Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ห้อง Crossbreed อาทิ เช่น ปลาไตรทอง, ปลาเท็กซัสแดง, Flowerhorn, Pearl horn, นกแก้ว, คิงคอง, และ ครอสบรีด สายพันธุ์ต่างๆ แยกออก มาเป็นห้อง แต่ไม่แยก ค่าย เพื่อความ มัน ในการอ่าน กระทู้จริงๆ

0004991

เมื่อ ปอปลา ตาโปน(ไม่ใช่อุลิเย่ห์น่ะ)

Tomtexas
Tomtexas
110
[2004-05-14 13:55:55]
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนนะครับ ว่า ตาโปนเป็นการติดเชื้อจาก แบคทีเรียที่เราคุ้นกันอยู่ที่ชื่อว่า เจ้า Streptococcal นั่นเอง โดยปกติโดยทั่วไป แบคทีเรียที่เกิดในปลาที่เรารักจะเป็นพวก Gram-negative ยาที่ใช้ในการรักษา เจ้าแบคทีเรียแกรมลบ พวกเอมอกซิลิน - เตตร้าซัยคลินก็จะสามารถรักษาได้ แต่เจ้า สเตรปโตคอสคัสนี่สิ ดันทะลึ่งเป็นแบคทีเรียจำพวก Gram-positive ซะได้ เราจึงไม่สามารถใช้เจ้าเอมอกซิลินหรือแอนตี้ไบโอติกแกรมลบได้เลย ถึงว่า ใส่เอมอกซิลินแล้วไม่หาย เฮ้อ เซ็ง วันนี้เลยเข้าไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนตมา เมื่อตรวจสอบรายละเอียดได้แล้ว พี่ทอมเลยเอามาบอกกันครับ

ความคิดเห็นที่ 1

Tomtexas
Tomtexas
110
[2004-05-14 13:59:50]
Strep should be highly suspected if fish exhibit abnormal swimming behavior, pop-eye, hemorrhages, and rapid and severe mortalities, and Gram-positive cocci are found in brain, kidney, and/or other organs.
อาการว่ายผิดปกติ ถ้าแปลไม่ผิดอาการเสียการทรงตัวก็อยู่ในข่ายครับ ตาโปน และอาการติดเชื้อที่รุนแรง ก็เป็นอาการที่เกิดจากเจ้าตัวนี้

ความคิดเห็นที่ 2

Tomtexas
Tomtexas
110
[2004-05-14 14:03:00]
อัตราการใช้ ผสมในอาหาร 1.5 กรัมต่ออาหาร 2.2 กก. แต่ถ้าปลาไม่กินต้องแช่ยา คงต้องใช้ในอัตราส่วนเดียวกับ ยาตัวอื่นหละครับ เดี๋ยวขอกลับไปดูที่บ้านก่อนว่ายา 1 เม็ด กี่ มก. น่าจะ 250 มก ต่อน้ำ40 ลิตรโดยประมาณ ยังไงเพื่อนๆที่หาซื้อไม่ได้ เดี๋ยวพี่ทอมจะเอายาไปฝากไว้ที่ร้านนะครับ ยังไงไปเอาได้ที่ร้านเลยครับ

วันนี้ขอลาแค่นี้นะครับ

ความคิดเห็นที่ 3

Nuttor
Nuttor (203.121.147.230) [2004-05-14 22:30:24]
ได้ความรู้มากๆอีกแล้ว พี่ทอมครับชื่อยาอะไรนะครับ รบกวนด้วยครับ !!!

ความคิดเห็นที่ 4

Job
Job (169.210.12.9) [2004-05-14 23:51:32]
นั่นสิพี่ทอม....
น่าจะหาข้อมูลได้นานแล้วนะ

ลูกผมจะได้รอดกันก่อนหน้านี้ หลายตัว เหอะๆ

ขอบคุณสำหรับการค้นหาล่วงหน้าครับ

อ่ะพี่ทอม ลืมชื่อยานะจ๊ะ

ความคิดเห็นที่ 5

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.165.138) [2004-05-15 09:12:22]
ไปร้านขายยาคน ขอซื้อ erythromycin มาใส่ในอัตาส่วน 1เม็ดต่อน้ำ 40 ลิตร ใส่ประมาณ 7 วันครับ ยาตัวนี้จะเป็นเม็ดต้องนำมาบดก่อนนะครับ
-เมื่อวานลองใส่ในตัวที่ตาโปน เมื่อเช้ามาดูตาเริ่มยุบแล้วอ่ะ

ความคิดเห็นที่ 6

yut1678
yut1678 (210.86.161.29) [2004-05-15 19:34:54]
เป็นความรู้ดีมากครับ

ความคิดเห็นที่ 7

festae2002
festae2002 [2004-05-15 22:34:19]
คุณ Tomtexas เข้าใจผิดเล็กน้อยนะครับ

ยา Amoxycillin จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมทั้งเชื้อ
แกรมบวกและแกรมลบ ในคนเองจุดประสงค์การใช้จะใช้คลุมเชื้อแกรมบวกเป็นจุดประสงค์ใหญ่ ส่วนเชื้อแกรมลบในคนยาตัวนี้ปัจจุบันเชื้อดื้อยาแล้ว ดังนั้นในคนเองถ้าติดเชื้อแกรมลบจะใช้ยาตัวอื่นเช่น Bactrim หรือ Norfloxacin

ในส่วนของปลาการติดเชื้อที่ดวงตาทำให้ตาปลาขุ่นหรือโปนเป็นได้ทั้งเชื้อแกรมบวกหรือลบก็ได้ ในทางปฎิบัติจะค่อนข้างยุ่งยากสำหรับนักเลี้ยงทั่วไปในการเพาะเชื้อ ดังนั้นจึงใช้ยา Amoxycillin (ซึ่งในสัตว์เลี้ยงเชื้อจะยังไม่ดื้อยามากเหมือนในคน)ได้ครับ

ที่ผ่านมาผมก็รักษาอาการปลาตาขุ่น ตาโปนมาหลายตัวก็ใช้ได้ดีทุกครั้ง แต่ถ้าเป็นมากจนตาถลนยังงี้ก็สายเกินไป

ส่วนยา Erytromycin ใช้สำหรับเชื้อแกรมบวกโดยเฉพาะเชื้อ streptococcal ถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้าปลาตัวนั้นติดเชื้อแกรมลบ(ซึ่งเป็นส่วนใหญ่)ยาตัวนี้จะใช้ไม่ได้ผลครับ)

ความคิดเห็นที่ 8

Nuttor
Nuttor (203.121.149.223) [2004-05-15 23:27:53]
ถ้าอาการปลาตาโปนสามารถเกิดได้ทั้งแบคทีเรียแกรม+และ - ได้ทั้ง 2 อย่าง และ Erytromycin ใช้ได้เฉพาะแบคทีเรียแกรมบวกเท่านั้น แล้วเราจะพอรู้ได้ไงว่าปลาเราตาโปนจากแบคทีเรียแกรม + หรือว่า - นอกจากการตัดชิ้นเนื้อไปย้อมสีพิสูจน์ทางเคมีดูทางเคมี (+จะเป็นสีม่วง - จะเป็นสีแดง)

ความคิดเห็นที่ 9

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-16 00:21:57]
ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้เรื่องยาซักเทาไหร่ แต่ว่า เห็นกรณีนี้ เป็นโรคที่เพื่อน ๆ ผู้รักปลาประสบปัญหาบ่อย ๆ เหลือเกิน และไม่สามารถหาวิธีรักษาได้ พอพี่ทอม มาลงกระทู้ไว้ น้ำฝนสนใจมาก ๆ ก็เลยไปค้นหา search เอาจากเวปต่างประเทศ ก็ได้ทราบชื่อยา และวิธีใช้มา และเกิดสนใจเจ้าแบคทีเรียแกรม + และแกรม - ขึ้นมา เลย search ไปเจอเวปนี้ เขาสรุป ตัวยาที่มีฤทธิ์ต่อต้านการการทำงานของเจ้าแกรม + กับแกรม ? แบ่งเป็นหมวดหมู่ ดังตาราง 2 ตาราง ต่อไปนี้

