Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา

0008840

ปลาทองครีบเปื่อย ไม่มีคนมาตอบเลยค่ะ

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-04 14:52:17]

สืบเนื่องจากกระทู้นี่ค่ะ
http://www.ninekaow.com/hospital/?action=view&id=0003620

เนื่องจากยังไม่มีคนมาตอบเลย แล้วเจ้าของกระทู้ก็ใจร้อนกลัวมันจะตายน่ะค่ะ จะให้ทำยังไงบอกมาได้เลยนะคะ T^T ไม่อยากให้มันตายค่ะ
ขอความกรุณาด้วยนะคะ

ความคิดเห็นที่ 1

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-04 14:53:01]

เจ้าปลาน้อยดิ่งพื้นตู้แบบนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ

ความคิดเห็นที่ 2

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-04 14:53:32]

แถมน้ำก็เป็นฟองเต็มตู้เลย ส่งผลกระทบอะไรหรือเปล่าคะ

ความคิดเห็นที่ 3

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-04 14:57:18]

อีกรูปค่ะ มันหันหน้ามาพอดี ครีบข้างที่เปื่อยอยู่อีกด้านนึงค่ะ ตอนนี้กุดเข้าไปกว่าเมื่อวานอีก T^T

ความคิดเห็นที่ 4

tutaza
tutaza
149
[2012-08-04 16:30:28]

นี่ครับลองหาดูจากกระทู้เก่าๆ ขอให้น้องปลาหายไวๆนะครับ ^^

http://www.ninekaow.com/hospital/?action=view&id=0002065

แต่ของผมตู้ พยาบาลที่ใช้ 24 นิ้ว กรองฟองน้ำ 1 ตัว....หินเอาออกให้หมดเลยครับ ทำให้ตู้โล่งที่สุด

ความคิดเห็นที่ 5

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-04 18:57:49]

ตอนนี้ในตู้มีสิ่งเหล่านี้ค่ะ กรองพื้นตู้ 1 อัน กรองอันเหลี่ยมๆอันเล็ก 1 อัน แล้วก็หัวทราย 1 อันค่ะ กับขวดโหล่ใส่หินสีด้วยค่ะ

ความคิดเห็นที่ 6

tutaza
tutaza
149
[2012-08-04 19:47:30]


เดต้าไซคลิน หาซื้อตามร้านขายยาของ คนทั่วไปเลยครับ

ปริมาณ ตามลิงค์ ด้านบน ลิงค์ล่างนี่ คำนวน น้ำในตู้เราครับ

http://aqua.c1ub.net/calculator.htm


ปล.ไม่ใช่เกลือปรุงทิพย์นะครับ ต้องใช้เกลือเม็ดใหญ่ๆหน่อย ตามรูปอ่ะครับ

ความคิดเห็นที่ 7

Kryro
Kryro
766
[2012-08-04 21:06:23]

...ปลาตอนนี้เป็นไงบ้าง แล้วทำการรักษาอย่างไรไปบ้าง...

...กรองพื้นตู้ หรือ กรองใต้กรวด ที่เห็นนั้นไม่มีประโยชน์เลย...
...เพราะเท่าที่เห็นจากในภาพ พื้นตู้ไม่ได้มีการปูกรวด...
...เปลี่ยนไปใช้ กรองแขวน หรือ กรองในตู้อันใหญ่ๆ จะดีกว่า...

ความคิดเห็นที่ 8

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-05 14:22:11]


ความคิดเห็นที่ 7
Kryro

...ปลาตอนนี้เป็นไงบ้าง แล้วทำการรักษาอย่างไรไปบ้าง...

...กรองพื้นตู้ หรือ กรองใต้กรวด ที่เห็นนั้นไม่มีประโยชน์เลย...
...เพราะเท่าที่เห็นจากในภาพ พื้นตู้ไม่ได้มีการปูกรวด...
...เปลี่ยนไปใช้ กรองแขวน หรือ กรองในตู้อันใหญ่ๆ จะดีกว่า..._


ปลาตอนนี้ยังคงนอนนิ่งๆเหมือนเดิมค่ะ ตอนให้อาหารก็ว่ายขึ้นมากิน แต่พอหมดแล้วก็ทิ้งดิ่งลงไปพื้นตู้ไปเลยค่ะ ไม่มีการขยับตัวใดๆทั้งสิ้นเว้นแต่ว่าจะไปเขี่ยมัน หรือไม่นานๆทีก็จะว่ายพุ่งตัวแบบเร็วมากรอบนึงแล้วก็กลับมาเอาหัวปักตู้ที่เดิม มันนอนตำแหน่งเดิมด้วยนะคะ ไม่ว่าจะว่ายไปไหนมันก็กลับมาทิ้งตัวลงที่เดิม ส่วนครีบที่เปื่อยก่อนหน้านี้ที่ขยับไม่ได้ก็ดูเหมือนว่าจะขยับได้บ้างแล้ว ดูไม่ออกเหมือนกันค่ะว่ามันแย่ลงหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือนว่าสีครีบมันจะช้ำๆยังไงก็ไม่รู้ และที่สังเกตอีกอย่างนึงก็คือปากปลาอ่ะค่ะ มันดูซีดๆยังไงไม่รู้ ไม่แน่ใจว่ามันจะเปื่อยหรือมันเป็นแบบนี้อีกแล้ว เพราะว่าปลาอีกตัวก็ปากสีส้มดีน่ะค่ะ




