งบประมาณ 20000 ผมว่าก็ชื้อตู้ 72x30x30 นิ้ว กระจก 4 หุน พร้อมฝาพร้อมขากรองข้างตู้ได้นะครับ หรือถ้าจะเอาแบบกรองใต้ตู้ก็อาจจะต้องเพิ่มเงินอีกซักเล็กน้อยนะครับ

ก้อคงจะประมาณ ที่ นอท บอกอะครับ

แต่ให้ดี ไปถามที่ร้านเลยดีกว่าครับ
ทั้งถามราคา ดูเลือกแบบที่ต้องการ
คงจะช่วยในการตัดสินใจได้มากกว่านะคับ

ผมไม่ค่อยได้มีเวลาเข้ามาสักเท่าไหร่ครับเห็นว่าคุณ RedLobster อยากรู้เรื่องตู้ปลาในงบที่คุณมีสองหมื่นบาท
ไม่รวมราคาปลา งบประมาณที่คุณบอกมาสำหรับผมถือว่าเพียงพอครับ แต่ในระดับใดก็ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มอีกนะครับผมหมายความว่าต้องมีข้อมูลบ้างว่าตู้ที่อยากจะได้ขนาดไหน กรองชนิดใด ซึ่งมีหลากหลายมาก ตั่งแต่ในตู้ นอกตู้ ใต้ตู้ก็ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงเองว่าพอใจในระดับไหนครับ พวกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นไฟ ปั๊ม หิน โทโมมิเตอร์ น้ำยาวัดค่าไนไตรท์ ค่า ph เยอะแยอะไปหมดต้องค่อยๆศึกษาดูนะครับ บอกไม่หมดครับหรือก็นึกไม่ออกตอนนี้ หรือผมรู้แค่นี้ ลองอ่านบทความนี้ดูครับ จากคุณแนน ที่เคยอธิบายไว้ครับ อย่างน้อยก็เป็นแนวทางเริ่มต้นในการเลือกซื้อ
แต่อย่างไรก็แล้วแต่การที่ได้ลงไปเดินถามราคาตู้และเดินดูด้วยตาของตนเองจะเป็นการดีที่สุดครับเพราะอย่างน้อย
อะไรก็ตามที่เราสามารถเลือกด้วยตัวเองถึงแม้จะเป็นการเสียเวลาอยู่บ้างแต่ผมว่าน่าจะคุ้มนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ

บทความของคุณแนน
ว่ากันด้วยเรื่อง ?ตู้ปลามังกร? ในการจะเลี้ยงปลามังกรซักตัว (หรือปลาอะไรก็ตาม)
เรื่องของ ?ตู้ปลา? เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะขาดไม่ได้ ? และการตั้งวางตู้ปลาเราจะซื้อแบบระบบตามใจฉันคงไม่ได้
สิ่งที่สำคัญต้องในเรื่องความจำกัดของสถานที่ ขนาดของปลาที่เลี้ยงและงบประมาณที่ตั้งไว้ สำหรับปลามังกรขนาดเล็ก
(ไม่เกิน 8?) เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณควรจะเริ่มต้นเลี้ยงในตู้ขนาด 36? (โดยปกติจะ 36?x18?x18? - ยxกxส -)สำหรับตู้ขนาดนี้ที่ไม่มีระบบกรองในตัวจะสามารถเลี้ยงปลาได้จนมีขนาดราวๆ 1 ฟุตซึ่งจะใช้เวลาเลี้ยงไม่น้อยกว่า 6 เดือน
...ระยะเวลานี้จะเป็นตัวตอบคำถามให้ผู้เลี้ยงด้วยว่า ?เราชอบปลาชนิดนี้จริงมั๊ย?? และ ?จากวันนี้เราจะเลี้ยงเขาอีกต่อไปได้มั๊ย?? หากคำตอบของทั้งสองคำถามเป็น ?ไม่? เราก็เจ็บตัวในเรื่องของค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่หากคำตอบเป็น ?ใช่? แปลว่าเราพร้อมแล้วสำหรับการเลี้ยงปลาชนิดนี้ต่อไปและขั้นต่อไปก็เป็นการเลือกซื้อตู้ใหญ่
