เป็นคนละอย่างครับ แดงบีราคาประมาณ 7000-8000
ส่วน orange red ราคาประมาณ 25000-35000ครับ

อย่างที่คุณ มังกรแดงว่าไว้นะครับ ผมมีเพิ่มเติม
ในรายละเอียดเรื่องชนิดของปลา เซฟเก็บไว้
นานแล้ว เป็นของคนอื่นอีกเหมือนกัน ยังไม่มี
ปัญญาเลี้ยงปลาแดงครับ เหล่แล้วเหล่อีกจน
ตาจะตกแล้ว คงต้องหาลูกปิงปองสีๆมาแขวน
ไว้ดูกันตาตกไม่รู้จะช่วยได้หรือปล่าว ที่เหล่นี่
เหล่สาวๆใส่ชุดสีแดง แล้วโดนแฟนตบ จนตา
เหล่นะครับ นิดๆหน่อยๆครับแก้เครียดเช้าวัน
จันทร์วันที่รถติด ลองอ่านดูครับน่าอ่านดีครับ
จำไม่ได้ว่าไปเอามาจากไหนเหมือนกัน
เจ้าของมาเจอก็ต้องขอโทษด้วยครับ
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้ต่อก็ได้ครับและรับประกันว่าแปลไม่ผิดครับSuper Red (แดงอินโดนีเซีย)
มีแหล่งกำเนิดจากหลายแหล่งในเมืองกาลิมันตันตะวันตก ในประเทศอินโดนีเซีย แหล่งที่สำคัญคือ แม่น้ำกาปูอัส(River Kapuas) และทะเลสาบเซ็นทารัม(LakeSentarum)ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของ Chili Red และ Blood Red Red arowana นับเป็นอะโรวาน่าที่ได้รับความนิยมมากอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากสีที่สวยงามประกอบกับราคาที่ย่อมเยากว่า Cross back เมื่อนักเลี้ยงปลาพบครีบสีแดงเข้ม ริมฝีปากและหนวดสีแดง ก็ยากที่หักห้ามใจจากความต้องการเป็นเจ้าของได้ เมื่อปลาเริ่มโตเต็มวัยสีแดงจะเริ่มปรากฏที่แผ่นเหงือกและขอบเกล็ด ทำให้มองเห็นปลามีสีแดงตลอดทั้งตัว จากการที่ปลาSuper red ได้รับความนิยมมากทำให้นักเพาะพันธุ์หันมาเพาะมันเพราะได้ราคาดี มีช่วงหนึ่งที่ Super Red มีราคาสูงกว่า Cross ?back Gold แต่ภายในเวลาไม่นานราคาก็ตกลง เนื่องจากมีการเพาะพันธุ์ออกมามาก Red Arowana แบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์ ได้แก่ Blood red, Chili red, Orange red, Golden redและถูกเรียกรวมว่า Super red หรือ First grade red ซึ่งการเรียกรวมแบบนี้ทำให้ความหมายของ Super redดูด้อยลงไป เพราะOrange red และ Golden red มีความสวยงามของสีสรรไม่เทียบเท่า Blood red และ Chili red Chili red และ Blood red ทั้ง2 สายพันธุ์มีแหล่งกำเนิดจากแม่น้ำ2 สายสำคัญ ในกาลิมันตันตะวันตก ชื่อแม่น้ำคาปูอัส และทะเลสาบเซ็นทารัม ทะเลสาบเซ็นทารัมประกอบด้วยทะเลสาบเล็กๆมากมายเชื่อมติดต่อกัน เซ็นทารัมอยู่ติดกับปลายสุดแม่น้ำคาปูอัส แหล่งน้ำเหล่านี้ปกคลุมไปด้วยป่า Peat forest ที่หนาทึบทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมสมัยดึกดำบรรณแก่ปลาอะโรวาน่าซึ่งเป็นปลาโบราณตั้งแต่ยุค Jurassic สิ่งแวดล้อมแบบนี้ทำให้เกิดแร่ธาตุ เกิด black water เกิดแหล่งอาหาร ซึ่งส่งผลบวกอย่างมากต่อสีแดงของ red arowanaในขณะเดียวกันแหล่งที่อยู่อันกว้างใหญ่ไพศาล ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างหลากหลายของสายพันธุ์ red arowanaบางสายพันธุ์ มีลำตัวกว้าง มีหัวงอนเหมือนช้อน มีสีแดงเข้มมาก มีสีพื้นเกล็ดที่เข้มกว่าอีกสายพันธุ์หนึ่ง จากลักษณะที่แตกต่างกันเช่นนี้ทำให้ผู้จำหน่ายปลารุ่นแรกๆใน
อินโดนีเซียแยกแยะปลา red arowana ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Chili red และ Blood red ชื่อ Chili และ Blood ได้มาจากความเข้มของสีแดงที่แตกต่างกัน Chili red มีสีแดงเหมือนสีพริกแดงขณะที่ Blood red จะมีสีแดงเหมือนสีเลือด และรูปร่างก็แตกต่างกัน Chili จะมีลำตัวกว้าง ส่วน Blood จะมีลำตัวบางและยาวกว่า ความกว้างของChili red จะกว้างตั้งแต่หลังตลอดไปถึงโคนหาง ขณะที่ Blood red จะค่อยๆเรียวแคบลงไปทางโคนหาง ด้วยลักษณะรูปร่างที่กว้าง ขอบเกล็ดที่มีสีแดงเป็นขอบหนา(thick film scales) หัวงอนเหมือนช้อน และสีที่เข้มกว่า ทำให้ Chili red ดูบึกบึน ทรงพลัง สมดุล สวยงามกว่า Blood red
