Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

โลกปลาหมอสีสายพันธุ์ แท้ๆ ทั้งจาก ทะเลสาบมาลาวี, ทังแกนยิกา, หรือ ปลาหมอสี สายพันธุ์ แท้ จาก ทวีปอเมริกา ตลอดจน ปลาหมอแคระ ชนิดต่างๆ อยากให้เว็บบอร์ด นี้ มีส่วนช่วยให้คนรักปลา รู้จัก ไม่ลืม ในสายพันธุ์ ดั้งเดิม ตามธรรมชาติของปลาในครอบครัว Cichlidae

0009689

โอ๊ยยย ฟรอนผมตาย 20 ตัวเพราะอะไร

(171.7.201.11) [2012-09-01 20:32:08]

ไม่รู้ตายเพราะอะไรครับ เสียใจมากเลย อยากจะร้องไห้ ไม่รู้ว่าผมจะเลี้ยงทำไมแล้วว เลิกเลี้ยงดีไหมครับ เหตุการคืออยู่ดีๆก็ไม่ว่ายแล้วก็ตายไปเลย อาหารก็ให้กินปกติ ให้นอนแช่แข็งบ้าง ฮิคาริ บ้าง แต่ทุกครั้งผมเปิดแอร์ประมาณ7ชม แต่วันนี้ผมนอนยาว เปิดทั้งวันเลย แล้วมาดูอีกทีตายยกหมดเลยครับ เสียใจจิงๆ ฟรอนไม่ชอบ อากาศเยฤ็นหรอครับ

ความคิดเห็นที่ 1

pingly
pingly
339
[2012-09-01 20:49:40]

ฟรอนเป็นปลาน้ำลึก ที่อยู่ในอากาศหนาว และชอบอากาศเย็นมาก(ผมเลี้ยงประมาณ 25องศา)ยิ่งเย็นยิ่งสวย

แล้วถ้าตามความคิดผม มันอาจตายจากอุณหภูมิ ที่ดีดขึ้นลงในแต่ละวันครับ จนมันสะสมแล้วตายในที่สุด ผมอยากรู้ว่าเลี้ยงตู้เท่าไหร่ เปิดแอร์อุณหภูมิอะไร แล้วแต่ละวันตอนไม่เปิดแอร์ในห้องอุณหภูมิเท่าไหร่ครับ เพราะผมเลี้ยง ฟรอนมาไม่มีตายเลย ไม่ว่าจะเย็นขนาดไหน แต่ในแต่ละวันในตู้ผมมันจะมีอุณหภูมิคงที่

ลองดูดีดีครับ ผมว่าการตายไม่น่าเกิดจาก อากาศเย็นนะครับ

แล้วก่อนปลาจะตาย กินอาหารปกติไหมครับ


ช่วยบอกด้วยน่ะครับ
1.ตู้ขนาดเท่าไหร่
2.ปลากินอาหารปกติไหมก่อนตาย
3.อุณหภูมิ ก่อนเปิดและหลังเปิดแอร์ในห้อง

ความคิดเห็นที่ 2

sangtip
sangtip
283
[2012-09-01 21:50:05]

ตู้24ทรงสูง ปลา20 ตัวขนาด1.2นิ้ว เลี้ยงในตู้เล็กเพราะกลัวอาหารไม่ถึง

กินอาหารปกติหนอนแช่แข็ง ผมเอาไปแช่ในน้ำร้อนก่อนแล้วค่อยเอามาให้กิน

ปกติเปิดแอร์ประมาณ ตอน4ทุ่ม ปิดตอน6.30 ครับ แต่พ่อแม่ไม่อยู่บ้านเลยเปิดยาวทั้งวันเปิดอุณหภูมต่ำกว่าปกติครับ คื 20 แล้วเป็นห้องส่วนตัวขอผม ห้องก็ไม่ใหญ่มากปกติเปิด27ก็หนาแล้วครับ ไป บ้านแฟนกลับมาอีกทีตายเลย ผมไม่เสียดายเงินที่ซื้อปลาไปเลยนะครับ แต่ผมเสียดายปลาที่ผมรักมากกว่า อย่าจะร้องไห้ หมดกำลังใจในการเลี้ยงปลาเยอะเลย กะจะเลิกแต่ผมก็เลิกมันไม่ได้ซะที