ความคิดเห็นที่ 10

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-16 00:22:34]
จะเห็นว่า ยา Erythromycin สามารถต่อต้าน เจ้าแบคทีเรียแกรม + ได้ทุกชนิด และก็ยังสามารถ มีฤทธิ์ต่อต้าน แบคทีเรียแกรม ? ได้บางชนิดอีกด้วย ส่วนยา Amoxycillin นั้น มีฤทธิ์ต่อต้านได้เฉพาะ แบคทีเรียแกรม ? เท่านั้นเอง ดังนั้น น้ำฝนจึงคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าตาโปน เกิดจากแบคทีเรียแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นแกรม + หรือ - อย่างนั้นถ้าเราใช้ยา Erythromycin กับน้องปลาของเรา %รอดของโรคนี้ ก็น่าจะมีมากกว่า เจ้า Amoxycillin หรือเปล่านะคะ?

ความคิดเห็นที่ 11

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-16 00:23:33]
ปล. เผอิ๊ญ เจอเวปไทย เกี่ยวกับยา Erythromycin เขาเอารักษาโรคในคนด้วย หุหุหุ ต๊กกะใจ ..... ....เขาเอาไว้รักษาโรคหนองในเทียมค่ะ เพราะฉนั้นตอนไปซื้อเดินตัวตรงๆภมิฐานๆไว้หน่อยนะคะ อ่า... อย่าทำหน้าอาย ๆ นะคะ

ความคิดเห็นที่ 12

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-16 00:41:42]
ไหน ๆ ก็ไหนๆ น้ำฝนขออธิบายลักษณะทางกายภาพของแบคทีเรียแกรม + กะ ? นิดหน่อยนะคะ ก็ไม่ค่อยรู้มาก... เอาเลยนะ ... พวกยาแอนตี้ไบโอติกทั้งหลายที่เราใช้อยู่ มันไม่ได้ไปฆ่าแบคทีเรียนะ แค่ต่อต้าน กับทำให้แบคทีเรียพวกนั้นมันอ่อนแอ โดยเจ้าแบคทีเรียเนี่ย จะมีผนังหุ้มเซลล์อยู่ แบคทีเรียแกรม + หน่ะ จะมีชั้นของผนังหุ้มเซลล์เป็นผนังหนา ๆทึบ แต่ว่า เจ้าแบคทีเรียแกรม ? ชั้นของผนัง จะมีชั้นของลิปิด อยู่ (ชั้นไขมัน เหมือนน้ำมัน ๆ ที่ออกบนหน้าเราเวลาเราร้อนหน่ะ เขาเรียกลิปิด) ซึ่งด้วยที่ผนังคนละแบบนี่เอง จึงต้องใช้ยาคนละแบบในการทำลายผนังเซลล์นี้ออก เมื่อผนังหุ้นเซลล์ถูกทำลาย ทีนี้ antibody ที่ร่างกายของเรา(น้องปลา) สร้าง ขึ้นมา ก็จะสามารถเข้าจู่โจม ทำลายแบคที่เรียที่ไม่มีเกราะหุ้ม เมื่อไม่มีเกราะ เจ้าแบคทีเรียก็ซี้แหงแก๋ .... ^o^ ...โย่ว

ความคิดเห็นที่ 13

 
  (203.113.56.71) [2004-05-16 01:01:52]
ตามที่คุณ NamFhon ค้นมาข้อมูลถูกต้องครับ แต่ความเข้าใจยังไม่ถูกต้อง

ยากลุ่ม penicillin จะแยกย่อยได้เป็น ยา penicillin ยา Ampicillin ยา Amoxycillin โดยยา 2 ตัวหลังจะครอบคลุมเชื้อทั้งบวกและลบ

ในช่วงแรกที่ยา Ampicillin ออกมาใหม่ๆจะคลุมเชื้อแกรมลบได้ดี แต่ต่อมา เชื้อก็ดื้อยาตัวนี้จึงพัฒนา ยา Amoxyciilin ขึ้นมาไปๆมาๆเชื้อก็มาดื้อยาตัวนี้อีก

ดังนั้นถ้าดูในฉลากยาจะเห็นว่ายาทั้ง Ampicillin และ Amoxycillin จะบอกว่าใช้ได้ทั้งการติดเชื้อทางเดินหายใจ(เชื้อแกรมบวก)และทางเดินปัสสาวะ(เชื้อแกรมลบ)แต่ในทางปฎิบัติจริงเชื้อแกรมลบจะดื้อยาทั้งสองแล้วและแพทย์จะไม่สั่งยา 2 ตัวนี้แบบยากินในการรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะยกเว้นรูปแบบยาฉีดของ Ampicillin ที่ยังใช้ได้อยู่

ดังนั้นเวลาเราๆท่านๆเป็นไข้ เจ็บคอ ไอเวลาไปหาแพทย์ ยาที่ได้มาก็จะเป็น Amoxycillin มากิน โดยเชื้อส่วนใหญ่ 90 % จะเป็นเชื้อแกรมบวก

ในปลาอย่างที่บอกจะเป็นการยุ่งยากที่จะเพาะเชื้อถ้าไมได้อยู่ใกล้โรงพยาบาล ดังนั้นมักใช้ยาที่ออกฤทธิ์กว้างคือครอบคลุมได้ทั้งแกรมบวกและลบ ยาที่ใช้ก็จะเป็นกลุ่ม Tetracycline และ Amoxycillin

คราวนี้บางครั้งทำไมถึงใช้ยาแล้วไม่หาย อยู่ที่หลายอย่างเช่นคุณภาพน้ำ เชื้อก่อโรคที่รุนแรงเกินกว่าที่ยาจะรักษา บางทีเป็นเชื้อวัณโรคที่ติดเชื้อที่ดวงตาซึ่งยาก็ต้องเป็นยาที่รักษาเชื้อวัณโรคโดยตรงถึงจะหาย

อีกตัวอย่างของยาที่แทบไม่ได้ใช้ในคนแล้วคือ Oxytetracycline เพราะเชื้อดื้อยาเกือบทั้งหมดมีเพียงข้อบ่งชี้เดียวที่ใช้ในคนคือการเชื่อมเยื่อหุ้มปอดในผู้ป่วยปอดแตก(pneีmothorax) แต่ยังสามารถนำมาใช้ในสัตว์ได้โดยการนำมาผสมในอาหาร น้ำดื่มสำหรับเลี้ยงสัตว์ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย และแบบยาฉีดรักษาในสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจเช่น วัว ควาย ฯลฯ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากซื้อยาตัวนี้ก็ต้องไปร้านขายยาสำหรับสัตว์ อาจจะให้เภสัชกรที่รู้จักกันซื้อให้ก็ได้เพราะผมก็ซื้อใช้อยู่

ความคิดเห็นที่ 14

festae2002
festae2002 [2004-05-16 01:09:31]
ลืมลงชื่อครับ

อีกกรณีเช่นกันตามข้อมูลที่คุณ ตามที่คุณ NamFhon ค้นมาว่ายา Erythromycin คลุมเชื้อได้ทั้งบวกและลบ แต่ในมางปฏิบัติจริงจะใช้คลุมเชื้อเฉพาะแกรมบวกเท่านั้นและจะใช้ในคนที่แพ้ยากลุ่ม penicillin(ยา penicillin Ampicillin Amoxycillin) ส่วนการติดเชื้อแกรมลบในคนยาตัวนี้จะใช้ไม่ได้ผล

ความคิดเห็นที่ 15

Nokhuk
Nokhuk (203.172.104.133) [2004-05-17 11:01:24]
ตามอ่านกระทู้ นี้ ได้ รับความรู้ มากมาย
ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ และ ผู้ร่วมตอบกระทู้ ทุกคนครับ

ความคิดเห็นที่ 16

เอก/srs
เอก/srs (202.47.247.130) [2004-05-17 11:21:45]
เยี่ยมจริงๆกระทู้แบบนี้ ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ตัดแปะไว้ข้างตู้ปลานะคร๊าบบบบบบ....

