Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

Arowazone เว็บบอร์ด สำหรับ เพื่อนๆ ที่รักการเลี้ยงปลาในครอบครัว Osteoglossidae ไม่ว่าจะเป็นอะโรวาน่าจากทวีปเอเชีย อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย หรือ อัฟริกา ไว้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

0005075

ทิคนิดดีๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงอโรวน่า ทุกซองทุกมุม เพิ่งเล่นเข้ามาครับ

(unknown) [2006-10-26 21:29:40]
สวัสดีครับขอแนะนำตัวก่อนเลย
ผมชื่อ เอ็มครับ พึ่งเคยเลี้ยงปลาอโรวน่า มาได้แล้ว2สัปดาห์ กับอีก3วัน ปลาที่ผมเลี้ยงเป็นอโรออสเตียเลียอายุ 2เดือนกับอีก3วันครับ
วันนี้เนื่องจากผมเคยทำวาบสกปกมากับเรื่องไร้สาระแล้ว
วันนี้ผมขอนำความรู้ที่ได้มา มาบอกต่อต่อกันใครที่อ่อนกระทู้ไร้สาระอันที่แล้วคงไม่ว่ากันนะครับเพราะ กระทู้นี่ผมขอทำสกปกด้วยความรู้ ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 1

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:30:16]
สาระบัญครับ (หมายเหตุ) ผมอาจจะเอามาจากเวบอื่นนะครับคงไม่ถือไม่ว่ากันนะครับ ขอบคุณ
1. วิธีการเลือกซื้อปลาอโรวน่า
2. ศัลยกรรมปลา
3. อโรวน่าเป็นที่นิยมเลี้ยงเพราะ
4. เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้สวย
4.1-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้สวยขึ้น
4.2-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้มีรูปทรงสวย
4.3-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้โตเร็ว
4.4-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้ว่ายน้ำสวย
4.5-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้เกล็ดสวย
4.6-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้หนวดสวย
4.7-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้หางสวย
4.8-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้เงือกสวย
4.9-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้ตาสวย
4.10-เทคนิดการเลี้ยงปลาอโรวน่าให้ปากสวย
5. คืออื่นๆครับเอารูปปลามาอวดกัน

ความคิดเห็นที่ 2

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:31:05]
(1) วิธีเลือกซื้อปลาอโรวน่า
1. สี มีสีสวยตามอายุของปลา เกล็ดเงาแวววาว ไม่ด้าน หรือ สีสดเกินจริง (อาจย้อมสี) นะจ็ะ
2. ทรง สมส่วน ลำตัวเพรียวยาว ครีบคู่หน้า ครีบหลัง ครีบหาง กางสวยงาม ทั้งเวลาว่ายน้ำและหยุดอยู่กับที่
3. หนวด ต้องเท่ากัน จะเป็นหนวดชิดหรือกางออกก็ได้และต้องชี้ไปข้างหน้าทั้งสองข้าง (ไม่ใช่ข้างหนึ่งข้างใดชี้ขึ้น แต่อีกข้างชี้ลง)
4. ตา สองข้างต้องเท่ากัน และไม่โปนออกมาจากเป้าตา กระจกตาใส ไม่เป็นฝ้า
5. สุขภาพดี ไม่ป่วย ดูได้จากการที่ปลาว่ายไปมาแล้วครีบกางออก ไม่หุบครีบ ไม่หมอบอยู่ก้นตู้ตลอดเวลา หรือลอยอยู่ผิวน้ำตลอดเวลา
6. มีรับประกัน จากร้าน ว่า เป็นปลาอโรวาน่าแท้ เกรด เอ ไม่ใช่ปลาย้อมสี และไม่ใช่ปลาเกรดอื่น มาบอกขายเป็นเกรด เอ

ความคิดเห็นที่ 3

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:31:32]
(2) ท่านที่เคยเลี้ยงปลาอโรวาน่าแล้วมีปัญหาดังนี้
1. ครีบคู่หน้าของปลาหักหรือคดงอ
2. ครีบด้านบนและชายน้ำด้านล่างขาด เวลางอกขึ้นมาใหม่ ไม่สวยเหมือนเดิม
3. เหงือกอ้าออกมา หนึ่ง หรือสองข้าง
4. เกล็ดหลุดแล้วไม่งอกออกมาหรืองอกแล้วซ้อนกันไม่สวย
5. เชื้อโรคกัดกินหนวดทำใหหนวดหลุด
6.เชื้อโรคกัดกินหางหรือคลอรีนกัดหาง ทำให้ปลากัดหางตัวเอง
7. ตาเป็นฝ้าขาวเกาะเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย หรือ พาราสิต
8. เชื้อพาราสิตเกาะครีบปลาทำให้ครีบปลาเป็นรู
9.เชื้อราดำเกาะตามตัวปลา
10. เป็นพยาธิใต้ตา ทำให้ตาปลาปูดออกมา
11. ตัวบวม เนื่องจากอาหารไม่ย่อย

12. ช่องทวารบวมแดง
13. ปลาลอยตัวตลอดเวลา (จมน้ำไม่ลง)
14. ตัวงอ เนื่องจากกระโดดกระแทก เคล็ด (เวลาว่ายน้ำตัวตรงได้ แต่เวลาหยุดจะงอตัว)
15. ขับเมือกออกมามากกว่าปรกติ
16. เกล็ดตั้งขึ้นมาจากลำตัวเหมือนเกล็ดพอง
17. มีอาการเซื่องซึม หรือ ว่ายน้ำสั่นกระตุกๆเป็นพักๆ หรือ ว่ายน้ำวนเวียนรวดเร็ว แสดงว่าปลาเริ่มป่วย

ข้อแนะนำจากร้านราชาปลาทอง คือ อยากให้ผู้เลี้ยงอโรวาน่าแก้ปัญหาที่ "ต้นเหตุ" การใส่ยารักษาหรือการศัลยกรรมคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า
ต้นเหตุแห่งปัญหาของการเลี้ยงอโรวาน่า คือ
1. น้ำ
1.1 น้ำประปาและน้ำผ่านเตรื่องกรองน้ำควรรองใส่ภาชนะเปิดฝาทิ้งไว้ 7 วัน ไม่ควรใส่น้ำยาใดๆทั้งสิ้น
1.2 น้ำบาดาลควรเติมออกซิเจนผงและทิ้งไว้ 1 วัน
น้ำนอกจากนี้ ไม่ควรนำมาเลี้ยงปลาอโรวาน่า เพราะจะเกิดปัญหาตามมามากมาย
2. อาหาร
2.1 อาหารเม็ด ไม่ควรให้อาหารเหลือตกค้างในตู้ ถ้าเหลือควรตักทิ้งทันที
2.2 อาหารสด เช่น กุ้งเป็น ปลาเหยื่อ ถ้ามีตัวตายต้องตักทิ้งทันที หรือถ้าปลาเหยื่อป่วย ห้ามนำมาให้อโรวาน่ากินโดยเด็ดขาด
3. ปลากระโดดกระแทก ปลาอโรวาน่าเป็นปลาที่ว่องไวปราดเปรียว ผู้เลี้ยงส่วนมากมักเปิดฝาตู้ทิ้งไว้ หรือเปิดช่องให้อาหารทิ้งไว้ ทำให้ปลากระโดดออกมาจากตู้ กระโดดกระแทกกับขื่อบนตู้ ทำให้เกล็ดหลุด หางฉีก หรือผิวหนังถลอก เป็นสาเหตุให้เชื้อโรคเข้าสู่ตัวปลาทางบาดแผลที่เกิดขึ้นและทำให้ปลาป่วยในที่สุด
ถ้าผู้เลี้ยงสามารถป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับปลาโดยการป้องกันที่ต้นเหตุทั้ง 3 ประการนี้ได้ โอกาสที่ปลาจะมีปัญหาข้างต้นจะมีน้อยมาก


