รูปที่ 2 ครับ

รูปสุดท้ายครับ มันจะขาวๆเป็นหย่อมๆ ตามตัว

เครียดมากครับ สงสารมัน

ป.ล. ก็กินอาหารหมดทุกครั้งนะครับ ครั้งละราวๆ 7 - 8 เม็ด ฮิคาริเม็ดจม

ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะว่า สัตวแพทย์เรียนเรื่องปลามาน้อยมากๆ ชื่อยา วิธีการใช้ยา ก็แค่เปิดตำราเก่าๆอ่านเอาแล้วทำตาม ผลก็คือ แนะนำออกมาเป็นฟอร์มาลีน อย่างที่คุณได้ยินนั่นแหละครับ ยิ่งถ้าเป็นหมอทึ่ไม่ได้เลี้ยงปลา หรือมีประสบการเรื่องการเลี้ยงปลามาบ้าง ก็ยากที่จะรักษาปลาป่วยหายครับ

สรุปสั้นๆครับว่า แช่ด้วย เตทตร้าซัยคลิน 30 มก ต่อลิตร เกลือแกง 0.5 กรัมต่อลิตร ร่วมกับยารอฟ 1 ซีซี ต่อน้ำ 100 ลิตร กรองฟองน้ำ หรืออาจเพิ่มด้วยกรองแขวนก็ได้ครับ

เปลี่ยนน้ำและยา สามสิบเปอร์เซนต์ทุกๆสามวันครับ

ขอบคุณมากๆครับคุณต้น หมอหมาไม่ใช่หมอปลา คำนี้ จำจนตาย แล้วว่าแต่ เวลาผมเปลี่ยนน้ำและยา เอาไงดีครับ เกลือนี่ เราต้องเติมแค่ส่วนที่หายไป % แล้วเตตราซัยคลินกับยา ROF เราเปลี่ยน % ที่หายไปเช่นน้ำสิบลิตร เอาออกสามสิบ % เพิ่มยาเพียงสามสิบ เช่นเตตราซัยคลิน "ใส่ใหม่เกือบๆหนึ่งร้อยมิลลิกรัมเพระน้ำหายไปสามลิตร" หรือ "ใส่เต็มคือสามร้อยมิลลิกรัมแม้เปลี่ยนน้ำเพียงสามลิตรครับ" ผมอาจจะพิมพ์มางงหน่อย อย่างไรรบกวนด้วยครับ ขอบคุณคุณต้นมากครับ แล้วขอความรู้หน่อยครับ ไอ้โรคที่ปลาผมเป็นตอนนี้ มันมาจากเชื้ออะไรหรือครับ ราก็ไม่ใช่

คำว่า เปลี่ยนน้ำ และ ยา สามสิบเปอร์เซนต์ บ่งบอกไว้แล้ว ชัดเจนครับ

อาการแบบนี้ เกิดจากสภาพการเลี้ยงไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานานๆ เท่าที่เห็นก็คือ ตู้เล็กเกินไป และไปใส่ฮีตเตอร์ที่อุณหภูมิสูงเกินไปเป็นระยะเวลานาน เรื่องนี้เคยอธิบายไปหลายหนแล้วว่า ปลาสวยงามส่วนใหญ่แทบทุกชนิดในโลก ไม่ได้อยู่อาศัยในธรรมชาติที่น้ำอุณหภูมิ 30 องศาฯ การที่เราต้องใส่ฮีตเตอร์ ที่อุณหภูมิ 30 องศาฯ ก็เพื่อใช้ในการกำจัดตัวอ่อนเชื้อจุดขาวให้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ก็เป็นการทรมาณปลาไปด้วยในตัวซึ่งเราก็ต้องยอมทำ

ไม่ได้หมายความว่า ใช้ฮีตเตอร์รักษาทุกโรค และปลาต้องอยู่ที่อุณหภูมิ 30 องศาฯตลอดเวลาแต่อย่างใด ลองสังเกตุน้ำในธรรมชาติที่มีปลาอาศัยอยู่เป็นปกติสุขดูครับว่า มันอุณหภูมิเท่าไร จริงๆเรื่องพวกนี้ ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ซับซ้อนอะไรเลยครับ