ถ้ากรองพื้นตู้คือต้องปูกรวดทับเหรอคะ ทีแรกก็ทำแบบนี้ค่ะ เอาใยกรองปูทับกรองพื้นตู้ แล้วก็ตามด้วยหิน ไม่ทราบว่าถูกต้องไหมค่ะ แต่ที่จัดไปแบบที่เห็นในภาพเพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะเอาไว้กรองค่ะ เอาไว้พ่นอากาศเฉยๆ ยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะว่าควรทำอย่างไร ส่วนเรื่องกรองแบบอื่นตอนนี้ยังไม่มีงบค่ะ แล้วก็ตู้ปลาอันเล็กด้วย ถ้าใช้กรองฟองน้ำจะดีกว่ากรองกล่องไหมคะ

ส่วนเกลือก็ไปซื้อเกลือเม็ดมาแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ใส่ในปริมาณพอเหมาะหรือเปล่า แบบว่ากะๆเอาน่ะค่ะ เห็นเค้าบอกว่าให้ใส่ 0.5 กรัม ต่อลิตร ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใส่เท่าไหร่ (น้ำในตู้ 9 ลิตรน่ะค่ะ) เลยใส่ไปสามสี่เม็ด

ความคิดเห็นที่ 9

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-05 14:29:37]

ภาพล่าสุดค่ะ
ปลานอนนิ่งมากเลยค่ะ ผ่านมาสองสามวันแล้วก็ยังนอนนิ่งอยู่ แทบไม่ว่ายเลยค่ะ

ความคิดเห็นที่ 10

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-05 14:33:17]

อันนี้ยาที่ใส่ลงไปค่ะ วันนี้จะทำการถ่ายน้ำ 30% แล้วใส่ยาเพิ่มค่ะ อยากทราบว่าใส่ยาเท่าเดิมกับที่ใส่ครั้งแรกเลยหรือเปล่าคะ

ความคิดเห็นที่ 11

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-05 14:41:23]

อาหารปลาที่ใช้ SAKURA ค่ะ ต้องเปลี่ยนไหมคะ ควรให้อาหารแบบไหนดีคะ

ความคิดเห็นที่ 12

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-05 14:42:12]

แล้วก็นี่เกลือที่ใช้ใส่ค่ะ กะปริมาณไม่ถูกจริงๆค่ะ ใส่มากไปปลาจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ แล้วถ้าใส่น้อยไปมันจะไม่ได้ผลหรือเปล่า

ความคิดเห็นที่ 13

toytoy27
toytoy27
391
[2012-08-05 15:05:07]

ปลาหางเปื่อย เปลี่ยนน้ำใหม่ให้สะอาดๆ ใส่เกลือดเล็กน้อยก็พอแล้วค่ะ ไม่นานหางปลาห็หาย
ส่วนเรื่องระบบในตู้ กรองใต้กรวด ถ้าไม่ปูหินมันก็ไม่มีประโยชน์ ถึงปูหินไปก็หมักหมมอีก
เอาของในตู้ออกให้หมดแล้วใช้แค่กรองกระปุกก็พอค่ะ

ความคิดเห็นที่ 14

Kryro
Kryro
766
[2012-08-06 22:17:31]

...เพิ่งเห็นว่าตู้เล็กขนาดนั้น...

...ขอแนะนำอย่างนี้...
...เอากรองพื้นตู้ กับ โหลแก้ว ออกไปซะ เหลือไว้แค่กรองกระปุกก็พอ...
...อาหารปลา แนะนำให้เปลี่ยนเป็น ยี่ห้ออื่น...
...เรื่องเกี่ยวกับ คลอรีนในน้ำ คงจะทราบใช่มั้ย...

...ส่วนการดูแลรักษาเบื้องต้นในกรณีนี้...
...อย่างที่เพื่อนสมาชิกบอกไปแล้ว แค่รักษาสภาพน้ำให้ดี...
...แต่ในเมื่อใส่ยาไปแล้ว ก็แล้วไป (ไม่รู้ว่าใส่ไปเท่าไร)...
...จากนี้ให้หยุดใช้ยาก่อน แต่ยังไม่ต้องเปลี่ยนน้ำใหม่หมด...
...ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำวันละ 10-20% ทุกวัน เพื่อกำจัดยา...
...สังเกตดูจนกว่า ฟอง จะลดน้อยลงหรือไม่มี...
...ก็ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำตามปกติ...

