวัดขอนแก่น
จะเกิดภูเขาไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน
เกิดแผ่นดินไหว และมีลาวาร้อนจากภูเขาไฟ
ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
เกิดขึ้นที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีผู้เสียชีวิตร่วมพันคน
เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกระทันหัน
จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจะตั้งตัวทัน
และจะเกิดปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด
มีจำนวนเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย

จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป
เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง
ที่กลบกลื่นหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว

สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร
เนื่องมาจากลมพายุที่โหมกระหน่ำ
บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว
และมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่าเมืองอย่างน่าหวาดกลัว
ผู้ที่รับบาดเจ็บจากหายนะในครั้งนี้
จะถูกนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง
ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทาง
ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ
แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองสมุทรปราการ

เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
และเกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล
อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
****************************

เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที 53 คน
ผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมาย
ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล

เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง
และพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ
เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน
รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งไม่มีนราธิวาส หลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก

บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ
แผ่นดินหายไม่มีเหลือ

ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย
เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า“เกาะยะลา”

จังหวัดสงขลาน้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย
จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร
*************************

ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ 4-5 เมตร
ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนกระทั่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพังพินาศ
แต่น้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร

ฉะเชิงเทรา น้ำจะท่วมถึงสองฝั่งบางปะกง จนถึงฐานหลวงพ่อโสธร

กระบี่จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกจะหายไป
ชาวประมง ประมาณ 180 คนจะถูกกลืนหายไปในท้องทะเล

ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง
ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์

อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ซัดหาย
********************************

ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่ง
จะกระทั่งเกาะทั้งเกาะหายไปจากแผนที่โลก
มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 – 60,000 คน
********************************

นครศรีธรรมราชน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน
พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนจมหายลงไปในท้องทะเล

ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด
แต่ วัดช้างไห้ ของหลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิหารย์ ลอยน้ำขวางกระแสน้ำเชี่ยว
น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังหลาย กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด
จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที่ประมาณ 200 คน

เกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาถที่จังหวัดอุตรดิตถ์
กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหา
น้ำไหลอ้อมเขื่อนท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วน
รวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหายถาวรครึ่งจังหวัด
***************************

นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์
กระแสน้ำจะท่วมสูงจนถึงฐานของอนุเสาวรีย์ย่าโม
******************************

ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างก็ได้รับความบอบช้ำด้วยกันทั้งสิ้น
จะมากน้อยต่างกันไป บริเวณใดที่มีผู้คนมีศีลธรรมอาศัยอยู่
อาจได้รับการปกป้อง บรรเทาภัยพิบัติให้เบาบางลงไปได้บ้าง

ข้อมูลทุกอย่างที่กล่าวมานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้
แต่ระดับความรุนแรงจะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
ดังเช่นภูเขาไฟที่กล่าวว่าจะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้น
อาจเกิดระเบิดกึกก้องกัมปนาถรวมกันในสถานที่แห่งเดียว
แต่จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
กล่าวคือ อาจมีลาวาจะพุ่งสู่ท้องฟ้าสูงเป็นพิเศษ
ถึง 6 กิโลเมตร เป็นต้น

เหตุการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมานั้น
จะมีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่สุด
คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก
เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะ
อันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11

มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
บรรยากาศช่วงแรกๆ จะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล
หลังจากนั้นไม่นานนักลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้า เสียงลม
จะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด
ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
มันเป็นเสียงของมัจจะราชที่จะพิพากษาโลกในด้านความเป็นมนุษย์
คนชั่วทุกคนจะถูกประหารชีวิต และจะตายอย่างทรมาน
ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ
ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้
ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป

เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน
3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง) เป็นเวลา 7 วัน

** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลก จะรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น 56 วัน**
** ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน **

ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
4. ภูเขาไฟระเบิด
(จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก, ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก, อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี / น่าน / แพร่ / อ.ร้องกวาง )
5. คลื่นยักษ์จากทะเล
6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันที ภายใน 6 วัน
7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน
8. อดอยากขาดแคลนอาหาร
การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3 - 6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษาโรค
6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก)
ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี
ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ
1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด
5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

การเตรียมทางจิตวิญญาณ
1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวาง
4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
5. ฝึกการทำโมฆกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย
1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป
ถ้าหากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้
1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม
____________________________

เอามาจากเวบปลานู้น

คัยก้อได้ช่วยฟันให้อีกรอบ


ความคิดเห็นที่ 1

sitboon
sitboon [2005-09-27 22:50:26]
มีเวปไซด์แนะนำคับ www.falunthai.org เป็นการฝึกจิตและทำสมาธิคับ มีบทความและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายที่เกี่ยวข้องกับการฝึกจิต การรักษาโรค ต้นเหตุแห่งโรค และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีต่างๆในร่างกาย
ตัวผมศึกษามา 6 ปีแล้วคับ สำหรับคำถามในใจเพื่อนๆว่าทำไม "ฝ่าหลุนกง" ถึงโดนปราบปรามอย่างหนักในประเทศจีน คำอธิบายคือ เพราะรัฐบาลจีนกลัวการเคลื่อนไหวมวลชนทุกชนิด จึงพยายามควบคุมความเชื่อและกลุ่มคนกลุ่มต่างๆ และแทรกแซงสื่อ การปราบปรามครั้งสำคัญก่อนหน้าคือกรณีการปราบปราบการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษาจีน เมื่อปี 1989 ที่จตุรัสเทียนอันเหมิน สิบปีให้หลังก็มีการปราบปราบฝ่าหลุนกงที่จงหนานไห่ เนื่องจากรัฐบาลจีนเข้าใจฝ่าหลุนกงผิด ว่าเป็นลัทธิงมงาย ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่หรอกคับ สิ่งที่ผมกล่าวมาก็เพื่อนำเสนอข้อมูลด้านที่ถูกต้องคับ สำหรับหลักฐานยืนยันคำพูดผมอยู่ใน english.epochtimes.com หรือในหนังสือชื่อ nine commentaries on communist party
สาเหตุจูงใจที่ทำให้ผมสนใจฝ่าหลุนกง เนื่องจากคุณอาผมป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม คุณอาผมพยายามหาวิธีรักษามาทุกวิธีแล้วไม่หายไม่ว่าการแพทย์ตะวันออกและตะวันตก ในช่วงหลังเมื่ออาการกำเริบอย่างหนักซึ่งซึ่งทำให้เดินไม่ได้ จากนั้นแล้วมีเพื่อนมาแนะนำให้ฝึกฝ่าหลุนกงจนคุณอาหายจากโรคดังกล่าว ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน จึงทำให้ผมเข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีและอย่างแนะนำเพื่อนๆในเวปคับ

