สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวเวบนายเก๋า ต้องขอเกริ่นนำไว้ก่อนนะครับว่า บทความที่พิมพ์ขึ้นมานี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการจุดกระแสใดๆ เลย หรือสร้างความไม่พอใจแต่อย่างใดให้แก่ใครๆ ที่มีความรักความผูกพันต่อปลาที่ตนเลี้ยงอยู่

บทความนี้เรียบเรียบจากชีวิตจริงของผม ตั้งแต่ 7 ขวบ (แต่ตอนนี้ไม่กล้านับแล้ว..555) จำได้มั่ง ลืมไปมั่ง เลี้ยงปลามาก็เยอะ แน่นอน ตายก็เยอะ ปลาตัวเล็กๆ ราคาถูกๆ ก็ทิ้งไปได้ไม่ต้องคิดมาก แต่ไอ้ตัวใหญ่ๆ แพงๆ จะทำไงล่ะ สุดท้ายก็ต้องไปจบที่จาน และนี่คือที่มาของบทความนี้ล่ะครับ...เริ่มเลยละกัน

จากการที่ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวแห่งการทำอาหาร พ่อของผมได้เปิดร้านอาหารมาก็หลายสิบปี ในหลายจังหวัด รวมทั้งที่เมือง Montreal ประเทศ Canada นี้ด้วย ผมเกิดมาคุณพ่อก็เปิดร้านอาหารแล้ว แล้วอย่างงี้ผมจะมีโอกาสหนีออกจากอาชีพ "กุ๊ก" ไปทําอย่างอื่นได้เหรอ..

ว่าไปแล้ว ผมเองก็ชอบเลี้ยงปลามาตั้งแต่เด็กแล้ว จำได่ว่าปลาตัวแรกที่เลี้ยงก็คือ ปลากัดทุ่งอีสาน จังหวัดอุบลฯ (ที่จำได้ก็เพราะ ไปลุยทุ่งนาจับมาเองกับมือ) 20 ตัว เลี้ยงได้ 4 เดือน... ตายเรียบ (ก็บอกแล้วว่า ยังเด็กไป ไม่ต้องคิดมาก)

ต่อมาไม่นาน พ่อก็ซื้อตู้ปลามาใหม่ (จริงๆ แล้ว จะไว้ใส่ปลาที่ซื้อมาเพื่อจะนำไปทําอาหารขาย) ผมก็จะคอยดูอยู่ข้างตู้ทุกวัน พอไม่กี่วันปลาที่ซื้อมา...หายไปหมดเลย...เริ่ม งง ครับว่าปลาหายไปไหน..ร้องไห้.. หลายครั้งเข้าพ่อเริ่มรำาคาญ เลยต้องลงทุนซื้อมาอีกตู้ ... ดีใจ..คิดว่าคราวนี่เราต้องไม่พลาด.. ก็อีกหล่ะ ปลาหายไปหมดอีกแล้ว...เริ่มฉุน.... ไม่นานแฟนของพี่สาว แกเข้าใจ ก็เลยไปซื้อกระจกแผ่นใหญ่ๆ มา 1 แผ่น ตัดกระจก แล้วสอนให้ช่วยกันทําตู้ปลา 555 ภูมิใจที่สุด ได้ตู้ปลาสมใจ แต่ปลาล่ะ.! จะเอาที่ไหน?... ปลาจากตู้หน้าร้านไง ว่าแล้วก็ไปตักมาเลี้ยง1 ตัว ตอนเย็นวันนั้นกุ๊กที่ร้านก็เดินมาตักปลาในตู้เราไปทําขายต่อหน้าต่อตา..ตกใจ อึ้ง !!พูดไม่ออก (ตอนนั้นก็เริ่มได้เรียนรู้แล้วว่า นี่คืออาหารที่เรากิน..555 )

พอโตขึ้นมาหน่อย ก็ได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้มีโอกาสเรียนรู้การเลี้ยงดูปลาได้มากขึ้น ดีขึ้น ก็เลยเลี้ยงมันซะเต็มบ้านเลย( ตู้ปลาที่บ้าน ก็จากการต่อกันเองของ 2 คน นี่แหล่ะครับ)

คงจะไม่ว่าอะไรกันนะครับถ้าผมจะรวบรัดตัดความเอาซะดื้อๆ เพราะปลาที่เลี้ยงมานี่มันเยอะจริงๆ... เอาเป็นว่า ผมจะลงชื่อปลากับชื่ออาหารจานเด็ดที่ได้ปรุงขึ้นมา สมาชิกที่บ้านก็ได้ร่วมรับประทานกันถ้วนหน้า รวมทั้งวิจารณ์เนื้อปลากันอย่างสนุกปาก ( บางอย่างอาจจะไม่เหมาะสมกันอย่างที่หลายคนคิดกันนะครับ ) ลองนับกันเองนะครับว่า มีปลากี่ชนิด ที่ผมได้ลิ้มลองรสชาติกันไปบ้าง... ( อ่านกันสนุกๆครับ อย่าคิดมาก )

