มีลักษณะเป็นถุงน้ำ หรือเนื้องอกไขมันครับ จากรูป ไม่น่าจะเป็นปรสิตอะไร เลี้ยงปกติ รักษาคุณภาพน้ำ ดูอาการก่อนนะครับ

เหมือนเปนเนื้องอกออกมาค่ะ ตอนนี้ใหญ่ขึ้นนิดนึงแล้วค่ะ ไม่ดีขึ้นเลย พาไปโรงพยาบาลดีมั้ยคะ

ก็ดีครับ ลองดูครับ

วันนี้เอาปลาไปหาหมอที่เกษตรมาค่ะหมอกดดูที่แผลจนปลาตัวเอียงเลยง่ะ ลอยแบบเอียงๆ หมอก็เลยสงสัยว่าเปนถุงลมหรือป่าว หมอจึงจับเอ็กซเรย์ แต่ไม่มีอะไรผิดปกติ (หนูสงสัยว่า ตอนที่เอาไปหาหมอปลายังว่ายดีดีอยู่เลย พอหมอจับเท่านั้นแหละ ปลาเสียศูนย์เลยค่ะ T_T) .. แล้วหมอก็บอกว่าเปนเพราะน้ำเสียหรือป่าว แต่ ไม่น่าจะเปนเพราะน้ำเสียนะคะ เพราะเปลี่ยนน้ำทุกวันๆละ 20% หมอจึงอ้างว่า เปนเพราะเราเปลี่ยนน้ำบ่อยเกินไป ปลาจึงเปนแบบนี้ T_T สุดท้ายยยย หมอให้ยามาหยอด 1 หยดต่อน้ำ 3 ลิตร ไม่รู้ว่ายาอะไรเหมือนกันค่ะ แล้วก็บอกว่าให้ไปหาอีกรอบตอนวันอังคาร จะมีหมอเฉพาะเรื่องปลามา .... สรุป หมอรู้จิงรึป่าวคะเนี่ยว่ามันเปนอะไร ??? เครียดเลยค่ะ

ผมรู้สึกเสียใจครับ ที่แนะนำคุณไปแบบนั้น จริงๆแล้ว ถ้าคุณได้อ่านและศึกษากระทู้เก่าๆมาบ้าง คุณคงอาจ จะพอสรุปได้บ้างว่า ในกรณีปลาป่วยนั้น การนำไปหาหมอ หรือสัตว์แพทย์ตามที่ต่างๆ มักไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควรครับ แต่ที่ผมไม่ห้าม ก็เพราะผมไม่อยากมีปัญหาก็แค่อยากให้คนเลี้ยง ได้รับรู้ ได้เห็นด้วยตนเองจะดีกว่าการเตือน ซึ่งอาจจะถูกมอง ว่าเป็นการใส่ร้ายหมอเสียเปล่าๆ แต่ความจริงทีผมกล้าพูดตรงๆก็คือ การรักษาปลาป่วยนั้น นอกจากจะมีความรู้ในตำรา หรือที่ได้ศึกษา มาโดยตรงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องเลี้ยงปลาเป็น ครับ พูดง่ายๆคือ ต้องมีประสบการณ์การเลี้ยงปลาที่หลากหลายและยาว นานพอสมควร จึงจะทำการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม แค่ เรียนมาไม่พอครับ ต่อให้จบเรื่องโรคปลาอย่างผมมาก็ตาม ถ้าไม่ได้เลี้ยง ไม่ได้ปฏิบัติ ไม่มีทางที่จะรักษาได้ผลดี ประการที่สอง สัตว์แพทย์ เรียนเรื่องปลาในหลักสูตรน้อยมากๆ ครับ ถ้าไม่ได้เรียนต่อเฉพาะทางสัตว์น้ำหรึอศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมทางสัตว์น้ำ ย่อมไม่สามารถรักษาปลาได้แน่นอน ดังนั้นหมอที่จะรักษาปลาได้ผลนั้น ก็คือหมอที่เรียนมาทางด้าน สัตว์น้ำโดยตรง และมีประสบการณ์การเลี้ยงปลาค่อนข้างสูงด้วย ครับ เช่น หมอหนิง จุฬาฯเป็นต้น หรือ อาจารย์หลายท่านที่สอน เกี่ยวกับโรคปลาโดยตรงทั้งประมงเกษตรและอื่นๆ แต่บังเอิญ ท่านไม่ได้รับรักษาปลาให้คนทั่วไปเท่านั้นเอง เป็นต้น ส่วนท่าน อืนๆ ผมยังไม่แน่ใจครับ ในกรณีนี้ ที่ปลาว่ายเอียง ก็คงเกิดจากการกดอย่างแรงด้วยมือ นั่นแหละครับ แต่เขาคงไม่ยอมรับตรงๆหรอก เสียเหลี่ยมหมด ก็อย่างที่บอกครับว่า มันเป็นเนื้องอกไขมัน รักษาด้วยการผ่าตัด ง่ายๆก็ได้ผลแล้วครับ จึงแนะนำว่าไปหาหมอน่าจะดีกว่าทำเอง ไม่นึกว่าจะออกมาเป็นรูปแบบนี้ ส่วนยาที่หมอให้ หวังว่า คงไม่ใช่มาลาไคท์กรีน หรือ พวกดิพเทอเร็กซ์ กลุ่มนี้นะครับ ขอให้เป็นยาปฏิชีวนะทั่วไปเถิดครับ หรือจะถ่ายรูปยาให้ผมดู ก็ได้ครับ สุดท้ายนี้ ลองอ่านกระทู้นี้ดูด้วยครับ http://www.ninekaow.com/hospital/view.php?id=2103