ความคิดเห็นที่ 2

sitboon
sitboon [2005-09-27 23:01:38]
สำหรับความเห็นและข้อมูลของเจ้าของกระทู้ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นคำทำนาย ซึ่งมีสมมติฐานต่างกันไป ผมไม่มีข้อมูลมาแย้งหรอกคับ เพียงแต่ที่ผ่านมาผมเห็นว่าคำทำนายบางอย่างก็ไม่เป็นจริง เช่น คำทำนาย วันหายนะหรือวันพิพากษาโลกที่นอสตราดามุสเคยทำนายไว้ ว่าจะเกิดในปี 1999 ก็ไม่เกิดขึ้น
แต่ผมก็ยอมรับคับว่าสิ่งที่เจ้าของกระทู้พูดมาถือได้ว่าเป็นเงื่อนไขที่กระตุ้นให้พวกเราทำความดี เป็นคนดีของสังคม เห็นด้วยในจุดนี้คับ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าการกลุ้มใจกับเรื่องในอนาคตมากเกินไปอาจไม่ก่อให้เกิดผลในด้านบวกเท่าใดนัก เพราะในปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังรอการแก้ไขก็มีมากพอแล้วน่ะคับ
อีกอย่างถ้าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่มีใครหนีชาตะกรรมพ้นหรอกคับ มันเป็นเรื่องกฎแห่งกรรมน่ะคับ ต่อให้เตรียมตัวไว้ดีอย่างไร ถ้าถึงเวลาตายมันก็ตายคับ ผมเชื่ออย่างนั้น เราทำได้เต็มที่คือ ลดความเสี่ยงให้มากที่สุดเท่านั้นคับป้องกันตัวเอง แต่อย่าหวังผลว่าต้องสำเร็จแน่นอน ไม่งั้นคงกลุ้มใจแย่เลยนะ

ความคิดเห็นที่ 3

ไม่บอกงับ
ไม่บอกงับ (203.113.38.9) [2005-09-28 01:19:45]
คิดมากอ่านนิยายไปก่อน ความจริงไม่ถึงขนาดนั้นแค่คาดการที่มากเกินจริงตามคำทำนาย แต่มีบ้างพายุเข้าและอะไรต่อมิอะไร แต่ที่สำคัญไม่ถึงกะแผ่นดินจะหายคนจะตายมากอย่างเก่งก็2เท่าของซึนามิ แต่อยาตกใจอะไรเกินควรเชื่อหูไว้หูถ้าอะไรมันจะเกิดก็เกิด ยิ่งตีกระแสคนยิ่งกัวและเกิดสิ่งไม่ดีตามมามากมาย เอาแค่พอประมาณก็พอแค่เตือนให้ระวังภัยธรรมชาติอย่าประมาทรักษาสิ่งแวดล้อมกันดีก่าที่จะฟังแล้วหาทางเอาตัวรอดงับ ฝากเตือนสติกัน

ความคิดเห็นที่ 4

Cheetah
Cheetah
17
[2005-09-28 02:20:22]



หวัดดีครับ~~~!!!!!!นี่เจ๊ติ๋มหรือเจ๊เอ๊กซ์ครับเนี่ย อิอิอิอิ


ความคิดเห็นที่ 5

777
777 (61.91.101.59) [2005-09-28 08:50:24]


5555555 เจ๊เอ๊กซ์ตกกะจัยไปหน่อยเดียวเองครับพี่เฉือ อิอิ
พอดีไปอ่านเจอในเวบปลา เค้าบรรยายเป็นชอต ๆดี
เคยได้ยินเรื่องการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แนวร้าว มันอีกเป็นหมื่นปีไม่ใช่หรอ นี่ถ้ามันมาปลายปีนี้ก้อตั้งหลักไม่ทันจิ
นี่ขนาดผมไม่เคยไปหาทะเล หาเกาะ เลยนะ นี่มันจะมาหาเราถึงกท.เลยหรอ อิอิ


ขอบคุณพี่ sitboon ที่ช่วยฟันให้ครับ


...ดีนะคุณงับมาให้กาลังใจทันเวลาพอดี แล้วคนป่วยหายดีหรือยังครับ ขอให้หายเร็ว ๆนะครับ
คุณงับหายไปนานจนผมต้องเล่านิทานให้ตัวเองฟังแล้วเนี่ย อิอิ

ความคิดเห็นที่ 6

ผู้บริโภค
ผู้บริโภค (202.142.219.20) [2005-09-28 09:48:12]
เอามาจากพ๊อตหนังเรื่องไหนเนี่ย อ่านแล้วงงเหมือนแต่งมั่วๆ
แต่คนแต่งจินตนาการสูงมากน่าจะไปเป็นผู้กำกับหนังนะ จะเหมาะมาก อิอิ ตอนนี้ก็ปลายปี48แล้วไม่เห็นมีอะไรเลยเน๊อะ เวลาเลยเรื่องที่แต่งนี่มาแล้วนิ
ปล.แต่งภาค 2 -3 ด้วยสนุกดี

ความคิดเห็นที่ 7

 
  (210.1.42.194) [2005-09-28 10:03:13]
ก็ว่ากันไปฮับ ที่แน่ ถ้าเขื่อนในประเทศจีนสร้างเสร็จ 100% เมื่อไหร่ ปัญหาแกนโลกเอียงเกิดขึ้นแน่นอนเยยอ่ะฮับ ส่วนพายุหลายชนิดที่ก่อกำเนิดขึ้นมากกว่าปกติ อันนี้ก็คาดว่า เกิดจากปัญหาเรือนกระจกอ่ะฮับ แต่มันเยอะเจงๆ เนาะ อิอิ

