ปลามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียครับ จึงแสดงอาการเส้นเลือดฝอยขยายใหญ่แบบนี้ เท่าที่เคยพบบ่อยๆ มักจะเกิดกับบ่อขนาดเล็ก และมีฝนตกลงมามากๆครับ ก็คือปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลง ไม่ทราบว่า เริ่มมีอาการมานานหรือยังครับ ตั้งแต่เมื่อไร และคิดว่า น่าจะเกิดจากอะไร บ่อมีระบบกรองมั้ยครับ

ปุยขาวๆคือเชื้อราที่เกิดขึ้นจากแผลของปลาครับ ลองให้ข้อมูลเพิ่มเติม และขั้นต้น ให้ซื้อยา ออกซีเตทตร้าซัยคลิน แบบกระป๋อง จะได้ถูกๆหน่อยครับ ใส่ที่ความเข้มข้น 30 มก ต่อน้ำหนึ่งลิตร ร่วมกับ มาลาไคท์กรีน 0.05 มก ต่อน้ำหนึ่งลิตร ให้อากาศเต็มที่ แช่ไว้สัก 2 วันแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ 50 เปอร์เซนต์ครับ

ถ้ามีปลาป่วยเพียงบางตัว ให้แยกปลาดังกล่าวมาแช่ในถังไฟเบอร์ ก็จะดีกว่าแช่ทั้งบ่อครับ

หลังจากวันที่โพส คุนพ่อก็ได้ไปหาซื้อยาที่จตุจักร ก็ได้ยาเหลืองกับยาสีฟ้าที่ทำให้น้ำใสฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาใส่ในบ่อคับ แต่แช่ไปได้วันเดียว เมื่อวานเช้าตัวในรูปตายไปแล้วคับ ตามด้วยตัวที่หางเป็นเชื้อราในตอนบ่าย ตอนนี้ที่บ้านเศร้ากันมากคับ หดหู่มาก เพราะมาจากไปตอนปีใหม่พอดี ไล่ๆกันไปทีละตัวสองตัว T.T

ไม่แน่ใจว่าเริ่มมีอาการตั้งแต่เมื่อไหร่คับ เพราะไม่เคยสังเกตจนกระทั่งตัวแรกตายไปอะคับ บ่อที่เลี้ยงมีสแลนบัง3/4 บ่อกรองทำเองมีลูกบอล+แผ่นกรองเขียว+ปะการัง+ซีโอไลท์ แรกเริ่มเดิมทีมีปลาทั้งหมด 11 ตัวคับเป็นปลาคาร์พ10(ขนาดเฉลี่ยสิบสองนิ้ว)ปลาทอง1 เลี้ยงมาได้5-6เดือนได้ยังไม่เคยมีปลาตายคับ ปกติถ้าตะไคร่เริ่มจับบ่อมากๆก็จะทำความสะอาดคับ แต่2-3เดือนหลังนี้ไม่ได้ทำความสะอาดเลย ตะไคร่ก็จับหนามากครับ แต่น้ำยังใสอยู่ก็เลยชะล่าใจว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แล้วก็ก่อนหน้าที่ปลาจะตาย2-3อาทิตย์ได้ คุนแม่ได้ซื้อปลาคาร์พจากจตุจักรมาลงเพิ่มในบ่อขนาด6นิ้วเห็นจะได้ แล้วเลี้ยงได้อาทิตย์กว่าก็ตายคับ ตัวนึงครีบขาด อีกตัวหางแหว่ง เหมือนโดนกัด เลยเข้าใจว่าโดนพวกตัวใหญ่กัดไม่ให้เข้าพวก แต่พอกลุ่มเดิมในบ่อเริ่มตายเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็เลยไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะน้ำสกปรกหรือปลาใหม่มีโรคติดมาอะคับ

ถ้าไม่นับรวมตัวใหม่สองตัวที่ลงใหม่ตอนนี้ปลาตายไป 3 แล้วคับด้วยอาการคล้ายๆกัน ที่เหลือก็อาการร่อแร่ไม่กินอาหารแล้วก็ไม่ว่ายอยู่นิ่งๆใต้บ่อเป็นกลุ่มเลย แล้วมีตัวนึงท่าทางจะไม่รอดเพราะลอยๆเหมือนสามตัวที่ตายไปคับ ตัวเป็นเส้นเลือดแบบนั้นเหมือนกัน แล้วก็มีอีกตัวที่ชอบขึ้นมาฮุบเอาอากาศ แล้วก็ปล่อยอากาศบุ๋งๆออกทางเหงือกอะคับ ไม่รู้ทำไม ยังไงก็จะทำตามคำแนะนำของคุณรอฟนะคับ หวังว่าจะช่วยตัวที่เหลือได้บ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณมากๆๆจิงๆคับ

เท่าที่ฟังดู ก็เกิดจากคุณภาพน้ำอย่าที่คิดเอาไว้นั่นแหละครับ

อย่างแรกคือ ยาสีฟ้าที่คุณซื้อมา เป็นยาน้ำใส และ ดรอปตะใคร่น้ำ ตลอดจนแพลงก์ตอนพืชครับ ไม่ใช่มาลาไคท์กรีน

ยาเหลืองซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ ไม่ควรใส่ในบ่อเลี้ยงปลาที่มีระบบกรองแบบนี้นะครับ ยิ่งเป็นบ่อกลางแจ้งด้วย ระบบล่มได้ง่ายๆครับ คือ หมายความว่ายาปฏิชีวนะที่ใส่ลงไป จะทำลายแบคทีเรียทุกอย่าง รวมทั้ง แบคทีเรียในระบบกรองที่มีประโยชน์ด้วย ทำให้ไม่มีแบคทีเรียเหลือเพียงพอที่จะย่อยสลายของเสียในบ่อ ทีนี้ แพลงก์ตอนพืชน้ำที่ตาย ขี้ปลาก็เน่าเสีย บ่อไม่ได้ทำความสะอาดมานานอีก เกิดแอมโมเนียสะสมอย่างรุนแรง เรียกง่ายๆว่าน้ำเน่านั่นแหละครับ ออกซิเจนต่ำอีก ปลาลอยหัวเห็นๆ แบบนี้ ยิ่งเป็นการทำร้ายปลาให้ตายเร็วขึ้นครับ ผมแนะนำคุณแล้วว่าให้แยกแช่ยาในถังไฟเบอร์

ส่วนประเด็นเรื่องปลากัดกัน หรือ ติดเชื้อจากปลาซึ่งซื้อมาใหม่ก็มีส่วนครับ แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะว่าที่ไหนๆก็มีเชื้อโรคครับ เลี่ยงไม่ได้ ปลาแข็งแรง จึงจะต้านทานเชื้อโรคได้ คุณเลี้ยงปลาให้ปลาอ่อนแอลง ปลาจึงป่วย

อีกอย่าง คือ ระบบกรองไม่ควรใช้ ซีโอไลต์ครับ พวกนี้เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง จะคาย แอมโมเนียที่ดูดซับไว้ออกมา ตลอดจนไอออน + ต่างๆ ทำให้น้ำคุณภาพเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ควรใช้ หินพัมมีส เป็นวัสดุกรอง หรือ สับสเตรทครับ