...การใส่เกลือ...
...ใส่ที่สัดส่วน เกลือ 1 กรัม / น้ำ 1 ลิตร...
...ใช้ได้ทั้งในภาวะการเลี้ยงปกติ และ ร่วมกับการใช้ยารักษา...

...ส่วนการใช้ยาที่ถูกต้อง (เบื้องต้น) ในกรณีแช่ยา...
...ใช้ยาปฎิชีวนะ 10-30 มิลลิกรัม / น้ำ 1 ลิตร (ขึ้นอยู่กับอาการ)...
...เปลี่ยนถ่ายน้ำและยา 20-30% ทุก 2-3 วัน...

...ยาที่ใช้ได้เป็น ยาปฎิชีวนะของคน ที่หาซื้อได้ทั่วไป...
...เช่น อ๊อกซี่เตทตร้าซัยคลิน, เตทตร้าซัยคลิน, อิริโธมัยซิน, แอมม็อกซี่ซิลิน ฯ...

ความคิดเห็นที่ 15

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-07 14:36:38]

รายงานเพิ่มนะคะ ตอนนี้น้องปลาทองมีอาการคือ ลอยนิ่งๆอยู่ด้านบน ไม่ว่ายน้ำ หรือนานๆจะว่ายที ไม่ค่อยลงมาด้านล่างตู้ แต่ไม่ได้หงายท้องนะคะ มีกระพือครีบบ้างเล็กน้อย (จากที่เคยเอาหัวจิ้มพื้นตู้แล้วหางชี้แบบในรูปด้านบน) ไม่ทานอาหาร (ก่อนหน้านี้ทานได้ปกติค่ะ ไม่ว่าจะหัวทิ่มยังไงก็จะว่ายขึ้นมาทานเองได้) แบบนี้แปลว่ามันทรุดลงหรือเปล่าคะ ส่วนเรื่องครีบดูเหมือนจะหยุดเปื่อยแล้วค่ะ

ความคิดเห็นที่ 16

Kryro
Kryro
766
[2012-08-07 19:56:21]

...ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าเลี้ยงมายังไงและนานเท่าไร...
...ปลาคงจะอ่อนแอลงจากสภาพความเป็นอยู่ที่อาจจะไม่เหมาะเท่าไร...

...ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าที่แนะนำไป...
...ขึ้นอยู่ที่ตัวปลาเองแล้วว่า มันเข้มแข็งพอที่จะอยู่ต่อไปหรือไม่...

...ขอให้โชคดี...

ความคิดเห็นที่ 17

iqzaquezzs
iqzaquezzs
14
[2012-08-07 21:11:31]

ขอบคุณมากนะคะที่ให้คำแนะนำ เมื่อครู่นี้น้องปลาทองทรุดหนักกระทันหัน อยู่ดีๆก็เลือดออกที่เหงือกทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังว่ายน้ำได้บ้าง แต่คืนนี้น้องปลาทองคงจะไปแล้วละค่ะ ขับรถไปที่ร้านขายปลามาเค้าบอกว่าช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ มันหายใจอ้าปากพะงาบๆแบบนานๆจะอ้าปากที ดวงตาทั้งสองข้างก็ลึกเข้าไปด้านใน ยังโชคดีอย่างนึงที่ได้ดูแลมันจนลมหายใจสุดท้าย น้องเค้าอดทนมาจนถึงที่สุดแล้วละค่ะ รู้สึกเสียใจมากๆค่ะ T^T


ตอนนี้เหลือปลาทองอีกตัวนึงค่ะ มันยังคงสมบูรณ์แข็งแรงดี ว่ายน้ำป๋อมแป๋มอย่างร่าเริง คงไม่รู้ค่ะว่าเพื่อนมันกำลังจะจากไปแล้ว ตัวนี้รับรองว่าจะดูแลให้ดีที่สุดค่ะ



______________
ล่าสุดค่ะ น้องปลาทองจากไปอย่างสงบแล้วค่ะ T^T แต่ดูเหมือนว่ามันจะทรมานนิดหน่อย เพราะมันตายแบบอ้าปากค้างเลย TT

ความคิดเห็นที่ 18

FilmFire120
FilmFire120
50
[2012-08-10 21:41:22]

เสียใจด้วยนะครับ....