รูปยาค่ะ เค้าคงแบ่งยามาใส่ขวดล่ะมั้งคะ ก็เลยเปนขวดแบบนี้ แต่มีเขียนอยู่บนขวดค่ะ เขียนไว้ว่า EN 100 ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่ามันคืออะไร

เมื่อกี้สงสัยพิมพ์ตกไปค่ะ บนขวดเขียนไว้ว่า En 100 ค่ะ อาการของปลาตอนนี้เปนเหมือนเดิมเลยค่ะ หมอนัดให้ไปหาอีกทีวันอังคาร หนูควรจะพาปลาไปหรือป่าวคะ หรือ ควรจะเปลี่ยนไปหาหมอที่ จุฬาดี??เพราะเนื้องอกจะต้องให้หมอผ่าอย่างเดียวใช่มั้ยคะ หรือถ้าปล่อยเอาไว้โดยที่ไม่ตัดออก จะเปนอันตรายต่อปลาหรือป่าวคะ อันไหนจะมีผลเสียมากกว่ากัน รบกวนขอความเห็นคุณ Rof หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ไม่ทราบเหมือนกันครับ อาจเป็นเอนโรฟลอกซาซินก็ได้ ผมแนะนำว่า ดูอาการไปก่อนครับ ไม่ต้องไปหาหมอที่ไหน แล้วก็อัพเดทตรงนี้เรื่อยๆครับ มันไม่เป็นอันตรายอะไรร้ายแรง ครับ บางทีการย้ายปลาบ่อยๆ หรือ การทำให้ปลาช้ำบ่อยๆ อาจส่งผลเสียไปเรื่องอื่นอีก ขอรูปอัพเดทด้วยจะดีมากครับ

ยาเอนโรฟลอกซาซิน ช่วยรักษาโรคอะไรเหรอคะ?? เกี่ยวกับที่ปลาเปนอยู่ตอนนี้หรือป่าวหว่า... วันนี้อัพเดทรูปมาให้ดูค่ะไม่แน่ใจว่าจะเห็นชัดหรือป่าว รู้สึกว่ามันจะใหญ่ขึ้น นิดนึงนะคะ T_T

ปลาตัวนี้ก็เปนแบบในรูป เลี้ยงอยู่ในตู้เดียวกันเลยค่ะ เป็นมานานมากแล้ว ไม่ขยายใหญ่ขึ้น ไม่รู้ว่ามันเปนอะไรเหมือนกันค่ะ