ความคิดเห็นที่ 3

pingly
pingly
339
[2012-09-01 21:58:26]

งั้นมันตาย เพราะอุณหภูมิดีด เกินไปครับ ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็น จะปรับตัวตามอุณหภูมิน้ำ น้ำในตู้24นิ้ว จะ ขึ้น-ลง ได้ง่ายมาก ดังนั้น การที่เปิด 20องศา น่าจะทำให้ในตู้เกิดการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิมากกว่า5องศา เลยเกิดอาการช็อคจากอุณหภูมิที่ลงต่ำอย่างรวดเร็วนะครับ ทางที่ดีที่สุดถ้าจะเลี้ยงน่ะครับ ต้องอยู่ในอุณหภูมิต่อวัน ขึ้น-ลง ไม่เกิน 2องศา(แล้วการขึ้นลงของอุณหภูมิต้องไม่ขึ้นลงเร็วต้องค่อยๆเท่านั้น) เพราะปลาไม่สามารถที่จะปรับตัวได้ตลอดเวลาในเวลาอันสั้น แล้วปลานั้นจะตายอย่างที่คุณเห็นนั้นและครับ

ถ้าตามที่คุณบอก ในห้องคุณเวลากลางวันอุณหภูมิน่าจะสูงถึง 30องศา แล้วพอเปิดแอร์น่าจะเหลือเพียง 26องศา แต่ในตู้ปลาจะเหลือ 25องศา แล้วพอในวันนี้เปิดเหลือ 20องศา จึงเกิดการปรับตัวไม่ทันแล้วช็อคตายแต่ตัวที่แข็งแรงก็จะตายช้าสุด แต่ส่วนใหญ่จะตายไล่ตามๆๆกัน


เรื่องปลาผมก็ต้องเสียใจด้วย แต่ถ้าจะเลี้ยงฟรอนในตู้24นิ้ว ควรเลี้ยงเพียง6-8ตัวครับ เพราะว่าฟรอนั้นเป็นปลามีขนาดใหญ่น่ะครับ ถ้าเลี้ยรวมถึง 20ตัวในตู้ 24นิ้ว ผมว่าคงเล็กไปนะครับ(อันนี้ในความคิดและประสบการณ์ที่ผมเลี้ยงมานะครับ) ตอนนี้ผมเลี้ยงอยู่ในตู้ 36นิ้ว ขนาด 2.5-3.5นิ้ว มีประมาณ 8 ตัวครับ ยังไงก็ลองศึกษาแล้วสู้ๆๆนะครับ

ความคิดเห็นที่ 4

sangtip
sangtip
283
[2012-09-01 23:19:56]

ขอบคุณมากครับพี่ ผมเลี้ยง20 ตัวในตู้เล็กผมกลัวอาหารมันไม่ถึง ตู้60 ผมมีตัวใหย๋อยู่ไม่กล้าปล่อยเดี๋ยวมันฟิวชั่น เดี๋ยวไม่แน่จะออกตู้60โล่งอีกใบอะครับ จะจัดการเลี้ยงกรองยังไงดีครับ สอนผมหน่อยครับ ขนาด60*20*20 ครับ ขอบคุณหลายๆ นะครับพี่ ที่ให้ความรู้

ความคิดเห็นที่ 5

mootoy
mootoy
1122
[2012-09-01 23:49:47]

เสียใจด้วยนะครับ

ความคิดเห็นที่ 6

TaClassicalGuitar
TaClassicalGuitar
288
[2012-09-01 23:56:00]

ผมว่าน้ำเสียนะ หรืออาจสาเหตุอื่น ตัวปลาเองก็มีโอกาส บางครั้งถึงคราวซวยก็เหมือนเลี้ยงระเบิดเวลา เรื่องอุณหภูมิแกว่งยังไง ก็น่าไม่ไวไปกว่าเอาปลาใหม่ลงแช่ เลยไม่น่าตายเรียบ 20 ตัว

ระบบกรองเป็นยังไง มีโอกาสไฟดับมั้ย เลี้ยงมานานรึยัง เปลี่ยนนำ้เมื่อไหร่ นำ้มีคลอรีนมั้ย ขอข้อมูลอีกหน่อย มีคนยินดีช่วยมากมายอยู่แถวๆนี้ อย่าเพิ่งท้อครับ

ความคิดเห็นที่ 7

Chanin09
Chanin09
2080
[2012-09-02 05:53:13]


ความคิดเห็นที่ 2
sangtip

ตู้24ทรงสูง ปลา20 ตัวขนาด1.2นิ้ว เลี้ยงในตู้เล็กเพราะกลัวอาหารไม่ถึง

กินอาหารปกติหนอนแช่แข็ง ผมเอาไปแช่ในน้ำร้อนก่อนแ้วค่อยเอามาให้กิน

ปกติเปิดแอร์ประมาณ ตอน4ทุ่ม ปิดตอน6.30 ครับ แต่พ่อแม่ไม่อยู่บ้านเลยเปิดยาวทั้งวันเปิดอุณหภูมต่ำกว่าปกติครับ คื 20 แล้วเป็นห้องส่วนตัวขอผม ห้องก็ไม่ใหญ่มากปกติเปิด27ก็หนาแล้วครับ ไป บ้านแฟนกลับมาอีกทีตายเลย ผมไม่เสียดายเงินที่ซื้อปลาไปเลยนะครับ แต่ผมเสียดายปลาที่ผมรักมากกว่า อย่าจะร้องไห้ หมดกำัลังใจในการเลี้ยงปลาเยอะเลย กะจะเลิกแต่ผมก็เลิกมันไม่ได้ซะที

เฉียบพลันแบบยกตู้นี่ มีได้สามสี่กรณี คือ

1.ขาดอ็อกซิเจน
2. เกิดสารพิษในน้ำ
3. อาหาร
4. ค่าน้ำเปลี่ยนแปลงกระทันหัน จนช็อคน้ำ


อาจเป็นสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง หรือถึงคราวซวย สามสี่อย่างมาประจวบกัน มาลองวิเคราะห์ดูเป็นเคสๆ นะครับ

ขาดอ็อกซิเจน ก็เป็นได้ที่ว่ามีไฟดับเป็นเวลานานๆ แม้ว่าฟรอนจะค่อนข้างอึด เพราะปลาตั้ง 20 ตัวในตู้ 24 ทรงสูง ที่อ็อกละลายลงด้านล่างได้น้อย ยิ่งถ้าไม่มีหัวทรายเป่าอากาศ หรือฝาตู้ปิดมิด อากาศภายนอกไม่สามารถเข้าได้ มันก็เกิดเคสนี้ได้

เกิดสารพิษในน้ำ อันนี้มีโอกาสมาก เพราะถ้าน้องมีน้ำยาเทสค่า แอมโมเนีย หรือไนไตรต์ อยู่ก็จะรู้ทันทีครับว่าน้ำในตู้มันมีของเสียสะสมตัวจนถึงจุดมรณะหรือเปล่า ถ้าระบบกรองตู้น้องไม่เอื้อต่อการขจัดของเสียเลย เช่นใช้แค่กรองฟองน้ำ หรือมีกรองมุมก็จริง แต่วัสดุกรองไม่เวิร์ค อย่างใส่แค่ไบโอบอลของจีนห่วยๆ ที่ร้านตู้มันแถมมาให้เวลาซื้อ ซึ่งกรองอะไรแทบไม่ได้เลย

