ก็เอา ที่มี กรอง ข้าง สิ คับ หรือ เอา ตัว กรอง ที่ ติดกับ สายเป่าลม ที่เป็น ฟองน้ำทรงกลม ดำๆ

เรื่องกรอง แบบไหนไม่ชำนาญค่ะ เพราะเคยใช้แต่กองอย่างที่คุณ โอโอบอกคือ กรองข้างมีลูกบอลมาด้วย อันนั้นติดอยู่ที่ตู้อยู่แล้ว ก็ใช้ได้ดีค่ะ

ส่วนกรองแบบกล่องข้างในมี่คาร์บอน กรวดกับใยแก้ว อันนั้นก็ดี แต่คิดว่าตู้ใหญ่ขนาดนี้ ใช้กรองข้างดีกว่าค่ะ

คุณเอกค่ะ (คงไม่ใช่เอกซิดนีย์นะ)

หากว่าง ๆ ช่วยเข้ามาใหม่พร่งนี้ ดิฉันมีได้ข้อมูลการรันน้ำในตู้ที่จะช่วยให้เกิดระบบที่ดีมาให้ค่ะ

พอดีมันยาวต้องเรียบเรียงค่ะ

ตู้ใหม่ ๆ แบบนี้อยากให้เริ่มระบบที่ดีไปเลยมันจะได้ สะดวกต่อเราในอนาคต และดีต่อลูก ๆ ที่จะต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในตู้ค่ะ

หมายเหตุ คุณอย่าเพิ่งซื้อปลานะคะ ต้องจัดการระบบในตู้ให้เสร็จก่อนราวสามอาทิตย์ค่ะ

พรุ่งนี้เจอกันค่ะ

วิธีนี้ได้จากเว็บสองสามเว็บนอกค่ะ เค้าไม่แนะนำการที่แค่ใส่น้ำยาปรับคลอรีนและใส่ปลาเลย ฝรั่งแคร์ชีวิตมาก ๆ ค่ะ ซึ่งมี่คิดว่าน่าจะดีและพอทำได้ไม่ลำบาก

เคยเข้าเว็บของพวกเราก็มีข้อแนะนำนี้เหมือนกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ปลาน้อย ๆ

แต่อันนี้มีวิธีไม่ใช้ปลาด้วยค่ะ

มี่ไม่เคยทำ แต่ถ้าจะเริ่มเลี้ยงล๊อตใหญ่อีกครั้งก็จะทำตามแน่นอนค่ะ

หากคุณเอกลองใช้นะ(ไม่ทำก็ไม่เป็นไร เป้นข้อมูลทางเลือกให้น่ะค่ะ) ได้ผลอย่างไรช่วยมาเล่าด้วยนะ

การเซ็ตน้ำในตู้โดยไม่ใช้ปลา

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว วิธีที่จะให้ปลาที่รักของท่านปลอดภัยจากพิษของสารต่าง ๆ ในน้ำ ได้มีการแนะนำวิธีการเซ็ตน้ำในตู้ปลาก่อนที่จะใส่ปลาจริงๆ ลงไปเลี้ยงเพื่อความปลอดภัยของปลา ด้วยการใส่ปลาครั้งละน้อย ๆ ในช่วงเริ่มต้น ดังวิธีการคือ
1. รองน้ำใส่ในตู้ปลา ใช้น้ำประปาจากท่อได้
2. หยดน้ำยาปรับสภาพน้ำตามปริมาณที่ระบุข้างขวดอย่างถูกต้อง
3. เสียบปลั๊กเครื่องกรองน้ำและเปิดให้ให้ทำงานสามวันก่อนที่จะนำปลามาใส่ในตู้***
4. เริ่มนำปลามาใส่
-การใส่ปลาชุดแรกหลังจากเปิดเครื่องกรองให้ทำงานในตู้เปล่ามาแล้วสามวัน
ซื้อปลาทองธรรมดา ๆ ราคาไม่แพง อาทิ ออรันดาขนาด 2-2.5 นิ้ว สัก 2-3 ตัวมาใส่ลงไป ให้อาหารตามปกติ ห้ามใส่ปลาอื่นเพิ่มเติมภายในเวลา 3 สัปดาห์จากนี้

