วาไรตี้ คนรักปลา ทุกหัวข้อ การพูดคุย การสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ ปลาสวยงาม กลุ่มต่างๆ คุณยังจำวันแรกที่คุณเลี้ยงปลาได้มัย้ปลาตัวแรกที่คุณเลี้ยง ประสบการณ์เลี้ยงปลาที่คุณอยากจะถ่ายทอดให้ เพื่อนๆ ได้รับฟัง
อุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม จากเว็บช้อปปิ้งชั้นนำ
1,750 บาท1,950.00 บาท
1,750 บาท1,950.00 บาท
50 บาท70.00 บาท
ความคิดเห็นที่ 1
note31
196
[2007-11-22 14:55:22]
ความคิดเห็นที่ 2
ชู
(58.8.168.61)
[2007-11-22 20:17:11]
ความคิดเห็นที่ 3
(61.7.149.130)
[2007-11-22 21:14:34]
ความคิดเห็นที่ 4
putt1327
150
[2007-11-22 22:27:18]
ความคิดเห็นที่ 5
cherrynaruk
(202.8.84.29)
[2007-11-22 23:55:42]
ความคิดเห็นที่ 6
ตาล
(202.12.74.77)
[2007-11-23 02:12:21]
ความคิดเห็นที่ 7
ตาล
(202.12.74.78)
[2007-11-23 03:37:40]
ความคิดเห็นที่ 8
(202.57.133.247)
[2007-11-23 08:25:12]
ความคิดเห็นที่ 9
thaijeab001
8
[2007-11-23 12:30:27]
ความคิดเห็นที่ 13
ตุ้ย
(118.174.150.159)
[2008-06-08 13:47:37]
ความคิดเห็นที่ 14
อา
(118.175.167.109)
[2008-06-25 15:53:48]
ความคิดเห็นที่ 15
เด็กนคร
(202.29.41.133)
[2008-08-08 10:57:04]
ความคิดเห็นที่ 16
ben
(58.8.195.14)
[2008-09-03 16:24:20]
อีกครั้ง กับเรื่องราวของผม ก่อนภาคที่ 2 จะลงอาทิตย์หน้าคับ
จริงๆ แล้วชีวิตผมเติบโตมา ก็พอรู้เรื่องบ้างแล้ว ตอนนั้นบ้านของผมอยู่ บางขุนนนท์ คุณพ่อมีอาชีพเพาะพันธุ์ปลาทอง ปลาเกล็ดแก้ว ปลารักเร่ดำ ปลาลูกโป่ง หัวสิงห์ ปลาหางนกยูง และปลากัดจีน ขายผมจำได้ลางๆ ว่าตอนนั้นผมยังเดินไม่เก่งเลยด้วยซ้ำไป พี่สาวผมยังอุ้มผมเดินดูอ่างปลารอบๆๆบ้านที่คุณพ่อท่านเลี้ยงไว้ เท่าที่ผมสอบถามคุณพ่อเล่าให้ฟังว่าท่านเอง เพาะปลาส่งแถววงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งขายปลาสวยงามในเวลานั้น
ไม่นานคุณพ่อของผมก็ย้ายบ้านและมาอยู่ที่ตลิ่งชัน พร้อมกับเปลี่ยนอาชีพ เป็นการเพาะต้นไม้ขาย อาทิ โกสน บอนสี บอนไซ จนคุณพ่อของผมได้รับรางวัลการประกวดต้นไม้จากหลายแห่งจากหลายจังหวัด คือที่ไหนมีการประกวดท่านก็จะไป ทำให้คุณพ่อผมยึดอาชีพนั้นเรื่อยมา ในที่สุดก็มีร้านเป็นของตัวเองอยู่ที่ตลาดนัดสนามหลวงและไม่นานตลาดนัดสนามหลวงทั้งหมดก็ย้ายมา อยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมกับขายอุปกรณ์เกี่ยวกับการเกษตรไปในตัวด้วย ร้านของคุณพ่อผมในเวลานั้นตั้งอยู่ที่โครงการ 2 ในตลาดนัดสวนจตุจักร