หรือถ้ายังมีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการศัลยกรรมโดยผู้มีประสบการณ์มากกว่าสิบปี เช่น เหงือกอ้า สามารถตัดส่วนที่อ้านั้นทิ้งไปและรักษาคอยควบคุมใส่ยาอย่างต่อเนื่อง
สนใจสามารถติดต่อสอบถามและขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ (******ร้านราชาปลาทอง******)
สาขาบางใหญ่ โทร 903-0712
หรือ email มาที่ pranee@rachaplathong.com โฆษนาให้เลย อิอิ

ความคิดเห็นที่ 4

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:32:13]
(3) อโรวาน่าเป็นที่นิยมเลี้ยงเพราะ ?
เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนคงเกิดความสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมปลาอโรวาน่าจึงเป็นที่นิยมของตลาดปลาสวยงามในเมืองไทยหรือเมืองนอกไปได้ วันนี้เรามีคำตอบมาให้เพื่อนๆได้ขบคิดกันเล่นๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคำตอบเหล่านี้จะตรงใจเพื่อนๆ บ้างหรือเปล่า เหตุผลที่ปลาอโรวาน่าเป็นที่นิยมเลี้ยงเพราะ
1 เป็นปลาโบราณที่หายาก มีการขุดพบซากฟอสซิลของปลาซึ่งติดอยู่ในชั้นหินซึ่งกระจายอยู่ทั้วไปบนพื้นโลก จากการคำนวณฟอสซิลของซากปลาเหล่านั้นปรากฏว่ามีอายุกว่า 60 ล้านปีล่วงมาแล้ว สำหรับปลาตระกูลเดียวกันกับซากฟอสซิลที่หลงเหลืออยู่ ศึกษาแล้วพบว่าคือตระกูลปลาอโรวาน่ายังมีอยู่ในลุ่มน้ำอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้ แม่น้ำไนล์ในทวีปอัฟริกา ทวีปออสเตรเลีย ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของของทวีปเอเซีย และปลาอโรวาน่าก็เริ่มลดจำนวนน้อยลงทุกที เนื่องจากผสมพันธุ์และวางไข่ได้ครั้งละไม่มาก ปริมาณลูกปลาที่เกิดมามีน้อย และโดยธรรมชาติวิสัยของมนุษย์ อะไรก็ตามที่มีน้อย หายาก และเสมือนเป็นวัตถุโบราณที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีชีวิต สามารถเคลื่อนไหวได้ มีพัฒนาการทางร่างกายและมีสีสันสวยงาม ทำให้ปลาอโรวาน่าเป็นที่นิยมและน่าเลี้ยง จากเหตุผลที่ปลาอโรวาน่ามีจำนวนลดน้อยลงไปทุกที ทำให้ปลาอโรวาน่าเป็นปลาที่มีรายชื่ออยู่ใน"อนุสัญญาไซเตส" ดังนั้นการซื้อขายต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของไซเตส
2 ความสวยสง่าของปลาและสีสัน ปลาอโรวาน่าเป็นปลาที่มีลีลาในการว่ายน้ำที่สง่างาม ด้วยท่วงท่าว่ายน้ำที่เชื่องช้าดูเนิบๆ แต่มีความพลิ้วไหวและมีความเข้มแข็งแฝงอยู่ในตัว
3 เลี้ยงง่าย โตไว และอายุยืน ปลาอโรวาน่าเป็นปลาที่มีวิวัฒนาการและการพัฒนาการปรับปรุงพันธุ์ปลาโดยตัวเองเพื่อความอยู่รอด ปลาอโรวาน่าจึงเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย อดทนต่อโรค เจริญเติบโตเร็ว และมีอายุยืนตามพันธุกรรมของปลา
4 ความเชื่อในด้านบวกของผู้เลี้ยง มีผู้เลี้ยงปลาอโรวาน่าส่วนมากบอกว่า การเลี้ยงปลาอโรวาน่าทำให้กิจการดีขึ้น มีโชคลาภอย่างไม่คาดฝัน ได้บุตรทั้งที่แต่งงานมาหลายปีและมีบุตรได้ยาก และประสบการณ์ในด้านดีอื่นๆ อีกมากซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือประจวบเหมาะก็ตาม ทำให้เกิดความเชื่อถือ (โดยเฉพาะชาวจีน) ว่าการเลี้ยงปลาอโรวาน่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในกิจการและนำมาให้ซึ่งโชคลาภอย่างไม่คาดฝัน
5 ประดับบารมี เนื่องจากปลาอโรวาน่าเป็นปลาที่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าปลาชนิดอื่นทั่วๆ ไปและยังเป็นปลาที่โตเร็ว ควรมีตู้ขนาดกลางหรือใหญ่ในการเลี้ยง ทำให้งบประมาณค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาอโรวาน่าค่อนข้างสูงกว่าปลาชนิดอื่นๆ ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงปลาอโรวาน่า ย่อมต้องมีฐานะระดับพอมีพอใช้ขึ้นไปจึงจึสามารถเลี้ยงได้
6 แสนรู้ มีนักเลี้ยงปลาจำนวนมากยืนยันว่าปลาอโรวาน่าสามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ ฝึกให้กินอาหารจากมือได้

ปลาอโรวาน่าหรือปลามังกรเป็นปลาตระกูลเดียวกันกับปลาตะพัดของเมืองไทยเรา ซึ่งถือว่าเป็นปลาป่าและเป็นปลาที่ระบุอยู่ในไซเตส (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ CITES) ดังนั้นปลาอโรวาน่าที่นำมาจากป่าจึงเป็นปลาที่ห้ามซื้อขาย ปลาอโรวาน่าที่เห็นกันส่วนใหญ่จึงเป็นปลาที่ได้รับการเพาะขยายพันธุ์ (ปลาอโรวาน่าที่ถูกเพาะพันธุ์จะถูกฝังไมโครชิปที่ใต้เกล็ดปลาเพื่อจุดประสงค์ที่จะสามารถขายได้ทั่วโลก ปลาที่ฝังไมโครชิปจะมีผลข้างเคียงจากการที่ฝังไมโครชิปไม่มากก็น้อย )

ความคิดเห็นที่ 5

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:32:26]
4.1เทคนิคการเลี้ยงปลาอโรวาน่าให้สวย