ตัวนี้ก็เปนค่ะ ในตู้มีด้วยกัน 3 ตัว ซึ่งในตอนแรก 2 ตัวที่เพิ่งเอารูปมาลงเปนก่อนค่ะ (เปนก่อนนานมากๆ) แต่ดูแล้ว คงจะเปนคนละโรคกันใช่มั้ยคะ >.< รบกวนคุณ Rof อีกแล้วค่ะ

รูป1และสองเป็นเนื้องอกนั่นแหละครับ ถ้าไม่ใหญ่ขึ้นมากมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการดำรงชีวิต อย่าไปทำอะไรมันมากครับ อย่างที่บอกเพราะมันจะป่วยกลายเป็นเรื่องอื่นไปอีก ส่วนรูปที่3 มองไม่ชัดครับ ถ้าเป็นลักษณะคล้ายๆซีสต์ ก็น่าจะ เป็นแบบเดียวกัน อาการพวกนี้เกิดจากไวรัสครับ รูปแบบของเนื้องอกก็มีหลายแบบ ลองอ่านบทความนี้ประกอบครับ http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board6&topic=36&action=view อ้อ ถ้าเป็นเอนโรฯ ก็เป็นยาปฏิชีวนะครับ รักษาแบคทีเรียทั่วๆไป ตัวยาค่อนข้างแรงเพราะเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่อยู่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ หมอก็มักจะจัดพวกยาปฏิชีวนะให้แบบนี้เสมอๆ เพราะมันตอบโจทย์ได้แทบทุกโจทย์ เช่นในกรณีนี้ มันก็อาจจะช่วยรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนบริเวณแผล ได้ครับ อ่านบทความประกอบนะครับ

หมายความว่าตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรใช่มั้ยคะ จากที่อ่านในบทความที่คุณ Rof ให้มา แสดงว่า ปลายังมีโอกาสหายถ้ารักษาคุณภาพน้ำให้ดี แต่ก็ยังมีโอกาสขยายใหญ่ขึ้นอีกถ้าสภาพแวดล้อมที่ปลาอยู่มันแย่ หนูอยากจะดูแลปลาให้ดีที่สุด จึงอยากจะขอความรู้สักหน่อย ตามนี้เลยค่ะ.... 1] กรองตอนนี้ใช้กรองฟองน้ำ 1 อัน และกรองที่เปนกระปุก มีชั้นหินก้อนเล็ก 1 ชั้นน่ะค่ะอีก1 อัน อยากทราบระยะเวลาการล้างกรองค่ะ กี่วันควรจะล้างดีคะ 2] การที่หนูเปลี่ยนน้ำ 20% ทุกวัน จะมีผลทำให้ปลาป่วยตามที่หมอบอกจิงหรือป่าวคะ ถ้ามีผลจิงๆจะต้องเปลี่ยนน้ำยังไงถึงจะเหมาะสมคะ 3] ตอนที่ไปหาหมอ หมอถามหนูว่าในตู้มีหินหรือป่าว พอตอบไปว่า ไม่มี หมอก็สวนกลับมาเลย ว่า ควรจะมีหินรองที่พื้น (เพราะอะไรก็ไม่ได้บอก) แต่จากที่เคยไปศึกษาอ่านในเวปมา เคยมีคนบอกว่า ตู้โล่งๆจะดีที่สุด เพราะ ขี้ปลาจะได้ไม่หมักหมม ทำความสะอาดง่าย ... ก็เลยสงสัยค่ะ ว่าจิงๆแล้ว อันไหนกันแน่ที่ ถูกต้อง 4]ต้องใสยาที่หมอให้มาจนหมดขวดเลยหรือป่าว?? แล้วหลังจากที่เลิกใส่ยาไปแล้ว ก็เลี้ยงเค้าตามปกติใช่มั้ยคะ?? วันนี้ถามเยอะไปหน่อย รบกวนด้วยนะค้า >.<