ความคิดเห็นที่ 8

คุณเจน
คุณเจน (203.107.201.232) [2005-09-28 12:16:09]
คิดมากไปครับ...เลี้ยงปลาดีกว่า

ความคิดเห็นที่ 9

แ
(203.118.111.249) [2005-09-28 13:45:15]
ขี้เกรียจอ่านอะไรมันจะขนาดนั้นความเห็นเดียวกับที่8

ความคิดเห็นที่ 10

ป้อง
ป้อง (203.185.130.35) [2005-09-28 15:44:21]
คนเรา ถึงเวลาตายมันก้อตายเองล่ะครับ ถ้าผมจะต้องอยู่อย่างแร้นแค้นหวาดกลัว สู้ขอตายไปเลยซะจะยังดีกว่าครับ

ความคิดเห็นที่ 11

Friend
Friend [2005-09-28 18:19:03]
คนดีรอดหรอคับ
แล้วทำไมบางประเทศหายไปทั้งประเทศเลย สิงคโปร์ก็มีวัดไทย พระไทย แต่จมหมดเลยหรอคับ คนเป็นล้านในประเทศไม่มีคนดีเลยหรอ เท่าที่อ่านผมว่าไอ้คนชั่วๆที่อยู่ในตัวเมืองไทยมันก็ยังคงอยู่อยู่ดี

ความคิดเห็นที่ 12

conti ไม่ได้ล็อกอิน
conti ไม่ได้ล็อกอิน (203.113.45.4) [2005-09-28 21:12:42]
คิดดีทำดี พอครับ ชีวิตนี้เกิดมา ผมคิดว่าอย่างนี้นะ

ความคิดเห็นที่ 13

vivi
vivi (58.10.34.122) [2005-09-29 02:20:11]
ดูในหนังสือ วิวรณ์ เถิดครับ นั่นล่ะเรื่องจริง

ความคิดเห็นที่ 14

stellar007
stellar007 [2005-09-29 08:12:14]
ถ้าก็ไม่กลัวหรอกครับ.....ชีวิตนี้ปลงแล้วทุกสิ่ง
ไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกใบนี้
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะครับ
ผมไม่คิดที่จะกระตือรือร้นอะไรอีกแล้ว
ชีวิตนี้เกิดมาก็เปนแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวเอง
ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จิงๆ
ผมคงไม่วิ่งหนี....แต่ผมชอบที่จะเผชิญหน้ากับความตาย
ที่กำลังวิ่งเข้ามาหาผมเอง

ความคิดเห็นที่ 15

^ ^ตุ่น
^ ^ตุ่น (168.120.4.166) [2005-09-29 21:29:10]
กลัวตายไม่ว่า กลัวแต่หลอกให้กลัวเก้อนี่ซิ ! ...อืม..มาน...น่า..นัก

ความคิดเห็นที่ 16

มาน ไม่ น่า เลย
มาน ไม่ น่า เลย (61.91.103.173) [2005-09-29 21:44:29]
หลอกให้กลัวยังดี กลัวหลอกให้หลงจิ อิอิ

ความคิดเห็นที่ 17

mile
mile
65
[2005-09-30 03:09:53]
บ้า......... ซะให้พอ

ความคิดเห็นที่ 18

เสี่ยหมีคอมมานโด
เสี่ยหมีคอมมานโด (161.200.255.164) [2005-09-30 13:55:34]
....ถ้าเป็นอย่างนี้หละก็....เดี๋ยว"ด่างทับทิม" กับ"คาราไมล์" ก็ขาดตลาดหนะสิครับ...กรมการค้าภายในดูแลด่วน!!!!

ความคิดเห็นที่ 19

dew
dew (203.188.54.128) [2005-09-30 14:57:27]
'j;ง่วงหลับอะ......

ความคิดเห็นที่ 20

ยังมะได้สมัครเลย กักๆๆๆ
ยังมะได้สมัครเลย กักๆๆๆ (61.91.211.120) [2005-09-30 20:51:57]
ก็ดีนะครับ ผมจะได้ ตาย ซักทีอยู่ลกโลกมานานแล้ว

ความคิดเห็นที่ 21

juti
juti [2005-10-01 07:56:19]
777 ครับ เรื่องโลกแตกมีในทุก คำภีศาสนาครับ พุทธ คริส อิสลาม มีหมด เขาไม่ได้หลอกให้กลัวครับ แต่ไม่มีกำหนดเวลาทื่แน่นอนไว้

ทำให้เราระมัดระวังตัวมีชิวิตอยู่กับปัจจุบัน มากกว่าอนาคตครับ

ถ้าสนใจผมแนะนำให้หาอ่านได้สนุกๆหลายเรื่องเช่น

1 กำเนิดรุ้ง ปลาวาฬยักษ์ กับน้ำท่วมโลก อันนื้มันมากครับมีในทุกตำราแต่ต่างๆกัน

2 ทื่คล้ายๆและเป็นต้นเรื่องกับทื่ 777 ยกมาก้อ ภัย7อย่างครับทื่จะมา
(เป็นฐานให้ทำหนังเป็น10เรื่องถ้ารู้ดูหนังสนุกขึ้นมากครับ)

แต่คงเล่าไม่ได้กลัวคุณไร้....มาบ่น เบื่อครับ

ความคิดเห็นที่ 22

auyfish2
auyfish2 (61.91.160.18) [2005-10-01 11:01:38]
เขาคงเอาเรื่องพวกนี้มาสร้าง The day after tomorow ล่ะครับ

ความคิดเห็นที่ 23

777
777 (61.91.103.50) [2005-10-01 14:15:17]
ขอบคุณ คุณ juti ที่แนะนำหนังสือให้ครับ
... แต่ลองเล่าซักนิดก้อดีนะครับ
เพราะส่วนใหญ่ผมจะอ่านเจอแต่ข้อมูลทางวิชาการ