ถึงแม้ว่าผู้เลี้ยงจะมีความรู้ความสามารถในการเลี้ยงมากขนาดไหนก็ตาม และไม่มีเทคนิคใดๆที่จะทำให้ปลาที่มีสายพันธุ์ไม่มีสีและลักษณะไม่ดี เป็นปลาที่มีสีสวยและลักษณะดีได้ เพราะลูกปลาทุกตัว เวลาโตย่อมจะมีสีและลักษณะเหมือนพ่อ-แม่ปลา ดั้งนั้นการที่จะเลี้ยงปลาอโรวาน่าให้สวยมีปัจจัยที่สำคัญ คือ ลักษณะทางพันธุกรรมและสายพันธุ์ปลา เป็นหลัก ส่วนกรรมวิธีในการเลี้ยงและเทคนิคต่างๆที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเพียงส่วนประกอบที่จะช่วยให้ปลามีความสมบูรณ์แข็งแรงและสวยงามเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการที่จะเลี้ยงอโรวานาให้สวย สายพันธุ์ของปลาจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ส่วนเทคนิคการเลี้ยงเป็นปัจจัยรองลงมา
1. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้มีสีสวยขึ้น
1.สภาพแวดล้อม
นับว่ามีความสำคัญมาก ซึ่งนักเลี้ยงปลาโดยมากมักจะมองข้ามเรื่องนี้ไป โดยธรรมชาติแล้วสัตว์ทุกชนิดจะพยายามรับตัวให้สภาพเเวดล้อมรอบๆ ตัวทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของตนเอง โดยเฉพาะการปรับสีสันให้เข้ากับสภาพเเวดล้อม สำหรับสภาพเเวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กับปลาได้เเก่

1.1 สีสันของสภาพเเวดล้อมภายในที่เลี้ยง สภาพเเวดล้อมที่ปลาอาศัยอยู่จัดว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีอิทธิพลต่อสีสันของปลาโดยตรง จะสังเกตได้ว่าปลาแทบทุกชนิดมักจะปรับสีของตัวเองให้กลมกลืนเข้ากับของสีสันตามธรรมชาติเเวดล้อมรอบตัว ทั้งนี้เพื่อเป็นการพรางตาศัตรูไม่ให้มองเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นถ้าหากสีสันรอบๆ ตัวมีสีเข้ม ปลาก็จะปรับตัวให้เป็นสีเข้มตามไปด้วย แต่ถ้าสภาพเเวดล้อมรอบตัวมีสีชืดจาง ปลาก็จะปรับตัวให้มีสีชืดจางตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้การเลี้ยงปลาอโรวาน่าจึงควรจัดสภาพเเวดล้อมให้มีสีเข้มเข้าไว้ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำตาลไหม้ สีกรมท่า ปิดไว้ที่ด้านหลังของตู้ เพื่อที่ปลาจะได้ปรับตัวเข้ากับสภาพเเวดล้อมรอบตัว ยิ่งถ้าเราจัดสภาพแวดล้อมให้มีหลายสีหรือนำภาพวิวใต้น้ำมาปิดด้านหลังตู้ก็ยิ่งจะช่วยให้ปลามีสีเข้มสดสวยขึ้น คือแทนที่ปลาจะปรับตัวเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นสีเรียบ ๆ ทึม ๆ ปลาก็จะ ปรับสีทุกสีในตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมชึ่งมีสีสันลวดลาย ฉะนั้นสีทุกสีที่มีอยู่ในตัวปลาก็จะเปล่งประกายออกมา ทำให้สีสันของปลาแลดูสดใสยิ่งขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านกล่าวว่ากรวดก้นตู้มีผลต่อสีสันของปลาเช่นกัน ถ้าหากกรวดมีสีเข้มก็จะช่วยให้ปลามีสีเข้มตามไปด้วย สำหรับกรวดที่นิยมนำมาใช้สำหรับเลี้ยงปลาอะโรวาน่ามากที่สุดก็เห็นจะได้แก่กรวดที่มีสีดำปนปะการังเล็กน้อย และกรวดสีน้ำตาลเข้ม โดยเฉพาะกรวดสีน้ำตาลมีผู้เลี้ยงหลายท่านให้เหตุผลว่าเหมาะที่จะใช้เลี้ยงอะโรวาน่าทอง เพราะปลาจะปรับตัวให้เป็นสีทองเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม

1. 2 เเร่ธาตุในน้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง ซึ่งยากแก่การศึกษาและทำความเข้าใจ เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการว่าแร่ธาตุในน้ำชนิดใดบ้างที่ส่งผลโดยตรงต่อสีสันของปลา แต่จากประสบการณ์ของนักเลี้ยงปลาบางท่านได้กล่าวว่า เขาได้ทำการทดลองเลี้ยงปลาอะโรวาน่าไว้ในตู้สองใบ โดยตู้หนึ่งเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ ส่วนอีกตู้หนึ่งไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเลย เเละตู้ปลาปลาทั้งสองใบนี้มีระบบกรองน้ำเหมือนกันหมด ปรากฏว่าปลาที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอจะมีสีสันเข้มสดกว่า จึงสันนิษฐานว่าปลาได้รับแร่ธาตุในน้ำครบถ้วนกว่า จึงทำให้มีสีสันสวยสดงดงามกว่า สำหรับระดับความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของน้ำ ซึ่งเหมาะสมสำหรับปลาอะโรวาน่านี้ควรอยู่ในช่วงประมาน6ฺ.5-6.8 คือมีสภาพความเป็นกรดอ่อน ๆ
1. 3 เเสงเเดด ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่าแสงแดดมีผลต่อสีสันของปลา ถ้าหากปลาได้รับแสงแดดในปริมาณที่พอเหมาะก็จะมีสีสันสวยสดงดงาม และถ้าปลาไม่ได้รับแสงแดดเลย ปลาก็จะมีสีชืดจางลงมากกว่าเดิม สำหรับแสงแดดที่เหมาะสมสำหรับปลาคือแสงแดดในยามเช้า สำหรับแสงจากหลอดไฟ (หลอดเทียมแสงอาทิตย์) ก็มีส่วนช่วยให้ปลามีสีเข้มสดเช่นกันแต่ไม่มากเท่ากับแสงแดด จากการทดลอง ปลาที่เลี้ยงในตู้ซึ่งเปิดไฟตลอด24 ชั่วโมงจะมีสีเข้มสดกว่าปลาที่อยู่ในตู้ชึ่งเปิดไฟเป็นพัก ๆ และจากการทดลองของทางร้าน ปลาที่เลี้ยงในที่ ๆ แสงแดดส่องถึงกับปลาที่ไม่โดนแสงแดดเลย ปรากฏว่าปลาที่ได้รับแสงแดดจะมีสีสันเข้มสดกว่าอย่างเห็นได้ชัด
1. 4 อุณหภูมิ จะสังเกตได้ว่าปลาเกือบทุกชนิดที่มีลวดลายสวยสดงดงามโดยมากจะเป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตโซนร้อน ดังนั้นจึงพอสันนิษฐานได้ว่าอุณหภูมิของน้ำน่าจะมีผลต่อสีสันของปลา สำหรับอุณหภูมิของแหล่งน้ำในเขตโชนร้อนโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 26-30 องศา จึงน่าจะเป็นไปได้ว่าอุณหภูมิในช่วงดังกล่าวจะช่วยให้ปลามีสีเข้มสดที่สุด ดังนั้นจึงควบคุมอุณหภูมิของน้ำภายในตู้ปลาให้อยู่ในระดับดังกล่าวตลอดเวลา ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิในบ้านเราก็อยู่ในช่วงนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องอุณหภูมิจึงไม่มีปัญหาในการเลี้ยง
2. อาหาร อาหารก็นับว่าเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสีสันของปลาด้วยเช่นกัน ปลาที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนย่อมมีสีสันสวยงาม สำหรับอาหารที่มีผลต่อสีสันของปลาโดยตรงที่ยอมรับกันทั่วไปก็คือ ไข่กุ้ง ดังนั้นการให้อาหารโดยใช้กุ้งฝอยที่มีไข่ติดอยู่ย่อมส่งผลดีต่อสีสันของปลาอะโรวาน่าโดยตรง นอกจากนี้ยังมีนักเลี้ยงปลาบางท่านกล่าวว่าแมลงสาบ จิ้งหรีด ตะขาบและปลากัดให้สีสันของปลาเข้มสดขึ้น แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะเป็นจริงไปได้ แต่สำหรับจิ้งจกแล้วส่วนมากจะให้เห็นความเห็นตรงกันว่าทำให้ปลามีสีชืดจางลง (และไม่ควรให้ปลากินเป็นประจำ สม่ำเสมอ) ส่วนลูกปลาทองหรือลูกปลานิลและลูกปลาไนไม่มีผลต่อสีสันของปลาแต่อย่างใด แต่จากผลการวิเคราะห์ของนักวิชาการในกรมประมงยืนยันว่า ในตัวแมลงสาบ จิ้งหรีดหรือตะขาบ ไม่มีสารอาหารที่ส่งผลต่อสีของปลาแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีค่าทางโปรตีนต่ำมาก
3.ความแข็งแรงสมบูรณ์ของปลา เรื่องสุขภาพมีผลโดยตรงต่อสีสันของปลา ปลาก็เช่นเดียวกับคน หากคนมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์หน้าตาก็จะสดชื่นแจ่มใส ถ้าปลามีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ย่อมมีสีสันสดสวยกว่าปลาที่เจ็บออด ๆ แอด ๆ ดังนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสามารถดูแลปลาให้มีสุขภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ ๆ ปลาก็จะมีสีสันสวยงาม