1. ตู้เล็ก มวลน้ำน้อย การรองรับของเสียก็น้อยตามไปด้วยครับ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำก็จะง่ายกว่าตู้ใหญ่ขึ้น และสำหรับปลาตัวแค่นี้ แนะนำว่า ถ้าเลี้ยงตัวเดียว อย่างต่ำ ควรใช้ตู้ 24 นิ้ว กรองมุมครับ สับสเตรทเป็นหินพัมมีสผสม ปะการังเล็กน้อย วางด้านบนด้วยใยแก้ว 2. ถ้าเปลี่ยนบ่อย เราต้องแน่ใจว่าน้ำใหม่ ปราศจากคลอรีน และมีคุณภาพดีเท่าๆกันทุกวันครับ ผมแนะนำว่า อย่าไปสนใจ อะไรที่เค้าพูดเลยครับ เพราะเค้าคงไม่เคยเลี้ยงปลาอะไรมาก่อน ได้แต่ฟังๆ หรืออ่านๆผ่านๆมาเท่านั้น การเลี้ยงปลาบางชนิด บางรูปแบบ มีการเปลี่ยนน้ำใหม่ตลอดเวลาหรือโอเวอร์โฟลว์ ด้วยซ้ำไปครับ อยู่ที่การจัดการของเรามากกว่าว่าจะทำให้ เหมาะสมแค่ไหน สำหรับของคุณ ความเหมาะสมในการเปลี่ยน น้ำ อยู่ที่ การเลี้ยงของเราครับ หมั่นสังเกตุด้วยตนเอง ก็จะเข้าใจ ว่า เมื่อใดควรเปลี่ยน โดยดูจาก อาหารที่ให้ ลักษณะสีน้ำ ผิวน้ำ ความขุ่นใส ตะกอน ฟอง และอาการของปลา ฯลฯ 3. ถ้าคุณตอบว่ามี หมออาจจะตอบว่า ไม่ควรมีก็ได้ครับ อย่าเอา นิยงนิยามอะไรกะเค้ามากเลย มีหมอน้อยคนครับ ที่ยอมรับว่า ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องสัตว์บางกลุ่ม ยังไง เค้าก็ดิ้นไปได้เรื่อยๆ ครับ การปูหิน ก็เคยตอบไปเยอะแล้ว ไม่รู้คุณจะหาเจอหรือเปล่า ว่า จะปูก็ได้ครับ แต่ต้อง ดูแลความสะอาด ตลอดจนดูอาการ ป่วยของปลาเป็น และแก้ไขได้ถูกต้องทันท่วงที เพราะตู้ปลาที่มีหิน จะเป็นที่อาศัยของเชื้อโรค ตัวอ่อนปรสิต ได้มากกว่าตู้โล่งหลายเท่า ครับ 4. คงไม่ต้องใส่แล้วล่ะครับ

ตอนนี้ไม่ได้ใส่ยาที่หมอให้มาแล้วค่ะ น้องปลายังมีอาการปกติ ร่าเริงดี แต่..เนื้อที่งอกออกมาก็ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยค่ะ คงต้องรอดูอาการกันต่อไปใช่มั้ยคะพี่ >.< มีคำถามอยากจะถามสักข้อค่ะ ตามรูปด้านล่าง อยากจะทราบว่าปลาตัวนี้เปนจุดขาวหรือป่าวคะ มีจุดเล็กๆแค่ช่วงหน้า (เปนมานานมากแล้ว) แต่ที่ลำตัว และ ส่วนอื่นๆไม่มีจุดค่ะ จะมองเหนจุดเฉพาะตอนที่เปิดไฟตู้ปลาเท่านั้น,,, ไม่ทราบว่ามันเปนโรคหรือป่าวคะ

รูปนี้เลยค่ะ

รอดูไปครับ ไม่แน่อาจเป็นแค่ถุงน้ำ แตกออกแล้วก้หายเองได้ ไม่ใช่โรคจุดขาวครับ แต่เป็นอะไรยากที่จะระบุ รูปมองไม่ออกเลยครับ

