*บ้านผมอยู่ด้านขวาของประตูสีน้ำเงิน(กลางภาพ)
**วันที่ถ่ายรูป หลังหิมะตก3-4ชั่วโมง อุณหภูมิ -8ซ.ซ.

ป้ายรถประจำทาง STM.
อุณหภูมิ -32ซ.ซ.

ถนนใน Montreal อุณหภูมิ -35ซ.ซ.

ผมจะอยู่ชั้นบน ตู้ปลาจะอยู่ชิดหน้าต่าง เพราะฉนั้นในฤดูหนาวทุกปี ผมต้องใช้ฮีตเตอร์ถึง3ตัวสำหรับตู้48*แต่ถ้าวันใหนอุณหภูมิต่ำกว่า -40ซ.ซ.แล้วเกิดไฟฟ้าดับ โหย...ไม่ต้องคิดถึงอย่างอื่นแล้ว ในบ้านจะเย็นเร็วมากๆ
-ปรกติแล้วทุกๆบ้านจะมีฮีตเตอร์ปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อนอยู่แล้ว จะปรับอุณหภมิในบ้านไว้ที่ 28-32ซ.ซ.

ในเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด อุณหภูมิอาจตกไปอยู่ที่ -43ซ.ซ.ถึง -47ซ.ซ.นานถึง10วัน(เป็นช่วงที่จะไม่มีใครกล้าจะออกนอกบ้านเลย) จากนั้นอากาศจะค่อยๆอุ่นขึ้น พอถึงปลายเดือนมีนาคม น้ำแข็งก็จะเริ่มละลาย

จะเรียกได้ว่า ผมค่อนข้างจะโชคร้ายหน่อย เพราะในแขวงที่บ้านผมเช่าอยู่ มีปัญหาเรื่องหม้อแปลงไฟฟ้าทุกปีเลย
-ตลอด4ปีมานี่ ปลาตายยกตู้ทุกปี
*ปีแรก ฝูงคาร์ดินัล 24ตัว, ปลาแพะ 2ตัว, ม้าลาย 8ตัว,กาแดง 4ตัว แข็งตายเรียบ ภายในครึ่งชั่วโมง
*ปีที่2 กระเบนสีน้ำตาล ลายจุด ตายยยยย.
*ปีที่3 Lobsters 1ฝูง 22ตัว ตาย หายไปอยู่ในกระเพาะทุกคนในบ้าน
*ปีที่แล้ว ปลาทอง ตันโจ 9ตัว ตายภายใน 25นาที
*ปีนี้ ตันโจ 4ตัว ฮอลันดา 3ตัว โคเมท 2ตัว ซีบร้าซัคเกอร์ 1ตัว(จะแย่แล้ว) ทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็น่า..เสียว

สภาพนอกบ้าน หลังจากพายุน้ำแข็งถล่ม ในปี1998(2541)

พายุน้ำแข็งในปี1998 รุนแรงมากในรอบ150ปี อุณหภูมิต่ำถึง -57ซซ. ทำลายทุกอย่าง แม้กระทั่งเสาไฟฟ้าแรงสูง

สุดท้ายล่ะ เห็นเป็นประจำทุกวันในฤดูหนาว แม้แต่รถของเราก็เป็น น้ำแข็งจับที่รถ ต้องทุบเบาๆหรือขูดออก

แล้วไม่กลับเมืองไทยมั่งเหรอตาเก่ง

น่านซินะ ทำไมไม่กลับมาอยู่เมืองไทยล่ะ
จะได้เลี้ยงปลาได้ สบายๆ ไม่คายไง

ตาย

บรรยากาศน่าอยู่ดีนะครับ แต่ให้ไปอยู่จิงๆไม่เอาดีกว่า อิอิอิ หนาวโคตรๆๆๆๆๆๆๆ



^_^

ตกลงไม่กลับมาแล้วเหรอคุณเก่ง

บ้านเราเหมาะแก่การเลี้ยงปลา
โชคดีของผมที่เกิดเมืองไทย

เพราะมีปัญหาสำคัญบางอย่าง ทำให้ต้องเลื่อนการเดินทางกลับเมืองไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนดครับ
*อาจจะต้องเป็นปีหน้าแล้วละครับ