ความคิดเห็นที่ 6

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:32:39]
4.2. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้มีรูปทรงสวย

การแก้ไขรูปทรงของปลาอโรวาน่าให้เป็นไปตามที่ต้องการนับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่การป้องกันไม่ให้รูปทรงของปลาเสียไปยังพอทำได้ ปัญหาที่นักเลี้ยงปลามักจะประสบคือเมื่อเลี้ยง ๆ ไปปรากฏว่าปลามักเสียรูปทรง เช่น ปลากินอาหารมากเกินไปจึงทำให้ลำตัวอ้วนมากจนดูหลังค่อม วิธีป้องกันก็คืออย่าให้ปลากินอาหารมากจนเกินไป และเมื่อรู้สึกว่าปลาเริ่มมีลำตัวหนามากไป ก็ควรรีบลดปริมาณอาหารให้น้อยลง หลีกเลี่ยงการทำให้ปลาตกใจ เพราะถ้าหากปลาเกิดตกใจบ่อย ๆ จะทำให้ปลามักหลบซ่อนตัวอยู่ตามมุมตู้และไม่ค่อยยอมออกมาว่ายทำให้เสียบุคลิกที่ดีไป ดังนั้นควรฝึกปลาให้เชื่องจะได้ไม่ตื่นคนหรือตกใจง่าย โดยมากปลาที่เชื่องกับเจ้าของจะเป็นปลาที่มีรูปร่างสวยงามปราดเปรียว ขณะเดียวกันเมื่อพบว่าปลามีลำตัวค่อนข้างยาวผิดปกติและสันลำตัวมีลักษณะผอมลีบ ควรให้อาหารเพิ่มแก่ปลา

ขนาดของตู้ก็มีส่วนสัมพันธ์กับรูปทรงของปลาเช่นกัน ตู้ปลาที่มีขนาดเล็กแคบเกินไปจะทำให้ปลามีลำตัวป้อมสั้นและมีอัตราการเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ เนื่องจากปลาไม่มีพื้นที่ว่ายออกกำลังกาย ไขมันจึงพอกพูนจนทำให้ปลาอ้วน ส่วนตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่เกินไปก็มีส่วนทำให้ปลามีลำตัวยาว และเวลาปลาว่ายน้ำก็มักจะใช้วิธีพุ่งทะยานไปข้างหน้า ทำให้ครีบและหางลู่แนบติดตัว พอนานเข้าก็จะติดเป็นนิสัย ดังนั้นขนาดของตู้ปลาที่เหมาะสมควรมีขนาดยาวราว 4 ใน 5 เท่าของความยาวตัวปลา สำหรับท่านที่ซื้อตู้ใหญ่มาเลี้ยงปลาเพื่อเผื่อวันหน้าว่าปลาจะตัวใหญ่ขึ้น อาจเเก้ปัญหาโดยการตัดแผ่นพลาสติกมาซอยกั้นตู้ให้แคบลงตามขนาดที่ต้องการ และเมื่อปลาเริ่มโตขึ้นค่อย ๆ ขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น จนในที่สุดก็ดึงแผ่นพลาสติกนั้นออก เพียงแค่นี้เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซ้ำซ้อนในการซื้อตู้ปลาหลาย ๆ ใบหลายขนาดให้เปลืองเงินเปลืองเนื้อที่

ความคิดเห็นที่ 7

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:32:57]
4.3. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้โตเร็ว
การเลี้ยงปลาอะโรวาน่าไม่ให้ตายไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนัก แต่การที่จะเลี้ยงให้โตเร็วและแข็งแรงผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องศึกษาเทคนิคการเลี้ยงปลาที่ถูกวิธี