ความคิดเห็นที่ 24

ฟ
(203.146.246.164) [2005-10-01 21:55:50]
ไม่ตายหรอก

ความคิดเห็นที่ 25

...
... (210.246.64.164) [2005-10-02 02:13:40]
ไร้สาระ

ความคิดเห็นที่ 26

juti
juti [2005-10-02 07:56:49]
ขยายความ นิดหน่อยก้อได้ครับ 777

เรื่องจุดจบของคนบนโลกนื้เป็นเรื่องสำคัญกับหลายๆวัฒนธรรมครับใช้สำหรับเตือนผู้คนในวัฒนธรรมนั้นๆให้ละอายต่อบาปไม่กล้าทำชั้วครับเพราะเมื่อวันสุดท้ายมาถึงทุกคนทื่ทำอะไรไว้จะได้รับผลกรรมทื่ทำไว้ครับแต่ส่วนมากทื่ไม่หวังผลอะไรพิเศษเช่น เงิน หรืออะไรมักไม่กำหนัดเวลาไว้ชัดเจนทำให้เราระมัดระวังตัวมีชิวิตอยู่กับปัจจุบัน มากกว่าอนาคตครับ



ความคิดเห็นที่ 27

juti
juti [2005-10-02 08:12:09]
ในวัฒนธรรมพุทธพระพุทธเจ้ามีการตอบพระอานนต์เรื่องการกำเนิดโลกไว้ครับถ้าอ่านๆดูจะเป็นวิทยาศาสตร์มาก

ประมาณว่าโลกเกิดจากก๊าซแล้วแข็งตัวขึ้นเป็นของเหลวแล้วมีชิวิตมาจากของเหลวนั้นเริ่มมีดินแล้วชิวิตก้อขึ้นมาบนดิน............โทษครับเราคุยกันเรื่องโลกแตกอยู่นอกเรื่องไปไกล

คราวนื้พอรู้เรืองโลกแตกแล้วก้อถามต่อครับว่าจะเป็นไงต่อพุทธเจ้าก้อ บอกว่าจะตั้งอยู่ แล้วก้อดับไปครับแต่มีตำนานนะครับ 2-3 เรื่อง

เรืองแรก เรื่องน้ำท่วมโลกมีปลายักษ์อานนต์แบกโลกไว้ครับเรืองนื้สอดคร้องกับของหลายๆศาสนาและวัฒนธรรมทั่วโลก

เรืองสอง ตำนานอยู่ในฝั่งมหายานครับเรื่องอายุพุทธศาสนาของแต่ละพุทธเจ้า(พุทธเจ้าในมหายานมีหลายองค์)ของเราก้อประมาณ 5000 ปีกรุงเทพมีฉลองกึ่งพุทธกาลไปใหญ่โตมากครับตอนปี พศ. 2500 ไม่รู้เกิดยังครับลองถามคนเก่าๆได้คราวนื้บางคนก้อจะถือว่าเป็นอายุของโลก เหลือประมาณ2452ปีครับ

เรื่องทื่3 บอกเคร่าว่าวันไหนใกล้สิ้นโลกมีวิธีดูครับ10ข้อเช่นเด็กผู้หญิงจะท้องตอน8-10ขวบพอปัจจุบันเลยตื่นๆเหมือนกันเวลามีเด็กท้องครับ





ความคิดเห็นที่ 28

juti
juti [2005-10-02 08:24:41]
ทางคริสเป็นเรื่องใหญ่มากครับเชื่อกันจริงๆจังๆแถมคนมากเลยมีอิทธิผมมากเอาเรื่องใหญ่ๆ2เรื่อง

เรื่องแรก โนอา ครับเกิดนำท่วมโลกเป็นเหตุให้คนตายหมดดลกยกเว้นครอบครัวโนอาทื่พระเจ้าสั่งให้สร้างเรือแล้วเอาสัตว์อย่างละคู่ไว้บนเรือเป็นต้นพัทธุ์ทื่เราเลื้ยงๆกันอยู่ครับนอกจากปลาทื่อยู่ในน้ำพอน้ำท่วมโลกเลยมีปลาชนิดเดียวกันอยุ่หลายๆแห่งทั่วโลกครับ(อย่างเสือตอไทยกับเสือตอปาปัวอยู่ห่างมากแต่ไปกันตอนน้ำท่วมโลกนื้ละครับ
พอน้ำแห้งพระเจ้าเห็นโนอาเศร้าๆเลยให้สัญญาว่าจะไม่ให้น้ำท่วมโลกละให้ รุ้ง กินน้ำเป็นสัญญาครับ

ความคิดเห็นที่ 29

juti
juti [2005-10-02 08:39:25]
เรื่องทื่2อยู่ในบทสุดท้ายของไบเบิลเรื่อง วิวร ครับพูดถึ่งเหตุการณ์วันพิพากษาโลกว่ามีเหตุการณ์อะไรจะเกิดบ้าง7อย่าง (แต่รวมๆกันมีหลาย7อย่างครับเช่นของตกจากฟ้า7อย่างจากทะเล7อย่าง) แต่ทื่สุดก้อไม่ได้กำหนดเวลาไว้ชัดเจนครับเลยมีหลายๆคนพยายามใช้ประโยชน์จากมันในหลายๆวิธีรวมไปถึง
เป็นต้นเรื่องข่าว,เหตุการณ์สำคัญ ต่างๆเช่นวิกิตY2Kในปี2000ถ้าจำกันได้,
คำทำนายของนอสตราดามุสเหตุการณ์ 9-11,สงครามโลกครั้งทื่3,
และเป็นแรงบันดาลใจของหนังหนังอย่าง The day after tomorow ,อามาเกด้อน , End of day ,Terminater

โอ้ยมากครับ ลองอ่านดูครับทำให้เราเข้าใจโลกได้ดีขึ้นว่าหลายๆเรื่องมีทื่มาทื่ไปจากอะไร

แต่วิธีดีทื่สุดทื่จะจัดการเกียวกับเหตุการณ์โลกแตกผมว่า

" ระมัดระวังตัวมีชิวิตอยู่กับปัจจุบัน มากกว่าอนาคตครับ "

