1. ถ้าเลี้ยงปลาหมอสี นิยมใช้ปะการังเบอร์ 3 เป็นสับสเตรทครับ เพราะปลาหมอชอบน้ำกระด้างเล็กน้อย หรือจะใช้หินพัมมีสก็ได้ อัดเต็มทุกช่อง และวางด้านบนด้วยใยแก้วขาวสัก 2 ชั่น 2. ใช้กรองบน กรองฟองน้ำ พื้นทีกรองน้อย ประสิทธิภาพต่ำ หรือกรองนอกตู้(แพง) แต่ประสิทธิภาพสูง ปริมาตรมาก ไม่เกะกะพื้นที่ตู้ ถ้ามีงบจำกัด ก็ใช้กรองข้างดีแล้วครับ

ตอนนี้ปะการังหาซื้อยากมากเพราะมันผิดกฏหมายแต่ก็ยังพอมีแล้วถ้าใช้หินพัมมีสแทนจะดีกว่ารึเปล่าครับแล้วคาร์บอนอีก แล้วไอ้เซรามิกอะไรนั่นอีกแล้วไบโอบอลอีกไม่รู้จะใช้อะไรกรองแล้วครับ เยอะจริงๆๆๆคุณว่าไหม

ผมไม่เห็นด้วยครับ ไม่เห็นจะเยอะ และวุ่นวายตรงไหนเลย ทุกอย่าง ก็มีข้อดีข้อเสีย และการใช้ประโยชน์ต่างๆกัน ผมตอบไปเยอะแล้วครับในเวปผม ว่างๆก็ลองเข้าไปอ่านดูครับ http://gene-pool-aquarium.pantown.com/ 1. ปะการัง มีรูพรุนมหาศาล การอัดตัวในช่องกรองแน่น มีคุณสมบัติทำให้น้ำกระด้าง ซึ่งเป็นผลดีต่อปลาในกลุ่มซิคลิดหลายๆชนิด รวมทั้งพวกครอสบรีด ข้อเสียคือ มีน้ำหนักมาก ราคาแพง ผิดกฏหมาย หาซื้อยาก เปื่อยยุ่ยได้ง่าย จากการกัดกร่อนของกรดอินทรีย์ที่เกิดขึ้นในระบบกรอง 2. หินพัมมีส มีน้ำหนักเบา รูพรุนมากพอสมควร การอัดตัวค่อนข้างดี ราคาถูกมาก และไม่เปลียนแปลงคุณสมบัติของน้ำ ข้อเสียคือ รูพรุนอุดตันได้ง่าย 3. คาร์บอน ใช้สำหรับดูดซับสี กลิ่น และ ไอออนต่างๆในน้ำได้ แต่อายุการใช้งานสั้นมาก และมักจะเลือกจับไอออน หรือสารเคมีทุกอย่าง แบบไม่จำเพาะเจาะจง เมื่อใช้ไปนานๆ จะคายสารเคมีซึ่งอาจเป็นสารพิษที่จับไว้ออกมากลับสู่ระบบ ถ้าอยากใช้คาร์บอน ต้องหมั่นเอาออกมาล้างทำความสะอาดบ่อยๆ แต่ก็ไม่จำเป็นเลย 4. ไบโอบอล ถูกออกแบบมาเพื่อลดความแน่นในระบบกรอง ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนอากาศกับน้ำ เมื่อมีการไหลผ่านใบโอบอล แต่ก็ไม่จำเป็นเลย ในตู้ที่มีการให้อากาศในน้ำตลอดเวลา และระบบกรองขนาดเล็ก การอัดตัวของไบโอบอลต่ำมากๆ ไม่สามารถดักจับตะกอนอะไรได้เลย อีกทั้งพืนที่ผิว ก็มีน้อยมากๆ สรุปว่า ไม่ควรใช้กับกรองตู้ปลา 5. เซอรามิกส์ริงก์ (ยี่ห้อดีๆนะครับลิตรละหลายร้อยบาท) มีข้อดีคือ มีความเป็นกลาง ทนทาน มีรูพรุนมหาศาลเช่นกัน การอัดตัวค่อนข้างดี ข้อเสียคือ น้ำหนักมาก ราคาแพงมาก รูพรุนถูกอุดตันได้ง่าย ในยี่ห้อที่ไม่ดี จะมีการละลายของตะกอนสีขาวออกมา ทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงและน้ำขุ่นขาวเรื่อยๆ อีกทั้ง อายุการใช้งานต่ำอีก ลองสรุปดูละกันครับว่าจะใช้อะไรดี?