ไม่รู้ว่าคุณเลี้ยงแบบไหนมานะ แต่อย่าลืมขังน้ำไว้ก่อน 1 คืน ก่อนเปลี้ยนน้ำนะครับใส่เกลือทะเลตามสมควรด้วยเรื่องอาหาร ลองดูแบบที่ไม่ทำให้น้ำขุ่นนะครับ เด่วน้องๆจะไม่ร่าเริง ทางที่ดี ตอนนี้ดูแลน้องที่เหลือให้ดีที่สุด ออมเงินเอาไว้ ขยายบ้านให้น้องๆนะครับ

ปล.กว่าผมจะมาเลี้ยงเป็น-รักษาน้องๆเป็น...ผมก็ส่งน้องๆขึ้นสวรรค์ไปแยะแระครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆๆ

ความคิดเห็นที่ 19

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 03:42:17]

เสียใจด้วยนะครับ อย่างน้อยคุณก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว
ผมขอโทษที่ตอบช้าไปพอดีพึ่่งมาเห็นกระทู้

ขออนุญาติตอบตามการวิเคราะห์ของผมนะครับ อาจไม่ถูกต้อง 100% แต่อาศัยจากประสบการ์ณการ เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์หากคุณจะเลี้ยงปลาในครั้งต่อไป


1. ตอนนี้น้องปลาทองมีอาการคือ ลอยนิ่งๆอยู่ด้านบน ไม่ว่ายน้ำ หรือนานๆจะว่ายที ไม่ค่อยลงมาด้านล่างตู้ <<<<ตอบว่า แสดงว่าปริมาณออกซิเจนในน้ำไม่พอครับ ปลาจึงต้องคอยอยู่ที่ผิวน้ำ

สาเหตุที่ออกซิเจนไม่พอ
1.1 ตู้ของคุณมีขนาดค่อนข้างเล็ก ปริมาณน้ำแค่ 9 ลิตร ดูจากอัตราการใช้ออกซิเจนของปลา2ตัวกับการเพิ่มออกซิเจนในน้ำแล้วไม่สัมพันธ์กันแน่นอน ควรใช้หัวทรายในการพ่นออกซิเจนชนิดละเอียดมากๆ แทนไอแท่งหลอดๆที่ใช้อยู่ครับ ต้องใช้หัวทรายที่พ่นออกซิเจนเป็นฝอยๆๆๆๆละเอียดมากๆที่สุดปริมาณออกซิเจนถึงจะละลายไปในน้ำได้ดี

1.2 แถมที่ผิวน้ำยังมีฟองอีกทำให้โมเลกุลของน้ำเหนียวยิ่งทำให้ออกซิเจนละลายไปในน้ำได้ยากขึ้นทั้งที่ผิวน้ำและพ่นๆ

หรือวิธีสังเกตว่าออกซิเจนไม่พอ คือครีบจะมีเส้นเลือดแดงๆฝอยๆปรากฎให้เห็น และอาจทำให้ครีบเปื่อยได้

1.3 ในตู้ไม่มีการไหลเวียนของน้ำ ปกติถ้ามีกรองล่างหรือกรองข้างน้ำจะมีการไหลเวียนถ่ายเทไปในแต่ละที่ของตู้ทำให้ออกซิเจนถ่ายเทได้ดีขึ้น (เปรียบเทียบคุณลองอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทจะรู้สึกหายใจไม่ค่อยออกเทียบกับห้องที่มีอากาศflow ไปมา)

2. ปลาทรุดกระทันหันอยู่ๆมีเลือดออกที่เงือกหายใจพะงาบๆ
เกิดได้จาก (ผมคิดว่าคุณคงจะเปลี่ยนน้ำให้ปลาใหม่ทั้งหมดด้วยความหวังดีให้ปลามีน้ำที่สะอาด)
แต่ว่าจะทำให้ ปลาช็อคน้ำ คาดว่าเนื่องจากสาเหตุทั้งนี้)

2.1 อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนอย่างกระทันหันในทันที หากอยู่อุณภูมิของน้ำเปลี่ยนไปเพียงแค่ 2 องศาในทันทีก็อาจทำให้ปลาร่อแร่ พะงาบๆได้โดยเฉพาะเมื่อปลาไม่แข็งแรงอยู่ และตู้เล็กปริมาณน้ำหน่อยจะทำให้ควบคุมอุณหภูมิยากมาก แค่เปิดแอร์ในห้องอุณหภูมิน้ำก็เปลี่ยนแล้ว

2.2 คุณใช้วิธีพักน้ำไว้ 1 คืน แล้วน้ำมาใส่ตู้ปลา การพักน้ำไม่สามารถแน่ใจได้ว่าคลอรีนในน้ำจะสลายไปหมด อาจมีตกค้างอยู่ การที่อยู่ๆปลาพะงาบมีเลือดออก ค่อนข้างมีโอกาสมากว่าจะมาจากคลออรีน น้ำที่คุณพักคุณพักไว้ที่ไหน ใส่ไว้ในขวดแล้วปิดฝาหรือเปล่า เวลาพักน้ำต้องเปิดฝาด้วยให้เป็นระบบเปิด น้ำที่พักทางที่ดีก็เอาออกซิเจนหัวฟู่ๆพ่นให้น้ำที่พักรอไว้เลย ทางที่ดีควรใช้เครื่องกรองถ่านกัมมันต์สามารถต่อกับก็อกน้ำเข้าตู้ได้เลยไม่ต้องพักน้ำอันนี้จะชัวร์กว่า