แล้วคุณเก่งเตรียมรับมือกับไฟฟ้าดับเรียบร้อยหรือยังครับ ในบ้านมีเครื่องปั่นไฟสำรองหรือเปล่า หรือใช้เตาผิงอย่างเดียวตอนไฟฟ้าดับ
ผมฟังดูที่คุณเก่งเล่ามานะ ไม่ต่างอะไรกับเดอะเดย์อาฟเตอร์เลย แค่ไม่มีน้ำท่วมเอง บรึ๋ยย ... อากาศที่นั่นโหดขนาดนี้เลยหรอเนี่ย
ชอบฟังคุณเก่งเล่าถึงตอนไฟดับ อากาศติดลบภายใน 30 นาที กัวอ่ะ ...
เอาใจช่วยขอให้ปีนี้ปลาปลอดภัยนะคับ

ขอบคุณครับ ที่ติดตามและเป็นห่วง
ปีนี้ผมเตรียมพร้อมแล้ว จะกลัวก็แต่ไฟฟ้าดับนั่นแหละ ผมเคยต้องนั่งดู Lobster แข็งตายไปทีละตัว(17ตัวในเวลา30นาที อีก5ตัวอาการสาหัส ผมต้องจบชีวิตมันด้วยมือผมเอง) ตอนนั้นรู้สึก...เซ็ง..เศร้า..ไปเลยจริงๆ แต่คนในบ้านกลับดีใจเพราะจะได้กิน Lobster กัน...เฮ้อ
*อันที่จริงอากาศที่นี่ไม่เหลวร้ายอย่างที่คิดกัน เพียงแต่ถ้าเรามีเสื้อกันหนาวดีๆซักตัว -45ซซ.ก็ยังพอไหวครับ แต่ถ้าอยู่ในบ้านก็จะมีฮีตเตอร์ปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อน อยู่สบายครับ แต่ถ้าไฟดับ ก็มีทั้งเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ฯลฯ แต่ตู้ปลา......หมดสิทธิ์ครับ ทำอะไรไม่ทันจริงๆ

แบบนี้ตู้ปลาก้อไม่มีทางไหนที่จะรับมือกับไฟดับได้เลยสิครับ .... แล้วเจ้าม้าลายตัวใหม่จะเป็นไงเนี่ย ตัวจิ๊ดเดียวเอง (แยกใส่ในกระติกน้ำเก็บความร้อน แล้วใส่อ๊อกถ่านพอไหวป่ะคับ)

อ๊อกถ่าน ที่แคนาดาไม่มีขายครับ ผมหามานานแทบทุกร้านไม่เคยเจอเลย
*เจ้าม้าลาย ตอนที่ได้มาสภาพโทรมมาก(ใจร้อนรีบซื้อ แต่ไม่ดูให้ดี)ตอนนี้ก็มาเป็นจุดขาวอีกเต็มตัวเลย(ปลาทองเลยโดนพ่วงไปด้วย) พอไปถามทางร้าน ถึงได้รู้เจ้าซีบร้าจะแพ้ยาทุกชนิดที่มีสีเข้ม แต่เค้าให้ยามารักษาแต่ก็ช้ามาก..เฮ้อ
**นี่ขนาดยังไม่หนาวนะ ยังแย่ขนาดนี้ ไม่รู้เจ้าซีบร้าจะสู้ได้นานแค่ไหน ยังคอยลุ้นอยู่ครับ

คุณเก่งทำผมลุ้นไปด้วยเลย
ทีแรกลุ้นกัวไฟดับ ตอนนี้เจ้าตัวจิ๋วกะปลาทองยังมาป่วยอีก โคเมทติดกะเค้าด้วยป่าวเนี่ย
..นี่ถ้าอยู่ที่อากาศอุ่น ๆ แบบกทม. ตอนนี้ ไม่ต้องใช้ยาเลย แค่เปลี่ยนน้ำปรับฮีตเตอร์ก้อหายห่วง
เอาใจช่วย(ลุ้น)ต่อครับ

แล้วถ้าหันมาเลี้ยงนกเพนกวิ้นอ่ะเป็นไงน่ารองนะครับอิอิอิ(ขำขำอ่ะ)

งี้ก้อต้องเลี้ยงคู่กะหมีขั้วโลกด้วยจิ มีป่าวหว่า ??