ก่อนจะไปถึงตู้ใหญ่ผมจะขอให้อ่านตรงนี้นิดนะครับสำหรับเหตุผลที่ผมแนะนำให้เลี้ยงในตู้เล็กก่อน...นั่นก็เพราะว่า
1. เป็นการวัดใจตัวเองกับ 2 คำถามข้างต้น 2. เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณเบื้องต้นกับค่าใช้จ่ายเรื่องตู้
3. ในกรณีที่เมื่อปลาโตขึ้นแล้วมีการเปลี่ยนตู้ๆ เล็กใบเดิมยังสามารถเก็บเป็น Spare เพื่อเลี้ยงปลาสายพันธุ์อื่น
ที่เราต้องการได้อีก (อย่างเช่นในตอนแรกอยากเลี้ยงทองมาเลย์มากแต่ยังไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยง...ปลาแพง
ค่าใช้จ่ายสูง เลี้ยงแล้วก็กลัวตายแต่ก็ยังมั่นใจว่าเลี้ยงได้แน่จึงลองซื้อทองอินโดมาเลี้ยงก่อนในตู้เล็ก พอทองอินโดโตได้ขนาดจึงย้ายไปตู้ใหญ่ส่วนตู้ใบเล็กใบเก่าก็ให้เป็นของเจ้าทองมาเลย์ที่ฝันอยากจะเลี้ยงไว้) 4. แต่ถ้าหากว่าเกิดเลี้ยงๆ แล้วรักชอบจนไม่อยากมีอีกตัว เลี้ยงในแบบ ?รักเดียวใจเดียว? และเลี้ยงให้ดีที่สุด ตู้ใบนี้ยังสามารถเก็บไว้เพื่อใส่เหยื่อปลาอย่างเช่นจิ้งหรีดและหนอนนกได้ด้วย นอกจากนี้ในเวลาทีปลาไม่สบายต้องการแยกออกมารักษาโรค (หากปลาใหญ่ไม่เกินความกว้างของตู้เล็ก) ก็ยังสามารถจับแยกออกมารักษาต่างหากได้อีกด้วย
(การรักษาปลาในตู้ใหญ่จะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำและยามาก) ... แต่ยังไงก็ตามการจะเริ่มเลี้ยงปลาหากกำลังทรัพย์และงบประมาณมีมากพอจะเริ่มด้วยตู้ใบใหญ่เลยก็ได้ครับ (แล้วจะมากั้นที่หรือจะปล่อยเลี้ยงแบบเต็มตู้ค่อยมาว่ากัน) สำหรับตู้ใบใหญ่ขนาดเริ่มต้นที่ผมแนะนำสำหรับการเลี้ยงปลามังกรก็คือขนาด 60?x24?x24? หรือ
จะเป็นขนาด 60?x30?x24? หรือ 60?x30?x30? (สำหรับตู้ขนาด 60? ตู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัยควรใช้กระจกหนา
อย่างน้อย 3 หุนนะครับแต่หากเป็นไปได้ผมขอให้ใช้ 4 หุนและระบบกรองก็ไม่ควรเป็นแบบกรองข้างตู้หรือกรองใต้ตู้
เพราะเป็นการสิ้นเปลืองเนื้อที่ว่ายภายในตู้ ผมขอแนะนำให้ใช้ระบบกรองนอกตู้โดยใช้เครื่องกรองที่มีขนาดอัตราการกรอง1,200-1,500 ลิตร/ชม.) หรือตู้ขนาด 72?x24?x24? หรือจะเป็นขนาด 72?x30?x24? หรือ72?x30?x30?(ตู้ขนาดนี้ต้องใช้กระจก 4 หุนครับและสามารถจัดระบบกรองข้างตู้หรือกรองใต้ตู้ก็ได้แล้วแต่ความงบประมาณและความต้องการของผู้เลี้ยง) หรือหากต้องการความหรูหราและยิ่งใหญ่อลังการตู้ขนาด 84?x30?x30? คงจะเป็นทางเลือกอีกทางที่น่าสนใจและน่าครอบครอง (การเลี้ยงปลามังกรลงตู้ใหญ่ขนาดปลาควรเริ่มต้นที่ 1 ฟุตขึ้นไปนะครับจะได้ไม่ดูเล็กเกินไป ส่วนตู้ใหญ่ทุกขนาดที่ผมแนะนำนั้นสามารถเลี้ยงปลามังกรได้ตลอดไป แต่หากเลี้ยงเพื่อให้เห็นความสวยและสง่างามในยามที่ปลาแหวกว่ายตู้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดีครับ...แต่โดยส่วนตัวแล้วตู้ปลาขนาดที่เหมาะสมและลงตัวที่สุด