ความคิดเห็นที่ 17

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.165.32) [2004-05-17 11:40:05]
ก่อนนอื่นต้องขอบคุณครับที่ สนใจกระทู้ผม ผมขอตอบดังนี้นะครับ
โรคตาโปนที่เราเห็นๆกันอยู่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ พาราสิตก็ได้
ความเครียดก็ได้ หรือจากแบคทีเรียก็ได้ คราวนี้เรามาลองดูที่แบคทีเรียกันก่อน
เวบปลาโดยปกติจะบอกว่าใช้แอนตี้ไบโอติก แต่ไม่ระบุประเภทของยา
ผมเคยใช้เอมอกซิลินรักษามาหลายตัวแล้วตั้งแต่โปนน้อยๆๆจนตาจะหลุด
ซึ่งผลลัทธ์ที่ออกมา ตายทุกตัว น้องที่รู้จักกันก็ตายเรียบ
ผมเลยเข้าไปค้นเวบของ มหาวิทยาลัยฟอริด้า ซึ่งจะระบุที่มาที่ไปของ POP-eye
ในเนื้อหา ที่ระบุการักษา ไม่มีการระบุถึงตัวยาเอมอกซิลินเลยสักนิดเดียว
พวกนี้เป็นงายวิจัยน่ะครับ ต้องทดลองออกมาแล้วว่ารักษาได้แน่นอน
เค้าถึงจะกล้าที่จะออกมาเป็นข้อมูล คราวนี้ตัวยาที่เค้าแนะนำมี 2 ตัว ก็คือ
Erythomycin and Romet เท่านี้เองจริงๆๆ
ไม่มีแอนตี้ไบโอติกตัวอื่นไม่ว่าจะเป็นแกรมไหนๆๆเลย คราวนี้เจ้าโรเมต
ในบ้านเราดันมีแต่แบบเป็นครีม ซึ่งคงไม่สะดวกในการรักษาแน่
วิธีการใช้เค้าให้ผสมในอาหาร แต่ผมเอามาประยุกต์ใช้ในการแช่รักษาปลา

ยา Amoxycillin จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมทั้งเชื้อแกรมบวกและแกรมลบ
> ในคนเองจุดประสงค์การใช้จะใช้คลุมเชื้อแกรมบวกเป็นจุดประสงค์ใหญ่
ส่วนเชื้อแกรมลบในคนยาตัวนี้ปัจจุบันเชื้อค่อนข้างดื้อยาแล้ว
ดังนั้นในคนเองถ้าติดเชื้อแกรมลบจะใช้ยาตัวอื่นเช่น Bactrim หรือ Norfloxacin-
อันนี้ผมรู้อยู่แล้วว่า เอมอกซิลินเป็น Broad Spectum รักษาได้ทั้ง+-
แต่อย่าลืมนะครับว่า แกรม +มีหลายประเภท ในเวบปลามีบอกครับ
แต่รักษาอาการตาโปนไม่ได้อ่ะ คราวนี้ผมไม่รูว่า
คุณเฟสเต้รักษาแล้วหายได้อย่างไร ของผมตายหมด น้องๆที่รู้จักกัน หลายคนก็ตายหมด
เอมอกซิลิน ถ้ารักษาได้ดี ผมว่า
ทางเวบที่เค้าทำการวิจัยคงมีการนำมาลงอ้างอิงไว้แล้วนะครับ แต่นี่ไม่มีเลย
อย่าลืมนะครับ ยารักษาคนเวลาเอามารักษาปลา ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบได้ทุกตัว
เชื้อบางตัวไม่มีใน อนุทานยาคน แต่ในปลามีครับ ไปถามเภสัฃก็ทำหน้า งง
ว่ามีเชื้อตัวนี้ด้วยหรอ ก็แค่นี้ครับ อันนี้เป็นความเชื่ออ่ะครับ
ว่าจะเอายาตัวไหนมารักษาปลาของตัวเอง แต่เท่าที่ผมทำการรักษามา ตายหมด
แล้วผมไปอ่านงานวิจัยแล้วเค้าแนะนำวิธีการรักษามา
ก็เอามาทดลองทำดูแล้วตายุบลงก็แค่นี้อ่ะ

ความคิดเห็นที่ 18

dudi
dudi (203.146.204.55) [2004-05-17 23:12:22]
ปลาผมก็ตาโปนครับ แต่ไม่รู้ว่าโปนเพราะกรรมพันธุ์หรือเปล่าครับ อยากดูภาพปลาตาโปนครับ ใครพอมีรบกวนช่วยโชว์ด้วยครับ เพื่อเป้นวิทยาทาน..

ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 19

Pokamon the KOP
Pokamon the KOP (203.121.177.52) [2004-05-18 11:11:48]
ผมเคยใช้อมอกซี่ใส่ปลาที่มีอาการตาขุ่น
ก็ได้ผลดีนะครับ...
แต่กับปลาที่ตาโปน ได้ผลน้อยมาก...
เหมือนอาการจะทรงๆทรุดๆ
ไปถามร้านขายยาแถวบ้าน
เค้าแนะนำให้ใช้ ค๊อกซ่า
บอกว่าให้ผลกับอาการอักเสบ/มีหนองได้มากกว่า...
ลองใช้ดูแล้วอาการก็ดีขึ้นครับ...
แต่พอหยุดให้ยา อาการก็กลับมาอีก แถมปูดกว่าเก่าอีก

ผมจะสรุปจากที่เคยทดลองมาได้ไม๊ว่า
ยาบางตัวก็ใช้ได้กับอาการเบื้องต้นของโรคนี้
แต่หากเป็นหนักๆแล้วล่ะก็ คงใช้ไม่ได้ผล
แต่จะกลับไปลองยาตัวใหม่ที่พี่ทอมบอกมานะครับ
แล้วได้ผลยังไงจะมาบอกอีกที

ปล.ผมเสียลูกลิตเติ้ลทอมไปเมื่อเดือนก่อน เพราะโรคนี้แหละครับ

ความคิดเห็นที่ 20

oldman
oldman (210.86.188.67) [2004-05-18 11:40:49]
อ้าว แล้ว ไมโนซิน MINICIN ล่ะครับใช้ไม่ได้เหรอ ตอนนี้ใช้ยาตัวนี้อยู่อ่ะครับเม็ดละ100มก. ผมกรอกใส่ปากปลาวันละเม็ดอ่ะครับแต่ก็ยังโปนอย่

