ปลาพวกนี้ มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารครับส่วนใหญ่ จะสังเกตุได้ว่า ปลาที่มีอาการแบบนี้มักเกิดจากการให้กุ้ง หรืออาหารสด

แช่ด้วย ยาปฏิชีวนะ เ แบคทริม 20 มกต่อลิตร ร่วมกับ เมโทรนิดาโซล 15 มกต่อลิตร และ ดีเกลือ 1 ก ต่อลิตร เปลี่ยนน้ำและยา 50 เปอร์เซนต์ทุกๆ 3 วันครับ
ยาหาซื้อได้ตามร้านขายยาคนทั่วไป
จากคุณ RoF เคยแนะนำไว้ครับ

แต่ผมแช่ เมโทรนิดาโซล 15 มกต่อลิตร ร่วมกับแอมม๊อกซี่ซิลิน 30 มกต่อน้ำหนึ่งลิตร และ ดีเกลือ 1 ก ต่อลิตรเปลี่ยนน้ำและยา 50 เปอร์เซนต์ทุกๆ 3 วันครับ แทนครับเพราะร้านยาแถวบ้านไม่รุ้จัก แบคทริม ดีเกลือเข้าร้านที่ขายยาโบราณจะมีขายครับ 10 บาทได้มาเกือบครึ่งถุงใส่น้ำอัดลม

เพิ่มเติมว่าถ้ามีอาการขี้เป็นวุ้นด้วยควรเปลี่ยนน้ำใส่ยาทุก 2 วันเพราะปลาจะขับเมือกออกมามากและวุ้นเต็มตู้เลย(ถ้าไม่มีอาการดังกล่าวก็ 3 วันก็ได้ครับ)
ปริมาณยาที่ใส่เพิ่มเข้าไปก็คำนวณสัดส่วนกับน้ำที่ถ่ายออกด้วยครับถ่ายออก 50% ก็ใส่น้ำใส่ยาคืนแค่ 50% ของที่ระบุไว้

ปล.แช่สัก 2-3 น้ำอาการน่าจะหายนะครับถ้าเป็นไม่มาก และหลังจากหายแล้วควรให้อาหารเม็ดครับ

งั้นก็แสดงว่าให้กุ้งกินได้แต่อย่าบ่อยหรือเปล่าครับ อาจเป็นเพราะหัวกุ้งมันแหลมอาจจะไปทิ่มลำไส้ได้ใช่ไหมครับ

ก็คงจะมีหลายสาเหตุนะครับ ส่วนนึงน้ำที่ใส่เลี้ยงกุ้งฝอยก็คงไม่สะอาดพอหรอกนะครับผมว่า

ตอนนี้ชอบที่จะให้กุ้งแม่น้ำ พวกกุ้งกุลา ฯลฯ แกะเปลือกแล้วบดๆให้กินมากกว่าครับเสียเวลาแต่เราให้อาทิตย์ละครั้งก็พอครับ
ร้านแถวบ้านเขาก็ให้แบบนี้อ่ะ แต่ส่วนมากจะให้ไรแดง พวกกุ้งเขาจะบด มีผสมวิตามินบ้างกินล้วคึกดี แล้วก็อาหารเม้ดนะครับ

ให้กุ้งฝอยปลาได้ไล่กินแต่ไส้ไหล ผมไม่เสี่ยงอ่ะครับ ตอนรักษาเหนื่อยและสงสารปลาครับ(เพราะความขี้เกียจของเราเอง)

เปลี่ยนน้ำแล้วอดอาหารครับเดี๋ยวหดเอง
พอมันหดแล้วอย่าเพิ่งให้อาหารนะ
อดต่อไปอีก 2-3 วัน แล้วค่อยให้อาหารเม็ด
เม็ดเล็กนะ วันละ 2-3 เม็ดก็พอ
ดูอาการมันก่อน ถ้ามันมีถ้าทีจะไหลอีก
ก็อดอาหารมันอีกครับ แต่ถ้าไม่ไหลก็ให้อาหารเพิ่มครับ
ค่อยๆเพิ่มไป ถ้ามันหดได้ซัก 2-3 อาทิตย์ ก็ให้ไรมั่งก็ได้ครับ
เดี๋ยวก็หายเอง แต่ห้ามให้กุ้งเด็ดขาด

หายไวๆนะครับ

ไส้ไหลมีอาการติดเชื้อในลำไส้ร่วมด้วยนะครับถ้าเราแค่อดอาหารผมว่าเชื้อมันก็นานกว่าจะตายครับ
ควรใส่ยาช่วยด้วยและเปลี่ยนน้ำเปลี่ยนยาบ่อยๆครับ ส่วนตัวผมไม่อยากให้ติดเชื้อนานเดี่ยวจะเรื้อรังมากกว่าครับ