Exotic Fishes สำหรับคนที่หลงใหล และ ชื่นชอบ ในความแปลก ฉีกความจำเจ พื้นๆ กับ สายพันธุ์ปลาแปลกๆ จากอะเมซอน, ปลาแม่น้ำของไทย, สัตว์น้ำแปลกๆ, สัตว์เลื้อยคลาน (Reptile) โพสต์ข้อความแลกเปลี่ยนความรู้ กันได้ที่ ห้องนี้
อุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม จากเว็บช้อปปิ้งชั้นนำ
20 บาท25.00 บาท
195 บาท
79 บาท150.00 บาท
ความคิดเห็นที่ 4
หกน้อย
(158.108.211.195)
[2005-05-29 21:43:36]
ความคิดเห็นที่ 6
Cheetah
17
[2005-05-29 22:38:04]
ความคิดเห็นที่ 7
เด็กหัวครก
(203.113.76.11)
[2005-05-29 23:21:22]
ความคิดเห็นที่ 10
(202.57.153.139)
[2005-05-30 16:34:09]
ความคิดเห็นที่ 11
job
(61.91.88.197)
[2005-05-30 17:31:06]
ความคิดเห็นที่ 12
Cheetah
17
[2005-05-30 18:16:39]
ความคิดเห็นที่ 13
teenoi45
(203.156.26.120)
[2005-05-30 20:15:31]
ความคิดเห็นที่ 17
exotic69
(unknown, 10.249.)
[2005-05-31 12:12:01]
ความคิดเห็นที่ 20
จ๊อบ
(61.91.88.197)
[2005-05-31 20:58:20]
ความคิดเห็นที่ 21
Covent
(58.9.191.16)
[2005-05-31 22:59:31]
ความคิดเห็นที่ 38
จ๊อบ
(61.90.45.223)
[2005-06-01 13:28:45]
ความคิดเห็นที่ 39
Job
(61.90.45.223)
[2005-06-01 13:31:22]
ความคิดเห็นที่ 40
ninetao
(203.113.85.243)
[2005-06-01 14:25:27]
ความคิดเห็นที่ 41
Cheetah
17
[2005-06-01 16:20:46]
ความคิดเห็นที่ 42
Arty
(203.113.33.6)
[2005-06-01 16:39:17]
ความคิดเห็นที่ 43
Arty
(203.113.33.6)
[2005-06-01 16:47:05]
ความคิดเห็นที่ 46
hut
(61.19.41.30)
[2005-06-01 21:49:49]
ความคิดเห็นที่ 47
Cheetah
17
[2005-06-01 22:35:22]
ความคิดเห็นที่ 67
(61.19.41.30)
[2005-06-05 01:27:08]
ความคิดเห็นที่ 68
Cheetah
17
[2005-06-05 02:47:51]
ความคิดเห็นที่ 72
Cheetah
17
[2005-06-06 00:49:53]
ความคิดเห็นที่ 73
hut
(61.19.41.30)
[2005-06-06 00:55:54]
ความคิดเห็นที่ 74
Cheetah
17
[2005-06-06 02:25:16]
ความคิดเห็นที่ 75
(210.213.43.252)
[2005-06-06 19:25:29]
ความคิดเห็นที่ 77
Cheetah
17
[2005-06-06 22:46:14]
ความคิดเห็นที่ 87
Dernero888
[2005-06-07 00:16:32]
ความคิดเห็นที่ 88
Cheetah
17
[2005-06-07 00:49:38]
ความคิดเห็นที่ 89
Cheetah
17
[2005-06-07 00:50:47]
ความคิดเห็นที่ 90
Cheetah
17
[2005-06-07 01:34:38]
ความคิดเห็นที่ 91
ต. เต่าน้อย
(203.113.33.7)
[2005-06-07 08:39:57]
ความคิดเห็นที่ 94
Cheetah
17
[2005-06-07 22:41:41]
ความคิดเห็นที่ 101
Cheetah
17
[2005-06-08 22:14:06]
ความคิดเห็นที่ 107
Cheetah
17
[2005-06-13 20:52:14]
ความคิดเห็นที่ 110
Cheetah
17
[2005-06-13 22:41:12]
ความคิดเห็นที่ 115
Cheetah
17
[2005-06-14 03:43:17]
ความคิดเห็นที่ 119
Cheetah
17
[2005-06-15 14:18:50]
ความคิดเห็นที่ 120
golf
(192.168.100.104)
[2005-12-14 09:40:49]
เต่าหกดำ ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งทวีปเอเซีย ฉบับสมบูรณ์ (รึเปล่านะ?)