ความคิดเห็นที่ 21

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-18 14:30:15]
minocin = maracyn II = minocycline คือตัวเดียวกันค่ะ เป็น broad-spectrum antibiotic ที่เอาไว้ต่อต้าน แบคทีเรียจำพวก broad spectrum bacteria เอาไว้รักษาโรค Pop-Eye (Exophthalmia) ในปลา อีกวิธีหนึ่ง อย่างที่พี่ทอมได้กล่าวไว้ โรค Pop-Eye (Exophthalmia) เกิดได้หลายสาเหตุเลยค่ะ ไม่ว่าจะแบคทีเรีย ปรสิต สภาพไนเตรทในน้ำ หรือความเครียด แล้วแบคทีเรีย ก็มีหลายตัว ที่ก่อให้เกิดโรคตาโปนได้ ดังนั้น จึงมียารักษาหลายหลายชนิด ซึ่ง maracyn II ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ แต่ถ้าพี่ซ้ง รักษาด้วยยานี้ไม่หาย ก็ลองเปลี่ยนใช้ Erythromycin นะคะ

จากที่น้ำฝน search เก็บข้อมูล จากผลการงานวิจัย และกระทู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับโรค Pop-Eye (Exophthalmia) พบยาที่เขาเอาไว้รักษาโรคตาโปน มีอยู่ 3 ตัว คือ maracyn II , Erythromycin และ Tetracycline ซึ่งจะใช้ยาตัวใดรักษาแล้วหายนั้น ก็ขึ้นกับว่า ตาโปนนั้นเกิดจากแบคทีเรียจำพวกใดนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ (แต่... ไม่พบข้อมูลที่บอกว่าเอม๊อกซี่ รักษาอาการตาโปน หรือเขาอาจจะไม่มีใครวิจัยนะ o_O........O_o)

ความคิดเห็นที่ 22

NamFhon
NamFhon
1
[2004-05-18 14:36:42]
อ่า เท่าที่อ่านมา ยังไม่ได้บอก วิธี +ปริมาณที่ใช้เลย

Erythromycin 250MG Tablets
USE: Fin and tail rot, corynebacterium, (kidney disease) pop eye. Most gram-positive and some gram negative bacteria and fungus. Black Molly disease.

TABLET DOSAGE: 1 tablet per 10 gallons every 24 hours with a 25% water change before each treatment. Treat for 10 days.


ไม่รู้ถูกป่าว ถ้าเป็นแบบเม็ด เอามาบดๆๆๆ แล้ว 1เม็ดต่อ น้ำ 10 แกลลอน ...กี่ลิตรหว่า... เปลี่ยนน้ำ 25% ทุก ๆ วัน รักษาแบบนี้ไป 10 วัน เด้อค่ะเด้อ

ความคิดเห็นที่ 23

ching
ching (203.144.195.121) [2004-05-18 15:58:58]
ต้อง ปริน ออกมาอ่านซะแล้ว เซฟด้วยดีกว่า

ความคิดเห็นที่ 24

Nuttor
Nuttor (221.128.68.90) [2004-05-18 23:23:11]
ยาที่เค้าแนะนำมี 2 ตัว ก็คือ
Erythomycin and Romet
------------------------------------------
พี่ทอมได้แนะนำ ยา 2 ตัวนี้ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาอาการตาโปนแล้ว และคุณน้ำฝนก้อได้แนะนำตัวยา Erythomycin อย่างละเอียด ทีนี้ก้อเหลืออีกตัวนะครับที่สามารถใช้รักษาอาการตาโปนที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย นั่นคือ Romet เจ้า Romet บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินเลย รวมทั้งผมด้วย แต่ถ้าพูดถึง Sufadimethoxine (ซัลฟา) คงจะร้อง อ๋อ !! กันบ้างนะครับ ซึ่งยาตัวนี้จะอยู่ในกลุ่ม ซัลโฟนามีด (Sulfonamides) ยากลุ่มนี้ได้รับอนุมัติขึ้นทะเบียนใช้รักษาโรคสัตว์น้ำของสหรัฐอเมริกาครับ ซึ่งในกลุ่มนี้จะมี
1. ออกซีเตดตร้าซัยคลิน( Oxytetracycline)ชื่อการค้าคือ เทอรามัยซิน ,ไฟเซอร์(Terramycin , Pfizer)
2. ซัลฟาไดเมทท็อกซิน(Sufadimethoxine) + ออเมโทรพริม( Ormethoprim) ชื่อการค้าคือ โรเมท-30, ฮอฟเมน-ลาโรส( Romet- 30 , Hoffen-LaRoche

*** ซึ่งเท่ากับว่า โรคตาโปนอันเกิดจากเชื้อสแตปโตคอกคัส สามารถรักษาได้โดย ยา Erythomycin and Romet (ซัลฟาไดเมทท็อกซิน) ครับ ***

ความคิดเห็นที่ 25

festae2002
festae2002 (203.113.56.12) [2004-05-19 01:35:07]
เดี๊ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ในการค้นหาข้อมูลทาง Internet ไม่ใช่ว่าไปค้นเจอว่าโรคตาโปนเป็นจากเชื้อนี้จาก web นี้แล้วไปเชื่อว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างนั้น เพราะจริงๆแล้วอาการตาโปนเป็นเพียงอาการแสดง ส่วนจากสาเหตุอะไรก็ต้องพิจารณากันไป

ถ้าเอาสาเหตุเฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรีย ผมแนะวิธีคิดแก้ปัญหาดังนี้
คือต้องคำนึงถึงข้อมูลทางระบาดวิทยาสำคัญที่สุด และความเป็นจริงปลาที่ป่วยจากการติดเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ เช่น Aeromonass spp. Pseudomonas Edwardsiella spp รวมถึงพวก Columnaris เป็นต้น ดังนั้นตาโปนจากเชื้อแบคทีเรียยืนยันว่าส่วนใหญ่เป็นจากเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ และเป็นได้จากเชื้อหลายๆตัว

ส่วนที่คุณ ทอม ค้นมานั้นว่า เชื้อ Streptococcus ทำให้เกิดอาการตาโปนนั้น ถามว่าเกิดได้ไม๊ ตอบว่าเกิดได้แต่ส่วนน้อยมาก ปลาที่จะพบว่าเป็นจากเชื้อนี้มักจะเป็นปลาที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ ปลาอายุมากๆแล้ว รวมถึงสภาวะที่ต้องเหมาะสมจริงๆจึงจะเกิดโรค นานๆจะเป็นทีแต่ถ้าเป็นแล้วจะเป็นรุนแรง เป็นมากและมักมีการติดเชื้อบริเวณอื่นๆร่วมด้วย

ดังนั้นถ้าอ่านคำตอบของผมดีๆตั้งแต่ต้นจะเห็นว่าผมไม่ได้พูดว่ายา Erythromycin รักษาเชื้อ Streptococcus ไม่ได้ผล แต่กำลังบอกว่าพบจากเชื้อนี้ได้แต่พบน้อย

ดังนั้นยาตัวไหนก็ได้ขอให้เชื้อไวต่อยาเป็นพอ ถ้าเพาะ้เชื้อแล้วเป็นจาก Streptococcus แล้วตอบสนองดีต่อยา Erythromycin ก็ใช้ได้

สำหรับคนเลี้ยงทั่วไปก็ต้องอาศัยข้อมูลทางระบาดวิทยาเป็นหลัก ผมจึงแนนำให้ใช้ยาที่ออกฤทธิ์แบบกว้างๆไว้ ดังนั้นยาที่เหมาะสมควรเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อเชื้อแกรมลบเป็นหลัก จะเป็นกลุ่ม tetracycline ก็ได้ จะเป็น Chloramphenical ก็ดี หรือ Amoxycillin ก็ยิ่งดี