การเลี้ยงปลาให้โตเร็วมีปัจจัยสำคัญดังนี้
1. อาหาร อาหาร ควรเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะคุณค่าทางโปรตีนและแคลเซียมซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาโดยตรง ดังนั้นการให้อาหารโดยลูกกุ้งเป็น ๆ ดูจะให้ผลดีที่สุด (ทางร้านราชาปลาทองได้ให้ปลาที่ร้านกินกู้งฝอยอย่างเดียว) เนื่องจากน่าจะให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน แมลงสาบไม่ควรนำมาเป็นอาหารปลา เนื่องจากเป็นภาหะนำเชื้อโรคมาสู่ปลาได้และยังอาจนำสารพิษมาสู่ปลาได้ด้วย โดยเฉพาะแมลงสาบที่มีอาการเซื่องซึมไม่ควรนำมาให้ปลากิน เนื่องจากอาจได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลงซึ่งเจ้าหน้าที่ กทม. นำมาฉีดตามท่ระบายน้ำ ซึ่งเมื่อปลากินแมลงสาบเข้าไป สารเคมีที่ตกค้างอยู่ในตัวแมลงสาบจะแทรกซึมเข้าสู่ปลาและอาจทำให้ปลาล้มป่วยหรือตายได้ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เคยประสบกับนักเลี้ยงปลาหลายลายทีเดียว นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ปลาสวย ๆ ราคาแพง ๆ ต้องมาจบ ชีวิตลงเพราะแมลงสาบ สำหรับอาหารปลาที่จะนำให้ปลากินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าปราศจากเชื้อโรคหรือสารพิษแล้ว สำหรับท่านที่คุ้นเคยกับ การให้อาหารด้วยลูกปลาเป็น ๆ ก็มิใช่ว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยเสมอไป เพราะถ้าลูกปลาที่นำมาเป็นอาหารเกิดเป็นโรคระบาดหรือติดเชื้อ ก็อาจทำให้เชื้อโรคมาระบาดในตู้ปลาได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคเห็บ หนอนสมอรวมทั้งโรคครีบเน่าเปื่อย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบดูสภาพของลูกปลาก่อนที่จะนำมาเป็นอาหารสำหรับปลาอะโรวาน่าเพื่อความปลอดภัย
2. อากาศ อากาศ ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่าอากาศช่วยให้ปลามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เมื่อปลามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ปลาก็จะกินเก่งและโตเร็ว ดังนั้นภายในตู้ปลาจึงควรเปิดเครื่องปั๊มอ๊อกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าภายในตู้มีอากาศเพียงพอสำหรับปลาเพื่อหายใจ
3. น้ำ ความสัมพันธ์ของน้ำที่มีต่อปลาได้อธิบายแล้วในหัวข้อข้างต้นดังนั้นวิธีปฏิบัติที่จะให้ผลดีก็คือท่านควรเปลี่ยนถ่ายน้ำในตู้ทุกเดือน เดือนละ 1-2 ครั้ง โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำในแต่ละครั้งไม่เกิน 20-30เปอร์เซ็นต์ จะสังเกตได้ว่าภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำปลาจะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
4. อุณหภูมิ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของปลา เพราะถ้าอุณหภูมิของน้ำต่ำเกินไปปลาจะไม่ค่อยยอมกินอาหารและไม่ค่อยว่า ดังนั้นจึงควรรักษาอุณหภูมิของน้ำภายในตู้ปลาให้คงที่สม่ำเสมอ โดยการเปิดไฟตู้ปลา(ควรใช้หลอดเทียมแสงอาทิตย์)ไว้ตลอดเวลาเพื่อรักษา อุณหภูมิของน้ำเพื่อปลาจะได้รู้สึกเป็นปกต
5. สภาพแวดล้อม ถ้าหากปลาถูกเลี้ยงไว้ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากเท่าไหร่ ปลาย่อมจะกินเก่งและโตวัยเท่านั้น เนื่องจากปลาไม่ตื่นที่ ปลาที่ตื่นตกใจบ่อยจะไม่ค่อยยอมกินอาหาร ดังนั้นในการเลี้ยงปลาจึงควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้ปลาตกใจ
6.โรคภัย โรคภัยที่มาเบียดเบียนปลานับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ปลาหยุดชะงักการเจริญเติบโต มีอยู่บ่อยครั้งที่ปลาดี ๆ สวย ๆ ต้องหยุดการเจริญเติบโตเนื่องจากถูกโรคภัยเบียดเบียน ดังนั้นจึงควรป้องกันไม่ให้ปลาป่วยเป็นโรคเป็นดีที่สุด ***

เทคนิคทั้งหมดนี้หากท่านนำไปปฏิบัติได้ ปลาของท่านก็จะเป็นปลาที่สวยงามเพียบพร้อม แต่สิ่งหนึ่งที่ขอย้ำก็คือหากปลาที่ท่านซื้อมาเป็น - ปลาที่ไม่มีคุณภาพ
- เคยป่วยมากๆ ถึงแม้จะรักษาจนหายดีแล้วก็ตาม
- เป็นปลาเเคระแกร็น
- เป็นปลาเกรดต่ำและร้านค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเอาปลามาบอกขายแก่ลูกค้าว่าเป็นปลาเกรดดี
- เป็นปลาที่ถูกฝังสิ่งแปลกปลอมในร่างกายปลา
การที่จะแก้ไขให้ปลาตัวนั้นเป็นปลาที่ดีขึ้นมาได้จะยากมาก ดังนั้นก่อนซื้อปลาจึงควรเลือกซื้อแต่ปลาคุณภาพดีมาเลี้ยงเท่านั้น

ความคิดเห็นที่ 8

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:09]
4.4. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้ว่ายน้ำสวย
โดยธรรมชาติปลาอะโรวาน่าจะว่ายน้ำในลักษณะขนานไปกับผิวน้ำ และถ้าปลามีสภาพสมบรูณ์แข็งแรงเวลาว่ายน้ำครีบและหางมักจะเบ่งบานแผ่กว้าง แต่มีบ่อยครั้งที่ปลาอะโรวาน่าซึ่งถูกนำมาเลี้ยงในตู้เวลาว่ายน้ำครีบและหางมักจะลู่ สาเหตุเนื่องมาจากปลาเกิดการตื่นที่หรือตกใจกลัว ซึ่งถ้าหากเป็นนานๆ ครั้งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ากี่เดือนกี่ปีครีบและหางก็ยังลู่เหมือนเดิมก็เป็นลักษณะที่ใช้ไม่ได้และไม่มีทางรักษาให้หาย สำหรับสภาพในตู้ปลาไม่ควรตกแต่งตู้ปลาให้มีซอกมุมที่ปลาพอจะใช้เป็นที่กำบังหลบซ่อนตัว เพราะจะทำให้ปลาติดนิสัยขี้ตื่นและตกใจง่ายและหลบซ่อนตัวอยู่ในที่กำบัง แต่วิธีที่ดีและได้ผลคือควรซื้อปลาที่ไม่มีลักษณะว่ายน้ำลู่เช่นนี้จะปลอดภัยที่สุด
สำหรับวิธีที่จะช่วยให้ปลามีท่วงท่าว่ายน้ำที่สวยงามอีกวิธีหนึ่งก็คือ พยายามอย่าให้ปลากินอิ่มจนเกินไปเพราะถ้าปลากินอิ่มจนเกินไปจะรู้สึกแน่นอึดอัด ปลาจะขี้เกลียดและไม่ค่อยยอมว่ายน้ำ แต่ถ้าปลามีความรู้สึกหิวก็จะตื่นตัวและว่ายน้ำไปมาเพื่อหาเหยื่อแต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ปลาหิวมากจนเกินไปนัก โดยเฉพาะปลาที่เลี้ยงเชื่องแล้วจะแสดงท่าทางคล้ายการประจบประแจงเพื่อขออาหาร ซึ่งช่วงนี้จะเห็นว่าครีบและหางของปลาจะเบ่งบานและพลิ้วสวยงามมาก ถ้าปล่อยให้ปลาหิวโซจนเกินไป จะทำให้ปลาผอมแห้งครีบและหางจะลีบเข้าลำตัว จนในที่สุดจะกลายเป็นปลาที่ป่วยเป็นโรคขาดอาหารและแคะแกร็นในที่สุดซึ่งจะแก้ไขให้ปลากลับมามีสภาพดีเหมือนเดิมได้ยากมาก