3. น้ำมีฟอง อาจเกิดได้จาก
3.1 น้ำไม่สะอาด
3.2 ปลาขับเมือกออกมามากทำให้น้ำเป็นฟอง

4. ปลาขับเมือกมาก สาเหตุ
4.1 น้ำมีคลอรีนซึ่งจะทำลายเนื้อเยื่อที่เหงือกและเมือกที่เคลือบผิวปลาเมื่อเมือกที่ตัวปลาถูกทำลายปลาก็จะเร่งขับเมือกเพิ่มอีกมาแทนเมือกเดิมและทำให้ปลาร่างกายทรุดลง และคลอรีนทำให้เหงือกปลาแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้น้อยลง มีเลือดออกที่เหงือกปลา

4.2 อุณหภูมิแกว่ง ทำให้ปลามีไข้ หรือเป็นหวัด ปลาที่เป็นไข้หรือหวัดจะขับเมือกมากกว่าปกติ


ความคิดเห็นที่ 20

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 04:04:52]

สรุปดังนี้

1.เริ่มต้นเลี้ยง ปลาปกติดี

หลังจากนั้น

2. ออกซิเจนเริ่มขาด ผล >>> หางเปื่อย

เปลี่ยนน้ำแต่น้ำอาจ...

3.น้ำอาจมีคลอรีนตกค้าง + อุณหภูมิแกว่ง >>> ปลาเป็นไข้ขับเมือก >>>> น้ำมีฟอง

น้ำมีฟอง >>> ออกซิเจนยิ่งน้อยลงอีก , คลอรีนทำลายเหงือกปลา>>>> ปลายิ่งได้ออกซิเจนน้อยลงอีก >>>> พากับไปอยู่ที่ผิวน้ำ


4. เปลี่ยนน้ำใหม่อีก

>>> ปลาช็อคน้ำพะงาบๆๆ

อย่างน้อยให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนนะครับ ขอให้สู้ต่อไป
การเลี้ยงปลาควบควบคุมตัวแปรดังนี้

1. ออกซิเจนในน้ำ
2. อุณหภูมิน้ำ รวมถึงการแกว่งของอุณหภูมิ
3. คลอรีน
4. ค่าความเป็นกรด ด่าง
5. ปริมาณไนเตรตในน้ำ ไนเตรดเกิดจากการย่อยสลายของเสีย แม้น้ำจะใสปิ้งก็อาจมีไนเตรดอยู่ในน้ำเยอะก็ได้
6. ระดับน้ำอย่าเปลี่ยนเร็ว โดนเฉพาะเวลาเปลี่ยนน้ำ มันจะส่งผลต่อแรงดันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ปลาเอ๋อ
7. ที่ว่างในน้ำ space เช่น ปลาแน่นเกิดไปไหม ถ้าอยู่ในที่แคบปลาจะเครียดง่าย
8. น้ำอย่ามีกลิ่นเหม็น
9. เสียงดังในน้ำ ปลาจะเครียด ควรหาทางทำให้ตู้ปลามีเสียงเงียบที่สุด โดยเฉพาะหาทางลดเสียงปั๊มให้ได้มากที่สุด ถ้าตู้ปลามีมีฝาครอบ อย่าเอาปั๊มออกสิเจน ไว้ด้านบนหรือหาทางเอาจุกยางลดแรงสั่นที่จะส่งไปที่ตู้ปลา
10. แรงสั่นสะเทียนของน้ำ ปลาสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนในน้ำได้มี ปลาส่วนใหญ่จึงไม่ชอบให้คุณเคาะตู้ ลองเอาหูคุณแนบตู้ปลาตู้ว่ามีเสียงวื้อดังแค่ไหน และถ้าดังตลอดเวลาปลาจะเครียด
11. ทิศทางปั๊มน้ำ ความแรง ปั๊มแรงไปไหม ปลาทองชอบน้ำนิ่งและไหลเอื่อยๆช้าๆ ถ้าปั๊มน้ำแรงไป ปลาอาจว่ายเป็นวงกลม เครียดอีก
12. แสงจ้าไปปลาจะเครียด และไม่ควรเปิดไฟทั้งวันทั้งคืน อย่าลืมว่าปลาทองไม่มีเปลือกตา มันหลับตาไม่ได้
13. ใยกรองอย่าเป็นขุยๆ เวลาขุยๆหลุดมาในน้ำแล้วปลาฮุบเข้าไป ขุยใยกรองมันจะไปติดพันที่เหงือกปลา อาจทำให้ปลาเสียชีวิตได้
14. อาหารควรให้หลากหลายหน่อยเหมือนคนเราก็ควรทานอาหารครบ 5 หมู่
15. อาหารปลาบางชนิดมีแต่แป้ง ไม่มีวิตามิน หรือแร่ธาตุใดๆเลย จึงควรให้ทานหลายๆอย่าง
16. ระวังเรื่องเชื้อโรคที่จะมากับอาหารสด
17. หากเอาดิน หิน หรือต้นไม้ มาใส่ตู้ปลา ควรทำใจว่ามันอาจจะนำโรคบางอย่างด้วยหรือเชื้อบางอย่าเข้ามาด้วย

