ปลาป่าสีเข้มกว่า ทรงสั้นกว่า แต่ก็ไม่แน่เสมอไป ปลาเพาะบางตัวสีสวยกว่า ทรงสวยกว่าปลาป่าเยอะแยะไปครับ เหมือนจะให้กะเกณฑ์ว่า คนเมืองจะต้องสวยกว่าคนป่าทุกคนมันก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจครับ เจอตัวไหนสวยถูกใจเรา ราคาที่เรารับได้ก็ตักครับ ^^

ความแตกต่างจากที่เลี้ยงมานะครับ คือ ปลาป่าสีเข้มกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่เรื่องทรงผมว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าจะเลี้ยงเลือกปลาที่ถูกชะตา ที่สวยถูกใจดีสุดครับ เพราะเค้าจะอยู่กับเราไปอีกนาน แต่อยากเปรียบเทียบชัดเจนไปดูที่ร้านเต้ยส้ม กับร้าน cichildscrazy เลยครับ มีทั้งปลาป่า ปลาเพาะให้เลือกแบบ เพลินตาเลยทีเดียว ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงฟรอนนะครับ

การ เลือกซื้อปลาป่า และ ปลาเพาะ

มีคำถามว่าปลาป่า กับ ปลาเพาะต่างกันยังไง พบว่า

1. ปลาป่า ราคาแพงกว่าปลาเพาะ แน่นอน เพราะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

2. ปลาป่า สวยกว่า ปลาเพาะ อันนี้จริงแต่ไม่เสมอไป ปลาเพาะบางตัวก็สวยเท่ากับปลาป่า หรือสวยกว่าด้วย

3. ปลาป่า ไม่มีหลังขาว(จุดสีขาวบริเวณหลังปลา บนแถบดำเส้นที่สามหรือสี่) อันนี้ไม่จริง มีทั้งปลาป่าและปลาเพาะ เพียงแต่เปอร์เซ็นต์หลังขาวของปลาป่า จะมีน้อยกว่าปลาเพาะ และอาการหลังขาวไม่ใช่ความพิการ หรือ โรคของปลา ฉะนั้นเห็นปลาหลังขาว อย่าไปรังเกียจมันหล่ะ

4. ปลาป่าขี้อาย ตื่นตกใจง่าย กว่าปลาเพาะ อันนี้จริงครับ เนื่องจากปลาป่าเติบโตในธรรมชาติ กินอาหารด้วยการออกล่าสัตว์ที่เล็กกว่า ในขณะที่มันเป็นผู้ล่า อีกด้านนึงมันก็เป็นผู้ถูกล่าเหมือนกัน ยังมีปลาใหญ่กว่าที่กินเนื้อ ก็จ้องกินมันเหมือนกัน ดังนั้นสัญชาติญาณในการระวังภัยจึงมีสูง พอมาอยู่ในตู้ปลาใบใหญ่ของเราแต่เล็กคับแคบสำหรับมัน จึงต้องใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างมาก

5.ปลาป่า กินเก่งกว่าปลาเพาะ อันนี้ไม่จริง ปลาป่าที่กินเก่งกว่าเป็นเพราะโดนจับอดอาหารมาเป็นเวลานานเพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง ช่วงแรก ๆ จะกินเก่งมาก กินจนอ้วน พอสักพักจะกินน้อยลงเป็นปกติเหมือนกับปลาเพาะ

สรุปจะเลือกซื้อปลาป่า หรือปลาเพาะ สุดท้ายไปจบที่งบประมาณของแต่ละคน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ใช้จ่ายให้พอเพียงเป็นดีที่สุดครับ

ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิมเติม สามารถไปเดินซื้อ เล่มข้างล่างได้ครับ มีขายทุกแห่งหน 55

ปลาป่าแพงกว่า เพราะต้นทุนสูงกว่า
ส่วนความสวยงาม ผมว่าดูเป็นตัวๆำไปครับ

โดยข้อเท็จจริงก็คือ พวกปลาป่า F0 ที่นำมาจำหน่ายกันทั่วโลกนี้ มีการจับจากทะเลสาบ
ในหลายๆ แหล่ง แม้จะได้ชื่อว่าเป็น Cyphotilapia gibberosa 'Blue Zaire' เหมือนกัน
แต่ก็จะมีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องรูปร่าง สีสัน ลวดลาย