ความคิดเห็นที่ 9

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:20]
4.5. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้เกล็ดปลาสวย
โดยปกติเกล็ดของปลาอะโรวาน่าจะมีลักษณะโค้งได้รูป หรือไม่ก็มีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมคางหมูโดยมากจะเป็นในปลาที่มีขนาดใหญ่ การที่จะเลี้ยงปลาให้มีเกล็ดสวยงามจึงไม่ควรทำให้ปลาเกล็ดหลุด เพราะเกล็ดที่งอกขึ้นมาใหม่นั้น มีโอกาสบิดเบี้ยวได้ถ้าหากได้รับการดูแลไม่ถูกวิธี สาเหตุที่ทำให้ปลาเกล็ดหลุดคือปลาตกใจกระโดด อาจเกิดการกระทบกระแทกจากของแข็ง เช่น หินภายในตู้ ท่อออกซิเจน กระชอน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ภายในตู้ปลาจึงไม่ควรมีของแข็งหรือของมีคมจะเป็นการปลอดภัยที่สุด เพราะปลาอาจว่ายไปชนถูกวัตถุเหล่านั้นจนทำให้เกล็ดหลุด และเมื่อพบว่าปลาเกล็ดหลุดควรรีบใส่ยาป้องกันการติดเชื้อในน้ำโดยรีบด่วน เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเเทรกซึมเข้าทางบาดแผลอันเป็นสาเหตุให้เกล็ดที่งอกขึ้นมาใหม่มีลักษณะไม่ปกติ

กรณีที่พบว่าเกล็ดของปลามีลักษณะบิดเบี้ยว เเน่นอน..ควรทำการถอดเกล็ดปลา เพราะเกล็ดลักษณะนี้จะทำให้ปลาขาดความสวยงามไป การถอดเกล็ดปลาออกก็เพื่อให้เกล็ดที่ดีมีโอกาสงอกขึ้นมาทดแทน แต่การถอดเกล็ดปลาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะอาจทำให้เกล็ดอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจถอดอาจหลุดออกมาด้วย ฉะนั้นการถอดเกล็ดปลาจึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้จัดการให้เท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะใช้วิธีวางยาสลบ

ความคิดเห็นที่ 10

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:28]
4.6. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้หนวดสวย
โดยมากปลาอะโรวาน่าที่เลี้ยงในตู้เป็นเวลานาน ๆ หนวดมักจะตกหรือไม่ก็มีลักษณะบิดเบี้ยวไม่เหยียดตรงไปข้างหน้า โดยเฉพาะเมื่อเลี้ยงปลาไว้ในตู้ขนาดเล็กเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้ขยายตู้ให้ใหญ่ขึ้นตามขนาดของปลาที่โตขึ้นแล้ว ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หนวดของปลาเวลาว่ายกลับตัวถูกับขอบกระจก บ่อยๆจนในที่สุดทำให้หนวดปลาเสียทรงไป วิธีป้องกันปัญหานี้คือเลี้ยงปลาไว้ในตู้ที่มีขนาดใหญ่กว่าปลา 3-4 เท่าเเละหลีกเลี่ยงอย่าให้ปลาใช้ปากถูกับตู้กระจกบ่อยครั้งนัก ขณะเดียวกันขอบตู้ทุกส่วนมีความคมควรกำจัดออกให้หมด โดยเฉพาะกระจกคานยึดตู้ด้านบนที่อยู่เหนือผิวน้ำ รวมทั้งฝาปิดตู้ควรตรวจสอบดูให้เเน่ใจว่าได้ลับความคมออกหมดเเล้ว เพราะเมื่อปลาเกิดตกใจอาจกระโดดขึ้นไปชนถูกส่วนใดส่วนหนึ่งของขอบตู้หรือฝาตู้ได้ และถ้าปลาหนวดขาดต้องใช้ระยะเวลานานมากทีเดียวกว่าหนวดจะงอกขึ้นมาดังเดิม หรืออาจไม่มีโอกาสงอกขึ้นอีกเลย หากบาดแผลลึกมากหนวดที่งอกขึ้นมาใหม่นี้อาจมีขนาดไม่เท่ากับหนวดอีกข้าง ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด

นอกจากนั้นหินกรวดก้นตู้ก็มีความสัมพันธ์กับหนวดปลาด้วยเช่นกัน ถ้ากรวดมีขนาดใหญ่หรือมีส่วนผสมของเปลือกหอยมาก หากปลาพุ่งฮุบเหยื่อแรง ๆ และเกิดพลาดไปชนถูกกรวดพื้นตู้หรือเศษเปลือกหอยก็อาจทำให้หนวดของปลาขาดได้ ดังนั้นกรวดก้นตู้จึงควรเลือกใช้ขนาดไม่เกินเบอร์ 2-3 โดยเลือกชนิดที่มีขนาดมนกลมและไม่มีส่วนผสมของเปลือกหอย หากพบว่าหนวดของปลามีลักษณะห้อยร่องแร่งแต่ไม่ถึงขาดออกจากกัน ควรตัดหนวดที่ห้อยทิ้งไป เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้หนวดทั้งสองจะเชื่อมต่อกัน ปลาก็จะมีหนวดคดแบบนั้นตลอดไป สู้ยอมเสี่ยงตัดหนวดทิ้งเพื่อรอให้หนวดขึ้นมาใหม่จะดีกว่า เผื่อหนวดที่งอกขึ้นมาใหม่จะสวยดังเดิม หรืออย่างน้อยก็ยังดีกว่าให้หนวดคดแบบนั้น การให้อาหารปลาควรหลีกเลี่ยงให้ที่มุมตู้ หรือบริเวณคานกระจก เพราะถ้าปลาขึ้นมาฮุบเหยื่อแรง ๆ อาจชนถูกขอบตู้หรือคานได้ ทางที่ดีควรฝึกปลาให้เชื่อง การฝึกควรฝึกตั้งแต่ปลายังเล็กเพราะถ้าเริ่มฝึกเมื่อปลาโตแล้วจะฝึกปลาให้เชื่องยากมาก (ติดตามได้ในเทคนิคฝึกปลาให้เชื่อง)

ความคิดเห็นที่ 11

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:39]
4.7.เทคนิคการเลี้ยงปลาให้ครีบและหางสวย

โดยปกติครีบและหางของปลาอะโรวาน่าจะต้องเบ่งบานตลอดเวลา เส้นก้านครีบทุกครีบจะต้องเหยียดตรงไม่คดงอ แต่ถ้าเส้นมก้านครีบและหางของปลามีลักษณะคดงอเป็นลูกคลื่น แสดงว่าปลาเคยประสบอุบัติเหตุจนครีบหรือหางขาดมาแล้ว วิธีป้องกันไม่ให้ครีบหรือหางขาดที่ได้ผลคือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปลาโดยไม่จำเป็น อย่าเลี้ยงปลาอะโรวาน่าหลายตัวรวมกันไว้ในตู้เดียวกัน เพราะปลาอาจกัดกันจนทำให้ครีบและหางของปลาขาด ควรกำจัดของมีคมในตู้ออกให้หมด และควรเลี้ยงปลาไว้ในตู้ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร หลีกเลี่ยงการใช้กระชอนตักปลาโดยเด็ดขาด เพราะปลาอะโรวาน่าเป็นปลาที่มีครีบเปราะบางหากได้รับการกระทบกระเเทกหรือตกใจมาก ๆ ก็จะทำให้ครีบและหางหักหรือขาดได้ โดยเฉพาะปลาอะโรวาน่าทองมาเลย์