วันนี้18 ก.ย. เป็นวันที่3ของการโดนหางเลขหางเฮอร์ริเคนโอฟิเรีย...แย่ครับ ฝนตกมาก อุณหภูมิกลางวันอยู่ที่19ซซ.แต่กลางคืนอยู่ที่10-12ซซ. เตรียมรับมือแทบไม่ทัน ไปทำงานแล้วลืมเปิดฮีตเตอร์ให้ปลา กลับมาถึงบ้าน...โอย เจ้าซีบร้าตัวเล็กอาการทรุดลงจนน่ากลัว ฮอลันดาไปแล้ว1ตัว*พรุ่งนี้วันหยุด(จันทร์)สงสัยไม่ได้ไปใหนแน่ๆเลย คงต้องอยู่คอยลุ้นกันล่ะครับ

มันมาอีกแล้วหรอ ลุ้น ๆ ให้เจ้าจิ๋วหายเร็ว ๆ นะครับ เอาใจช่วยเต็มที่เลย

T-T น่าสงสารลูกๆพี่เก่งจังเลย น้ำคงเย็นเจี๊ยบ กว่าจะตายคงทรมานน่าดู

ปล.บ้านน่าอยู่มากๆค่ะ ตื่นมาได้ชาร้อนๆซักแก้ว โห๊ยยยยยย ได้บรรยากาศสุดๆ ^^

ใครมีโครงการมาเที่ยวแคนาดา ติดต่อผมได้นะครับ ยินดีต้อนรับทุกคนครับ ( ในส่วนที่ช่วยได้นะ...555 )
*พฤศจิกายน ถึง มีนาคม ฤดูหนาว( Winter season ) ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยหิมะ จะหนาวที่สุดในเดือน กุมภาพันธ์
*เมษายน ถึง พฤษภาคม ฤดูใบไม้ผลิ ( Sping season ) ดอกทิวลิปและใบไม้เริ่มงอกบาน จะเขียวสวยสดทั้งเมือง
*มิถุนายน ถึง กันยายน ฤดูร้อน ( Summer season ) คนเริ่มออกเที่ยว ตากแดด รับลมร้อน มีชื่อเล่นว่าเป็นฤดูบิกินี ผู้คนเริ่มมีสีสันและชีวิตชีวา ผู้หญิงจะใส่บิกินีมาโชว์กัน
*ตุลาคม ฤดูใบไม้ผลัด ( Autumn season ) ใบไม้เปลี่ยนสีเป็น แดง เหลือง แสด ส้ม น้ำตาล เป็นสีสันที่สวยมาก ทั่วทั้งประเทศแคนาดา

ในช่วง2เดือนนี่ โดนหางเฮอริเคน 3ลูก ลูกแรกก็ แคทริน่าลูกที่2 โอฟิเรีย และนี่ลูกที่3 ริต้า กำลังมา....โอย มันจะอะไรกันนี่......เฮ้อ (บ่นอีกและ เรา)

มันมาแล้ว........เฮอริเคน ริต้า.............เซ็ง
*วันนี้อุณหภูมิจาก 20ซซ.ตกไปอยู่ที่ 6ซซ. ในเวลาไม่นานเลย ....ไม่รู้ต่อไปจะเจออะไรอีกหนอ......

อยากไปแคนาดามากๆเลยครับพี่เก่ง....แต่สภาพอากาศแปรปวรนแบบนี้....ถ้าผมเลี้ยงปลาที่นั่นสงสัยมะเหลือแน่ๆเลย