ความคิดเห็นที่ 30

juti
juti [2005-10-02 08:51:53]
ส่วนพวกทื่หวังผลอะไรพิเศษเช่น เงิน หรืออะไร
เราต้องระวังตัวมากๆครับ พวกทำหนัง,เขียนหนังสือได้ เงินจากเราไม่เป็นไรครับเพราะเราได้สนุก

แต่พวกอื่นๆ น่ากลัว บางทีหลอกเอาเงินว่าต้องทำพิธีต่างๆหรือ

มีสมัยหนึ่งนิยมขายทื่บนภูเขาครับบอกน้ำท่วมโลกจะท่วมไม่ถึงแต่จริงๆทื่บนเขาผิด กม. ไม่โดนน้ำท่วมแต่โดยยึดทื่เสียตังฟรีคนขายก้อสบายได้ตังไปแล้วหายไปเลย

ทื่ญื่ปุ่นรัฐบาลกลัวมากก้อ ลัดธิ โอมชินไดเกียว ครับสอนเรื่องวันโลกแตก แล้วพากันไปฆ่าคนในรถใต้ดินแล้วฆ่าตัวตายเลยไม่มีโอกาศได้เห็นโลกต่อไป ทื่อเมริกาก้อมีนะครับแต่คงพอแต่นื้ครับ

ผมเขียนให้ 777 อ่านนะครับเอานิดหน่อยก้อพอครับสำหรับประเด็นใหญ่ขนาดนื้ทื่เหลือต้องหาอ่านเองครับ สนุกๆ

ความคิดเห็นที่ 31

777
777 (61.91.103.7) [2005-10-02 10:15:33]
คุณ juti เล่าสนุก
...ทำไมรู้เรื่องศาสนาเยอะจังครับ อยากฟังอีก ได้เป่า อิอิ
เอาเรื่องแบบมะกี้ด้วย ปลาเสือตอไทยกะปาปัวอ่ะ
งั้นปลาใบไม้เอเซียกะบราซิล ด้วยเป่า


ปล.ผมไม่รู้ว่าจะไปหาอ่านจากไหน รบกวนคุณjuti เล่าให้ฟังเลยละกัน

ความคิดเห็นที่ 32

panmado
panmado [2005-10-03 01:09:31]
แหมก็เล่าไปดี้ ถ้าไม่ถูกต้องเดี๋ยวมีคนมาแย้งเองแหละ กัวใครห้ามหรือ ?

ความคิดเห็นที่ 33

777
777 [2005-10-03 13:16:54]
ใช่ ๆ เล่ามาเถอะผมฟังหมดแหละ เล่าแบบเล่านิทานก้อได้ หรือจะเล่าแบบหลอกเด็กก้อเอา นะ นะ

แอ่ะ !!! คุณ ผ่านมาดูเดี๋ยวนี้ ใช้ย่องเข้ามาเงียบ ๆไม่ยอมแวะเลยนะครับ นึกว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว

ความคิดเห็นที่ 34

budsop(บัดซบ)
budsop(บัดซบ) (203.209.109.87) [2005-10-03 13:17:52]
เลอะจิงๆ ยังไม่แก่เร๊ย......ยย เลอะซะเเล้ว

ความคิดเห็นที่ 35

777
777 [2005-10-04 01:01:20]
คุณ juti เล่าเรื่อง โนอา กะ โอมชินไดเกียว กะเรื่องของอเมริกาให้ฟังหน่อยจิ วิวรด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลย

ความคิดเห็นที่ 36

hut
hut [2005-10-04 18:04:14]
โห๋....!!

ยาวจัง o_O..!!!

ความคิดเห็นที่ 37

ต้นหญ้า
ต้นหญ้า (61.91.122.240) [2005-10-06 11:07:15]
ใครเชื่อก็ควายแล้วครับ

ความคิดเห็นที่ 38

juti
juti [2005-10-08 18:11:50]
พื่ต้นหญ้า ความคิดเห็นที่ 37

พื่ว่าผม ควาย ผมไม่ว่าครับผมเชื่อ ครับ

ความคิดเห็นที่ 39

7
7 (61.91.101.89) [2005-10-08 20:06:46]

มาดูเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันดีกว่า อยากรู้จังสร้างได้ยังไง

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คือ สิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่และโดดเด่น ทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน โดยมีการกล่าวถึงครั้งแรกในงานของเฮโรโดตุส เมื่อราว 5 ศตวรรษก่อนคริสต์กาล แต่หลังจากนั้นก็การอ้างถึงจากกวีชาวกรีก เช่น คัลลิมาฆุส แห่งคีเรนี, อันทิพาเตอร์ แห่งซีดอน และฟิโล แห่งไบเซนไทน์ เมื่อราวศตวรรษที่ ๒ ก่อนคริสต์กาล เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ หรือสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดของโลก ในบัญชีแรก เรียกกันว่า เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และหลังจากนั้น ยังมีบัญชีเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง และยุคปัจจุบัน โดยไม่ปรากฏผู้จัดทำรายการอย่างชัดเจน


เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ของกษัตริย์คูฟู ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อนคริสต์กาล หรือเก่าแก่กว่านั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เก่าแก่ที่สุด และยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบัน และมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์
สวนลอยบาบิโลน สร้างโดยพระเจ้าเนบูคาดเนสซาร์ที่ 2 เมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ปัจจุบันไม่ปรากฏหลักฐานหรือซาก
เทวรูปเทพเซอุส ที่อารามโอลิมเปีย มีความสูง 12 เมตร สร้างเมื่อประมาณ 462 ปีก่อนคริสต์กาล ภายหลังถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดสิ้น
เทวาลัยดิอานา (หรืออาร์เทมิส) ที่เอเฟซุสในเอเชียไมเนอร์ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรณที่ 4 ก่อนคริสต์กาล ภายหลังถูกทำลายโดยพวกโกธจากเยอรมันที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อ ค.ศ.262 ปัจจุบันพอเหลือซากอยู่บ้าง
เมาโซเลอุม ที่ฮาลาคาร์นาสซุส ในเอเชียไมเนอร์ สร้างโดยพระราชินีอาร์เทมิเซีย เป็นอนุสรณ์สถานแก่กษัตริย์เมาโซลุสแห่งคาเรีย ที่สวรรคตเมื่อ 353 ปีก่อนคริสตกาล ไม่ปรากฏซาก
เทวรูปเฮลิออส แห่งโรเดส ของกรีก ในทะเลเอเจียน เป็นรูปสำริดขนาดใหญ่ของพระอาทิตย์หรือเฮลิออส สูงประมาณ 32 เมตร ไม่ปรากฏซาก
ประภาคารฟาโรส แห่งอะเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สมัยพระเจ้าปโตเลมี ประมาณ 271 ปีก่อนคริสต์กาล ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงเมื่อแผ่นดินไหวในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14


เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง

สิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของโลกสมัยกลาง ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครได้กำหนดไว้ และรายการในยุคกลางก็ระบุไว้ไม่ตรงกัน แต่โดยมากจะยอมรับกับรายการต่อไปนี้

คอลอสเซอุม สนามกีฬาแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี
คาตาโคม สุสานใต้ดินเมืองอะเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน
สโตนเฮนจ์ ในอังกฤษ
เจดีย์กระเบื้องเคลือบ เมืองหนานกิง ประเทศจีน
หอเอนเมืองปิซา ประเทศอิตาลี
โปสถ์ฮาเจีย โซเฟีย (หรือ เซนต์โซเฟีย) แห่งคอนสแตนติโนเปิล ประเทศตุรกี

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน

สิ่งมหัศจรรย์ยุคปัจจุบัน หรือยุคใหม่ ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครกำหนดเอาไว้ และไม่ค่อยจะเป็นที่ยอมรับกันมากนัก

ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา
ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย
พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส
อาคารเอ็มไพร์สเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา
หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส
สะพานโกลเดนเกต ประเทศสหรัฐอเมริกา
อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในบรรดาเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคใหม่นี้ยังมีข้อถกเถียงกันมาก บ้างก็นับเอาเรือควีนแมรีของสหรัฐอเมริกาเข้าไปด้วย บ้างก็เพิ่มเขื่อนฮูเวอร์ของอเมริกาด้วย

เพิ่งรู้วันนี้เองว่า 7 สิ่งมหัศจรรย์มีอะไรบ้าง

ความคิดเห็นที่ 40

7
7 (61.91.101.89) [2005-10-08 20:18:05]
พีระมิดอียิปต์

พีระมิดแห่งกิซ่า ในสมัย คริสต์ศตวรรษที่ 19พีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า ซึ่งประกอบไปด้วย พีระมิดคีออปส์ คีเฟรน และแมนคีเร พีระมิดทั้งสามสร้างเรียงต่อกันเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ด้วยโครงสร้างรูปทรงเรขาคณิตเฉพาะตัว ทำให้สามารถ สังเกตเห็นได้ในระยะไกล รวมทั้งจากอวกาศ

พีระมิดคีออปส์ ซึ่งใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดทั้งสาม เชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์คูฟู แห่งราชวงศ์ที่ 4 ของอียิปต์โบราณ ซึ่งปกครองอียิปต์เมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาลหรือกว่า 4,600 ปีมาแล้ว พีระมิดนี้ได้รับยกย่องเป็นหนึ่งใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นหนึ่งเดียวที่ยังคงเหลือผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน

ยอดพีระมิดเมื่อสร้างเสร็จสูง 147 เมตร (481 ฟุต หรือประมาณตึก 49 ชั้น เมื่อคิดความสูงที่ชั้นละ 3 เมตร) ปัจจุบันส่วนยอดสึกกร่อนหายไปประมาณ 10 เมตร นับจากสร้างเสร็จ พีระมิดนับเป็นสิ่งก่อสร้างสูงที่สุดในโลก เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานถึง 43 ศตวรรษ ฐานพีระมิดทั้ง 4 ด้านกว้างด้านละ 230 เมตร (756 ฟุต กว้างกว่า สนามฟุตบอลต่อกัน 2 สนาม) พื้นที่ฐานประมาณ 53,000 ตารางเมตรหรือประมาณ 33 ไร่ ผิวหน้าพีระมิดแต่ละด้าน ทำมุมเอียงประมาณ 52 องศา ซึ่งทำให้พีระมิดคงทนต่อการสึกกร่อนจากพายุทราย


การก่อสร้าง
ตามที่มีข้อมูลปรากฏในแหล่งต่างๆ อ้างถึงจำนวนหินที่นำมาก่อสร้างพีระมิดต่างๆ กันตั้งแต่ 2 ล้านถึง 2.5 ล้านก้อน น้ำหนักเฉลี่ยก้อนละ 2.5 ตัน คิดเป็นน้ำหนักรวมกว่า 6 ล้านตัน

วิธีการยกหินขนาดใหญ่หลายสิบตันของชาวอียิปต์โบราณยังเป็นปริศนา เฮโรโดตัส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ ชาวกรีก ซึ่งเดินทางไปอียิปต์ช่วง 450 ปีก่อนคริสตกาล หรือ 2 พันกว่าปีหลังจากพีระมิดสร้างเสร็จ ได้บันทึก คำบอกเล่าของนักบวชชาวอียิปต์ไว้ว่า ชาวอียิปต์โบราณมีอุปกรณ์บางอย่างสำหรับใช้ยกหินเพื่อสร้างพีระมิด อย่างไรก็ตามไม่พบหลักฐานอื่นๆ ที่อ้างอิงถึงเครื่องมือนี้ เฮโรโดตัสยังได้บันทึกไว้ว่าการก่อสร้างพีระมิดทำเฉพาะช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งประชากรว่างจากการเพาะปลูก นั่นคือ ประมาณปีละ 3 - 4 เดือน และก่อสร้างอยู่ 20 ปี จึงแล้วเสร็จ แต่เทคโนโลยีในขณะนั้นยังไม่มีระบบปั้นจั่นไม่รู้จัก แม้กระทั่งล้อเลื่อน และไม่มีการใช้พาหนะที่ลากด้วยแรงสัตว์ การเคลื่อนย้ายหินจึงใช้แรงงานคนลากเข็น ไปบนท่อนซุงที่เหลากลมๆ เรียงต่อกัน พอขยับก็ย้ายซุงด้านหลังมาต่อข้างหน้าไปเรื่อยๆ