เต่าหกดำ ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งทวีปเอเชีย
กว่าผมจะเริ่มต้นเขียนเรื่องเต่าหกนี้ขึ้นมาได้ ก็ถูกแฟนๆเวบบอร์ดห้องสัตว์แปลกของนายเก๋าเรียกร้องกันอยู่นาน กว่างานเขียนชิ้นนี้จะปรากฏสู่สายตาของผู้อ่าน ทั้งนี้นายChelonianใช่ว่าจะนิยมแต่ของนอกจนหลงลืมของดีในบ้านเราหรืออย่างไรหรอกครับ แต่เนื่องจากผมไม่ใคร่จะได้มีโอกาสได้สัมผัสตัวตนแท้จริงของเต่าหกดำ อีกทั้งยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการครอบครองเต่าหกดำเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงกริ่งเกรงถึงรายละเอียดต่างๆที่อาจตกหล่นและหลงลืมไป แม้นว่ามีใจรักที่จะถ่ายทอดก็ตามที แต่ด้วยกระแสความนิยมในเจ้ายักษ์ใหญ่ใจดีแห่งเอเชียตัวนี้ที่เร่าร้อนดั่งฟอนไฟสิ้นไร้สิ่งต้านทาน หลังจากที่ค้นคว้าหาข้อมูลอยู่หลายเพลา ณ.คืนฟ้าไร้จันทร์ของเดือนห้า ปีระกา ผมจึงได้โอกาสเริ่มจรดปลายนิ้วเพื่อรับใช้สังคมคนรักเต่าตามความนิยมอีกสักครา เพื่อให้คนคอเดียวกันทัศนาดูเถิดว่า ของดีในบ้านเราหาใช่มีดีแค่ ต้มยำกุ้ง เสียเมื่อไหร่
ในขณะที่เต่านำเข้าเฟื่องฟู ทำเอาคนไทยไหลหลงไปกับของนอกจนเบียดเต่าไทยตกขอบให้น้อยใจอยู่นั้น ยังมีเต่าไทยอมตะที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลาช้านาน แถมกระแสนิยมในช่วงหลังยังถาโถมเพิ่มแรงเบียดเต่านำเข้าอีกหลายตัวให้ตกขอบไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ด้วยข้อห้ามต่างๆในประเทศไทยตอนนี้ จึงไม่แปลกหากเราจะพบว่า การซื้อหาเต่าหกดำ จะต้องกระทำแบบซุ่มซ่อนเล็กน้อย แบบที่นัดวันรับของจากร้านเป็นกรณีๆไป โดยมูลเหตุนี้เองหลายท่านที่ เดินสวนแบบผิวเผินจึงพลาดโอกาสได้ยลโฉมมนต์เสน่ห์ของยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งทวีปเอเชียไปอย่างน่าเสียดาย จากเรื่องราวเบื้องต้นที่อารัมภบทมานี้ จึงไม่แปลกหาก ราตรีสีนิลแห่งคืนฟ้าไร้จันทร์เพลานี้ จะมีเต่าดำตัวใดโดดเด่นไปยิ่งกว่า เต่าหกดำ
ลักษณะโดยทั่วไป
เต่าหกดำถูกจัดอันดับใหญ่เป็นเต่าบกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และอยู่ในอันดับ4ของโลก แต่หากนับเพียงเต่าบกจากแผ่นดินใหญ่ เจ้ายักษ์ใหญ่ใจดีตัวนี้เห็นจะเป็นรองก็เพียง ซูคาต้า นักเดินทางแห่งท้องทุ่งสะวันน่าเท่านั้น ด้วยขนาดโตเต็มที่ถึง60ซม. แถมพกมาด้วยน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ30-40กิโลกรัม แต่สำหรับน้ำหนักสูงสุดที่มนุษย์เคยพานพบนั้นสูงถึง50กิโลกรัมเลยทีเดียว และก็ด้วยขนาดอันใหญ่โตนี่เองจึงทำให้เต่าหกดำทรงคุณค่าเพิ่มขึ้นเมื่อนำมาเลี้ยงให้รอดตลอดจนผ่านกาลเวลาอันยาวนาน