ถามว่ารักษาอย่างไรให้หาย นอกจากยาตรงกับเชื้อแล้ววิธีการให้ก็สำคัญ อาการตาโปนไปให้ยาแบบแช่น้ำมันไม่ได้ผลไม่ว่ายาอะไรก็ตาม ควรให้โดยการผสมกับอาหาร คลุกกับอาหารเม็ด หรือละลายน้ำเล็กน้อยแล้วเอากุ้งฝอยคลุกยาแล้วแช่พอเย็นๆให้ยาจับตามตัวกุ้งจึงค่อยเอาให้ปลากิน ถ้าปลาไม่กินก็ต้องใช้วิธีฉีด เพราะวิธีแช่น้ำระดับยาในเลือดไม่สูงพอที่จะรักษาได้

ข้อมูลบางอย่างที่ค้นไม่พบก็ขึ้นอยู่กับการใช้ยาแต่ละประเทศด้วย หลายๆประเทศเค้าไม่ให้ซื้อขายกันแบบในประเทศไทย บางประเทศต้องมีคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
เพราะเค้าป้องกันการดื้อยาที่จะส่งผลต่อการดื้อยาในคนด้วย

อีกอย่างบางทีรักษาไม่หายก็ต้องทำใจเพราะว่าบางครั้งเชื้อดื้อต่อยาที่ใช้รักษา

สำหรับยา Romet ก็อยู่กลุ่มเดียวกับยา Bactrim ที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นๆเป็นยากลุ่มซัลฟา ผมก็เคยเอาตัวนี้มาใช้รักษาโรคเกล็ดพองกับปลากระโห้ครับ







ความคิดเห็นที่ 26

 
  (203.113.56.12) [2004-05-19 01:44:29]

อันนี้แถมให้

Streptococcus is a genus of bacteria containing some species that cause serious diseases in a number of different hosts. A major identifying feature of Streptococcus is that they are Gram-positive (they appear purple when stained using a procedure called a Gram stain). By contrast, most of the common disease-causing bacteria of fish are Gram-negative (appear pink with a Gram stain). This is important when considering treatment options, and will be discussed in greater detail below. Streptococcal (Strep) diseases of fish are not common; however, when they do occur, significant losses can result. Some aquatic Strep species may cause disease in humans in unusual circumstances. However, these latter species do not usually affect healthy people. In addition to bacteria in the genus Streptococcus, there are several other closely related groups of bacteria that can cause similar disease, including Lactococcus, Enterococcus, and Vagococcus. For purposes of this fact sheet, each of these bacteria and the disease itself will be referred to as Strep.

ความคิดเห็นที่ 27

festae2002
festae2002 [2004-05-19 02:02:13]
ลืมลงชื่ออีกแล้ว
อันนี้เป็นขนาดของยาที่ใช้เพื่อผสมอาหาร

Antibiotics used as top dressings to treat bacterial disease in ornamental fish

amoxycillin oral: 40-80 mg/kg body-weight daily

choramphenical oral: 50-100 mg/kg body-weight daily

co-trimazine oral: 30 mg/kg body-weight daily

enrofloxacin oral: 10 mg/kg body-weight daily

oxolinic acid oral: 10 mg/kg body-weight daily
oxytetracycline oral:75 mg/kg body-weight daily

ความคิดเห็นที่ 28

festae2002
festae2002 [2004-05-19 02:07:31]
แถมอีกนิดนะครับ ขอไปนอนแล้วครับ

How do antibiotics work?

Antibiotics are chemical substances produced by microorganisms that either destroy (bactericidal) or inhibit the growth of other microorganisms (bacteriostatic). Antibiotics can be either broad spectrum, which means that they are active against a wide range of microorganisms ? both good and bad. Narrow spectrum drugs target a specific group of microorganisms and are able to interfere with a metabolic process specific to those organisms. In general antibiotics work by;

Preventing the synthesis of bacterial cell-wall components ? typically penicillin

Damaging the bacterial cytoplasmic membrane

Interfering with protein or nucleic acid synthesis ? typically tetracyclines


However, the microorganisms under attack don?t take all this sitting down. Many are able to produce enzymes that neutralise antimicrobial compounds. Others can acquire resistance to weak, short-term or repeated exposure to antibiotics. For example there are now high levels of resistance to oxolinic acid and oxytetracycline because of overuse and misuse.

What antibiotics are available?

Every country has its own regulations on the control of antibiotics and therefore availability will vary. The range of drugs available or licensed for use with fish is generally small. In the UK all antibiotics are classed as POMs (Prescription only Medicines) and are only available under veterinary supervision. Among the antibiotics in common use are;

Broad-spectrum penicillins that include amoxycillin and ampicillin. These are bactericidal in action and are effective against Gram-positive and Gram-negative bacteria, but not very effective against Pseudomonas.

Chloramphenicol is a broad spectrum antibiotic, but again it is not usually effective against Pseudomonas. Because it is used in human medicine it is illegal for use in food animals in most countries. Some people are sensitive to the drug so rubber gloves should be worn when it is handled.

There are several potentiated sulphonamide drugs in which a sulphurdrug is combined with trimethoprim. They are broad spectrum and mainly bacteriostatic. They are well absorbed from the gut when used with medicated food but poorly absorbed from water. They can sometimes form crystals in urine and should not be used where there is already kidney damage. They should not be used at the same time as organophosphates. Co-trimazine is a combination of trimethoprim and sulphadiazine and Borgal is a combination of trimethoprim and sulfadoxine. They are effective against Aeromonas and other Gram-negatives, but not particularly effective against Pseudomonas.

Gentamicin is a broad spectrum antibiotic with a bactericidal effect. It is useful against all Gram-negatives including Pseudomonas but can be toxic to kidneys. There is concern that bacteria may acquire rapid resistance, so it would not be the drug of first choice but does have a use when other drugs do not work.

Nitrofurans are a group of synthetic antimicrobials. Both nifurpirinol and nitrofurazone are effective against many fish pathogens. They are well absorbed through the skin, making them ideal for bath treatments. However, they are carcinogenic and mutagenic and their use with food fish is illegal in most countries.

Oxytetracycline is bacteriostatic drug with a broad spectrum of activity. However, there is widespread resistance and it has little effect on Pseudomonas. The long-acting injectable formulation has caused sterile cysts at the injection site. When used for bath treatments it readily chelates calcium and magnesium ions found in hard water, significantly reducing its effectiveness. It is also light-sensitive when used as a bath treatment, turning brown as it decomposes. The degraded form can be toxic to both fish and humans. Some studies show that oxytetracycline is immunosuppressive in some fish species.

The quinolones are narrow spectrum range of drugs acting mainly against Gram-negatives such as Pseudomonas and Aeromonas. The first generation quinolones include oxolinic acid to which there is now widespread resistance. Newer quinolones include enrofloxacin and sarafloxacin. These are effective against Pseudomonas and Aeromonas and as yet there is little resistance. All quinolones are chelated in hard water, so they are not practical for bath treatments. They are well absorbed through the gut, making them useful for medicated food.