วัตถุดิบและแรงงานในการสร้างพีระมิด
แหล่งหินที่นำมาสร้างพีระมิด ไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อสร้างแต่ต้องขนส่งจากเหมืองหินที่อยู่ห่างไกลนับร้อยไมล์ มาตามแม่น้ำไนล์ แล้วขนส่งทางบกต่อไปอีก ประมาณ 22 กิโลเมตร (ประมาณ 14 ไมล์) จึงจะถึงบริเวณก่อสร้าง การสกัดหินจากเหมืองหินต้องผลิตให้ได้ในอัตราเดียวกันเหมืองหินปูนส่วนใหญ่อยู่ทางใต้ห่างไปกว่า 200 กิโลเมตร เรียงรายตามแนวฝั่งแม่น้ำไนล์ส่วนแหล่งหินแกรนิตอยู่ห่างไกลจากบริเวณก่อสร้างไปทางใต้ถึงกว่า 800 กิโลเมตร

ในเวลานั้นโลกยังไม่เข้าสู่ยุคเหล็ก เทคโนโลยีการตีเหล็กยังไม่ถูกพัฒนาขึ้นจนกว่าอีก 1 พันปีต่อมา เครื่องมือโลหะ ที่มีใช้ในสมัยนั้นทำด้วยทองแดง และทองสัมฤทธิ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายหากต้องการตัดหินปูนซึ่งมีความแข็งพอๆ กัน ให้ได้ขนาดและรูปทรงตามต้องการ การผลิตหินจะต้องทำได้ในอัตราวันละ 1,040 ก้อนซึ่งน่าจะต้องใช้คนงานมากกว่าก้อนละ 1 คน และต้องมีแรงงานขนหินออกจากเหมืองมายังแม่น้ำ แรงงานสำหรับควบคุมการขนส่ง และแรงงานสำหรับยกหินขึ้นฝั่งที่ปลายทาง ทั้งหมดนี้น่าจะ ใช้คนทั้งสิ้นประมาณ 5,000 - 10,000 คน

นอกจากนี้ในบริเวณก่อสร้างยังต้องมีแรงงานสำหรับขนย้ายหินขึ้นสู่บริเวณก่อสร้างบนพีระมิด ผู้เขียนคิดเองว่าน่าจะเป็นแรงงานคนละชุดกับที่ขนย้ายหินมาจากแม่น้ำ และน่าจะต้องใช้คนมากว่า 8 คนต่อหิน 1 ก้อนเนื่องจาก เป็นการขนย้ายหินขึ้นสู่ที่สูง นอกจากนี้ยังไม่รวมแรงงานในบริเวณก่อสร้าง ซึ่งจะต้องตัดแต่งหินให้มีขนาดพอดี และจัดเรียงเข้าตำแหน่งให้ถูกต้อง เพราะการก่อสร้างพีระมิดไม่มีการใช้วัสดุเชื่อมประสานหินแต่ละก้อน วางซ้อนกันอยู่ได้ด้วยน้ำหนักกดทับด้านบนและระนาบ ที่เท่ากันในแต่ละชั้น การตัดแต่งหินจึงต้องทำอย่างละเอียด แบบก้อนต่อก้อนก่อนประกอบเป็นพีระมิด โดยระยะห่าง ระหว่างก้อนอยู่ที่ 1/50 นิ้ว รวมแรงงานแต่ละส่วนเหล่านี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนรวมกับแรงงานขนย้ายหินอย่างน้อยที่สุดน่าจะต้องใช้คนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นคนในแต่ละปี และเป็นไปได้ที่อาจมีการใช้แรงงาน ถึง 100,000 คน เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคโบราณแห่งนี้

พีระมิดในยุคต่อมา
ถัดจากสมัยของฟาโรห์คีออปส์ ฟาโรห์คีเฟรนผู้เป็นโอรสได้สร้างพีระมิดคีเฟรนขึ้นเคียงข้าง และสำเร็จด้วยขนาด ใกล้เคียงกันที่ความสูง 136 เมตร และต่อมาฟาโรห์เมนคีเร(ชื่อในภาษากรีกคือฟาโรห์ไมซีรีนัส) โอรสของฟาโรห์คีเฟรนได้สร้างพีระมิด ขึ้นเป็นหลังที่สามที่ความสูง 66 เมตร ซึ่งแม้ จะมีขนาดเล็กที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า แต่ก็ยังสูงกว่าอาคาร 20 ชั้นสมัยใหม่ พีระมิดทั้ง 3 แห่งกิซ่ายังยืนยงผ่านกาลเวลากว่า 4,600 ปีจนถึงปัจจุบัน

พีระมิดยังจัดเป็นงานระดับอภิมหาโปรเจกต์แม้ในยุคปัจจุบัน มีผู้ประเมินว่าหากทำการก่อสร้างพีระมิดคีออปส์ขึ้นใหม่ ในยุคปัจจุบัน โดยเลือกพื้นที่ รัฐอะริโซน่า ในอเมริกา ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับสถานที่ก่อสร้างพีระมิดเดิม แต่ได้เปรียบ ที่มีทางรถไฟสะดวกในการขนส่งวัสดุก่อสร้าง ใช้รถโฟค์ลิฟ 400 คัน เครนก่อสร้าง 20 ตัว และเฮลิคอปเตอร์ก่อสร้างอีก 1 ลำ โดยใช้หินปูนจากเหมืองหินสมัยใหม่รวม 4 แห่ง พร้อมทั้งงบประมาณอีก 4.5 หมื่นล้านบาท จะสามารถระดมก่อสร้างมหาพีระมิดคีออปส์ขึ้นมาใหม่ได้ภายในเวลา 5 ปี