ผมชอบขนาด 72?x30?x24 ครับ)การเลือกซื้อตู้ปลาก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องอาศัยการใส่ใจพิจารณาในการหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านที่รับทำตู้ งานฝีมือ ราคาที่เสนอ การพูดจาต้อนรับและการบริการหลังการขาย โดยปกติแล้วการเลือกซื้อตู้ปลาของมือใหม่มักจะเป็นแบบร้านไหนก็ได้...คุณภาพน่าจะเหมือนๆ กันหมด จุดนี้สำหรับตู้เล็กคงไม่มีใครปฏิเสธแต่ในส่วนของตู้ใหญ่มันมีความแตกต่างกันนะครับในแต่ละร้าน สำหรับตู้เล็ก (ขนาดไม่เกิน 60?x20?x20? และความหนากระจกไม่เกิน 2 หุน) ร้านที่ทำสำเร็จพร้อมขายก็มีหลายร้านนะครับอย่างเช่นร้านของลุงจวน พิสิฐตู้ปลา ร้านเจ๊เล็ก ร้านเจ๊ฝน ร้าน Sea Square ร้านเจ๊นิด มาตราฐานตู้เล็กสำเร็จรูปมักจะเป็นแบบเดียวกัน
ราคาก็พอๆ กันไม่ต่างกันมากนักจะต่างกันก็ตรงที่การบริการและค่าขนส่งเท่านั้น แต่ในกรณีของตู้ใหญ่
(และตู้เล็กแบบสั่งทำขนาดพิเศษ) ร้านที่รับสั่งก็มีหลากหลายร้านให้เลือกเช่นกันอย่างเช่นร้านนิศาชล
ร้าน Little Whale ร้านโยตู้ปลา ร้าน Champ ร้านน้อย (ร้านเหล่านี้จะเป็นงานฝีมือและสั่งงานได้นะครับราคาจะสูงนิดนึง) นอกจากนี้ร้านพิสิฐ ร้านเจ๊เล็ก ร้านลุงจวน ร้านเจ๊นิด ยังสามารถทำตู้ใหญ่ได้ด้วย (แต่จะกำกับงานจุกๆ จิกๆ
เอานั่นเอานี่ระบบตามใจฉันมากไม่ได้เหมือนกับร้านที่ผมแนะนำก่อนหน้า) และสนนราคาที่ถูกกว่า...การเลือกตัดสินใจซื้อตู้เล็กๆ ซักใบคงไม่ทำให้หนักใจมากเพราะน้ำเงินที่เสียไปก็ไม่มากและสถานที่ตั้งวางก็ไม่ต้องลำบากจัดหา
ฉะนั้น ?ตู้เล็ก? จึงถือเป็น ?เรื่องเล็ก? แต่ในทางกลับกันในส่วนของ ?ตู้ใหญ่? เราคงต้องมาใส่ใจกันหน่อย
เพราะนอกจากตู้ที่เหมาะสมกับปลา หากงานตู้ทำออกมาสวย...?ตู้ปลา? ใบใหญ่ก็จะถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แสนสวยงามภายในบ้านได้เลยทีเดียว สิ่งที่เราควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อตู้ใหญ่ก็คือดูที่ขนาดปลาก่อนว่าพร้อมรึยังที่จะขยับขยายไปสู่ตู้ใบใหม่ (ที่ใหญ่กว่าเดิม) หากปลาเริ่มตัวใหญ่และอึดอัดกับตู้ใบเดิมล่ะก็...คำตอบก็คือ ?ต้องเปลี่ยน? แล้วล่ะครับจากนั้นก็มาดูที่สถานที่ตั้งวางว่าที่ๆ เราจัดไว้นั้นสามารถตั้งตู้ได้เล็กใหญ่แค่ไหน...ได้แค่ 60? หรือสามารถตั้งได้ถึง 84?