ปกติถ้าเป็นปลาอื่นไม่ต้องดูขนาดนี้แต่ปลาทองมันค่อนข้างจะบอบบาง

ความคิดเห็นที่ 21

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 04:10:07]

ปลาหัวทิ่มปักตู้ โรคถุงลม

หัวทิ่มน่าจะเกี่ยวกับออกซิเจน

โรคถุงลมส่วนใหญ่มักมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

การที่ให้อาหารปลาแล้วปลากินมากไปจะเป็นโรคถุงลมอันนี้ไม่จริงครับ ปลากินมากก็แค่อ้วนมาก

แต่มันมีสาเหตุมาจาก
ปลากินมาก>>>>> ขี้มาก >>> ของเสียในน้ำมาก >>>แบคทีเรียมาก >>> ถุงลมติดเชื้อ

ให้อาหารมาก >>>>> กินไม่หมด >>>> อาหารเน่า >>> แบคทีเรียมาก >>> ถุงลมติดเชื้อ


ที่โพสไปอาจจะมีผิดบ้างเพราะตอบจากประสบการ์ณ
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย

ความคิดเห็นที่ 22

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 04:25:15]

อย่าลืมเรื่องแรงสั่นสะเทือนนะครับ

ยกตัวอย่างปลาในตู้ แค่คุณเดินไปที่ตู้ปลา ปลาก็รับรู้ได้จากแรงสั่นสะเทือนจากฝีเท้าของคุณส่งผ่านไปที่พื้น ต่อไปที่ ขาตู้ปลา และต่อไปที่ตู้ปลา และน้ำ
ยิ้งถ้าตู้ปลาของคุณมีเสียงปั๊มดังอื้ออึง ทั่งปั้มน้ำ และปั้มลม วื้อๆทั้งวันทั้งคืน คิดดูว่าปลาจะเครียดแค่ไหน

ความคิดเห็นที่ 23

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 04:59:14]

สมการปลาป่วยที่พึ่งค้นพบ

สมการปลาป่วย (Law of Sickness Goldfish) หรืออัตราการเกิดความผิดปกติของปลา

อัตราการป่วยของปลาขึ้นอยู่กับตัวแปร 17 ตัวนี้โดยถ่วงน้ำหนักจากระดับความรุนแรงยิ่งตัวแปรใดมีค่ามากแสดงว่าตัวแปรนั้นมีค่าต่างไปจากค่าที่ควรจะเป็นมาก โดยตัวแปรแต่ตัวมีค่า ตั้งแต่ 0.00 ถึง 1.00

อัตราการป่วยปลา (%) =[ (17*a+15*b+16*c+14*d+13*e+2*f+9*g+3*h+7*i+6*j+5*k+4*l+m+8*n+11*o+12*p+10*q)/152] x100%


a. ออกซิเจนในน้ำ
b. อุณหภูมิน้ำ รวมถึงการแกว่งของอุณหภูมิ
c. คลอรีน
d. ค่าความเป็นกรด ด่าง
e. ปริมาณไนเตรตในน้ำ ไนเตรดเกิดจากการย่อยสลายของเสีย แม้น้ำจะใสปิ้งก็อาจมีไนเตรดอยู่ในน้ำเยอะก็ได้
f. ระดับน้ำอย่าเปลี่ยนเร็ว โดนเฉพาะเวลาเปลี่ยนน้ำ มันจะส่งผลต่อแรงดันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ปลาเอ๋อ
g. ที่ว่างในน้ำ space เช่น ปลาแน่นเกิดไปไหม ถ้าอยู่ในที่แคบปลาจะเครียดง่าย
h. น้ำอย่ามีกลิ่นเหม็น
i. เสียงดังในน้ำ ปลาจะเครียด ควรหาทางทำให้ตู้ปลามีเสียงเงียบที่สุด โดยเฉพาะหาทางลดเสียงปั๊มให้ได้มากที่สุด ถ้าตู้ปลามีมีฝาครอบ อย่าเอาปั๊มออกสิเจน ไว้ด้านบนหรือหาทางเอาจุกยางลดแรงสั่นที่จะส่งไปที่ตู้ปลา
j. แรงสั่นสะเทียนของน้ำ ปลาสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนในน้ำได้มี ปลาส่วนใหญ่จึงไม่ชอบให้คุณเคาะตู้ ลองเอาหูคุณแนบตู้ปลาตู้ว่ามีเสียงวื้อดังแค่ไหน และถ้าดังตลอดเวลาปลาจะเครียด
k. ทิศทางปั๊มน้ำ ความแรง ปั๊มแรงไปไหม ปลาทองชอบน้ำนิ่งและไหลเอื่อยๆช้าๆ ถ้าปั๊มน้ำแรงไป ปลาอาจว่ายเป็นวงกลม เครียดอีก
l. แสงจ้าไปปลาจะเครียด และไม่ควรเปิดไฟทั้งวันทั้งคืน อย่าลืมว่าปลาทองไม่มีเปลือกตา มันหลับตาไม่ได้
m. ใยกรองอย่าเป็นขุยๆ เวลาขุยๆหลุดมาในน้ำแล้วปลาฮุบเข้าไป ขุยใยกรองมันจะไปติดพันที่เหงือกปลา อาจทำให้ปลาเสียชีวิตได้
n. อาหารควรให้หลากหลายหน่อยเหมือนคนเราก็ควรทานอาหารครบ 5 หมู่
o. อาหารปลาบางชนิดมีแต่แป้ง ไม่มีวิตามิน หรือแร่ธาตุใดๆเลย จึงควรให้ทานหลายๆอย่าง
p. ระวังเรื่องเชื้อโรคที่จะมากับอาหารสด
q. หากเอาดิน หิน หรือต้นไม้ มาใส่ตู้ปลา ควรทำใจว่ามันอาจจะนำโรคบางอย่างด้วยหรือเชื้อบางอย่าเข้ามาด้วย