และถ้าปลาได้รับการกระทบกระทกจนครีบหรือหางขาด ให้รีบป้องกันการติดเชื้อในน้ำเป็นการด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแทรกเข้าสู่บาดเเผล ขณะเดียวกันให้สังเกตว่าครีบและหางส่วนที่ขาดหลุดออกจากครีบและหางส่วนที่เหลือหรือไม่ ถ้าไม่ขาดจากกันก็ให้ตัดหางส่วนที่ขาดนั้นทิ้งไปเสีย หรือถ้าขาดแต่ขาดไม่หมด เช่น ครีบหลังส่วนบนขาดเพียงครึ่งเดียวแต่ส่วนที่เหลือยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ควรตัดครีบส่วนที่ห้อยร่องแร่งออกไปโดยตัดให้เสมอแนวที่ขาด เพื่อครีบและหางที่งอกขึ้นมาใหม่จะได้งอกเสมอกัน แต่ถ้ารีบตัดเสียแต่ตอนนี้ หากครีบทั้งสองต่อประสานกันจะมีโอกาสบิดเบี้ยวเป็นลูกคลื่น หรือบางทีครีบที่งอกใหม่อาจไม่เชื่อมติดกับครีบและหางส่วนที่ไม่ขาด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากหางหรือครีบที่มีอยู่เก่าจะขวางกั้นทิศทางการเจริญเติบโตของครีบที่งอกขึ้นมาใหม่ ทำให้ครีบและหางที่งอกขึ้นใหม่เกิดการเบี่ยงเบนทิศทาง เป็นเหตุให้ก้านครีบเกิดการบิดเบี้ยวลักษณะคล้ายลูกคลื่น ลักษณะเช่นเดียวกับการงอกของฟัน ถ้าหากฟันเก่ามาขวางกั้นการเจริญเติบโต ของฟันที่จะงอกขึ้นมาใหม่ฟันที่งอกขึ้นมาใหม่ก็จะเก ทำให้กลายเป็นฟันเขี้ยวหรือฟันคุดในที่สุด ขณะเดียวกันเมื่อบาดแผลที่ครีบและหางส่วนที่ไม่ได้ขาดหายสนิทแล้ว แต่ระหว่างนั้นหางหรือครีบส่วนที่ขาดเพิ่งจะงอกมาใหม่ โอกาสที่หางของครีบทั้งสองส่วนจะเชื่อมประสานติดกันเป็นครีบเดียวจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ดังนั้นการเสี่ยงตัดครีบหรือหางส่วนที่ขาดทิ้งจะมีโอกาสมากกว่าปล่อยไปตามธรรมชาติซึ่งผลลัพธ์ทราบแน่นอนอยู่แล้ว ขณะเดียวกันการตัดครีบเเละหางไม่ควรตัดลึกจนถึงเนื้อ เพราะหากโคนครีบถูกตัดทำลายไป ครีบหรือหางก็จะไม่งอกขึ้นมาอีกเลย ปลาตัวนั้นก็จะกลายเป็นปลาพิการตลอดชีวิต ในกรณีที่หางหรือครีบของปลาเกิดหักแต่ไม่ถึงกับขาด โดยยังมีก้นครีบส่วนอื่น ๆ ที่ยึดติดไว้ได้ คือไม่ถึงกับขาดห้อยร่องแร่งก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะลักษณะเช่นนี้ครีบและหางจะมีโอกาสประสานติดกันดังเดิม หากเป็นปลาขนาดเล็กโอกาสที่ครีบและหางส่วนนั้นจะประสานต่อเข้าด้วยกันได้แนบสนิทเหมือนเดิมมีความเป็นไปได้สูง แต่ถ้าเป็นปลาที่โตแล้วอาจทำให้เกิดเป็นรอยนูนขึ้นมา แต่ถ้าไม่สังเกตไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจะมองไม่ออก ในกรณีเช่นนี้ก็ไม่ควรไปเสี่ยงตัดครีบและหางเพื่อรอให้ครีบใหม่งอกขึ้นมา เพราะการตัดครีบและหางเพื่อรอให้ครีบใหม่งอกขึ้นมา เพราะการตัดครีบเเละหางที่งอกขึ้นมาใหม่จะสวยได้ดังเดิม

ความคิดเห็นที่ 12

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:48]
4.8. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้เหงือกสวย
ปลาอะโรวาน่าส่วนมากมักจะเป็นปัญหาเรื่องเหงือกปลาเหงือกปลาเปิดอ้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้ง ๆ ที่แต่เริ่มแรกที่เลี้ยงปลาไม่มีอาการเช่นนี้มาก่อนเลย จากการสันนิษฐานผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านบ้างก็สันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิของน้ำลดต่ำมากไป โดยอ้างเหตุผลว่าโดยมากอาการของปลาเหงือกเปิดจะพบมากที่สุดในช่วงหน้าหนาวซึ่งน้ำในตู้จะมีสภาพเย็นมาก ส่วนในฤดูอื่น ๆ กลับไม่ค่อยพบความปกติเช่นนี้ วิธีป้องกันคือ ถ้าหากพบว่าน้ำในตู้ปลามีอุณหภูมิต่ำมาก ควรใช้ฮีทเตอร์เพื่อช่วยปรับอุณภูมิในน้ำให้สูงขึ้น

แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านให้การสันนิษฐานว่าสาเหตุที่ปลาเหงือกเปิดเนื่องจากน้ำเสื่อมสภาพ ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง จึงไม่พอเพียงกับความต้องการของปลา จึงเป็นเหตุให้เหงือกของปลาต้องทำงานหนักกว่าปกติ วิธีป้องกันคือ เปลี่ยนน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้งถึง 2 ครั้ง และการเปลี่ยนถ่ายน้ำในแต่ละครั้งควรเปลี่ยนถ่ายครั้งละไม่เกิน 20-30 เปอร์เซ็นต์ และควรเปิดปั้มพ์อากาศตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อยจนไม่พอกับความต้องการของปลา สำหรับสาเหตุแท้จริงของการเกิดอาการเหงือกเปิด ยังไม่มีผู้ใดทำการศึกษาอย่างจริงจัง จึงยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าข้อสันนิษฐานของท่านเชี่ยวชาญท่านใดเป็นฝ่ายถูก แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหากเราสามารถรักษาสภาพน้ำได้ตลอดเวลา คอยเปลี่ยนถ่ายน้ำ หมั่นดูแลอย่าให้มีสิ่งสกปรกหมักหมมในชั้นกรองมากเกินไป และระวังอย่าให้ลมโกรกใส่ตู้มากนักจนทำให้เหงือกที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะเปิดอ้าเหมือนเดิม เนื่องจากโครนเหงือกที่ตัดออกไปยังคงอ้าอยู่ทำให้เหงือกส่วนที่งอกขึ้นมเปิดาใหม่อ้าตามไปด้วย และก่อนที่จะใช้กรรไกรตัดเหงือกปลาควรทำการต้มหรือลวกด้วยน้ำร้อนหรืออาจใช้แอลกอฮอลเช็ดทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อน โดยในขณะที่ทำการผ่าตัดควรวางยาสลบด้วย มิฉะนั้นปลาจะดิ้นหรือโดดทำให้อาจเกิดการพลาดพลั่งจนทำให้ปลาตายหรือไม่ก็บอบช้ำได้ ทางที่ดีควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการผ่าตัดรักษาให้จะปลอดภัยกว่า

ความคิดเห็นที่ 13

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:33:57]
4.9. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้ตาสวย