แต่หากต้องการสร้างหมู่พีระมิดกิซ่าทั้งหมดขึ้นมาใหม่ให้ครบทั้ง 3 หลัง นั่นหมายถึงจะต้องใช้งบประมาณกว่า 120,000 ้านบาทสำหรับโครงการอภิมหายักษ์นี้ และแน่นอนว่าหากไม่อาศัยเครื่องจักร และระบบขนส่งสมัยใหม่ การก่อสร้างมหาพีระมิดคีออปส์เพียงหลังเดียว ก็ยังยากจะเป็นไปได้แม้ในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะใช้งบประมาณมากมายเพียงใดก็ตาม

เมื่อมองย้อนกลับไป 4,600 ปีก่อน นึกถึงภาพการสกัดขนย้าย และประกอบ หินก้อนมหึมาถึงวันละ 2,600 ตัน ด้วยแรงงานคน ปีละ 4 เดือน ต่อเนื่องกัน 20 ปี จนกลายเป็นมหาพีระมิด และอีกกว่า 30 ปีเพื่อสร้างหมู่พีระมิด ทั้ง 3 หลัง เราต้องยอมรับว่าพีระมิดแห่งกิซ่า นับเป็น สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเต็มภาคภูมิอย่างแท้จริง


ดูเพิ่มเติม
นอกจากพีระมิดในอียิปต์แล้ว ยังมี พีระมิดในลักษณะเฉพาะอื่นๆ ได้แก่ Nubian pyramids, Mesoamerican pyramids, และ Chinese pyramids

อ้างอิง
คำนวณน้ำหนัก คำนวณโดยอาศัยสูตรเรขาคณิตสำหรับคำนวณปริมาตรพีระมิดที่ว่าเท่ากับ (พื้นที่ฐาน คูณ ความสูง) หาร
3 = (230 x 230 x 147) / 3 = 2,592,100 ลูกบาศก์เมตร คิดน้ำหนักเฉลี่ยหินปูนที่ 2,611 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร = 2,592,100 x 2,611 = 6,767,973,100 กิโลกรัม ถ้าคิดน้ำหนักเฉลี่ยคงที่ 2.5 ตันต่อก้อน จะมีหินจำนวน = 6,767,973,100 / 2,500 = 2,707,189 ก้อนซึ่งมากกว่าจำนวนสูงสุดที่มีอ้างอิง เมื่อเป็นแบบนี้ผมจึงเห็นควรว่าจะใช้ตัวเลขจำนวนหินสูงสุดที่ 2.5 ล้านก้อน ในการคำนวณ น่าจะใกล้เคียงกับงานมากที่สุด แต่ละก้อนก็ให้มีน้ำหนักเท่ากันคือ 2.5 ตันตามที่มีอ้างอิงตามแหล่งต่างๆ ทั้งนี้หินบางก้อน จะมีขนาดถึงกว่า 15 ตัน และในส่วนเพดานของห้องเก็บพระศพฟาโรห์ สร้างด้วยหินแกรนิตสีแดงขนาดใหญ่จำนวนไม่ต่ำกว่า 38 ก้อน น้ำหนักตั้งแต่ 50 ถึง 70 ตัน วางซ้อนกัน 5 ชั้นอยู่ภายในพีระมิดที่ระดับสูงจากพื้นดินกว่า 150 ฟุต โดยที่เพดานชั้นล่างสุดประกอบด้วยหิน 9 ก้อน ก้อนใหญ่ที่สุดมีขนาด กว้าง 7 ฟุต หนา 5 ฟุตและยาวถึง 27 ฟุต เมื่อประมาณน้ำหนักที่ลูกบาศก์ฟุตละ 165 ปอนด์ หินก้อนนี้จะหนักกว่า 70 ตัน นับเป็นหินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่พบในพีระมิด สำหรับส่วนบนสุดของเพดานปิดไว้ด้วยหินปูนรูปจั่ว ขนาดยักษ์เป็นชั้นที่ 6 ภายในห้องมีโลงหินแกรนิตสีดำขุดแต่ง จนเป็นรูปโลง จากการศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ คาดว่าโลงนี้ถูกขุดแต่งด้วยเครื่องมือที่ทำจากหินรัตนชาติความแข็งสูง อ้างอิงความหนาแน่นหินปูน

คำนวณเวลา ระยะเวลา 20 ปี ถ้ามีเวลาทำงานปีละ 4 เดือนเต็มๆ = 2400 วัน ดังนั้นต้องทำงานก่อสร้างให้ได้ 2,500,000 ก้อน/ 2,400 วัน = 1041.67 หรือประมาณวันละ 1040 ก้อน คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 1040 x 2.5 = 2,600 ตัน (หรือประมาณว่าขนย้ายข้าวสาร ระยะทาง 22 กิโลเมตร วันละ 2 หมื่นหกพันกระสอบ)
คำนวณแรงงาน หิน 1 ก้อนต้องการแรงงานสำหรับเคลื่อนย้ายประมาณ 8 - 10 คน คิดเฉพาะระยะทางบนบก 22 กิโลเมตร ถ้าเดินตัวเปล่าก็ประมาณ 1 วัน แต่ถ้าต้องย้ายหินขนาด2 ตันครึ่งไปด้วย คาดว่าใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วัน (วันละ 7-8 กิโลเมตร) รวมเวลาที่เดินตัวเปล่าไปขนหินอีก 1 วันทำให้ในการขนย้าย1 เที่ยวใช้เวลา4 วัน มีเวลาทำงานปีละ 4 เดือน = 120 วัน คนงาน 1 ชุด
จะขนหินได้ 120 / 4 วัน = 30 เที่ยวต่อปี ต้องขนหินรวม 1040 ก้อน * 120 วัน = 124,800 เที่ยว จึงต้องใช้แรงงานทั้งหมด 124,800 / 30 = 4160 ชุดๆ ละ 8 คน = 4160 x 8 = 33,280 คน ประมาณ 3 หมื่นสามพันคนเฉพาะในการขนย้ายหินก่อสร้างทางบก

ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