-หลังจาก 3 สัปดาห์นี้แล้ว หากปลาดูมีสุขภาพแข็งแรง น้ำใส ไม่มีกลิ่นเหม็น จึงสามารถใส่ปลาเพิ่มได้

-ควรระวังอย่าใส่ปลามากเกินไป ควรใส่ปลาใหม่เพิ่มเพียงหนึ่งคู่ต่อ 2-3 สัปดาห์ กระทั่งจำนวนปลาสัมพันธ์กับปริมาตรน้ำ โดยถือเกณฑ์ ปลาขนาด 1 นิ้ว ต่อน้ำ 1-2 ลิตร ดังนั้น หากเป็นปลาขนาด 10 นิ้ว ก็ต้องเลี้ยงในน้ำ 10-20 ลิตร เป็นอย่างน้อย หากเป็นปลาตัวละ 2 นิ้ว จำนวน 5 ตัว ก็ต้องเลี้ยงในตู้ 10-20 ลิตรเป็นต้น

วิธีใหม่คือ การเซ็ตน้ำในตู้โดยไม่ใช้ปลา

แน่นอนว่าวิธีนี้เพิ่มขั้นตอนในการที่ต้องมานั่งเทสต์ค่า แอมโมเนีย ไนไตร์ท ไนเตรทในน้ำ แต่ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อปลาที่สุด ไม่ต้องใช้ชีวิตน้อย ๆ ของปลามาเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
หาอุปกรณ์เพิ่มจากวิธีแรกเพียง ชุดทดสอบค่าแอมโมเนีย และไนไตร์ท(อย่างน้อยๆ ไนเตรทยังไม่ต้องก็ได้)
เมื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตู้และใส่น้ำเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งเครื่องกรองซึ่งมีวัสดุกรองต่าง ๆ กรวด ไบโอบอล ฯลฯ ครบ ให้เดินเครื่องกรอง
ใส่อาหารปลาลงในตู้เปล่า(ตู้ที่ยังไม่ได้ใส่ปลาลงไป) ทุกวัน ประมาณว่ามีปลาทองหนึ่งนิ้วสองสามตัวอยู่ในนั้น
เปลี่ยนน้ำ 20% ทุกสัปดาห์ ตรวจสอบระดับแอมโมเนียและไนไตร์ทเป็นประจำ โดยให้ค่าแอมโมเนียและไนไตร์ท มีค่า เป็น 0 พีพีเอ็ม ส่วนไนเตรท(หากตรวจ) อยู่ที่ต่ำกว่า 30 พีพีเอ็ม
เมื่อได้ค่าดังกล่าวแล้ว คุณก็พร้อมแล้วที่จะใส่ปลาลงในตู้ โดยไม่ต้องเอาน้องปลามาเสี่ยงอย่างแต่อย่างใด

แก้คำผิดนิดนึง วิธีแรกเป็นการเซ็ตน้ำในตู้โดยใช้ปลาค่ะ

และ หลังจากเซ็ตวิธีนี้แล้ว คุณเอกแค่ดูดน้ำเก่าและใส่น้ำใหม่ครั้งละ 30 % อาทิตย์ละครั้ง ก็ใช้ได้แล้วค่ะ หรือว่าจะเป็น อาทิตย์ละ สองครั้ง ครั้งละ 20% (ใช้น้ำก๊อกได้เลย) ก็ยิ่งดีค่ะ

น้องปลาก็จะแฮปปี๊แจ๋วแหววรักคุณเอกสุด ๆ

แถมนิด

แช่อาหาร(หากให้อาหารแห้ง) ในน้ำก่อนให้ปลากินราว สองนาที

ตักอาหารที่ปลากินเหลือทิ้งภายในสามถึงห้านาทีค่ะ
จริง ๆ แล้วเรานั่งดูปลา นะ ภายในสองนาทีเค้าก็ทานไปจำนวนมากจริงๆ ค่ะ

จะทำให้ปลอดภัยจากโรคว่ายน้ำตีลังกาที่เป็นกันบ่อยมาก ๆ ค่ะ

หึหึ...พี่มี่ขยันจัง

แนะนำกรองข้างนะคะ ปลาทองมีเมือกเยอะ กรองข้างจะช่วยเก็บพวกเมือกที่ลอยบนผิวน้ำได้

เรื่องการเซตกรองก็อย่างที่พี่มี่บอกข้างบนนั่นหล่ะค่ะ