เริ่มไงดีหว่า... เอางี้ กรองข้างสามารถทำให้ขี้ปลามาเข้ากรองได้โดย ต้องไม่ปูทราย กรวดใดๆทั้งสิ้น และต้องต่อท่อน้ำออกมาอีกฝั่งของตู้ เพื่อจะได้เป่าขี้ไหลกับไปในกรองข้างนั่นเอง
กรองใต้กรวดช่วยได้ในเรื่องของการทำให้น้ำใสก็จริง แต่ถ้ามีกรองข้างแล้ว ผมเห็นว่าไม่จำเป็นครับที่ต้องมีกรองใต้กรวด ด้วยเหตุผล คือ ระบบกรองข้างมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้วในการบำบัดของเสีย ( ถ้าปลาไม่หนาแน่นมาก ) และกรองใต้กรวดดูแลและทำความสะอาดยากครับ และเมื่อเทียบกันแล้วประสิทธิภาพในการบำบัดของเสียสู้กรองข้างไม่ได้เลยครับ
สรุป มิควรด้วยประการทั้งปวง ถ้าปลาไม่แนน่ตู้มาก กรองข้างอย่างเดียวพอเพียงแล้วครับ แต่ถ้าใช้กรองข้างแล้วมีการปูกรวดด้วย ก็คงต้องใช้การดูดขี้ปลาช่วยหล่ะครับเวลาถ่ายน้ำ
ปล. ยังไงก็ตามการถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอยังมีความจำเป็นในการเลี้ยงปลาอยู่ดีครับ

^
^
เห็นด้วยคับ เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ดีกับปลามากกว่าคับ หุหุ

^
^
ตามป๋าแจ๊ค+ป๋าเก่งเลยจ้า

^
^
^
^
^
^
ตามด้วยครับ

ไม่จำเป็นๆ

น้ำสะอาดปราศจากเชื้อโรค..อิอิ

^
^
เสริม อีกนิด " และคลอรีน " 55555555

เปลี่ยนน้ำบ่อยๆดีต่อปลามากกว่า ไม่ว่ากรองจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน การเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ปลาจะแข็งแรง โตเร็ว แล้วก็อาจมีทายาทด้วยนะ
ตามป๋าแจ๊คเลย

เรียกป๋า เหมือนอยู่ในคาเฟ่เลย
น้องๆ เอาพวงมาลัยมา20พวง

กรองใต้กรวด ควรเลิกใช้ได้แล้วครับ เพราะประสิทธิภาพต่ำมากๆ ทำให้หมักหมม น้ำมีกลิ่นเหม็น ปลาไม่ชอบ
หากต้องการปูกรวดให้สวยๆ ก็ปูบางๆ สัก 1 - 1.5 ซม. ก็พอ แล้วก็ตอนเปลี่ยนน้ำควรดูดกรวดทุกครั้งด้วยนะ

อย่าลืม น้ำใสไม่ใช่น้ำดีเสมอไปครับ

เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ หรือไม่ก็ลองใช้กรองนอกครับ

ประเด็นของคำตอบคือ

คุณเข้าใจข้อดี ข้อเสียของกรองแต่ละแบบหรือเปล่า

กรองใต้กรวด มันก็มีข้อดี ข้อเสีย

กรองข้าง มันก็มีข้อดี ข้อเสียเช่นกันครับ

แต่ผมใช้ทั้ง 2 แบบอยู่นะครับ

และ"ถูกระจกบ่อย" ด้วยครับพี่