หลักที่ผมเห็นมีอยู่ 3 แบบที่เคยใช้ 1.แบบเทสน้ำยา 2.แบบติดในตู้เลย 3.เครื่องวัด PH(แบบปาก และแบบRealtime)
ตั้งแต่ผมใช้มา ก็เริ่มตั้งแต่ 1 ไป 2 จนมาจบที่แบบที่ 3 สะดวกสุด แต่การลงทุนครั้งแรกจะสูงหน่อย แบบเทสน้ำยาอันนี้เที่ยงตรงดี แต่ส่วนแบบติดนตู้อันนี้ไม่แนะนำ เพี้ยนมากและราคาก็สูง ส่วนแบบที่ 3 ง่าย สะดวกดีครับ ส่วนเรื่องค่าน้ำผมว่าอย่าไปซีเรียสมาก เพราะน้ำประปาบ้านเรา(แถวบ้านผม พระราม 2ก็ปาไป 8.3 แล้ว) ซึ่งสมัยก่อนผมก็ห่วงจนต้องใส่ปรับค่า PH กันวุ่นวาย เทสทุกวัน กลัวค่าเพี้ยนไป(ค่าPH ที่ 9) แต่เดี๋ยวนี้ผมก็เปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ แล้วก็ไม่ได้ส่ตัวปรับค่า PH แล้ว ปลาผมก็อยู่ได้ปกติไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นครับ
ส่วนเรื่องปะการัง ผมว่าพอนะครับ

PH กับ Lake Tang ไม่ซีเรียด 7 - 8 กว่าๆ OK. ครับ ที่ผมเลี้ยงอยู่ 8.5 ครับ

จ้ากกกกกกกกกกคาวาสกามค้าง

สงสัยมันกำลังจะปล่อยพลังมั๊ง

ไม่ค่อยได้วัดนะ ใช้น้ำประปาที่บ้าน + ปะการังในช่องกรอง ก็ 8.2 แล้วนะ

ขอบคุณทุกความคิดเห็น ครับ
ทราบอย่างนี้ผมคิดว่าจะได้ไม่ต้องไปหาอุปกรณ์วัดค่า PH แล้วครับ

อย่าไปซีเรียสกับการเลี้ยงมากครับเชื่อผม ไปคิดมากว่าต้องเป็นงู้นเป็นงี้ ปลาร่วงกันกราวแล้วครับ

จริงครับ อย่าไปซีเรียสมาก
เปลี่ยนน้ำเป็นประจำ ทำความสะอาดระบบกรอง
ให้อาหารมีคุณภาพ ในปริมาณพอดี
แค่นี้ครับ

ไม่เคยวัด pH เหมือนกันครับ แต่ผมว่าน้ำประปาบ้านเรา pH เหมาะสมแล้วล่ะครับ

ไม่จำเป็นหรอกครับ ถ้ามันปลามันรอดมาหาคุณได้ เรื่องค่า ต่างๆ มันก็ไม่จำเป็นครับ ห่วงอยู่ไม่กี่อย่าง อาหาร กับอุณภูมิ แล้วก็คลอรีน ก็พอ ที่น่าห่วง ที่สุดดดด