กับอีกกรณีที่คาดไม่ถึง แต่เกิดขึ้นแล้วบ่อยๆ คือมีใคร เช่นแม่บ้านมาฉีดยาฆ่าแมลงแถวนั้นหรือไม่ เพราะหากยิ่งเราเปิดแอร์ปั๊ม มันจะดูยาฆ่าแมลงลงไปในน้ำ นิดเดียวก็ม่องแล้ว ลองเช็คดู

อาหาร มีโอกาสเหมือนกัน แต่น้อย ทว่ามาติดใจตรงที่บอก เอาแช่น้ำร้อนก่อน สงสัยนิดว่าแช่แค่พอละลาย หรือจนหนอนสุก เพราะถ้าสุก มีโอกาสที่ปลาจะตายเพราะท้องอืดเนื่องจากย่อยโปรตีนที่สุกแล้วได้ยากครับ

ค่าน้ำเปลี่ยน อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เย็นจัด ร้อนจัด ก็มีผลครับ ในเคสร้อน เช่นอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 34-35 องศา อ็อกซิเจนจะหนีออกจากน้ำหมด ปลาขาดอากาศตายได้ และกลับกัน ในกรณีน้ำเย็นมาก อย่างลงมาสิบกว่าองศา ปลาไม่ตายจริง แต่จะมีอาการเหมือน "หลับ" หากใครเลี้ยงพวกปลาทอง ปลาคาร์ฟ จะรู้จักอาการนี้ดี คือปลาจะนิ่งจมก้นบ่อ อยู่นิ่งๆ หายใจน้อยลง ไม่กินอาหาร เพราะร่างกายจะย่อยอาหารไม่ได้ อันนี้น่าสนใจที่หากน้องให้อาหารกินก่อนออกไปเรียน แต่แทนที่จะปิดแอร์อย่างทุกวัน ปรากฏว่า พอปลากินอาหารจนพุงกางแล้ว น้ำกลับยิ่งเย็นลงๆ จนปลาเข้าสู่ภาวะ "หลับ" ก็มีโอกาสตายหมู่ เพราะอาหารไม่ย่อยทั้งฝูงได้ครับ

เรื่องการเซต ระบบกรองนั้น ยังไงนักเลี้ยงปลาทุกคนควรเราศึกษาเรื่องวัฏจักรไนโตรเจน ที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพน้ำให้ดีก่อน ก็จะสามารถดุแลเลี้ยงปลาได้อย่างมีปัญหาน้อยที่สุด หรือแทบไม่มีเลยครับ

ความคิดเห็นที่ 8

skullomania
skullomania
211
[2012-09-02 07:14:23]

ผมว่าถึงจะเปิดแอร์แต่อุณหภูมิน้ำในตู้น่าจะค่อยๆลดนะครับ มันไม่น่าจะตายได้ทั้งหมดจากเคสนี้ ผมมองว่าของเสียสะสมในน้ำมากเกินและระบบกรองไม่ดีพอหรือเปล่า หรือว่าไฟดับตอนน้องออกไปข้างนอก ลองศึกษาวัฎจักรแอมโมเนีย และเรื่องแบคทีเรียในระบบกรองให้เข้าใจนะครับ แล้วจะลดเรื่องการสูญเสียได้มากขึ้น ว่าแต่น้องเปิดแอร์ในห้อง 20 องศานี่น้องไม่หนาวหรอครับ บ้านผมเปิด24ก็จะขาดใจแล้ว

ความคิดเห็นที่ 9

sangtip
sangtip
283
[2012-09-02 08:01:03]

ระบบกรองก็ไม่มีปัญหาครับ น้ำใสมากๆเลย ครับ

ความคิดเห็นที่ 10

watermonkey
watermonkey
449
[2012-09-02 08:22:19]

