อากาศร้อนก็มีส่วนนะครับ สงสัยอึดอึดตาย

แต่วันนี้ครึ้มทั้งวันสลับกับฝนตกด้วย ไม่มีแดดเลยครับ

เวลาอัดอ๊อกน้องเขา กดปากถุงจมน้ำไล่อากาศออก ก่อนอัดอ๊อกหรือเปล่าครับ เพราะถ้าคลุมโป่งๆแล้วอัดอ๊อก มันจะได้ออซิเจนน้อยมาก แล้วส่วนใหญ่จะรั่วออกไปหมด

เวลาอัดต้องจับสายยางลงในน้ำแล้วกำบริเวณน้ำเพื่อให้ได้อ๊อกซิเจนเพียวๆ

แล้วเวลาแพ็ค ถ้าเป็นปลาใช้เหงือก ต้องใส่ยาคลายเครียดหรือยาเหลืองสัก 1-2 หยดครับ ไม่งั้นตายครับ

ตามมารยาทจะหาข้อสรุปกันอย่างไรดี ขอความเห็นด้วยอาทิเช่น....

เท่าที่สังเกตุ เขาไล่อากาศออกครับ แต่ถ้าสายยางลงในน้ำไม่แน่ใจ

ก็ถ้าสรุป
-แพ๊คปลาไม่เป็น
-ใช้เวลาจากที่ซื้อถึงบ้าน นานเกินไปครับ
-ปลาเป็นโรค
-ภูมิอากาศไม่เอื้อำนวย

แต่ยาคลายเครียดหรือยาเหลืองไม่มีแน่นอนครับ

คิดค่าเสียหายกันอย่างไรดีครับ

เวลาไปจตุจักร ปลาในถุงเขายังต้องใส่ยาจนน้ำเป็นสีเหลืองเลยครับ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ทั้งวัน ตายหมด

ยกเว้นปลากัด ใช้อ๊อกซิเจนน้อยมาก ปลามีเหงือกใช้อ๊อกซิเจนเปลืองมาก ยิ่งเครียดยิ่งหายใจถี่ ยิ่งติดโรคง่ายครับ

วันหลังพกไปเองก็ได้ครับ

แล้วส่วนที่เหลือมันจะตายไหมครับ ทำอย่างไรดี

เรื่องค่าเสียหายนี่ไม่ทราบครับ

ที่เหลือ ก็เลี้ยงปกติครับ เวลาก่อนลงน้ำก็เปิดปากถุงแช่น้ำสัก 15 นาทีแล้วค่อยๆกวักน้ำเข้าไปจนมันปรับตัวได้แล้วค่อยปล่อย

น้ำต้องรองทิ้งไว้ 3-4 วัน ซึ่งคงรู้กันอยู่แล้วนะครับ

ยังไม่ต้องให้อาหารครับ ให้อีกทีวันรุ่งขึ้น

เหมือนคนเมารถแล้วให้กินข้าว ก็คงไม่ไหวครับ

ปิดไฟให้มันนอนด้วยนะครับ ตามันปิดไม่ได้ ต้องปิดไฟให้มันพักเลยครับ แล้วดูพรุ่งนี้รับรอง รอดตายครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

....

จะบอกว่า สำหรับเรา เราคิดว่ามันนานไปนะค่ะ กว่าจะถึงบ้านตั้งหลาย ช.ม.อะค่ะ อ๊อกอาจจะไม่พอในระหว่างการเดินทางด้วย
แล้วเดินทางกลับบ้านยังไงค่ะ มันร้อนรึป่าว

ปลามันอ่อนเพลียจากการเดินทางน่ะครับ ประกอบกับตื่นตกใจและเวลาที่ยาวนานเกินไปด้วยกว่าจะลงตู้

พอลงตู้ก็คงยังปรับตัวไม่ได้ เลยตาย


ที่เหลืออีก 2 ตัวคงไม่ตายหรอกครับ


ผมเองก็เพิ่งซื้อฟ้อนฯมาจากเจเจ 2 ตัวเมื่อวันเสาร์นี้เอง แต่ผมใช้เวลาจากร้านถึงบ้านไม่ถึง ช.ม. ด้วยซ้ำ ปล่อยลงไป ปลายังตื่น ๆ อยู่ แต่ไม่ว่ายลนลาน เพราะแอบอยู่ตามมุมต่าง ๆ มาวันนี้ยังแอบอยู่ แต่พอให้อสอาหารทั้งสดหรือเม็ด มันก็ออกมากิน แล้วก็เข้าไปหลบใหม่

อย่างนี้ไม่มีกปัญหาแล้ว เฮ

เรื่องเรียกค่าเสียหาย ไม่น่าจะเรียกร้องนะคะ เพราะว่า ไม่ใช่ความผิดของคนขายปลาเพียงอย่างเดียว คุณเองก็มีความผิดที่ให้ปลาอยู่ในถุงนานแล้วอยู่ในรถอีก เด็กที่พ่อแม่ลืมไว้ในรถยังตายเลยคะ ไม่กี่ชั่วโมง แต่นี่เป็นปลาถูกรัดในถุงอีก ถ้าเป็นคนรักปลาจริง ก็น่าจะไม่ใช้เวลาในการเดินทางขนาดนั้น ตั้งเกือบ9 ชั่วโมง ปลาคงทนไม่ไหวหรอกนะคะ ยังไงก็ลองคิดๆดูให้ดีๆๆคะ