... เมื่อได้คำตอบแล้วมาลองคำนวนเรื่องค่าใช้จ่าย (การทำตู้ใหญ่ตั้งแต่ 60? ขึ้นไป + กระจกหนา 4 หุน งบประมาณ
ไม่ควรน้อยกว่า 15,000 บาท เพราะเราไม่ได้เสียค่าตู้อย่างเดียวจะมีในเรื่องของฝา ขา หลอดไฟ อุปกรณ์เสริม
ค่าส่งและระบบกรองซึ่งรวมถึงวัสดุกรองที่ใช้ด้วย) การเลือกซื้อตู้เลี้ยงปลามังกรควรคำนึงถึงเรื่อง ?ความแข็งแรง? เป็นสำคัญนะครับแต่หากเลือกร้านที่สามารถทำงานออกมาได้ดีด้วยแล้วล่ะก็ๆ จะดีใหญ่ ...การเลือกซื้อควรใจเย็นๆ นะครับ
เลือกดูและศึกษาหาข้อมูลหลายๆ ร้านดูงานที่วางหน้าร้าน (ร้านไหนไม่มีงานวางในร้านไม่ควรซื้อนะครับเพราะโดยปรกติ
เขาจะรู้กันว่า ?ร้านนั้นขายไม่ออก...ไม่มีคนสั่งทำ? ไม่ใช่แบบขายดีจัดทันส่งลูกค้าตลอดจนไม่มีงานวางในร้าน)
งานตู้ที่ทำดีสามารถสังเกตได้จากความเนี๊ยบในการเจียรขอบตู้ ความปราณีตในการยิงกาวซิลิโคน
การวางแบบตู้และการวางตำแหน่งคานรับ การตีขอบอะคลีลิคบนล่างรอบตู้และที่สำคัญคือการเก็บงานให้สะอาดเอี่ยม
ก่อนการส่งจริง นอกจากจะ ?งานดี? แล้วก็เลือกซื้อในร้านที่พูดจาดีๆ เสนอคำแนะนำที่ค่อนข้างดีที่ไม่เน้นที่จะโน้มน้าวให้ซื้อของในราคาแพงขึ้น (ร้านที่งานดีๆ แต่ผู้ค้าปากร้ายหัวใจเสือก็คงไม่ไหว) ถามถึงการบริการและประกันหลังการขายด้วยว่ามีบริการส่งมั๊ย? ราคาค่าส่งเท่าไหร่? รับประกันตู้แตกหรือรั่วซึมนานเท่าไหร่? เมื่อตัดสินใจเลือกร้านที่ร้านที่ซื้อได้แล้วก็สอบถามและให้รายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้ขายให้ชัดเจน สถานที่ส่งที่ไหน? จะให้ส่งตู้ที่ชั้นไหน? (สำคัญมากนะครับเพราะจะมีผลในเรื่องของราคาค่าส่งที่เพิ่มขึ้น...ค่าขนส่งตู้ภายในกรุงเทพจะอยู่ไม่เกิน 600 บาทส่วนชั้นของการตั้งตู้ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะคิดค่ายกชั้นละประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของตู้และความยากง่ายของเส้นทางขึ้น) จะให้ส่งเมื่อไหร่? เวลาเท่าใด? รายละเอียดเหล่านี้มองดูอาจเป็นเรื่องที่พื้นๆ ไม่สำคัญแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆนี่แหละครับที่เป็นปัญหาใหญ่ในภายหลังที่ทำให้ผู้ชื้อและผู้ขายผิดใจกันมาหลายรายแล้ว...อยากฝากตรงนี้ไว้ด้วยครับ ปิดท้ายรายการด้วยข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ นะครับ...สำหรับผู้ที่สนใจในงานตู้ใหญ่ ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อตู้ไม่ว่าจะร้านใดก็ตามก็ให้ดูงานภายในร้านด้วย หากงานเต็มร้านวางตู้มั่วซั่วไปหมด ช่างทำตู้ทำงานอย่างหน้าดำคร่ำเครียดแนะนำให้เลื่อนเวลาออกไปดีกว่าครับเพราะหากงานรีบแล้วล่ะก็งานที่ได้ออกมาจะไม่สมราคานะครับ (แม้จะเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและไว้ใจได้เคยสั่งทำมาแล้วก็ตาม) งานตู้ใหญ่ไม่ควรเร่งงานผู้ทำนะครับเพราะงานขนาดนี้ต้องใช้ฝีมือและเวลามาก...เงิน เสียไปแล้วให้ได้งานที่ดีๆ งานเรียบร้อยและสวยงามไม่ต้องมาแก้ไขดัดแปลงทีหลังผมว่าดีกว่านะครับ มือใหม่ที่ไม่เคยสั่งควรเก็บข้อมูลให้ดีด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ...
