Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

โลกปลาหมอสีสายพันธุ์ แท้ๆ ทั้งจาก ทะเลสาบมาลาวี, ทังแกนยิกา, หรือ ปลาหมอสี สายพันธุ์ แท้ จาก ทวีปอเมริกา ตลอดจน ปลาหมอแคระ ชนิดต่างๆ อยากให้เว็บบอร์ด นี้ มีส่วนช่วยให้คนรักปลา รู้จัก ไม่ลืม ในสายพันธุ์ ดั้งเดิม ตามธรรมชาติของปลาในครอบครัว Cichlidae

0006911

ด่วน!!! แง่มุมหนึ่งของสาเหตุปลาตายหน้าร้อน

bcscientist
bcscientist
1
[2010-05-11 11:58:25]

ลองดูข้อมูลนี้เผื่อมีประโยชน์ต่อน้องๆไม่มากก็น้อยครับ เรื่องปลาตายในหน้าร้อนมีเรื่องที่ต้องควรระวังอยู่ 4 ประการ

1.อุณหภูมิและการละลายของออกซิเจน : หลักการทางเคมีของธาตุออกซิเจนมีอยู่ว่า การละลายของออกซิเจนในอากาศและในน้ำจะแปรผกผันตามอุณหภูมิ ยิ่งอุณหภูมิสูงการละลายจะลดลง อุณหภูมิที่ต่ำลงจะทำให้ออกซิเจนละลายได้มากขึ้น ช่วงหน้าร้อนจึงทำให้น้ำมีค่าออกซิเจนน้อยลงไปมาก (สังเกตุเวลาอยู่ในรถไม่เปิดแอร์จะรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก แต่เวลาเปิดแอร์ อุณหภูมิเย็นลงหายใจสบายทันที)

2. แบคทีเรียและการบริโภคออกซิเจน : นอกจากเรื่องของอุณหภูมิแล้ว ยังมีเรื่องของแบคทีเรียในช่วงหน้าร้อนที่แย่งออกซิเจนจากปลาไปอีก เพราะแบคทีเรียจะเจริญได้ดีขึ้นในอุณหภูมิที่สูงขึ้น (ทั้ง Nitrosomonas และ Nitrobactor) อัตราออกซิเจนในตู้จึงลดลงไปอย่างมาก ดูกระบวนการทางเคมีนี้ในตู้ปลาเราดีๆ จะทำให้เข้าใจว่าทำไมแบคทีเรียจึงใช้ ออกซิเจนมากมายนักหนาในระบบปิด(ตู้ปลาของเรา)ที่มีความเข้มข้นของสารอินทรีย์ไนโตรเจนสูง

NH4+/NH3 -> NO2- -> NO3-

ค่ามวลอะตอมของ H = 1, N = 7, O = 8 ในที่สุดต้องใช้ออกซิเจน(O) ถึง 3 อะตอมต่อไนโตรเจน(N) 1 อะตอม มวลที่ออกซิเจนต้องใช้ในกระบวนการนี้มากกว่ามวลโมเลกุลตั้งต้นถึงประมาณสาม เท่า

3. แอมโมเนียและอุณหภูมิ : ในลำดับต้นของขี้ปลาทำให้เกิดสิ่งนี้ NH4+/NH3 เรียกว่า Total Ammonia ตัวที่เป็นประจุแอมโมเนีย NH4+ ไม่เป็นพิษ แต่ตัวที่เป็นพิษคือ NH3 สัดส่วนปริมาณของสองตัวนี้จะแปรเปลี่ยนขึ้นลงได้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและค่า pH ถ้ายิ่งสูงจะทำให้ NH3 ที่เป็นพิษจะยิ่งมาก (ไม่ควรเกิน 0.03 ppm) คำนวณได้ตามสูตรนี้

NH3=(Total Ammonia)/(1+10^[(0.0902-pH) + (2730/(273.2 + Temperature))])

จะยกตัวอย่างให้ดูว่า เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ตู้ที่เคยมีค่าแอมโมเนียปกติอยู่ๆจะกลายเป็นตู้สังหารโดยแอมโมเนียได้อย่าง ไร ดังนี้

เดิมเคยวัดค่า Total Ammonia ได้อยู่ที่ 0.5 โดยมีค่า pH 7.8 และอุณหภูมิ 29 องศา จะมีค่า NH3 อยู่ที่ 0.022 (ปลาอยู่บ้านสบายๆ) พออุณหภูมิสูงขึ้นเป็น 34 องศา NH3 จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.031 (ปลาบางตัวเริ่มอยากขึ้นสวรรค์) ทันที