กรณีนี้เรียกค่าเสียหายไม่ได้ เพราะการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่รับมอบและจ่ายตังค์แล้ว และผู้ซื้อขายก็พอใจกันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณเห็นว่าปลาอ่อนแอหรือป่วยก็ไม่ควรรับหรือซื้อมา ดูแล้วเหตุบกพร่องไม่ได้เกิดจากที่ร้านเพราะกว่าจะปล่อยปลาประมาณ 8 ชม เจอทั้งการเดินทางและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ปลาเลยทนไม่ได้เลยจากไป

แล้วพวกยาเหลืองไม่ต้องใส่หรอก ไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์แถมมีผลเสียจากสารเคมีต่อปลาอีก

ยาเหลืองไม่มีประโยชน์หรอคับ เหอะๆ

ไม่มีประโยชน์ครับ ยาเหลืองมีไว้รักษาโรค ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับคลายเครียดไม่คลายเครียด ทำยังกะว่าปลาถุงที่ใส่ยาเหลืองไม่มีตายงั้นหนิ และปลาทุกชนิดก็มีเหงือกทั้งนั้นหนิ ฟังดูแล้วแปลก ๆ

ปลากัดมีอวัยวะพิเศษที่ช่วยฮุบอากาศครับ สังเกตุว่ามันจะขึ้นไปฮุบอากาศบ่อยๆ

ถามว่าเพราะอะไรผมถึงยกตัวอย่างปลากัด

เพราะปัจจุบันมันมีถุงชนิดพิเศษสามารถแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างภายในถุงและนอกถุง โดยจะต้องใส่น้ำให้เต็มถุงห้ามเหลือช่องอากาศไว้

ถ้าใส่ปลากัด มันจะตายภายในไม่กี่วันครับ เพราะมันฮุบอากาศไม่ได้

แต่ถ้าปลาหางนกยูงที่เน้นการใช้เหงือหายใจ ไม่ใช่ฮุบอากาศ ใส่ไป 100 ตัว ก็ไม่ตายครับ ยกเว้นปลาตัวนั้นอ่อนแออยู่แล้ว

ที่ใส่ยาเหลือง กับยาคลายเครียด มันคนละตัวครับ แต่สาเหตุที่ใส่คือ เวลาปลาอยู่ในถุงนานๆ มันจะเครียด ทำให้มีโรคแทรกซ้อนได้ง่าย และจะติดโรคเมื่อถึงผู้รับแล้ว แล้วก็จะตายในเวลาต่อมา

ที่ผมบอกให้ใส่ยาเพราะเป็นมาตรฐานสากลเวลาส่งปลาไปต่างประเทศหรือนำเข้า 3-4 วัน หรืออาจจะถึง 10 วันก็ตาม ปลาหลายชนิดเขาต้องใส่ยากันไว้ครับ

ปลาทุกตัวที่เราซื้อมาเลี้ยง ส่วนใหญ่ทางฟาร์มขนาดใหญ่ระดับก็ผ่านการแช่ยามาแล้วทั้งนั้น ยกเว้นปลาชนิดนั้น แพ้ยาจริงๆ

ยังมีอีกหลายวิธีครับ เช่น ใส่ถุงน้ำแข็งเพื่อลดอัตราการหายใจ หรือใส่ถุงร้อนเพื่อส่งปลาไปในแถบประเทศเมืองหนาว

เหมือนคนน่ะครับ คนไม่เคยเถียงเลยว่าไม่สบายแล้วจะไม่กินยาเพราะกลัวพาราทำอันตรายตับ เราทุกคนก็กินจริงไหมครับ? แต่กินให้มันถูกขนาด คำนวนไว้อย่างดี

ผมให้ความสำคัญกับชีวิตปลามากกว่าคุณภาพของปลาว่าไม่ใส่ยาครับ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปลาตัวนั้นอยู่รอด เพราะมนุษย์เอาชีวิตมันมารับผิดชอบแล้ว แค่เอามาเลี้ยงก็ผิดธรรมชาติมากแล้ว เมื่อมันไม่แข็งแรงเหมือนสมัยตอนอาศัยในธรรมชาติเราก็ต้องให้ยาช่วย

เหมือนคนเรา เมื่ออยู่ในเมืองมานาน ก็กลับไปอยู่ธรรมชาติไม่ไหว หาอาหารเองไม่ได้ เป็นโรคก็ต้องไปหาหมอ ถ้าคุณไปอยู่ในป่าคุณก็ต้องพกยาควินินไปเพื่อป้องกันมาเลเรีย จะบอกว่ายามันเป็นพิษต่อร่างกายห้ามกิน ก็ต้องถามตัวคุณเองว่า เวลานั้นคุณอยากมีชีวิตรอด หรืออยากอยู่ต่อ

ปลาก็เหมือนกันครับ ไม่ใช่ซื้อมา พอเลี้ยงแล้วตายก็ไปซื้อมาให้มันตายใหม่ ด้วยเหตุผลเพราะว่าคนๆนั้นใส่ยาเกินขนาด ถ้าถูกขนาดจริงๆมันก็ไม่อันตรายครับ^^