ทุกๆ อาทิตย์ ผมกับพี่สาว คุณแม่ พวกเราจะมาช่วยกันขายของที่สวนจตุจักร เปิดร้านเวลา 8 โมง เริ่มเก็บอีกทีก็ 5 โมงเย็น แต่ส่วนใหญ่คุณพ่อของผม จะมาเริ่มจัดของเพื่อเตรียมตัวขายในทุกๆวันศุกร์ พร้อมกับลงของใหม่ๆ เพื่อขายในวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าหากผมและพี่สาว มีเวลาและไม่ติดเรียนก็จะตามคุณพ่อมาเพื่อจัดร้าน ผมคลุกคลีอยู่กับคุณพ่อทำให้ผมรู้เรื่องการรักษาการเลี้ยงการกำจัดแมลงต้นไม้ และวิธีการเลี้ยงต้นไม้จากคุณพ่อมากมายและผมอยู่กับคุณพ่อและครอบครัวและอยู่กับสวนจตุจักรมาตั้งแต่สวนจตุจักรเริ่มต้น ร้านทุกร้านยังไม่มีประตูเหล็กเหมือนในปัจจุบัน ทุกๆ ร้านยังใช้ประตูไม้ไผ่กันอยู่เลย ทุกๆครั้งทุกอาทิตย์หลังจาก ร้านของคุณพ่อผมใกล้จะปิด ผมจะรีบดูเวลาใกล้ 5 โมงเย็นผมก็จะแอบเข้าไปในตลาดขาย สัตว์เลี้ยง เพราะในสวนจตุจักรผมเดินมาเยอะมาก แต่ไม่มีที่ไหนถูกใจเท่าโซน สัตว์เลี้ยง ทั้งปลา กระรอก สุนัข กระต่าย นก งู แมลงหายาก และสัตว์นาๆชนิดอีกมากมาย ค่อนข้างถูกใจเด็กในตอนนั้นอย่างผมพอสมควร เพราะทุกครั้งจะขอตังคุณแม่เข้าไปเดิน หาสัตว์เลี้ยงเอากับบ้านเกือบทุกอาทิตย์ ทุกๆอาทิตย์ผมจะได้ปลา และสัตว์อื่นๆ อาทิ กระรอก ลูกไก่ย้อมสี แมลงทับสีเขียว ด้วง ปลาสวยงามต่างๆ แม้แต่ปลาช่อนขนาดเล็กๆในตลาดที่เขาขายไว้ทำอาหารก็แอบไปซื้อโดยที่ไม่ให้คุณแม่รู้แต่ไม่ถึงบ้านคับเพราะแอบคุณแม่มันก็เลยตาย ซึ่งตอนนั้นถูกใจเด็กอย่างผมพอสมควรแล้วสัตว์ที่ได้ กลับบ้านก็แบบไม่ซ้ำกันเลย จำได้ว่าสัตว์เลี้ยงที่ผมซื้อตัวแรกในชีวิต คือ ปลากัดจีน จำได้ว่าซื้อที่ร้านลุงพันปลากัด บางคล้า ร้านเขาจะจัดน่าซื้อมากในสมัยนั้น ทั้งปลากัดจีน ปลาเข็มหม้อ ปลากัดหม้อครีบสั้น ทั้งมาเลย์ สิงค์โปร์ เวียตนาม แปดริ้ว จำได้ว่าร้านนี้เป็นร้านแรกที่ทำให้ผมรู้จักกับ ปลากัดไทย ปัจจุบันร้านลุงพัน ปลากัดบางคล้าได้ปิดตัวลงไปแล้วคับ ชีวิตผมเป็นแบบนี้มาหลายปี จนผมเรียน ป.ว.ช ที่ช่างกลสยาม รุ่น34 แผนกช่างยนต์ รอบเช้า
ในที่สุดกรุงเทพมหานครมีนโยบายที่จะสร้างรถไฟลอยฟ้า โดยทำทะลุผ่านสวน จตุจักร ทำให้ร้านของคุณพ่อของผมและ โครงการ 2 เกือบครึ่ง โดนรถไฟฟ้าเต็มๆ ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วด้วย ทำให้ครอบครัวของผม ลงความเห็นกันแล้วว่า พวกเราจะเลิกกิจการและให้คนอื่นเช่าต่อ ในโครงการใหม่ที่กรุงเทพมหานครจัดที่ให้ใหม่คือ โครงการในฝัน ในสวนจตุจักรปัจจุบันอยู่ใกล้ๆร้านอาหารโถพลู ใกล้ๆ ตลาดนัดซันเดย์ ปัจจุบันร้านของคุณพ่อ ยังอยู่เหมือนเดิม ให้คนอื่นเช่าอยู่ ผมไปเก็บตังค่าเช่าทุกๆ เดือนแทนคุณพ่อและพี่สาว ชีวิตผมในช่วงนั้นลืมเรื่องปลาไปนานพอสมควร เพราะสนใจดนตรีและบ้าเห่ออยู่เป็นพักใหญ่ เป็นเวลาเกือบ 1 ปี 1 ปีผ่านไป ทำให้ผมลองคิดย้อนมาว่า เราน่าจะกลับมาเลี้ยงปลาอีกครั้งนึง เลยมีความคิดว่าจะเลี้ยงปลาอะไรดีละที่จะทำให้ได้ตังด้วย แล้วจะหาความรู้เรื่องปลาจากไหนละเลยคิดว่าแผงหนังสือน่าจะมีมั้ง เลยไปเดินหาซื้อตามแผงหนังสือแถวบ้าน จนไปเจอนิตยสารปลาสวยงามเล่มนึงมี เรื่องปลาหางนกยูงค่อนข้างมาก เพราะกระแสปลาหางนกยูงในเวลาช่วงนั้นแรงมากพอสมควร เป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ผมเลยคิดว่าปลาหางนกยูงนี้แหละ ที่เราจะเริ่มต้นลองเลี้ยงเพราะในความคิดผมคือ เพาะง่าย ลูกออกง่าย เลี้ยงง่ายๆ และมีความคิดที่จะเพาะพันธุ์เกิดขึ้นในหัวของผมทันที ผมเริ่มต้นโดยคิดว่าจะหาความรู้จากไหนดีล่ะ เลยเปิดอินเตอร์เน็ตศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง พร้อมกับซื้อหนังสือเกี่ยวกับปลาหางนกยูงที่ไหนเล่มไหนว่าดีซื้อหมดคับ 555 และยังหาซื้อวีซีดีเรื่อง สายพันธุ์ปลาเพื่อนำมาศึกษา หลังจากนั้นผมจึงควักกระเป๋าเงินเก็บของผมในตอนนั้น ออกมาซื้อตู้ 20 นิ้ว 20 ใบ กระมังใหญ่ 30 ใบ บ่อปูน 5 บ่อ เครื่องอ็อกซิเจนและอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย หลังจากอุปกรณ์ทุกอย่างครบแล้ว ผมจึงออกตระเวนหาสายพันธุ์ปลาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงโดยเปิดดูจากนิตยสารปลา ฟาร์มไหนดังมีปลาหางนกยูงสวยๆไปหมดคับ รวมถึงได้ออกหาทั้งที่ฟาร์ม และสวนจตุจักร และสนามหลวง2 หลังจากที่ควานหาซื้อมาได้จนคิดว่าครบแล้ว ในบ้านผม ตอนนี้มีพ่อ-แม่พันธุ์หางนกยูงมากกว่า 10 สายพันธุ์ อาทิ เรดอะมิโน่ เจแป้นบูล เยอร์มันฟูลแพลนตินัม ชิลี คิงคร็อบบร้าเยลโล มอสโคบูล อเมกันไวด์พิ้ง ทั้งฟินและสวอนโล ผมนำเข้ามาบ้านโดยมีจุดมุ่งหมายคือ เพาะพันธุ์ เวลาผ่านไป 5 เดือน ช่วงนั้นเข้าหน้าหนาวพอดี ทำให้พ่อ-แม่พันธุ์หางนกยูงในบ้านของผมที่เพิ่งนำเข้ามาจากฟาร์มต่างๆที่ไปตระเวนหามา ตายเรียบ ไม่เหลือซักตัวเพียงเพราะโรคเปื่อยลุมเล่นงานพ่อแม่พันธุ์ปลาของผม เงินที่ลงไปทั้งหมดกลายเป็นศูนย์ในพริบตา ผมยังไม่ย่อถ้อเริ่มต่อเลยครับ คิดว่าเราอาจะทำอะไรไม่ดีก็ได้มั้ง หรือ สายพันธุ์ที่ได้มาอาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควร เลยออกตระเวนหาใหม่ คราวนี้หนักกว่าเดิม