ควรให้ปลาได้หาอาหารเองเหมือนพฤติกรรมที่เป็นอยู่ในธรรมชาติ หลีกเลี่ยงอย่าให้ปลาตกใจกระโดดมากเกินไปเพราะจะทำให้พังผืดที่ลูกตาของปลาตกลง สำหรับการรักษาของปลาตาตกหรือตาคว่ำยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดสามารถรักษาได้

ความคิดเห็นที่ 14

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:34:06]
4.10. เทคนิคการเลี้ยงปลาให้ปากสวย

ปลาอะโรวาน่าที่เลี้ยงไว้ในตู้เป็นระยะเวลานาน ๆ โดยมากที่มุมปากล่างบริเวณโคนหนวดมักจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อกลม ๆ ยื่นออกมา สาเหตุสันนิษฐานว่าเกิดจากการที่ปลาว่ายเอาปากไปถูกับขอบตู้บ่อย ๆ จนเกิดการอักเสบและบวม และเมื่อนาน ๆ เข้าจึงกลายเป็นก้อนเนื้อด้าน ยิ่งเมื่อปลามีขนาดโตมากเท่าไหร่

ความคิดเห็นที่ 15

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:43:28]
ถ้าใครมีปัญหาอะไรที่อยากจะถามก็ถามได้นะครับ
ก่อนผมจะเลี้ยงอโรออสเตตัวนี้ก็ศึกษาอยู่มาประมาณครั่งเดือนกว่าๆ เพื่อให้เรามีความสุขกับเขาเเละให้เขามีความสุขกับเราครับ
-^^-

ความคิดเห็นที่ 16

Wachara
Wachara [2006-10-26 21:57:01]
ปลาของผมครับ ไม่มีกล้อง -*-

ความคิดเห็นที่ 17

pengwahaha
pengwahaha [2006-10-27 12:18:52]
เยี่ยมเลยครับ กำลังอยากได้เทคนิคการเลี้ยงอยู่พอดีเลย ขอบคุงมากๆนะครับ

ความคิดเห็นที่ 18

chutchai007
chutchai007 [2006-10-27 16:48:25]
เยี่ยมมากครับคุณWachara
ขอบคุณครับ ข้อมูลดีมากเลย

ความคิดเห็นที่ 19

Wachara
Wachara [2006-10-27 20:54:27]
สำหรับบางคนสังสัยว่าปลาผมเป็นอย่างไรทั่งๆที่อวดรู้แล้ว ปลาคงจะสวยน่าดู
ความจริวปลาผมไม่มีความสวยงามอะไรเลยครับ
ผมเลี้ยงแบบอิจสระตอนนี้ตัวปลาก็สีดำปิ้ดปี๋ผสมทองแดงเป็นปลาอโรออสเตครับ ซื้อมาก็ไม่แพงอะไรตัวและ780
ซื้อมาครั้งเเรกมีตู้เล็กๆอยู่ตู้ครับแต่ผมไม่ใส่ไปใส่ลงบ่อปูนปลากัด
-*- แล้วพอ2เดือนก็ไปสั่งทำตู้กว้าง48ยาว60มาบางคนบอกว่าเลี้ยงในที่แคบๆปลาจะครีบสวยแต่ผมไม่ต้องการครับเพราะ....

ความคิดเห็นที่ 20

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:00:55]
เพราะปลาคงจะอึดอัดคงไม่สบายใจถ้าเป็นคนก็คงรู้สึกรำคาญมั่งครับ ^^ เเล้วที่บอกว่าให้อดอาหารเขาแล้วเขาจะเชื่องก็ไม่กล้าทำ
ตอนนี้ปลาผมกลายเป็นอโรอ้วนครับหดแล้วอะแต่ผมก็ไม่ได้เลียใจอะไร
เพราะก่อนซื้อมาผมมีตัวเลือกอยู่2อย่างขึ้นมาบนหัวว่า
1.จะซื้อเขามาเป็นเพื่อนเล่นกันสนุกๆ
2.หรือจะมาให้เขามาทรมารแล้วสวย
ผมเลยตัดสินใจเลือกเอามาเป็นเพื่อนไม่ว่าปลาผมจะเป็นอย่างไรก็ตามจะดูในสายตาคนอื่นว่าไม่สวยแต่ผมก็เลี้ยงไปแล้วเเล้วจะทำให้เขามีความสุขที่สุดครับ

ความคิดเห็นที่ 21

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:03:02]
(หมายเหตุอย่างเเรง) ขอประทานโทษสำหรับคำที่คุณอ่านไม่รู้เรื่องขอโทษด้วยนะครับความจริงผมก็ไม่ใช่เด็กไทยแท้100%ด้วยสิT-T

ความคิดเห็นที่ 22

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:17:51]
ปลาผมครับวาดออกมาก็เเค่นี้อะมันอาจจะดูไม่สวยก็ดูออกกันน้า

ความคิดเห็นที่ 23

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:39:17]
นี่เป็นอโรวน่าพันธ์ไรไม่รู้ครับเอามาจากร้าน อโรวน่าคิง

ความคิดเห็นที่ 24

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:48:47]
อโรไรอีก็ไม่รู้หารู้มาแปลก^^

ความคิดเห็นที่ 25

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:55:45]
ถ้าบอกว่าตัวนี้ 120,000 จะเชื่อมะ

ความคิดเห็นที่ 26

Wachara
Wachara [2006-10-27 21:58:10]
ตัวนี้Special Blue Base Malayan Gold ขนาด 9"-10" จากฟารม์ Sianlon สำหรับสมาชิก Arowanacafe ส่วนลดพิเศษ 10%
ราคา 120,000.00 ฿

ความคิดเห็นที่ 27

Wachara
Wachara [2006-10-27 22:01:19]
ตัวนี้ 150,000 โอ่วขายรถซื้อ -*-

ความคิดเห็นที่ 28

Wachara
Wachara [2006-10-27 22:04:53]
ปลานี้เลี้ยงกับอโรวน่าได้ทุกชนิดครับ 12,000 เอง ชิวๆ~-*-

ความคิดเห็นที่ 29

winboy
winboy [2006-10-27 23:24:03]
อันนี้ copy มาจากเวบอโรวาน่าใช่ปะ
เห็นว่าคุ้นๆ
หุหุ

ความคิดเห็นที่ 30

DragonBoy
DragonBoy [2006-10-28 17:23:41]
รู้สึกข้อมูลจะมาจากหนังสือคู่มือการเลี้ยงอโร ของคุณสุรศักดิ์ครับ

ที่ว่าอดอาหาร ศึกษาดีๆ ก็มีเหตุผลนะครับ ไม่ใช่ว่าจะอดให้เชื่องอย่างเดียว

ความคิดเห็นที่ 31

Wachara
Wachara [2006-10-28 21:07:33]
ครับๆผมเอามาจากนั้นหละครับ
แบบว่าคนที่เขาไม่อยากซื้อหนังสืออะ

ความคิดเห็นที่ 32

kz34r7x1
kz34r7x1
3
[2006-10-29 08:13:21]
หัวใจของท่านรักปลาแท้จริงครับ

ความคิดเห็นที่ 33

Wachara
Wachara [2006-10-29 17:17:23]
ก็รักแบบเพื่อนก็ต้องทำให้ดีที่สุดสิครับ

ความคิดเห็นที่ 34

yust2499
yust2499 [2007-01-12 19:49:34]
แจ่มเลยกำลังต้องการข้อมูลเด็ด ดีมากเลยคับ
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