• ปลากระทิงไฟ ต้มยํา, ต้มโคล้ง, ทอดกรอบผัดเผ็ด
• ปลาพิรันย่า ทอดกรอบราดฉู่ฉี่, หมักเกลือแล้วทอด, ปลาราดพริก แซ่บๆ
• ปลาเสือตอ ตัวนี้ต้มยําได้อร่อยที่สุด, แล่เป็นชิ้นๆทอดกระเทียมพริกไทก็อร่อย
• ปลาชะโด ตัวนี้ทําได้หลายแบบ แต่ที่ชอบคือ โรยเกลือแล้วหลามในบ้องไม้ใผ่อร่อยแบบชาวบ้าน
• ปลากระดี่ ทอดกรอบ จิ้มพริกน้ำปลา(ง่ายๆแต่อร่อยสุดๆ)
• ปลาตะเพียน ต้มส้มสุดยอด, บั้งถี่ๆทอดกรอบๆกินกับพริกน้ำปลา ข้าวสวยร้อนๆสักจาน โอย....
• ปลาแรด นึ่งมะนาว, ปลาฉู่ฉี่ แต่จะว่าไปแล้วตัวนี้ทําอะไรก็อร่อยไปหมด
• ลูกครอก(ลูกปลาช่อน ตัวแดงๆ) แกงส้มผักบุ้ง รสเข้มข้น อร่อยสุดยอด
• ปลาไน,คาร์ฟ นึ่งซีอิ้วแบบสไตล์ฮ่องกงดีที่สุด
• ปลาช่อน อย่างที่รู้ๆกันดีต้องแป๊ะซ๊ะ, แกงส้มปลาช่อนทอดกรอบ, นึ่งมะนาวด็เยี่ยม
• ปลากราย, ตองลาย, สลาด ขูดเนื้อทําแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย...ซู้ด...
• ปลาบู่ นึ่งซีอิ้วได้อร่อยที่สุดจนไม่มีอะไรมาเทียบได้เลย
• หมอสี ออสซิลาลิส ตัวหนาเนื้อแน่น ฉู่ฉี่ หรือหั่นเป็นชิ้นทําปลากรอบผัดพริกขิงก็อร่อยได้ไม่รู้ลืม
• ปลากระโห้ ตัวใหญ่เนี้อหนา แล่เนื้อเป็นชิ้นๆชุบแป้งทอดกรอบกระเทียมพริกไท อร่อยไม่เป็นรองใคร
• ปลากด ตัดเป็นแว่นๆทอดกรอบผัดเผ็ด ไม่เลวเลย
• ปลาคัง ต้องลวกจิ้ม น้ำจิ้มรสจัดๆกระเทียมเจียวกรอบๆ...อืมม์....
• ปลาสวาย แกงเทโพก็แจ๋ว
• ปลามังกร(ตัวเด็ด ราคาแพง) อินโด ตัวนี้ ผมลองนึ่งซีอิ้วแบบฮ่องกง รสชาติไม่เลวเลย...
• อลิเกเตอร์ การ์ คลุกแป้งขนมปังป่นทอดพอกรอบ ราดด้วยซ๊อสฉู่ฉี่ หรือราดพริกแบบไทยๆ ก็ร่อยได้ลงตัว
• นอร์ทเทิร์น ไพค์ ตัวนี้ทําบ่อย ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าปลาฉู่ฉี่...ขนาดฝรั่งยัง..ทึ่ง..
• แซลมอน ต้องทําปลาดิบแบบญี่ปุ่น หรือสเต็คปลาราดซ๊อสเนยมะนาวสไตล์ฝรั่งก็คงไม่เหลือติดก้นจานแน่ๆ....
• อลิเกเตอร์ การ์ ได้ลองทําหลายอย่าง แต่มาลงตัวที่ สเต็คปลาราดซ๊อสไวน์ขาว กับขนมปังกระเทียม....อิ่ม....

คงต้องไว้แค่นี้หล่ะครับ ลืมไปก็เยอะเหมือนกัน( ชนิดไหนทํากินแล้วไม่อร่อย ก็จะไม่จํา...อิอิ)

ไม่สงวนสิทธิ์นะครับ หากใครต้องการที่จะลองลิ้มชิมรสของปลาที่เราเคยเลี้ยงอยู่ อย่างน้อยๆ ก็คิดว่าเป็นความรู้ใหม่ละกันครับ

ข้อแนะนํา

• ควรทำใจล่วงหน้า กับปลาบนจานที่วางอยู่ตรงหน้าเราก่อนนะครับ
• ควรทําภายใน 6-12 ชั่วโมงหลังจากปลาของคุณได้หยุดหายใจ
• ปลายิ่งสดยิ่งดี ยิ่งอร่อย ครับ
• เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ พยายามอย่านําปลาที่ตายเพราะ"ป่วยหรือติดเชื้อร้ายแรง" มารับประทาน
• โปรดระวัง " ก้างปลา "

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ตอนต้นครับ " โปรดพิจารณาด้วยความละเอียดถี่ถ้วน และวิจารณญาณอันดีงาม " หลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้แล้ว

ขอบคุณจากเบื้องลีกแห่งใจ "kengINmontreal" ronnawee1970@hotmail.com หรือ ronnawee1970@yahoo.ca