Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

โลกปลาหมอสีสายพันธุ์ แท้ๆ ทั้งจาก ทะเลสาบมาลาวี, ทังแกนยิกา, หรือ ปลาหมอสี สายพันธุ์ แท้ จาก ทวีปอเมริกา ตลอดจน ปลาหมอแคระ ชนิดต่างๆ อยากให้เว็บบอร์ด นี้ มีส่วนช่วยให้คนรักปลา รู้จัก ไม่ลืม ในสายพันธุ์ ดั้งเดิม ตามธรรมชาติของปลาในครอบครัว Cichlidae

0000518

Kidnap the Fly ! !

sepia
sepia [2006-10-09 04:44:53]
สวัสดีชาวปลาหมอสีสายพันธุ์แท้ทุกๆท่าน วันนี้ผมจะมาแนะนำเรื่องการใช้ ปาก นิ้ว มือ และการอมไข่ เพื่อการปฏิบัติกิจ(ฮั่นแน่อย่าเพิ่งคิดเป็นอื่นไป) วันนี้ผมมาแบบมีสาระโดยจะมาแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติในการทำการอนุบาลลูกปลาหมอสีในกลุ่มปลาหมอสีที่ฟักไข่ในปาก( Mouth brooders ) มาแบ่งปันกันให้ได้รู้ ซึ่งใครรู้แล้ว หรือมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็ทำได้เลยนะครับ

ความคิดเห็นที่ 1

sepia
sepia [2006-10-09 04:48:17]
โดยปกติแล้วหลังจากที่แม่ปลาผสมพันธุ์ แม่ปลาจะอมไข่เพื่อฟักลูกๆในปากเป็นเวลา 21-28 วัน ซึ่งช่วงนี้แม่ปลาแทบจะไม่ทานอะไรเลย เราสามารถสังเกตปลาที่อมไข่ได้ง่ายเพราะจะว่ายออกจากฝูง ไม่กินอาหาร และคางที่อูมนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด การอดอาหารเพื่อฟักไข่นี้ถ้าแม่ปลาที่ยังอายุไม่ถึง อ่อนประสบการณ์หรือ ความสมบูรณ์ไม่เพียงพอก็ยากที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ได้อย่างลุล่วง.............แต่เราสามารถช่วยให้แม่ปลาไม่ต้องเหนื่อยกับการปฏิบัติภารกิจอันแสนจะยากเย็นนี้ได้โดยการที่เรานำลูกปลาออกมาอนุบาลภายนอกเอง ขั้นแรกเราต้องสังเกตให้ดีว่าแม่ปลาเราอมไข่วันแรกเมื่อไหร่ เพื่อความปลอดภัยของลูกปลาเพราะ ถ้าเราแกะปากแม่ปลาเร็วเกินไปลูกปลาอาจมีขนาดเล็ก หรืออาจจะยังไม่มีตัวให้เห็นซึ่งมีสิทธิ์ที่ไข่จะขึ้นราหรือเสียหายได้ค่อนข้างสูง(อาจต้องใช้ Egg Tumbler เพื่อช่วยในการฟักไข่) แต่ถ้าอยากให้ลูกปลามีความปลอดภัยมากขึ้นก็ควรให้แม่ปลาอมไข่นานขึ้นอย่างน้อยก็ควรซัก 7 วันขึ้นไป ซึ่งวันยิ่งมากขึ้นอัตราการรอดของลูกปลาก็จะมากขึ้นไปด้วย โดยปกติแล้วผมจะให้แม่ปลาอมไข่ซัก 14 วันขึ้นไป ลูกปลาที่ออกมาจึงจะเหลือถุงไข่ (Eggsac) ที่ติดท้องเล็กน้อย

ความคิดเห็นที่ 2

sepia
sepia [2006-10-09 04:48:56]
โดยอุปกรณ์ที่แนะนำมีดังนี้
1.กระชอนขนาดใหญ่พอที่จะทำงานได้สะดวก
2.ภาชนะที่ใส่หรืออนุบาลลูกปลา จะเป็นอะไรก็ได้แต่ควรเป็นภาชนะที่มีปากกว้างหน่อย จะใช้ถัง กะละมัง ตู้ปลาก็ได้ทั้งนั้นครับ
3.ถุงมือเพื่อใส่ในขณะที่จับตัวปลา เพื่อที่แม่ปลาจะได้ช้ำและเสียเมือกน้อยลง(ทำครั้งแรกๆควรใช้ครับเพราะจะไม่ชินกับการจับปลา ปลาหลุดและต้องจับใหม่หลายๆรอบ) อันนี้แล้วแต่ถนัดใครจะไม่ใช้ก็ได้ครับ
4.ผู้ช่วย 1 คน ถ้ามีผู้ช่วย 1 คน ก็จะทำได้สะดวกขึ้นและช่วยแก้ปัญหาเมื่อเกิด accident ได้

ความคิดเห็นที่ 3

sepia
sepia [2006-10-09 04:49:45]
ขั้นตอนมีดังนี้

1. เริ่มต้นจากการล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่ติดกับมือ จากนั้นก็ดูดน้ำจากภายในตู้ปลามาไว้ในภาชนะที่ได้เตรียมไว้
2. จากนั้นจับแม่ปลาที่อมไข่ออกมาไว้ในภาชนะข้างต้น (ใจเย็นๆค่อยๆจับ ปลาที่อมไข่มักจะหาที่หลบที่เราจะเข้าไปจับตัวได้ยากเสมอ)

ความคิดเห็นที่ 4

sepia
sepia [2006-10-09 04:51:02]
3. เมื่อปลาปลาอยู่ในภาชนะแล้วค่อยๆประคองตัวปลา หลวมๆด้วยมือข้างที่ถนัด เอานิ้วชี้วางประคองในช่วงปากปลาเพื่อป้องกันปลาพุ่งไปข้างหน้า

ความคิดเห็นที่ 5

sepia
sepia [2006-10-09 04:53:37]
เตรียมพร้อม!!!!!