อาจจะเป็นด้วยเต่าหกนั้นเป็นเต่าประจำถิ่นของเอเชียอาคเนย์โดยเฉพาะ จึงไม่แปลกหากหลายคนที่เคยลองเลี้ยงแล้วจะพบว่า เต่าหกเป็นเต่าที่เลี้ยงง่าย กินเก่งโตไว แถมยังไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมาให้ผู้เลี้ยงได้เคืองใจอีกด้วย ทั้งนี้อาจเป็นเป็นเพราะนอกจากจะชินกับสภาพอากาศแบบความชื้นสูงแล้วยังคุ้นเคยกับฤดูกาลในบ้านเราเป็นอย่างดี โดยในธรรมชาติเต่าหกดำจะพบได้ในประเทศเมียนมาร์, แคว้นอัสสัมของอินเดีย, สำหรับประเทศไทยพบได้ทางตอนเหนือและทางด้านทิศตะวันตกของประเทศตลอดแนวชายแดนติดต่อกับที่ติดต่อกับพุกามประเทศ เช่นในจังหวัดตากและกาญจนบุรี ตามเทือกเขาตะนาวศรีจากเหนือจรดใต้
เต่าหกดำ(Manouria Emys Phayarei)มีเพื่อนพ้องร่วมspeciesเดียวกันอยู่อีกตัวหนึ่ง คือเต่าหกเหลือง(Manouria Emys Emys) ซึ่งขนาดเมื่อโตเต็มที่จะเล็กกว่ากับถึงเท่าตัว แต่เต่าหกเหลืองจะมีสีสันที่โดนใจคนไม่ชอบเต่าสีดำเสียมากกว่า คือส่วนใหญ่แล้วเต่าหกเหลืองจะมีสีสันออกไปทางสีน้ำตาล ซึ่งแท้จริงแล้ว เรื่องของสีสันกลับไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดของสองเพื่อนซี้นี้ออกจะจากกัน การจำแนกแยกแยะสองSub-speciesออกจากกันต้องดูที่แผ่นฝาปิดกระดองด้านล่าง(Plastron) ซึ่งสำหรับเต่าหกเหลือง เกล็ดช่วงอก(ด้านล่างขาหน้า)จะไม่มาบรรจบกันที่กลางอก ซึ่งแตกต่างจากเต่าหกดำที่เกล็ดคู่ดังกล่าวจะมาบรรจบกันที่กึ่งกลางอกพอดี ซึ่งในบางกรณีเราอาจพบเต่าหกดำ(Scuteล่างบรรจบกันที่กลางอก) แต่มีสีสันกระเดียดไปทางเต่าหกเหลือง แต่หากพิจารณาเรื่องฝาปิดกระดองก็ถือว่าเป็นเต่าหกดำได้ไม่ขัดเขิน และอาจจะด้วยความใหญ่โตอันดับหนึ่งของเอเชีย กอปรกับสีสันที่ใกล้เคียงกันนี้กระมังที่หลายคนจึงมักจะหยิบยกเอาเต่าหกดำไปเปรียบเทียบกับเต่าอัลดาบรา ยักษ์ใหญ่หุ้มเกราะสีดำจากหมู่เกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ไม่เพียงแต่ขนาดและสีสันเท่านั้น หากพิจารณาในรายละเอียดในส่วนประกอบของกระดองแล้วจะพบว่า เต่าหกดำก็มีIntergularเช่นเดียวกับเต่าอัลดาบราเหมือนกัน ผิดแผกไปเพียงรูปทรงกระดองของเต่าอัลดาบราจะโค้งสูงกว่าเต่าหกดำอย่างเห็นได้ชัด
เต่าหกดำถูกเรียกโดยฝรั่งตาน้ำข้าวว่า Burmese Black Tortoise และเรียกเต่าหกเหลืองว่า Burmese Brown Tortoise ชื่อเรียกเหล่านี้ทำให้ผมเองแอบน้อยใจอยู่ไม่น้อยเพราะของดีต่างๆที่มีอยู่ในบ้านเราแต่กลับถูกหยิบยกให้เป็นชื่อของเพื่อนบ้านไปเสียมาก รวมไปถึงงูหลามไทยที่พบได้ดาษดื่นในบ้านเรา แต่พวกตะวันตกกลับพร้อมใจกันเรียกว่า Burmese Python หรืออาจเป็นเพราะในยุคล่าอาณานิคมที่บรรดาเพื่อนบ้านรายล้อมสยามประเทศล้วนตกเป็นอาณานิคมของตะวันตกเสียหมด จึงมีการสำรวจทรัพยากรและตั้งชื่อตามแหล่งที่พบเป็นอันดับแรกก็เป็นได้