สงสัยคงโพสรูปให้ดูไม่ได้น่ะค่ะ เพราะถ่ายรูปออกมาก็มองไม่เหน ตอนนี้อาการของปลาตัวแรกก็เหมือนเดิมค่ะ ก้อนที่บวมออกมาใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ขอบคุน คุณ Rof มากนะคะ เอาไว้ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมา update ให้ทราบค่ะ

ยินดีครับ

คุณ RoF คะ ตอนนี้เนื้อที่มันงอกออกมามีขนาดใหญ่ขึ้นมาก เหนชัดเจนมากค่ะ T-T ตอนแรกเปนแค่ตัวเดว แต่ตอนนี้ปลาอีกตัวที่เลี้ยงด้วยกัน ก็เปนคล้ายๆแบบเดวกันเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะทำยังไงดีคะ อีกเรื่องนึงก็คือ ทำไมช่วงนี้ น้ำในตู้ปลามันออกสีขาวขุ่นๆจัง ขนาดเพิ่งเปลี่ยนน้ำไปเองค่ะ ไม่ทราบว่าสาเหตุมันเกิดมาจากอะไร???? อีกคำถามค่ะ มีปลาตัวนึง (หัววุ้น) ชอบลอยอยู่ ตรงมุมด้านบนค่ะ ไม่ค่อยว่ายน้ำ แต่พอให้อาหาร มันก็ว่ายมากินได้ตามปกติ ไม่ทราบว่ามันเปนโรคอะไรหรือป่าวคะ ถามซะเยอะเลย ยังไงรบกวนด้วยนะคะ ขอบคุนมากค่ะ

สรุปว่าพาไปหาหมอก็ยังไม่หายและเป็นหนักขึ้นหรือเปล่าครับ แนะนำว่า ลองเปลี่ยนหมอดูครับ เป็น รพสัตว์น้ำจุฬาฯน่าจะช่วยผ่าตัดปลาดังกล่าวได้อย่างถูกวิธีครับ น้ำขุ่นง่าย น่าจะให้อาหารเหลือมากครับเพราะช่วงนี้ อุณหภุมิแกว่งปลากินน้อย ย่อยสลายช้า แก้ไชระบบกรอง สับสเตรทและลดอาหารให้น้อยๆครับ คงไม่สามารถระบุชื่อโรคได้ครับ รู้เพียงว่ามันผิดปกติ และพร้อมจะป่วยด้วยโรคที่มีชื่อ และไม่มีชื่อ และกลุ่มอาการต่างๆมากมายครับ สาเหตุก็คงมาจากคุณภาพน้ำอย่างที่กำลังเจออยู่ครับ เรียนรู้การเซตระบบกรอง การเปลี่ยนถ่ายน้ำการรักษา คุณภาพน้ำในแต่ละสถานการณ์ สับสเตรท การรักษาค่าพารามิเตอร์ต่างๆในน้ำให้คงที่ เช่นการใช้ฮีตเตอร์ที่ถูกวิธี ฯลฯ ในเวปแห่งนี้ครับ

อาหารไม่เหลือนะคะให้ไปเท่าไหร่ก็หมด (ให้ไม่เยอะค่ะ) แต่ที่น้ำมันขุ่น มันจะขุ่นเปนสีขาวขุ่นค่ะ ส่วนเรื่องระบบกรอง ก็มีกรองฟองน้ำ 2 อันค่ะ เพราะตู้เล็ก ไม่รู้ว่าจะเซทระบบกรองได้อย่างไร แล้วจำเปนต้องมีฮีทเตอร์ใช่มั้ยคะ จะได้หาซื้อมา เราควรตั้งอุณภูมิไว้ที่เท่าไหร่คะ รบกวนหน่อยค่ะ

ตู้ขนาดนั้นใส่ฮีตเตอร์ไป ก็ต้มสุกซะเปล่าๆครับ ค่อยๆเก็บเงินซื้อตู้ที่ขนาดเหมาะสมกับการเลี้ยงปลาพวกนี้ดีกว่า แนะนำ 36 กรองข้างเต็มครับ แล้วทุกอย่างจะนิ่ง จะดีขึ้นกว่านี้