4. Nitrite(NO2-) และ Nitrate(NO3-)ที่มากกว่าปกติ : อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้การย่อยสลายขี้ปลาในระบบเกิดขึ้นมากกว่าปกติ แทนที่จะถูกดักไว้ที่ใยกรองให้มาก ก็ถูกย่อยสลายลงในน้ำมากกว่าปกติ(อุณหภูมิสูง แบคทีเรียเจริญดีมากกว่าปกติ จึงย่อยขี้ปลาได้มากขึ้น) แบ่งเป็นสองกรณี กรณีที่ตู้ปลาที่แบคทีเรียยังไม่เซตตัวดีพอก็จะมี Nitrite(NO2-) มากกว่าปกติ แต่สำหรับตู้ที่เซตตัวแล้วจะมี Nitrate(NO3-) มากกว่าปกติ อย่ามัวแต่ระวัง Nitrite กันอย่างเดียวตัว Nitrate ก็ทำให้ปลาตายได้เช่นกันถ้ามีมากเกินไป เพราะ Nitrate สามารถเกิดได้ในปริมาณที่มากรวดเร็วเช่นกัน ทุกๆ Nitrite ที่หนัก 23 หน่วย จะถูกเปลี่ยนเป็น Nitrate ที่หนักขึ้นเป็น 31 หน่วย เพราะมีออกซิเจนเพิ่มขึ้นในโมเลกุล พิษของ Nitrite ทำให้การรับออกซิเจนของเหงือกลดลง ทำให้เกิดภาวการณ์ขาดอากาศตายได้ ส่วนพิษของ Nitrate ทำให้ความดันโลหิตของปลาลดลง ทำให้เกิดภาวะหมดสติและอาจหยุดหายใจได้ในที่สุด

สาเหตุทั้งสามประการพอมีวิธีแก้ดังนึ้คือ เพิ่มอ็อกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ (ในตู้ใหญ่อาจจำเป็นต้องซื้อปั้มอ็อกรุ่นใหญ่อย่างดีหน่อย(ราคาประมาณพัน ขึ้น) และใช้หัวทรายเซรามิกอย่างดี ที่มีขนาดใหญ่หน่อย(ราคาประมาณ 200 บาท)

การใช้หัวทรายเป็นวิธีเพิ่มออกซิเจนที่ดีที่สุด เพื่อช่วยในข้อ 1,2 เป็นการเพิ่มพื้นที่สัมผัสออกซิเจนให้กับน้ำเพื่อให้ละลายได้มากขึ้น ส่วนข้อ 3 การพ่นอากาศหัวทรายแรงๆทำให้แอมโมเนีย NH3 ส่วนหนึ่งระเหยไปในอากาศได้ ทำให้ความเป็นพิษของ NH3 ในระบบลดลง และยังช่วยพุ้ยขี้ปลาที่พื้นให้ลอยขึ้นมาติดใยกรองได้ดีขึ้นด้วย ส่วนการแก้ปัญหาข้อที่ 4 คือตรวจค่า Nitrite และ Nitrate บ้าง และเปลี่ยนน้ำให้ระดับ Nitrite และ Nitrate ลดลงสู่ภาวะตั้งต้นแบบสะสมปลอดภัย (อย่ายึดหลักเปลี่ยนน้ำ 20 หรือ 30 เปอร์เซนต์ในทุกอาทิตย์ ให้ดูที่ระดับ Nitrite และ Nitrate เมื่อเปลี่ยนน้ำเสร็จ ว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัยหรือไม่ที่จะสะสมต่อไปจนถึงการเปลี่ยนน้ำครั้งหน้า ด้วย สำหรับระบบที่เซตตัวดีแล้วให้ระวัง Nitrate เป็นหลัก)

จากผลที่ได้ตู้ที่ใช้อ็อกแรงอยู่กันหนาแน่นไม่พบการตายในช่วงหน้าร้อนนี้ แต่ตู้ที่ใช้อ็อกไม่แรงอยู่ไม่หนาแน่นกลับพบการตายเกิดขึ้น หน้าร้อนกับอ็อกแรงๆยังมีประโยชน์สำหรับตู้ใหม่ จะทำให้เซตตัวได้เร็วขึ้น เมื่อเพิ่มออกซิเจนให้มากๆ เรื่องอาหารก็ให้ปกติ(ไม่มากไม่น้อยไป)ได้เลย ใช้วิธีเพิ่มออกซิเจนดีกว่าการใช้วิธีลดอาหาร เพราะเมื่อปลาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ในที่สุดก็เข้าสู่ภาวะอ่อนแรง และภูมิต้านทานก็จะเริ่มลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการตายมากขึ้น (ไม่เชื่อน้องๆลองกินข้าวน้อยๆมื้อเดียวตอนหน้าร้อนนี้ดูแล้วจะรู้ว่าเป็น อย่างไร)

ขีดจำกัดมีอยู่ ระวังอย่าให้น้ำในตู้ปลาอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ทำให้อุณหภูมิอยู่สูงเกิน 33 องศา ออกซิเจนแรงๆช่วยบรรเทาได้ระดับหนึ่ง แต่อุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดความแปรปรวนทางเคมีในตัวปลาได้เช่นกัน จากงานวิจัยทางด้านอุณหภูมิกับการตายของปลา (Fran&co Tadeu RANTIN and Jorge A. PETERSEN) พบว่าเส้นแห่งความตายครึ่งหนึ่งทางย่านอุณหภูมิสูงจะเริ่มต้นที่ 33 องศา เปอร์เซนต์การตายนี้จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขีดสุดที่ประมาณ 40 องศา (ตายเกลี้ยง)