คำบอกเล่าคำแนะนำจากอดีตลูกค้าจากร้านต่างๆ ก็คือคำพูดจากประสบการณ์ตรงที่ฟังขึ้นและน่าถือเก็บมาเป็นข้อมูล...แต่อย่าเชื่อจนใช้แทนการตัดสินใจ หากมีเวลาลองสละเวลาเดินดู เดินเลือกซื้อด้วยตัวเองดีกว่าครับ...
แล้วคุณจะได้ตู้ในแบบที่คุณต้องการ งานใบแบบที่คุณพอใจและค่าใช้จ่ายในวงเงินที่ตั้งไว้...กระทู้นี้อาจจะยาวเกินจนน่ารำคาญ...แต่ผมก็ตั้งใจทำขึ้นมาให้กับเพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มปลาสวยงามขอบคุณทุกคนนะครับสำหรับความอดทนและความตั้งใจที่อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายบรรทัดนี้...ขอบคุณครับ
แถมหน่อยดีกว่า...เรื่องตำแหน่งการตั้งวางและสีของตู้ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรศึกษาไว้นะครับ
เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมาจากผู้ใหญ่ (บ้านผมเป็นร้านอาหารจึงมีคนเข้าคนออกคนทักเยอะ)
เขาว่าๆ ตู้ปลาหรือของที่มีการเคลื่อนไหวควรตั้งไว้ที่ตำแหน่งด้านซ้ายของบ้าน (เราหันหน้าออกไปหน้าบ้านนะครับ ถ้าหันหน้าเข้าจะตำแหน่งจะอยู่ทางด้านขวา) การเลือกสีตู้เช่นกันนอกจากจะให้เข้ากับกับสีปลาควรให้เข้า
และถูกโฉลกกับสีบ้านด้วย... อย่างบ้านผมจะปูด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดแต่ตอนที่เปลี่ยนตู้ใหญ่
ผมสั่งตู้ขนาด 84?x30?x30? สีดำ (ใช้ซิลิโคนดำ) + ฝาเหลี่ยมสีดำ + ขาสีดำ + กั้นหลังด้วย Sticker สีดำ
เข้ามาตั้งในร้าน...คนที่เห็นคนที่เข้ามาในร้านต่างก็สะดุ้งเฮือกแต่ก็ไม่กล้าทักผมโดยตรงแต่ฝากมายังพ่อผม
...เขาว่าเหมือน ?โลง? น่ะครับซึ่งถือเป็นของอัปมงคล (ตู้ดำใบใหญ่ยักษ์ตั้งเด่นเป็นสง่าภายในบ้าน)
...ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ สนเพียงแต่ว่าตู้นี่แหละที่จะทำให้ปลาเราสวยที่สุด...สวยไม่แพ้ใคร จากนั้นไม่นานครับ
เรื่องราวมหากาพย์ความเฮงซวยก็ได้โถมกระหน่ำให้ผมช้ำในหลายรอบจนต้องฟังคำคนเหล่านั้นและต้องเปลี่ยนตู้ในเวลาต่อมา (เปลี่ยนเป็นตู้สีแดง...สีที่ผมชอบและเหมาะกับที่บ้านที่สุด) ...เรื่องนี้อาจฟังแล้วไร้สาระแต่ฟังไว้หน่อยผมว่าก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่เสียหายนะครับ.