ความคิดเห็นที่ 29

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.163.174) [2004-05-19 13:06:36]
ที่มาของเวบที่คุณเฟสเต้หามา ผมอ่านมาหลายรอบแล้วครับ แต่รับรองว่าที่ผมหามาละเอียดกว่ามาก ในการหาว่าเมื่อปลาเราป่วยรักษายังไง ไม่ใช่แค่เพียงว่า ปลาเป็นอะไร รักษายังไงให้หาย ผมจะใช้วิธีดูก่อนว่า
1. โรคที่เป็นมีชื่อ คอมมอนเนมว่าอะไร
2. จากนั้นก็จะไปหาที่มาที่ไปของตัวเชื้อ ซึ่งในที่นี ก็คือโรคตาโปนที่เกิดจากแบคทีเรีย ซึ่งเจ้า สเตปโตคอกคัส เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้
3. จากนั้นก็จะไปหายาที่สามารถรักษา เจ้าสเตปโตคอกคัส ก็เท่านั้เองครับ ในเวบปลาโดยส่วนใหญ่ก็จะไม่ลงไปในรายละเอียดเยอะมาก เดี๋ยวผมจะเอา งานวิจัยมาให้ดุแล้วกัน ส่วนข้อมูลของคุณเอามาจากเวบนี้http://www.fishdoc.co.uk/treatments/antibiotics.htm
ซึ่งถือว่าดีมากๆๆ แต่ไม่เจาะลงไปในรายละเอียดครับ

ความคิดเห็นที่ 30

 
  (202.133.163.174) [2004-05-19 13:14:24]
http://edis.ifas.ufl.edu/FA057 อเวบนี้คุณเฟสเต้คงได้มีโอกาสเข้าไปอ่านมา เค้าพูดถึงวงกว้างๆๆว่า โรคแบคทีเรียที่เกิดกับปลาโดยส่วนใหญ่เป็น แกรม - แต่เจ้าตาโปนนี่เกิดจาก สเตโตคอสคัส
A tentative diagnosis of Strep can be made from the history and clinical signs, necropsy findings, and identification of Gram-positive bacteria from stains of impressions (produced by blotting sections of fresh tissues onto a glass slide) from the brain, spleen, kidney, or liver. Strep should be highly suspected if fish exhibit abnormal swimming behavior, pop-eye, hemorrhages, and rapid and severe mortalities, and Gram-positive cocci are found in brain, kidney, and/or other organs.

ความคิดเห็นที่ 31

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.163.174) [2004-05-19 13:17:33]
including Strep, are susceptible to erythromycin. One oral dosage rate that has proven effective in the field is 1.5 grams of erythromycin per pound of food, fed for 10 to 14 days. แล้วที่ผมโพสกระทู้ ก็หมายถึง เจ้าตาโปนซึ่งเกิดในปลา ที่มีสาเหตุมาจากเจ้า สเตปโตคอสคัส หรือคุณเฟสเต้ไปเจอเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นที่ทำให้เกิดตาโปนได้อีกครับ ยังไงถ้าเจอได้โปรดชี้แนะด้วน ส่วนสาเหตุที่เกิดจากตาโปนด้วยสาเหตุอื่นจะไม่ขอพูดถึง

ความคิดเห็นที่ 32

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.163.174) [2004-05-19 13:21:51]
ขอเพิ่มเติมในส่วนของเพื่อนๆที่คิดว่า ทำไมไม่ใส่มันทั้ง + / - เลยหล่ะ ขอบอกน่ะครับ ว่าไม่ได้ ตัวยาจะไปทำปฎิกริยากันทำให้ยาเสื่อมคุณภาพ ไม่สามารถรักษาได้ครับ

ความคิดเห็นที่ 33

festae2002
festae2002 [2004-05-19 16:10:29]
ตัวอย่างเชื้อผมได้ตอบไปแล้วนะครับ ที่พบบ่อยและเป็นปัญหามากคือจากเชื้อ Aeromonass spp.และPseudomonas

อย่างที่บอกอาการตาโปนเป็นเพียงอาการแสดงอย่างหนึ่ง ก็แล้วแต่เชื้อจะไปก่อเหตุอวัยวะใดบ้าง ไปที่ตา ตาก็ขุ่นขาวและบวมโปน ไปที่ปากที่เป็นแผลก็เป็นหนองที่ปาก ไปที่เกล็ดเกล็ดก็ตกเลือด รวมถึงอวัยวะภายในต่างๆ

หนังสือของไทยเองลองซื้อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของมหาวิทยาลัยต่างๆที่วางขายอยู่จะมีบอกรายละเอียดเชื้อพวกนี้อยู่พอควร

ถ้า search จาก internet ลองใช้ Exopthalmia and bacteria and fish จะมีข้อมูลตามที่ผมบอกครับ

ความคิดเห็นที่ 34

พี่ทอม
พี่ทอม (202.133.183.14) [2004-05-19 16:37:56]
Most bacterial fish pathogens, such as Aeromonas, Pseudomonas, Vibrio, Flavobacterium and Cytophaga are Gram-negative bacteria. These are the bacteria that are usually involved with bacterial disease such as ulcers, fin rot, acute septicaemia and bacterial gill disease. Less common pathogens are Mycobacterium and Norcardia sp. which cause chronic granulomas (or abscesses).

โรคปลาโดยส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุ Aeromonas, Pseudomonas, Vibrio, Flavobacterium and Cytophaga are Gram-negative bacteria. ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นแกรมลบอ่ะ แต่ที่คุณเฟสเต้บอกมา มันเป็นสปีชี่ของเชื้อแบคทีเรียอ่ะ ไม่ได้เจาะจงลงไปครับว่า มาจากเชื้อตัวไหน ในส่วนของ Exopthalmia เป็นชื่อทางการที่ใช้เรียกสาเหตุของการเกิดอาการตาโปน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า POP-EYE เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำครับ ส่วนหนังสือปลาบ้านเราผมไม่เห็นมีหนังสือที่เกี่ยวกับโรคปลาที่ละเอียดเลยครับ ถ้ามียังไงช่วยแนะนำด้วยครับ

ความคิดเห็นที่ 35

yut1678
yut1678 (192.168.1.16) [2004-05-19 23:20:14]
ขอเล่าประสบการณ์หนึ่งนะครับ

ทุกวันนี้เวลาปลาผมป่วย ไม่ว่าจะตาโปน หัวเป็นรู ปากบวม ผมจะใช้วิธีเอายามาผสมกับอาหารเม็ดป่นผสมน้ำ แล้วใส่หลอดไซริงค์ 3หรือ5 cc.(แล้วแต่ขนาดปลา)ไม่ใส่เข็ม ฉีดเข้าทางปากในกระเพาะปลาเลย ถ้าเป็นปลาตัวใหญ่ แต่ถ้าเป็นตัวเล็ก2-3-4 นิ้วผมจะใช้ไซริงค์ใส่เข็มเบอร์เล็กสุด เอายาผสมน้ำฉีดเข้าบริเวณที่เป็น เช่นปากบวมก็ฉีดบริเวณปากที่บวม ตาโปนก็ฉีดเข้าบริเวณหน้าฝากใกล้ ๆกับตาที่บวม

ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของผมการรักษาวิธีนี้ ทำให้ปลาหายป่วยจากโรคเร็วมาก ตายุบเร็ว ปากยุบเร็ว บางครั้งแค่ 2 วันก็ยุบแล้วในกรณีที่เริ่มเป็น

ในกรณีที่ปากบวมมากหรือตาโปนมาก(ถลนแล้ว) ผมจะให้ยาติดกันทุกเช้า-เย็นติดกันทุกวัน ถ้าดีขึ้นจะให้เฉพาะตอนเช้าครั้งเดียวประมาณ 7 วัน ซึ่งก็จะหายเป็นปกติทุกตัว โดยยาที่จะใช้นั้น ในกรณีปากบวม ,หัวเป็นรู หรือแม้กระทั่งตาโปน ผมก็จะใช้เต็ดตร้าไซคลีนหรือ อะม็อกซี่ ผสมกับ เมโทนิดาโซน 200 mg.บดเป็นผง ในสัดส่วนกะ ๆเอาแต่เมโทนิดาโซนจะมากกว่า ดูจากขนาดปลาแต่ในปริมาณไม่มากนัก