ความคิดเห็นที่ 9
sangtip

ระบบกรองก็ไม่มีปัญหาครับ น้ำใสมากๆเลย ครับ

เคยได้ยินคำว่าน้ำใสใช่ว่าจะสะอาดและปลอดภัยเสมอไปมั๊ยครับ

เปรียบเทียบง่ายๆน่ะครับ เหล้าขาวน้ำก็ใส น้ำทะลเน้ำก็ใส เส้นหมี่น้ำใส เอร๊ยยยยย


ลองศึกษาตามพี่ๆ เค้าแนะนำดูครับ ผมเชื่อทุกคนผ่านการที่เลี้ยงปลาแล้วตายกันมาทั้งนั้น ถ้ามีเวลา อย่าถอดใจครับ

ความคิดเห็นที่ 11

Chanin09
Chanin09
2080
[2012-09-02 10:31:17]

สารพิษ อย่างแอมโมเนีย และไนไตรต์ ที่เกิดจากของเสีย คือขี้ปลา และเศษอาหารเหลือในตู้ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นครับ น้ำใสปิ๊ง แต่อาจมีแอมโมเนีย หรือไนไตรต์ละลายอยู่ในปริมาณสูงจนฆ่าปลาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ครับ

การจะรู้ค่าความเข้มข้นมันได้ ต้องอาศัยพวกชุดน้ำยาวัด (หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เลี้ยงปลาใหญ่ๆ) แต่หากตู้เราเซ็ตระบบกรองไว้อย่างดี ถูกต้องเหมาะสมสามารถรองรับกับขนาดตู้ ปริมาณน้ำและจำนวนปลาแล้ว เราก้แทบจะไม่ต้องไปกังวลกับค่าน้ำพวกนี้เลย เพราะระบบกรองชีวภาพ ที่อาศัยแบคทีเรียฝ่ายดีในการย่อยสารพิษ จะจัดการกับสารพิษที่ว่าทั้งสองอย่าง ให้กลายเป็นไนเตรตที่มีพิษน้อยมาก เพียงเปลี่ยนน้ำออก 10-20% ต่อสัปดาห์ก้เพียงพอจะรักษาคุณภาพน้ำให้ปลามีความสุขได้

อย่างที่เพื่อนต่างแนะนำไว้ครับ ศึกษาเรื่องระบบกรองชีวภาพให้ดีก่อน จึงจะเลี้ยงปลาได้ประสบความสำเร็จทุกชนิด เพราะหากมองอะไรเพียงผิวเผิน ว่า

น้ำใสแล้ว (ที่จริงมีแอมโมเนียอยู่เพียบ)
ปลาดูดีปรกติแล้ว (ดูดีๆ อาจเห็นว่ามันเริ่มหอบ หายใจแรง เพราะสารพิษ หรือขาดอากาศ)
ปลาอิ่มแล้ว (ที่จริงอาจท้องอืด หายใจพงาบๆ ลอยหัว หรือหลบมุมที่พื้นตู้ ไม่ว่าย)

น้องก็จะเจอปัญหานี้ไม่จบสิ้นครับ

ความคิดเห็นที่ 12

modifycom
modifycom
3125
[2012-09-02 17:16:55]