Chili red ยังมีตาที่มีสีแดงขนาดใหญ่ มีหางรูปเพชร ขณะที่ Blood red จะมีหางใหญ่กว้างแบบพัด ตาของChilli red จะใหญ่มากจนขอบตาแตะด้านบนสุดของศีรษะ และขากรรไกรปากล่าง ขณะที่ตาของBlood red จะเล็กกว่ามาก ดูเป็นตาค่อนข้างปกติ หางของBlood red จะแผ่กว้างดูสวยงาม เห็นชัดตั้งแต่ปลายังเล็กๆนอกจากนี้เกล็ดของ Chili red จะมีสีพื้นเกล็ดสีเขียวเข้มทึบมากเห็นได้ชัดเจน ขณะที่ Blood red สีเกล็ดที่แวววาวสดใสสว่างกว่า คล้ายสีของ Cross-back ที่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตามแม้จะมีข้อแตกต่างดังกล่าว ทั้ง Chili และ Blood red ก็ยังคงมีความสวยงามจนสามารถสร้างความตะลึงแก่ผู้พบเห็น
และเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับนักเลี้ยง red arowana ที่จะเลือกเฉพาะปลาที่แดงสวยระดับ Chilli หรือ Blood red เท่านั้นและโดยทั่วๆไปSuper red จะมีรูปทรงหัวและปากที่แหลม มีครีบสีแดงเข้ม การที่จะได้ปลาที่ดีควรจะเลือกปลาจากฟาร์มที่ถูกกฎหมาย และมีใบรับรองสายพันธุ์ปลาการพัฒนาสีของ Chili red และ Blood red ก็มีความแตกต่างกัน โดยที่สีของ Chili red จะขึ้นช้ากว่า Blood red ประมาณ 1 ? 2 ปีและการเปลี่ยนสีเกล็ดขึ้นเป็นสีแดงทั้งตัวนั้นมักเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในช่างเวลาสั้นๆ ขั้นตอนของการพัฒนาสีของทั้ง 2 สายพันธุ์จะคล้ายกัน ขณะที่สีแดงเริ่มขึ้นที่ขอบเกล็ดบางๆนั้นถือว่ายังอีกนานมากกว่าสีจะขึ้นเต็มปลามักจะค่อยๆเริ่มมีสีส้มก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนไปเป็นสีแดงในที่สุด Super red บางตัวที่อายุ 8 ปียังมีสีจางๆอยู่ แต่ภายในเดือนเดียวกลับมีสีเข็มขึ้นมาอย่างฉับพลัน สร้างความตะลึงให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นเป็นเรื่องยากที่จะประเมินตัดสินความเข้มของสีแดงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และสิ่งที่นักเลี้ยง Super red ต้องยึดถือไว้เป็นสรณะ คือความอดทนและการรอคอยOrange red เป็นสายพันธ์ที่มีการเพาะพันธุ์กันมาก เป็นปลาที่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อโตเต็มวัย ปลาจะมีเกล็ดสีส้มตลอดทั้งตัว สีของครีบจะไม่แดงเข้มเหมือน Chili red หรือ Blood red
Golden redเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วๆไป ถือเป็นปลา Super Red เกรดต่ำสุด เมื่อโตเต็มที่ตลอดลำตัวจะเป็นสีเหลืองทอง สายพันธุ์นี้ ปากและครีบจะมีสีไม่แดงเหมือนกับของ Chili red หรือ Blood red บางตัวมีครีบสีแดงจางๆ หรือชมพู คุณภาพที่ต่ำแบบนี้น่าจะมากจากการผสมข้ามพันธุ์กับปลาที่มีสีจางหรือสายพันธุ์อื่นๆจากฟาร์มที่ขาดมาตรฐาน
Banjar red หรือ แดง 1.5 หรือ แดงเกรด 2ถือว่าไม่ใช่ Red arowana พันธุ์แท้ เป็นลูกผสมระหว่าง ปลาในกลุ่ม Banjar red, ทองอินโดหางเหลือง, อะโรวาน่าเขียว โดยการเพาะพันธุ์ของฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟาร์มที่ไม่ได้จดทะเบียน บางครั้งมีการใช้ฮอร์โมนหรือสารเร่งสีทำให้ปลาเหล่านี้มีสีแดงเข้มขึ้นแล้วหลอกขายออกเป็น Super red แต่จะไม่มีใบรับรองของCITES ให้ โดยอ้างว่าเป็นปลาป่า วิธีที่จะแยกแยะ ออกจากแดงเกรด1 คือ แดง 1.5 จะมีรูปหัวกลมทู่ ปากไม่แหลม สีพื้นเกล็ดเป็นสีเขียวหรือเหลือง
จากคุณ : snooker

หวังว่าน่าจะเข้าใจมากขึ้นนะครับ

ได้ความรู้เพิ่มมาอีกเยอะ จะได้ตัดสินใจถูก ขอบคุณนะครับ