ซึ่งผมเองก็เคยโดนทักท้วงเรื่องชนิดยาในการรักษา แต่ที่แน่ ๆ สำหรับปลาปากบวมแล้ว ตัวเมโทรนิดาโซนผสมกับเต็ดต้าหรือ อะม็กซี่เล็กน้อย ใช้วิธีการนี้ ผมรักษาหายมาหลายตัวแล้ว แม้แต่เท็กซัสแดงของเถ้าแก่ผม ตัวละหลายกะตางค์อยู่ ปากบวมยื่นเลย ล่อแล่ ๆ ไม่กินอาหารเลยมาเป็นสิบวัน จะไม่รอดแล้ว นิ่ง ๆไม่มีแรงเอามือตักได้เลย พอดีวันผมเข้าบริษัทพอดี (เดือนหนึ่งจะเข้าบริษัท 4-5 วัน)ผมเอาเข็มฉีดยาขนาดเล็กดูดหนองออกบางส่วน แล้วให้ยาตัวนี้ผสมอาหารฉีดเข้ากระเพาะอาหาร เพียงสามวันเท่านั้นอาการปากยุบลง ผมให้คนงานให้ยาต่อไปอีก 4 วัน ซึ่งปัจจุบันปลาตัวนี้ก็รอดและยังอยู่แข็งแรงดี กินอาหารเช็ดเม็ดเหมือนเดิมครับ

ซึ่งผลการรักษาทุกวันนี้ ปลาที่เป็นก็หายดีเป็นปกติทุกตัว ซึ่งตัวล่าสุดปลาที่บ้านตาโปนข้างเดียวก็ใช้วิธีนี้ ขังเดี่ยว ให้ยาประมาณ อาทิตย์หนึ่งก็หายเป็นปกติ กินอาหารได้ ร่าเริง เหมือนเดิม

เหตุที่เล่าให้ฟังนี่น่ะครับ เปรียบเทียบเหมือนกับการรักษาโรคแผนโบราณหรือเปล่า ที่ดูแล้วไม่น่าหายกับหาย แต่กับการรักษาแบบปัจจุบันที่ดูเหมือนว่าน่าจะหายแต่ไม่หาย เพราะก่อนหน้านี้ ปลาที่ผมเลี้ยงเป็นโรค ตาโปน ปากบวม หัวเป็นรู (หัวเป็นรูพออักเสบขึ้นมาส่วนมากตาจะโปนตามในไม่ช้า) ใช้วิธีการรักษาแบบปกติคือใส่ยาแช่ สำหรับปลาผมตายทุกตัว ไม่มีตัวไหนรอดเลย แต่เมื่อผมใช้วิธีนี้ปลาผมที่เป็น ไม่มีตัวไหนตายอีกเลย

พิมพ์มาให้อ่านอีกความเห็นครับ

ความคิดเห็นที่ 36

festae2002
festae2002 [2004-05-20 00:14:58]
วิธีการของคุณ yut1678 ไม่โบราณหรอกครับ ถือว่าทันสมัยเลยครับ ก็เหมือนคนที่กินก็กินไม่ได้ จะหาเส้นเลือดเพื่อให้ยาทางเส้นเลือดก็ไม่ได้ ก็ต้องใส่สายยางทางจมูกลงไปถึงกระเพาะแล้วจึงให้ยาทางสายยางนี้แหล่ะ

วิธีการใช้ได้เลยครับ

ความคิดเห็นที่ 37

เฮ้อ...
เฮ้อ... (203.118.114.121) [2004-05-20 18:23:32]
ท่าทางคุณเฟสเต้ นี่ ต้องการชนะคน นะครับ ยังจะเถียง คั่งๆ ไปเรื่อยๆ ทำไม เหรอครับ การชนะ ทอมเท็กซัส นี่ถือว่า เจ๋ง และเป็นเรื่องน่าภูมิใจเหรอครับ ผมหล่ะเชื่อเลย วิธีไหน ได้ผล คนที่เค้าอ่านก็ ทำตามเองอ่ะ ครับ แล้วเค้าก็จะมาโพสขอบคุณ เองหล่ะ คนดีไม่ต้องกลัวหรอก ทำความดีคนก็รู้

ความคิดเห็นที่ 38

p11
p11 (203.113.44.9) [2004-05-20 21:41:33]
การใช้น้ำใบหูกวางใครมีความเห็นอย่างไรครับ ดี มีผล เสียตรงไหนบางครับ คือ ผมกำลังจะใส่ปลาของผมอยู่นะครับช่วยตอบด้วย คนที่มีความรู้ โปรดช่วยให้ความรู้ด้วยครับ ต้องการให้สีดี ใส่ ทองมาเลย์ครับ

ความคิดเห็นที่ 39

yut1678
yut1678
1
[2004-05-20 23:44:39]
ผมไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่แต่ว่า คคห.ที่ 37 กำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

ผมอ่านคคห.ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีประโยคส่วนไหนของทั้งสองคน ที่จะมีความหมายว่าจะต้องเอาแพ้เอาชนะกันเลยนะ ทั้งสองคนถกเถียงกันด้วยข้อมูล และความรู้ ที่ได้ศึกษากันมา และกับความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน เลยมีข้อโต้แย้งแต่เป็นการโต้แย้งที่ใช้หลักวิชาการ และผมก็ไม่เห็นทั้งสองคนจะมีอารมณ์ต่อกัน

แต่ผมเห็นว่าจุดมุ่งหมายทั้งสองเหมือนกัน คือให้คนที่เข้ามาอ่านได้รับทราบข้อมูลที่ดี ข้อมูลที่คนอ่านบางคนเช่นผม ไม่รู้มาก่อน ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

ไป ๆมา ๆ ผมว่า คคห.ที่ 37 นี่แหละ จะมีอารมณ์และใช้ความรู้สึกส่วนตัว กว่าทั้งคุณทอม และคุณfestae อีกนะ

ความคิดเห็นที่ 40

เฮ้อ...
เฮ้อ... (210.86.220.187) [2004-05-21 18:25:14]
คุณลองดูดีๆ สิครับ ว่าเค้ากำลัง เถียงด้านหลักวิชาการกันอยู่ ฝ่ายหลังอ่ะไม่ยอม เลิกราสักที ผมไม่ได้ใช้อารมณ์ อะไร หรอกนะ แต่เห็นแล้วรำคาญ ก็ไปโพสกระทู้ใหม่เลยสิหมดเรื่อง คุณเฟสเต้

ความคิดเห็นที่ 41

reign_of_fishes@hotmail.com
reign_of_fishes@hotmail.com (203.209.108.24) [2004-05-22 00:30:54]
โอ พี่ทอมนี่เก่งจริงๆนะครับ ถ้าเจอตัวจริงจะยกมือไหว้สักที

ความคิดเห็นที่ 42

ชู
ชู (10.21.2.174) [2004-05-22 09:33:00]
คุณคห.40ครับ อ่านแล้วทำใจให้เป็นธรรมหน่อยครับ คุณเฟสเต้เขาใช้วิชาการมาถกกันนะครับ ถ้ารำคาญก็ไม่ต้องอ่านครับ วิธีแก้ที่ดีที่สุดครับ ไม่ใช่มาแสดงความคิดเห็นให้คุณเฟสเต้หมดกำลังใจแบบนี้ ผมคิดว่าพวกเราที่ชอบเลี้ยงปลายังต้องการคนอย่างคุณทอม คุณเฟสเต้ น้องฝนและอีกหลายๆคน ที่นำข้อมูลมานำเสนอครับ

ความคิดเห็นที่ 43

สมองควายหรือเปล่า
สมองควายหรือเปล่า (203.146.66.102) [2004-05-22 17:37:34]
นายเออ เอ็งนี่สมองควายหรือเปล่า อ่านดูไม่รู้หรือว่าพี่ทอมกับพี่เฟสเต้เค้าพูดคุยเรื่องวิชาการกันก็ต้องมีการโต้กันบ้างเป็นธรรมดาไม่เห็มีประโยคไหนที่พี่ทั้งสองเค้าจะมีอารมณ์ใส่กันก็เห็นพูดคุยกันดีนี่ มีแต่ความเห็นของเอ็งคนเดียวแหล่ะที่ทำให้เสียบรรยากาศ