ถ้าเป็นคลอลีนจะทะยอยตายไม่เกินสองวัน ในกรณีอุณหภูมิปรับเปลี่ยนอย่างกระทัน จะตายเเบบรวดเร็วส่วนมากจะเจอตอนเอาปลาลงตู้ใหม่ๆกับตอนเปลี่ยน้ำในช่วงบ่ายหรือช่วง1ทุ่ม ไนไตรขึ้นสูงก็ตายเเบบรวดเร็วได้เช่นกัน ขาดออกซิเจนก็ตายได้เเต่ไม่ยกฝูง(ถ้าเเก้ไขทัน) ในกรณีปลาติดเชื่อท้องอืดจะทะยอยตายเเบบช้า ๆ(ถ้าไม่เเยกปลาก็อาจจะตายยกฝูง) หาวิธีป้องกันสิ่งเหล่านี้ครับปลาก็จะได้ไม่ตาย สำคัญมากคือต้องมีตู้อนุบาลปลาเวลาป่วยเห็นท่าไม่น่าไว้ใจเช่นปลา หอบ ปลาสีคล้ำกว่าปกติ ไม่ว่าย เเยกออกจากกลุ่มผิวหนังมีลอยถลอกหรือจุดขาวให้เเยกออกจากฝูงทันทีอย่าลังเล เอาออกมารักษาพยาบาลด้วยในกรณที่เลี้ยงปลาทีละมากมาก ต้องมีตู้พยาบาลอย่างน้อย2ใบอย่าเอาไปใสถังหรือภาชนะทึบเเสง(ไม่รอด)จะได้เห็นอาการป่วยของปลาด้วย

ความคิดเห็นที่ 13

bcscientist
bcscientist
1
[2012-09-03 19:26:45]

อุณหภูมิที่ต่างกัน 10 องศานี้ จะส่งผลให้ค่าแอมโมเนียที่เป็นพิษเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าทันที ยิ่งถ้าตอนตั้งต้นมีค่าแอมโมเนียที่เป็นพิษไม่ต่ำเท่าไหร่ด้วยแล้ว เคยเขียนเรื่องแอมโมเนียให้น้องๆไปแล้วครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ขออนุญาติทบทวนความจำกันหน่อยแล้วกัน

เรื่องของแอมโมเนียและอุณหภูมิ : ในลำดับต้นของขี้ปลาทำให้เกิดสิ่งนี้ NH4+/NH3 เรียกว่า Total Ammonia ตัวที่เป็นประจุแอมโมเนีย NH4+ ไม่เป็นพิษ แต่ตัวที่เป็นพิษคือ NH3 สัดส่วนปริมาณของสองตัวนี้จะแปรเปลี่ยนขึ้นลงได้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและค่า pH ถ้ายิ่งสูงจะทำให้ NH3 ที่เป็นพิษจะยิ่งมาก (ไม่ควรเกิน 0.03 ppm) คำนวณได้ตามสูตรนี้

NH3=(Total Ammonia)/(1+10^[(0.0902-pH) + (2730/(273.2 + Temperature))])

จะยกตัวอย่างให้ดูว่า เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น 10 องศา ตู้ที่เคยมีค่าแอมโมเนียปกติอยู่จะกลายเป็นตู้สังหารโดยแอมโมเนียได้อย่างไร ดังนี้

สมมุติตอนอุณหภูมิต่ำวัดค่า Total Ammonia ได้อยู่ที่ 0.65 โดยมีค่า pH 7.8 และอุณหภูมิ 20 องศา จะมีค่า NH3 อยู่ที่ 0.015883 (ปลาอยู่เป็นปกติ) พออุณหภูมิสูงขึ้นเป็น 30 องศา NH3 จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.031422 ทันที ซึ่งเข้าข่ายตัวเลขอันตรายที่ปลาจะตายยกฝูงได้

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อน้องๆไม่มากก็น้อย

ความคิดเห็นที่ 14

rome
rome
2515
[2012-09-03 20:00:51]

เข้ามาหาความรู้ได้เยอะเลย ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านนะครับ

ความคิดเห็นที่ 15

Chanin09
Chanin09
2080
[2012-09-04 07:21:48]

ที่โบราณว่า..."น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย" ก็ไม่จริงแล้วหล่ะ

ความคิดเห็นที่ 16

kajib
kajib
1388
[2012-09-09 22:33:10]

เข้ามาหาความรู้ และเป็นกำลังใจก็แล้วกันค่ะ

ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