ลงทุนไปมากกว่าเดิมและที่สำคัญเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ผมมีด้วย สุดท้ายแล้วปลาที่สั่งซื้อมาทั้งหมดด้วยเงินก้อนสุดท้ายของผมก็ไปไม่รอดซึ่งเพราะด้วยในเวลานั้นผมยังมือใหม่และไม่มีประสบการณ์ ทำให้ผลที่ออกมาเป็นแบบนี้ทันที เล่นเอาผมมึนพอสมควรเรียกว่าน้ำตาซึมเลยก็ว่าได้คับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ่อปลาเสียใจมากจริงๆ มันเป็นน้ำตาของลูกผู้ชายจริงๆในตอนนั้น ปัจจุบันพอผมนึกถึงคิดเล่นๆแล้วยังขำๆอยู่เลย ในเวลานั้น ผมเลยทิ้งทุกอย่างและคิดว่าต่อไปนี้ เรื่องปลาพอกันทีไม่เอาแล้ว เลี้ยงแล้วตายแทนที่จะได้เงินกลับเอาเงินไปเผาเล่นๆซ่ะอย่างนั้น
เวลาผ่านไปได้ 5 เดือนเต็ม ผมได้ย้ายบ้านจากย่านตลิ่งชัน มาอยู่ย่านบางใหญ่ เมืองนนทบุรี หลังจากมาอยู่ในบางใหญ่ได้ไม่นาน ทำให้ผมได้รู้จักกับ พี่ท่านนึง ชื่อ พี่โก๋ปลากัดเก่งเมืองนนท์ ที่เลี้ยงปลากัดเก่งแบบมืออาชีพ ซึ่งบ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก ทำให้ผมในตอนนั้นเกิดอารมณ์อยากเลี้ยงปลากัดขึ้นมาทันที นี่คือจุดเริ่มต้นระหว่างปลากัดกับผมอีกครั้ง ผมจึงเข้าๆ ออกๆ บ้านพี่โก๋บ่อยครั้ง จนรู้เทคนิคการเลี้ยงปลากัดเก่งขึ้นมากมาย จนในที่สุดผมก็ขอซื้อปลากัดเก่งคู่แรกจากพี่โก๋ ปกติแล้วปลากัดเก่งของพี่โก๋จะเป็นปลากัดจากทางภาคใต้ของบ้านเรา จากกันตัง ทับสะแก และประจวบ ผมเลยขอซื้อปลากัดเก่งจากพี่โก๋เพื่อนำมาเพาะและคิดขยายพันธุ์อีกครั้ง ตลอดจนค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือปลากัดหลายๆ เล่ม และวีซีดีสอนการเลี้ยง จนในที่สุดผมก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างที่เคยเลี้ยงปลาหางนกยูงออกมาใช้กับปลากัดจนได้ ปลากัดถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมากมาย จนในที่สุดก็ล้นบ้าน ทำให้ผมต้องสั่งเหลี่ยมปลากัดเข้าบ้านกว่า 800 ใบเพื่อเอามาฟอร์มปลา หลังจากปลาล้นบ้าน เลยคิดว่าจะขายที่ไหนดีละ ผมเลยมีโอกาส ได้เอาปลากัดประกาศขายลงอินเตอร์เน็ตครั้งแรก ในเว็บ efish2u.com ซึ่งเป็นเว็บปลาเว็บแรกที่ผมรู้จักในสมัยนั้น ปัจจุบันเว็บนี้ได้ปิดตัวลงไปแล้วครับ ลูกค้าที่ซื้อปลาผมให้การตอบรับดีพอสมควร ราคามีตั้งแต่ 50 บาทถึง 500 บาท เป็นปลากัดเก่งทั้งหมด หลังจากทำแบบนี้ได้ไม่นานนัก ผมก็เลิกเลี้ยงปลากัดเก่ง เพราะการเลี้ยงปลากัดเก่งนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมากความคิดผม ผมว่าเลี้ยงยากกว่าปลากัดสวยงามคับ ทำให้ผมคิดว่าจะทำยังไงดีล่ะ ในใจเราก็ยังรักและชื่นชอบปลากัดอยู่นิหน่า