ปกติก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะแต่เห็นเป็นกระทู้แนะนำเลยเข้ามาเลยอดไม่ได้ ขออภัยเพื่อนๆพี่ๆคนอื่นด้วยครับ

ความคิดเห็นที่ 44

สมองควายหรือเปล่า
สมองควายหรือเปล่า (203.146.66.102) [2004-05-22 17:46:23]
อ้ออีกอย่างนายเคยพูดคุยหรือรู้จักพี่เค้าหรือเปล่าถึงกล้าไปว่าพี่เค้า ถ้าไม่เคยพูดคุยก็หุบปากเถอะ

ความคิดเห็นที่ 45

เฮ้อ...
เฮ้อ... (203.118.120.140) [2004-05-22 22:03:45]
เอ็งอ่ะทรามกว่าข้าอีก ดูใช้ชื่อ สิ โตๆแล้วหัดดูให้ดีๆ รู้ว่าสองคนนี้เป็นยังไง ไอ้หนู ฉะนั้น อย่าเล่นกับพี่ ไอ้น้อง สมองควายหรือเปล่านี่แม่ตั้งให้เหรอ เพราะดี นะ ที่ข้าออกมาพูดเนี่ย เพราะรู้ว่าคุณเฟ้สเต้ เป็นยังไง คนที่มีปัญญาถึงรู้ ลองอ่านๆดีๆ ใช่ครับ มีคนพูดถูกที่เค้าเถียงกันด้วยหลักวิชาการ แต่ก็ดูดิ ตาเฟสเต้ เค้าก็ไม่เคยท้อจายยย อืมมม ยังจะมาสู้ทางหลักวิชาการอยู่ได้ เวปที่เค้าดูอ่ะ คุณทอม ดู ก่อนเค้าตั้งนานแล้ว เค้าจะมายืนยัน บ้าๆบอๆ นอกคอกทำไม อีกหล่ะ แล้วที่คุณทอม แนะนำ อ่ะ ใช้แล้วมันได้ผล นะ ไอ้น้อง

ความคิดเห็นที่ 46

festae2002
festae2002 [2004-05-22 22:49:29]
อ้าวไหงกระทู้เป็นอย่างนี้ล่ะ

คุณ เฮ้อ คงเข้าใจอะไรผิด ผมไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรหรอกครับ และผมก็ไม่ได้ไปแข่งขันอะไรกับคุณ Tomtexas เลยจริงๆ

ผมภูมิใจในอาชีพของผมที่เป็นอยู่ก็พอแล้ว และอาชีพของผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องปลาๆใดๆทั้งสิ้นเลยครับ

ที่ผมทักท้วงคุณ Tomtexas เพราะเห็นว่าเป็นนักเขียน มีร้านขายปลา มี web ของตนเอง มีโอกาสที่จะเผยแพร่ความรู้ให้ผู้อื่นมากๆ ดังนั้นการทักท้วงของผม ผมว่าก็ใช้คำสุภาพนะครับและน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ Tomtexas ในการเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ

ถ้าเรื่องสายพันธุ์ปลาต่างๆผมก็ต้องเรียกคุณ Tomtexas ว่าอาจารย์ล่ะครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทั้งสอน ทั้งทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องยา เชื้อโรคต่างๆ ผมก็ต้องทักท้วงข้อเท็จจริงให้ฟังก็เท่านั้น

ผมพูดไปจากความรู้ และประสบการณ์ล้วนๆ ไม่ได้ไปค้นอะไรมากมายหรอกครับ ไอ้ที่เห็นตัวอย่าง web ก็เพียงแต่ยกขึ้นมาและค้นขึ้นมาในช่วงหลังเพื่อแนะเป็นแนวทางในการค้นหาก็เท่านั้น

ผมเข้าใจคุณ เฮ้อ ครับแต่ถ้าคุณรู้ว่าผมทำงานอะไร ทั้งคุณวุฒิและวัยวุติเป็นอย่างไร คุณก็คงยอมให้ผมทั้งท้วงคุณ Tomtexas แน่ๆครับ

ความคิดเห็นที่ 47

RoF
RoF (203.209.96.69) [2004-05-23 00:04:25]
กลายเป็นทะเลาะกันซะแล้ว ยังไงๆ ก็อยากให้ชื่นชมคนที่อุตสาห์หาข้อมูลวิชาการมาเผยแพร่ให้ฟังนะครับ ผิดถูกบ้าง ก็ควรอภัย เพราะบางคนอาจไม่ได้เรียนจบมาทางด้านสัตว์น้ำ หรือ สัตว์แพทย์โดยตรง แต่ก็ยังมีน้ำใจหาข้อมูลมาให้ก็น่าชื่นชมครับ
อ่า ตอบกระทู้ดีกว่าคห 38 ละกัน จาก Habitat ของปลาทองอินโด และแดงอินโดซึ่งอาศัยอยู่บริเวณน้ำที่การทับถมของอินทรีย์สาร เช่นใบไม้แห้งเป็นจำนวนมาก และไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในบริเวณแหล่งน้ำอื่นในอินโดนีเซีย จึงเข้าใจว่า ปลาดังกล่าววิวัตนาการมาเพื่ออยู่ในแหล่งน้ำที่มีการหมักหมมของใบไม้ ดังนั้น การใส่ใบหูกวางให้กับปลาทั้งสองสายพันธุ์ จึงมีความเป็นไปได้ว่า จะช่วยให้ปลามีสีสันซึ่งสวยงามขึ้น เพราะได้อยู่ในน้ำที่มีคุณสมบัติคล้ายต้นกำเนิดในธรรมชาตินั่นเอง ใบหูกวางยังช่วยในการป้องกัน รักษาโรคสาระพัดอย่างี่รู้ๆกันอยู่ เนื่องจากมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิตบางชนิดได้ ไม่ใช่ว่าใบหูกวางจะออกฤทธิ์ได้กับปลากัดเพียงอย่างเดียว แต่ในปลาที่มีแหล่งกำเนิดในบริเวณน้ำที่มีการหมักหมมแทบทุกชนิด ก็ใช้ใบหูกวางได้ครับ
ส่วนทองมาเลย์ ก็มีแหล่งกำเนิดในน้ำที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับทองอินโดและแดงอินโด เพียงแต่น้ำจะไม่เข้มเท่าครับ การใส่ใบหูกวาง เล็กน้อยไม่มีปัญหาครับ แต่จะทำให้สีน้ำไม่สวยนี่สิ บางทีสีน้ำ ก็บดบังความสวยของอโรวาน่า ซะหมด สู้น้ำใสๆไม่ได้ก็มีครับ

ความคิดเห็นที่ 48

p11
p11 (203.113.44.72) [2004-05-23 20:45:50]
ขอบคุณมากครับคุณ RoF ที่หาข้อมูลมาให้ผม ขอบคุณมากๆๆๆๆครับ

ความคิดเห็นที่ 49

BMW
BMW (203.149.36.96) [2004-05-26 16:15:39]
ใช่ครับ เท่าที่รู้มา คุณ fastae เป็นคุณหมอ ที่เก่งซะด้วย
และผมก็เฝ้าติดตามดูกระทู้ของคุณมาตลอด
กระทู้ที่คุณพาไปเที่ยวที่ เนปาล ผมยังแอบเซฟรูปไว้ดูเลยครับ
555 เป็นกำลังใจให้ครับ อย่าไปสนใจพวกปากมอมเลย
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