ใครมีตัวแปรอื่นๆเพิ่มเข้ามาก็จัดมาได้ผมอาจจะลืมอะไรไป

ความคิดเห็นที่ 24

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 05:56:33]

ลืมบอกการที่ตัวซีดปากซีดก็เป็นข้อบ่งชี้ว่าขาดออกซิเจนได้เช่นกัน

ความคิดเห็นที่ 25

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 05:56:38]

ลืมบอกการที่ตัวซีดปากซีดก็เป็นข้อบ่งชี้ว่าขาดออกซิเจนได้เช่นกัน

ความคิดเห็นที่ 26

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 06:03:02]

แท่งพลาสออกซิเจนที่ต่อกับถาดกรองขาวๆ จุดประสงค์หลักคือถูกออกแบบมาเพื่่อดึงฝุ่น ผง และตะกอน ลงไปใต้แผ่นกรองทำให้น้ำใส ตามหลักการน้ำจะไหลลงไปแทนที่อากาศใต้แผ่นกรอง

แต่ไม่สามารถเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้ดีเท่ากับหัวทราย เพราะแท่งออกซิเจนหลอดฟองอากาศจะใหญ่ทำให้ออกซิเจนละลายไปในน้ำได้ไม่ดีเหมือนหัวทรายฟู่ๆครับ จึงควรมีหัวทรายฟู่ๆด้วย

ความคิดเห็นที่ 27

Happyfish
Happyfish
11
[2012-08-11 12:39:28]

อันนี้เอามาจากที่อื่นอีกทีครับ ลองดูว่าของคุณเข้า case ไหนบ้าง

Discus Health > ปัญหาเกี่ยวกับปลา มีเพื่อนๆช่วย

อาการป่วยของปลาที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำ

(1/1)

KAISER:
เครดิตคุณ Sir Oas Admin ของเราที่เคยโพสต์ไว้ครับ

1.Acidosis เกิดจากน้ำเป็นกรดมากเกินไป ปลาจะพยายามกระโดดไปมาคล้ายจะหนีออกมาจากน้ำ มีอาการหายใจและว่ายน้ำผิดปกติ ถ้านานจะเห็นการอักเสบมีเมือกมากของผิวหนังและเหงือกจนอาจมีอาการเลือดออก บางครั้งสีปลาจะจัดขึ้นด้วย

2. Alkalosis เกิดจากน้ำเป็นด่างมากเกินไป ปลาจะมีอาการเหงือกซีดและมีการกร่อนของผิว มีเมือกมาก ในระยะแรกจะเห็นผิวเป็นสีขาวฟ้าขุ่น ครีบกร่อน ควรปรับสภาพน้ำให้พอเหมาะโดยอาจใช้น้ำส้มสายชูช่วย

3. พิษจากแอมโมเนีย แอมโมเนียเป็นของเสียที่ได้มาจากปลา เมื่อมีการสะสมมากขึ้นจะก่อให้เกิดความระคายเคืองอย่างรุนแรงต่อเยื่อเมือก ปลาจะมีอาการหายใจลำบาก จนในที่สุดจะเกิดอาการชักเกร็งและตายในที่สุด การเพิ่มความเป็นกรดในน้ำจะลดความเป็นพิษของแอมโมเนียได้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำ 50% ของน้ำในตู้ และเพิ่มแบคทีเรียเข้าไปก็ช่วยลดแอมโมเนียได้เช่นกัน