ลักษณะเด่นของเต่าหกทั้งสองSub-speciesอีกอย่างก็คือ ที่ระหว่างขาหลังทั้งสองกับหางจะมีเดือยแข็งๆยื่นออกมา มองดูเผินๆคล้ายว่าเต่ามีหกขา และนี่คือที่มาของชื่อเรียกว่าที่ว่า เต่าหก เดือยแข็งๆนี้หาใช่ได้มีไว้สำหรับมนุษย์เพื่อจดจำเผ่าพันธุ์ของมันแต่เพียงอย่างเดียวไม่ แต่สำหรับตัวเต่าเองเดือยแข็งทั้งสองนี้ จะมีประโยชน์เหลือหลายในการช่วยเต่าทรงตัวและสามารถปีนป่ายขึ้นที่สูงหรือลาดชันได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผู้ที่คิดจะเลี้ยงเต่าหกดำ ควรจัดเตรียมรั้วรอบขอบชิดไว้ให้ดี เพราะบ่อยครั้งที่พบว่าเต่าจะสามารถปีนข้ามรั้วเตี้ยๆได้ และเป็นเหตุนำมาซึ่งการสูญหายที่ไม่อาจคาดเดาได้
การดูแลโดยทั่วไป
เต่าหกทั้งสองสหายดูจะเป็นเต่าที่มีน้ำอดน้ำทนเป็นอย่างมากเมื่อถูกเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศที่คุ้นเคย จนดูเหมือนไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย โดยธรรมชาติเต่าหกจะอาศัยอยู่ในป่าชื้นจึงไม่แปลกหากเต่าหกจะไม่ชอบอุณหภูมิที่สูงกว่า30ซํ แต่กระนั้นก็ไม่ควรต่ำกว่า12ซํ (ซึ่งไม่น่าจะพบได้บ่อยนักสำหรับประเทศไทย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกเต่าแล้วไม่พึงเลี้ยงในที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า18 ซํ นอกจากนี้เต่าหกยังเป็นเต่าที่ชอบความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงๆคือตั้งแต่60%ขึ้นไปจนถึง100% ทว่าแม้จะชอบอยู่อาศัยในที่ชื้นแต่ก็ไม่ได้หมายความแบบอับชื้น ดังนั้นการเลี้ยงเต่าหกจึงต้องคำนึงถึงการระบายอากาศที่ดีด้วยเช่นกัน การเลี้ยงเต่าหกไว้ในสวนหย่อมหรือสนามหญ้าภายในบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงามากจึงถือเป็นแดนสวรรค์สำหรับ นักปีนป่ายแห่งเอเชียผู้พลัดถิ่น เนื่องจากเต่าหกชอบดินที่มีความชื้นสูงและนิ่ม เพื่อขุดหลุมตื้นๆและซุกตัวอยู่ในนั้น เพื่อให้ได้รับความเย็นจากดิน แต่สิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ก็คือ ควรจัดเตรียมพื้นที่มีหลังคาไว้สำหรับหลบฝนหรือน้ำค้างในยามค่ำคืน โดยปรกติแล้วเต่าหกจะออกหากินในตอนเช้าและเย็นโดยจะนอนพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในเวลาวันแดดจ้า แต่หากอากาศเย็นเกินไปเราจะเห็นเต่าหกออกมาตากแดดบ้างเป็นครั้งคราว ผมลองจินตนาการสภาพแวดล้อมที่เต่าหกโปรดปรานแล้ว เห็นว่า หากใครคิดจะเลี้ยงเต่าหกแล้วล่ะก็ ลองพ่วงเจ้าRed footเข้าไว้ด้วยกัน ก็น่าจะเพิ่มสีสันในการเลี้ยงเต่าป่าได้ดีเลยทีเดียว