เลยคิดว่างั้นเปลี่ยนมาทำปลากัดสวยงามแล้วกัน อีกอย่างไม่ต้องเอาปลาไปกัดกับปลาคนอื่นให้เสียเวลาอีกด้วย แถมไม่บาปกรรมอีกต่างหาก และคิดว่าปลากัดสวยงามนี่แหละที่เราจะเลี้ยง เพราะเลิกเลี้ยงปลากัดไม่ได้ ใจเรายังรักปลากัดอยู่ เพราะดวงผมคงถูกกับปลากัดสวยงามมากที่สุดแล้วมั้ง ผมจึงออกตระเวนหาหนังสือปลากัดสวยงามมาอ่านอีก ทั้งเข้าเว็บไซด์ปลากัดสวยงาม ทั้งไทยและต่างประเทศ จนในที่สุดก็เจอ ปลากัดตัวสีแดงสด จากเว็บไซด์ ของพี่โด่ง 2002 หรือในเว็บชื่อ http://www. dong2002.com พี่โด่ง 2002 ทำให้ผมได้รู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับปลากัด ตลอดจนเทคนิคต่างๆที่พี่โด่งได้บอกไว้ อาทิ การทำตลาด การถ่ายภาพปลากัด สายพันธุ์ปลาแดงของพี่เค้า การรักษาโรคปลา การอนุบาลลูกปลา การฟอร์มปลาและผมได้มีโอกาสไปคุยกับพี่โด่งถึงที่บ้านของพี่เค้าในบรรยากาศที่ผมเห็นปลาที่บ้านพี่โด่ง ระรานตาไปหมดเลยทั้งปลากัดสีแดง และ SupperBlue SupperBlack สายพันธุ์ของพี่โด่งเค้าคับในเวลานั้นทำให้ผมหลงรักปลากัดสวยงามเข้าให้แล้ว พี่โด่งให้คำสอนผมที่ดีมากๆ บอกแนวทางในการพัฒนาปลากัดสวยงามโดยไม่หวงวิชาแต่อย่างใด แล้วก็ทำให้ผมเกิดกิเลสขึ้นมาทันที เพราะปลากัดสีแดงของพี่โด่งนั้นถูกใจผมจิงๆ เลยคิดว่าเราจะทำยังไงดี ถึงจะได้มีปลากัดสีแดงสวยๆๆแบบพี่โด่งบ้าง ผมไม่รอช้าเลยคับ ผมออกตระเวนหาปลากัดสีแดงจากสวนจตุจักรมาโดยมีเป้าหมายคือ เพาะเลี้ยง และจะทำยังไงให้เราทำปลากัดได้สวยแบบพี่โด่งบ้าง หาแล้วหาอีกไม่เจอที่ถูกใจเลย มาเดินดูทุกๆๆอาทิตย์ แล้วความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั้น ทำให้ผมเจอปลากัดสีแดงสดตัวโปรดเข้าจนได้ เป็นปลาจากในลังโฟมธรรมดาตัวละ 20 บาท ผมได้ซื้อมา 2 ตัว หลังจากนั้นผมออกเดินตระเวนหาตัวเมีย จากในสวนจตุจักรจนมาได้ปลากัดตัวเมียสีแดงที่ร้านพี่แมว ซึ่งเป็นเพียงปลากัดตัวเมียตัวละ 50 บาท เป็นปลากัดสีแดงตัวซีดๆ จนผมได้เอามาเพาะขยายสายพันธุ์จนถึงทุกวันนี้ ทุกวันนี้ปลากัดสีแดงสายพันธุ์นี้ก็ยังอยู่
จบ ภาค1
สุดท้ายนี้ พอดีผมเพิ่งเริ่มหัดเขียนครั้งแรกอ่ะคับถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยคับเรื่องราวของผมอาจจะคุ้นๆอาจจะเคยผ่านตาหลายๆคน และอีกหลายๆคนอาจจะเคยได้อ่านเรื่องของผมที่ลงไว้ในเว็บninekaow.com แต่สำหรับเรื่องที่ผมเอามาลงนี้ได้เรียบเรียงใหม่แล้วสมบูรณ์ที่สุดในภาคแรกและไว้รอพบกับเรื่องชีวิตผมกับปลาสวยงาม ภาค 2 อาทิตย์หน้าคับ
ริว deesawatFishRed@hotmail.com