ความคิดเห็นที่ 6

sepia
sepia [2006-10-09 04:54:20]
4. ใช้อีกมือหนึ่งดันแผ่นเหงือกของปลาให้เปิดขึ้นและเปิดค้างไว้ พร้อมๆกับใช้อีกนิ้วดึงปากล่างของปลาลง(จับตัวปลาให้กระชับขึ้น) จับตัวปลาให้ส่วนหัวขึ้นลงจากน้ำให้น้ำไหลเข้าแผ่นเหงือกและไหลออกทางปาก.........ช่วงนี้ปลาจะดิ้น พยายามอย่าให้ปลาดิ้น หรือปิดปากลงเพราะอาจไปงับลูกปลาที่กำลังออกมาได้ ทำซ้ำๆจนลูกปลาหมด

ความคิดเห็นที่ 7

sepia
sepia [2006-10-09 04:55:37]
5. ตรวจดูอีกครั้งโดยการมองในปากแม่ปลาว่าลูกปลาได้ออกมาหมดแล้ว เมื่อลูกปลาออกมาจากปากแม่ปลาหมดแล้วจึงนำแม่ปลากลับไปยังตู้ดังเดิม
6. นำลูกปลาออกไปอนุบาลต่อไป หรือจะอนุบาลในภาชนะนั้นเลยก็ได้ครับ
7. อาจใส่ยาเพื่อกันการติดเชื้อรา (แต่โดยปกติผมอนุบาลลูกปลาโดยการลอยกระชังในตู้แม่ปลาเลย จึงไม่ได้ใส่ยาลงไปแต่อย่างใด)
8. เมื่อลูกปลาไข่ยุบจนหมดแล้ว จึงค่อยให้อาหารโดยให้ตัวอ่อนของสัตว์น้ำเหมือนการอนุบาลลูกปลาทั่วไป

*นางแบบที่ใช้ Foai เพศเมียอมไข่มาประมาณ 17 วัน (แบบว่าผมลืมน่ะ เลยอมนานเลย) ได้ออกมา 31 ตัวครับผม

ความคิดเห็นที่ 8

sepia
sepia [2006-10-09 04:57:04]
กลุ่มเด็กๆที่ได้มาในครั้งนี้

ความคิดเห็นที่ 9

sepia
sepia [2006-10-09 04:57:38]
อ้าว ลืมโพสรูป อันนี้ต่างหาก

ความคิดเห็นที่ 10

sepia
sepia [2006-10-09 04:58:57]
อันนี้เด็กๆชุดก่อน ตอนนี้อยู่ตู้โทรเฟียสไปก่อนนะ เด๋วโตค่อยลงไปซัดกับรุ่นใหญ่

ความคิดเห็นที่ 11

sepia
sepia [2006-10-09 05:00:16]
แหะๆ มือไวลืมใส่รูปอีกแล้ว................เอาเป็นว่าจบเลยละกันครับ

ความคิดเห็นที่ 12

offba
offba
29
[2006-10-09 09:15:25]
โอ..เยี่ยมมากเลยครับ สุดยอด ปากนึงได้เยอะจังนะครับ ตอนนี้ที่บ้านก็มีอมอยู่ แต่เป็นมาลาวี แหะ ๆ คงไม่มีบุญได้แกะปากปลาทะเลสาบทังกันยิก้า แน่เรย -*-(-__-") ("-__-)-*-

ความคิดเห็นที่ 13

rookie
rookie
209
[2006-10-09 12:59:44]
น่าอิจฉาจริง ๆ เลย นะ ขอผมเนี้ย บ้วนไปหลายปาก แล้วยังไม่ได้นะ

ปล. แล้วผมง้างปากปลา ผมใช้ช้อนพลาสติกปากแบน ๆ ง้าง เพราะว่าผมไม่มีเล็บง้าง ลำบากนะ

ความคิดเห็นที่ 14

ttoonnyy
ttoonnyy [2006-10-09 17:06:54]
คุณ sepia มืออาชีพจริงๆ ( ดูจากท่างัดเหงือก) ผมไม่มีโอกาสได้เพาะซักที เพราะมีที่เลี้ยงไม่พอ...ตั้งแต่เลี้ยงปลาหมอมาก็เลี้ยงอย่างเดียวเลยอย่างอื่นไม่เคยทำ แล้วบ่อที่เห็นในรูปนี่...เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 ซม พอจะเพาะอะไรได้บ้างมั้ยครับ...?

ความคิดเห็นที่ 15

ttoonnyy
ttoonnyy [2006-10-09 17:09:37]
อ้อแล้วรูปบนสุดนี่อะไรหรือครับ ปลาทังยีกาหรือ....?....มีอยู่ตัวนึงชื่อเฟอร์ซิเฟอร์ คล้ายๆในรูปของคุณ sepia เลย...มันชื่อไรหรือครับ

ความคิดเห็นที่ 16

sepia
sepia [2006-10-09 23:12:36]
ตอบคุณต้นนะครับ : ผมไม่ได้มืออาชีพหรอกครับ ก้เลี้ยงไปเรื่อยๆแหละครับ ปลาพวกนี้ยิ่งเลี้ยงยิ่งหลง...........ยิ่งจน555
บ่อในรูปนี่ก้เลี้ยงได้ครับ แต่อาจจะเพาะได้แค่บางชนิดพวก เลปโตน่าจะพอได้ ส่วนรูปด้านบนนี่ Foai ครับก้ปลาทะเลสาบนี้ล่ะครับ
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