เอาเฉพาะกลุ่มที่พูดถึงในกระทู้ ใช่ว่า 'Moba' ก็จะเหมือนกันทุกชุด เช่นเดียวกับ Blue Zaire แหล่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น 'Kitumba' หรือ 'Kapampa' และอื่นๆ อีกที่คล้ายๆ กันในย่านน่านน้ำคองโก ก็จะมีความหลากหลายเฉพาะตัว เฉพาะแหล่งแตกต่างกันไป

ดังนั้น หากเราเลือกเล่นปลาป่า F0 เราก็จะได้สิ่งที่เรียกว่า "ความหลากหลาย" หรือ "ลักษณะเด่นพิเศษเฉพาะตัว" มาด้วย แต่ก็ต้องแลกกับมูลค่าที่แพงกว่า จากปัจจัยเรื่องต้นทุนต่างๆ ในการนำมา

ส่วนปลาเพาะ F1 (ในที่นี้ F1 เราหมายถึงลูกที่ได้จากการนำพ่อแม่พันธุ์ ไม่ว่าจะปลาพ่อ/แม่ ป่าผสมกับป่า หรือพ่อ/แม่ ป่าผสมกับปลาเพาะ หรือพ่อ/แม่ เพาะผสมกับเพาะ แต่ต้องต่างสายเลือดกัน มาผสมออกมาเป็นรุ่น F1) เราก็อาจจะได้พันธุกรรมที่คล้ายๆ กันในลูก หรือรุ่นนั้นๆ ที่นำมาจำหน่ายครับ

อย่างผมเองซื้อปลาจากหลายแหล่ง ทั้งปลาป่า F0 และ F1 จากหลายค่าย หลายร้าน แต่ละชุดก็จะมีคลาวหลากหลายแตกต่างกันไป บางชุดแถบดำเข้ม กว้าง บางชุดขาวเยอะ บางตัวม่วงเข้มทั้งตัว แต่บางตัวก็ใช่ว่าจะสวย มีบางทีอยู่ๆ ไปก็ซีดเผือดกว่าปลา F1 ซะอีก

แต่เช่นกัน F1 บางตัวที่มีสายเลือดพ่อแม่ดี หากเราเลี้ยงในคุณภาพน้ำที่ดี ที่กว้าง อาหารถึง มีฝูงให้มันแสดงพฤติกรรม และการเร้าโดยฮอร์โมนให้สร้างสภาพการขึ้นเป็นจ่าฝูง (ในตัวผู้) มันก็จะมีความงามสง่าได้เต็มที่ตามสายพันธุ์เช่นกันครับ

นี่ตัวอย่างตัวจ่าฝูง Alpha Male ตู้ผม ปัจจุบันขนาด 12 นิ้วกว่าแล้ว เป็นปลา F1 ลูกเพาะจากเยอรมัน ที่ร้านป๋าจวบสั่งเข้ามาสมัยหลายปีก่อน แล้วเจ้าของคนแรกซื้อไปเลี้ยงไว้ราวๆ สองปี จนโตได้ราวๆ 10 นิ้ว แล้วเอามาปล่อยต่อ ผมรับมาดูแลได้ราวๆ ครึ่งปี พอได้มาอยู่ตู้กว้าง น้ำดี กินจุ แถมมีสาวๆ ให้จีบ มีลูกไล่ตัวผู้ Beta Male ไว้ให้กัดเตะเล่น มันก็งามได้ไม่แพ้ F0 ครับ

ตู้กว้าง ระบบกรองดี อาหารถึง สภาพแวดล้อมเหมาะสม F ไหนก็งามได้ครับ

หนังสือทะลุ1ล้านเล่มยังเสี่ยโรม คิคิ

Alpha Male ตัวอย่างเป้ง เล่นเอา ลูกกระจ้อกตัวนิสเดียว + +