4. พิษของไนไตรต์ มักเกิดขึ้นในช่วงแรกที่เริ่มการทำงานของระบบกรองน้ำ ซึ่งยังมีแบคทีเรียไม่เพียงพอ เมื่อมีการสะสมมากขึ้น ปลาจะมีอาการหายใจลำบากและเหงือกสีดำคล้าจัดมาก อาจชักตายเพราะระบบหายใจอัมพาตได้ ควรใส่แบคทีเรียเข้าไปช่วยลดไนไตรต์ด้วย

5. อุณหภูมิน้ำสูงเกินไป ปลาจะมีอาการว่ายน้ำอย่างรวดเร็วและอาจจะหายใจแรงและเร็วกว่าปกติ ถ้าไม่แก้ไขอาจจะเกิดอาการเส้นเลือดแตกที่ผิวหนังและครีบได้ การเติมเกลือแกง 0.5-1.0% ลงในน้ำจะทำให้อัตราการรอดตายสูงขึ้น

6. อุณหภูมิน้ำต่ำเกินไป ปลาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเย็นจะมีสีซีด ครีบห่อ ว่ายน้ำช้าๆอยู่กับที่ บางครั้งจะหมุนว่ายอย่างรวดเร็วหรือว่ายส่ายไปส่ายมา ถ้าไม่แก้ไขปลาอาจมีปัญหาในการทรงตัวได้ การเกิดโรคนี้จะทำให้ความสามารถในการรักษาความเข้มข้นของเลือดเสียไป และไตวายได้

7. พิษจากคลอรีน ปกติแล้วคลอรีนจะเป็นพิษมากต่อปลาสวยงาม เมื่อถูกสารนี้ปลาจะมีอาการสีซีดลงและหายใจติดขัด เนื่องจากมีการระคายเคืองของเนื้อเยื่อที่เหงือก อัตตราการตายจะขึ้นอยู่กับระดับของคลอรีน ถ้าได้มากกว่า 0.5 พีพีเอ็มก็มักทำให้เกิดการตายภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ถ้าได้รับปริมาณน้อยเป็นเวลานาน จะมีอาการตาถลนด้วย อาจใช้โซเดียมไทโอซัลเฟตเป็นสารลดปริมาณคลอรีนที่รวดเร็วได้

8. พิษจากผงซักฟอก ผงซักฟอกเป็นพิษต่อปลาอย่างมาก โดยมากจะเกิดกับการล้างตู้ปลาที่ผิดๆ โดยมีผงซักฟอกเหลืออยู่ ทำให้ปลาระคายเคืองเพราะไปทำลายเมือกซึ่งปกคลุมตัวปลาอยู่ โดยเฉพาะบริเวณเหงือก นอกจากนั้นยังอาจจะถูกดูดซึมเข้ากับเม็ดเลือด ทำให้ปลาตายได้ โดยผิวอาจแสดงอาการสึกกร่อนในกรณีที่มีความเข้มข้นมาก ยังไม่มีสารที่ช่วยทำลายพิษชนิดนี้ได้

9. พิษจากก๊าซไข่เน่า ก๊าซชนิดนี้มักเกิดขึ้นเมื่อมีการอุตตันของระบบกรอง มักจะมีสาหร่าย(น่าจะเป็นตะไคร่)ขึ้นระยะแรก ก๊าซนี้จะแย่งจับออซิเจนกับเม็ดเลือดและทำลายระบบประสาทส่วนกลางโดยตรง ถ้ามีความเข้มข้นเกิน 10 พีพีเอ็ม สามารถทำให้ตายได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยจะมีอาการเครียดและพยายามขึ้นมาหายใจที่ผิวน้ำ เหงือกมีสีม่วงเข้ม การแก้ไขควรจะปรับปรุงระบบกรองไม่ให้มีการหมักหมมของของเสียมากเกินไป

10. พิษจากยาฆ่าแมลง มักเกิกขึ้นเพราะความไม่ระมัดระวัง เช่น ฉีดยาฆ่าแมลงในห้องที่มีตู้ปลาสวยงาม อาการของปลาที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารยาฆ่าแมลง แต่โดยทั่วไปมักมีอาการชักและเสียหน้าที่ของระบบประสาท

12. การขาดออกซิเจน ถ้ามีการให้ออกซิเจนไม่เพียงพอ ปลาจะมารวมกันที่ผิวน้ำเพื่อพยายามหายใจ การรักษาก็คือการลดอุณหภูมิและเพิ่มการให้ฟองอากาศ ถ้าทิ้งไว้นานอาจจะทำให้เหงือกปิดเสียรูปไปได้

13. การเกิดเนื้องอกในปลา เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในปลาสวยงาม มักเกิดจากการได้รับสารก่อมะเร็งสะสมอยู่ในน้ำ พันธุ์ปลาแต่ละชนิดจะมีโอกาสเป็นไม่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเนื้องอก


aw22

D-Discus:
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับพี่
จะได้มีรายละเอียดให้ท่านสมาชิกไว้เป็นแนวทางการรักษาโรคปลา
aw40

VINCENT-T:
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ AW59

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