โอ้โห...ได้รับคำตอบที่ถูกใจมากครับ ต้องขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุก ๆ ท่านที่ให้คำแนะนำนะครับ

ขี้เกียจอ่านมากๆ

jj..กับแนนคนเดียวกันหรือปล่าว หรือ jj ลอกกระทู้แนนมาตอบ จำได้ว่าเคยเจอในพันทิพนะ ถามเล่นๆ

ตอบคุณเริ่มจะงง ครับ ผม JJ ครับ ไม่ใช่คุณ แนน
ครับ จะพูดว่าผมลอกกระทู้ คุณแนนมาตอบ ใช่เลยครับ
แต่ผมไม่ได้แอบอ้างว่าผมเป็นคนคิดนะครับ คำตอบ
ที่ผมมีประสบการณ์ ผมก็จะตอบไปตามประสบการณ์
ที่ผมมีครับ ผมเป็นมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเลี้ยงปลาประเภท
นี้ครับ ผมเคยเล่นที่พันธ์ทิพย์และก็ใช้ชื่อ JJ มาตลอด
ตอนนี้ผมก็เข้าไปเล่นอยู่แต่จะเป็นผู้อ่านมากกว่าครับ
เพราะที่นั่น มีผู้ที่มีความรู้มากมาย และเป็นที่ๆรวมคนที่
เลี้ยงอโรวาน่ามากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ปัญหาแทบ
จะทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นกับคนเลี้ยงอโรมือใหม่อย่างผมนี่
ก็ สามารถหาคำตอบได้ที่นั่น บังเอิญผมมีเรื่องที่เกิด
ขึ้นเกี่ยวกับปลาที่ผมเลี้ยงอยู่เลยต้องจากที่นั่นมาสักพัก
แต่ไม่เคยที่จะไม่คิดจะกลับไป คำตอบส่วนมากที่ผมตอบ
ให้เพื่อนๆในที่นี้ ก็มักจะเอามาจากที่นั่นนะครับ ผมอยาก
เอาความรู้ที่เพื่อนๆถ่ายทอดให้ มาแบ่งปันกันให้รู้ทั่วถึง
กันครับ เอาของใครมาก็บอกว่าของคนนั้น ไม่แอบอ้างครับ
ถ้าบางครั้ง ไปคล้ายของใครหรือลืมชื่อหรือหาชื่อไม่เจอ
ก็ต้องขอโทษด้วยครับ ผมไม่เคยรู้จักคุณแนนเป็นการ
ส่วนตัว เลยครับ มีบางเรื่องที่เห็นด้วย และบางเรื่องที่ไม่
เห็นด้วยก็มีครับ ก็ดีครับที่ถามมาครับยินดีตอบให้ครับ
เท่าที่จะตอบให้ได้ แต่รับรองว่าผมก็คือผมไม่มีเป็นอื่นครับ

อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของกระทู้เท่าไหร่ครับ ขออภัย!!! แค่อยากจะบอกกครับว่า ผมเป็นคนนึงที่ในอดีตไม่มีความสนใจเรื่องเลี้ยงปลาเลยแม้แต่นิดเดียวแต่พอได้อ่านหนังสือของคุณแนน แอบคุยเรื่องปลาต้ เล่ม 1 ปัจจุบันนี้ผมมีความสุขกับการเลี้ยงปลามาก ๆๆ และคิดว่าจะเลี้ยงต่อไปตราบนานเท่านาน อยากขอบคุณคุณแนนที่ทำให้ผมได้มีความสุขเช่นนี้ ก็แค่อยากจะบอก ( มานานแล้ว)

โทโมมิเตอร์เป็นอย่างไร