อาหารการกิน
เต่าหกทั้งสองชนิด เป็นเต่ากินพืชที่ต้องการปริมาณโปรตีนมากกว่าเต่ากินพืชล้วนๆทั่วไป รูปแบบของอาหารการกินจะไปคล้ายคลึงกับเจ้าRed footที่มักจะได้รับโปรตีนจากซากสัตว์ตายในป่า กระทั่งจากตัวทาก, หนอนหรือไส้เดือนที่มันขุดพบ แต่อาหารหลักของมันก็ยังถือว่าเป็นพืช, ผัก, ผลไม้, หัวเผือก, หัวมัน ทั่วไปที่มันจะพบได้ในป่าชื้นตามธรรมชาติ ดังนั้นการเลี้ยงในสถานที่เลี้ยงการเสริมโปรตีนด้วยอาหารสุนัขชนิดที่มีโปรตีนต่ำให้แก่เต่าบ้างจึงไม่ถือว่าเป็นแง่ลบต่อสุขภาพของยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียแต่ประการใด
การขยายพันธุ์
เต่าหกทั้งสองชนิดมีพฤติกรรมในการวางไข่ที่โดดเด่นยิ่งกว่าเต่าบกทั่วไปเป็นที่สุด เพราะแทนที่จะขุดดินให้เป็นหลุมเพื่อวางไข่เฉกเช่นกับเต่าบกทั่วไป แต่ตัวเมียกลับต้องสร้างรังก่อนที่จะวางไข่โดยใช้ เศษใบไม้หรือหญ้าแห้งมาสุมกันเป็นกอง ก่อนที่จะขึ้นไปใช้น้ำหนักตัวของมันกดทับเพื่อให้วัสดุสร้างรังค่อนข้างแน่น หลังจากนั้นแม่เต่าจะใช้ขาหน้าแหวกพื้นรังให้เกิดโพรงกว้างพอที่วางไข่ได้ ก่อนที่จะกลับตัวเอาส่วนท้ายของลำตัวหย่อนเข้าไปในโพรง และใช้ขาหลังแหวกภายในรังเพื่อทำให้ภายในโพรงกว้างขึ้นแบบรูปชมพู่ จากนั้นจึงค่อยวางไข่ที่อาจจะมีจำนวนถึง30ฟองต่อหลุม หลังจากวางไข่เสร็จแล้ว แม่เต่าหกยังทำหน้าที่ของแม่ได้เหนือกว่าเต่าบกทั่วไป คือจะนอนทับรังตรงบริเวณที่วางไข่ไว้เพื่อปกป้องลูกน้อยที่จะลืมตาดูโลกจากศัตรูร้ายหรือภัยพานอื่นๆ และหากมีเต่าตัวอื่นกล้ำกรายเข้าใกล้บริเวณแล้วละก็ จะถูกแม่เต่าขับไล่ออกไปจากบริเวณนั้นทันที ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมการวางไข่ที่พบได้ยากในมวลหมู่เต่าบกทั่วไป
เป็นธรรมดาของหล้าโลกที่หางานเลี้ยงใดไร้การเลิกราเป็นไม่มี ถึงเพลานี้นายChelonianเห็นทีว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจรับใช้คนรักเต่าไปอีกหนึ่งครา ซึ่งน่าจะมากและถี่ถ้วนพอสำหรับเรื่องราวที่เพียงเรียงร้อยขึ้นจากรายละเอียดที่ค้นคว้ามาเขียนทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นปูมบันทึกจากต่างแดน หรือคำบอกกล่าวแบบปากต่อปากจากผู้คร่ำหวอดของวงการเต่าโดยตรง หาได้เกิดจากสั่งสมประสบการณ์โดยตรงไม่ ซึ่งหากขาดตกบกพร่องประการใดก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย
Enjoy Tortoise Keeping
Chelonian