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อน้องๆบ้างนะครับ เพื่อจะได้ช่วยทำให้การสูญเสียชีวิตปลาในหน้าร้อนต่อไปนี้ลดลง ประโยชน์ผลที่เกิดขึ้นกับการเผยแพร่ความรู้นี้ขออุทิศให้กับปลาที่ได้ตายไป แล้วในหน้าร้อนจากสาเหตุนี้ทั้งหมดและปลาที่จะมาเลี้ยงแทนที่ใน หน้าร้อนตัวต่อๆไป

ความคิดเห็นที่ 1

rome
rome
2515
[2010-05-11 12:38:44]

ขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับข้อมูลดี เป็นประโยชน์

ความคิดเห็นที่ 2

chairau
chairau
733
[2010-05-11 12:46:20]

ขอขอบคุณbcscientist และท่านที่เขียนบทความที่มีประโยชน์อันนี้ครับ
เป็นอีกก้าวของนักเลี้ยงปลา
ย้อนหลังไปสัก 10 - 20 ปี คนเลี้ยงปลาอย่างเราๆท่านๆ ใครจะไปรู้เรื่องแบบนี้

ความคิดเห็นที่ 3

natnazi
natnazi
855
[2010-05-11 12:55:16]

ขอขอบคุณมากครับ

ข้อมูลนี้ใช้ประโยชน์ได้ดีมากๆเลยครับ

ปล.ปกติก็เปิดหัวทรายแบบแรงสุดอยู่แล้ว ^_^

ความคิดเห็นที่ 4

Plagapong
Plagapong
693
[2010-05-11 13:01:44]

ขอขอบคุณมากๆเลยครับ

สายไปนิดนึงสำหรับผม แต่ยังไม่เที่ยง 55

ตอนนี้ทั้งพัดลม หัวทราย เต็มพิกัดแล้วครับ

ความคิดเห็นที่ 5

MrHi
MrHi
312
[2010-05-11 13:09:29]

ขอบคุณมากๆครับ..

ถ้าผมมีข้อมูลดีๆแบบนี้เร็วขึ้นซัก 2-3 วันคงดี..

T_T

ความคิดเห็นที่ 6

popdeub
popdeub
706
[2010-05-11 14:12:10]

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ เดี๋ยวว่างแล้วมานั่งอ่าน^_^
พี่ให้ เสียใจด้วยน่ะครับพี่

ความคิดเห็นที่ 7

acemania
acemania
119
[2010-05-11 14:39:30]

ขอบคุณมากครับ

ความคิดเห็นที่ 8

keekie
keekie
578
[2010-05-11 14:59:16]

เยี่ยมมากเลยครับ

ความคิดเห็นที่ 9

chairau
chairau
733
[2010-05-11 16:46:11]

pop แน่ะนำให้อ่านเลย อ่านตอนนี้เลย มีประโยชน์กับ pop เป็นที่สุด

ความคิดเห็นที่ 10

AdKOnings
AdKOnings
785
[2010-05-11 17:00:27]

ขอบคุณมากครับ เยี่ยมมากเลยครับ

ความคิดเห็นที่ 11

fonns
fonns
344
[2010-05-11 17:21:46]

ขอบคุณมากมากเลยครับ

ความคิดเห็นที่ 12

kajib
kajib
1388
[2010-05-11 18:47:31]
ขอบคุณมากๆค่ะ ตอนนี้ ร้อนนี้น่าจะผ่านพ้นไปได้ แต่ปีหน้า ถ้าร้อนกว่าปีนี้แย่แน่ๆ

ความคิดเห็นที่ 13

kengjeng
kengjeng
24
[2010-05-11 22:21:27]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ความคิดเห็นที่ 14

mootoy
mootoy
1122
[2010-05-11 22:29:00]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ความคิดเห็นที่ 15

phatphon
phatphon
1113
[2010-05-12 09:33:05]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ และเป็นประโยชน์กับพวกเรามาก ๆ ครับ

ปล.มันจะร้อนขึ้น ทุก ๆ ปี ครับ น่ากลัวจัง

ปล.2 ขออนุญาต นำบทความดี ๆ แบบนี้ไปเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กับ Fish Lover ท่านอื่น ๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 16

bcscientist
bcscientist
1
[2010-05-12 11:53:22]

ได้เลยครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มอื่นๆบ้าง

ความคิดเห็นที่ 17

champ17
champ17
71
[2010-05-12 15:45:59]

ขอบคุณมากๆครับ ผมไปสวรรค์ ห้าตัวแล้วววY^Y

ความคิดเห็นที่ 18

birdZaaa
birdZaaa [2010-05-13 08:25:13]

ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนียความรู้เต็มๆ แต่กว่าจารู้ก้อหมดตู้ไปซะแล้วT_Tขอบคุณมากๆ

ความคิดเห็นที่ 19

impartial
impartial
343
[2010-05-14 20:11:08]

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ความคิดเห็นที่ 20

Raywind
Raywind
20
[2010-05-15 16:43:08]

ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ดีๆ

ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