ขอตั้งข้อสังเกตนิดนึงว่าคุณใช้ตู้ขนาดไหนอยู่ครับ เพราะถ้าปลาขนาดใหญ่แล้วยังอยู่ตู้ที่เล็กอยู่ ไม่มีที่ว่าย จะไปทางไหนก็แทบติดกระจก การว่ายโดยเอาหนวดติดกระจกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ ปลาเอาหนวดถูตู้ไม่ได้เป็นทุกตัวครับแล้วแต่นิสัยของแต่ละตัวด้วย ที่คุณว่าเวลาคุณเดินเข้าใกล้ตู้ปลาก็เข้ามาถูก็มีส่วนครับเป็นไปได้เช่นกัน

ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณ คุณHe-She-It มากครับที่อุสาห์ให้เกียรติผม ทำเอาผมนั่งเก้าอี้ไม่ติด
หลังจากที่ปั่นงานที่ ท่านๆเจ้านายให้มาเสร็จก็แว๊บมา พอเจอคำถาม อ่านเสร็จก็สะดุ้ง ในคำว่า ถ้าได้รุ่น
ใหญ่อย่างคุณเจเจช่วยตอบให้ก็คงหายคาใจ โถ ...ผมอายุยังไม่ถึงสี่สิบเลยครับ แต่ก็เกือบๆ แล้วเหมือน
กันครับ เด็กๆเรียกลุงมั่ง น้ามั่ง ก็ตามวัยครับ ถ้าจะรุ่นใหญ่ในความหมายว่าอายุมากก็ น่าจะใช่ครับ
แต่เรื่องความรู้ยังไม่ใช่ครับ อาศัยขอๆเค้าบ้าง ลอกเค้ามาบ้าง เอาของคนนี้มาบ้าง ถามเค้าบ้าง และก็
ประสบการณ์ บ้างครับ แต่รวมๆแล้วก็อย่าหาว่าคุยนะครับ ส่วนมากเอาของคนอื่นเค้ามาทั้งนั้น...
ที่พูดมาก็เพื่อว่าคุณ He-She-It จะได้หูตาสว่างเกี่ยวกับผมขึ้นบ้างนะครับ มีหลายท่านที่ เข้ามาช่วย
ผมตอบ อาจเป็นเพราะทนไม่ได้ที่บางทีผมอาจให้ข้อมูลที่ ยังไม่ถูกนัก หรือยังไม่ชัดเจนพอ ก็ต้องขอขอบคุณ
ด้วยอย่างจริงใจครับ และก็ขอขอบคุณผู้ที่มาช่วยแชร์ความรู้กันด้วยนะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า กระทู้นี้
น้ำเยอะครับแต่จำเป็นต้องบอกกัน เดี๋ยวบางท่านน้อยใจกันแย่
ปลาของคุณHe-She-It หนวดตรงปลายเริ่มงุ้มลงเล็กน้อยทั้งๆที่เมื่อก่อนตรงมาก อยากทราบว่ามัน
จะหายกลับไปตรงเหมือนเดิมเองไหมหรือว่าหมดสิทธิ์ต้องงอตลอดไป ผมคิดว่าเขาคงชอบว่ายเอาหนวดถู
กระจกเล่นมากไปเวลาผมเดินเข้าใกล้ตู้ ผมคิดว่าเขาคงชอบว่ายเอาหนวดถูกระจกเล่นมากไป
เวลาผมเดินเข้าใกล้ตู้ ไม่รู้ใช่หรือไม่
ตอบตามเท่าที่ผมรู้นะครับอย่างที่คุณ enola บอกไว้ครับว่า
ขอตั้งข้อสังเกตนิดนึงว่าคุณใช้ตู้ขนาดไหนอยู่ครับเพราะถ้าปลาขนาดใหญ่แล้วยังอยู่ตู้ที่เล็กอยู่
ไม่มีที่ว่ายจะไปทางไหนก็แทบติดกระจก การว่ายโดยเอาหนวดติดกระจกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ
ปลาเอาหนวดถูตู้ไม่ได้เป็นทุกตัวครับแล้วแต่นิสัยของแต่ละตัวด้วย ที่คุณว่าเวลาคุณเดินเข้าใกล้ตู้ปลาก็
เข้ามาถูก็มีส่วนครับเป็นไปได้เช่นกัน
ส่วนเรื่องหนวดตรงปลายเริ่มงุ้มลงเล็กน้อย อย่าเพิ่งตกใจครับ แสดงว่าคุณHe-She-Itเอาใจใส่ หมั่นสังเกตุ
ปลาดีมากครับ คิดว่าถ้ารักษาสภาพน้ำและหมั่นถูกระจกหน้าตู้บ่อยๆน่าจะช่วยได้ครับ แต่จะหายหรือไม่นั้น
ถ้าปลายังมีอาการชอบเอาหนวดถูตู้ก็ค่อนข้างจะหายยากครับแต่ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยไม่น่าห่วงอะไรครับ
และถ้าขนาดตู้เล็กไป เปลี่ยนตู้ให้ใหญ่ขึ้นก็น่าจะทำให้ดีขึ้นนะครับ ลองดูครับว่าใช่อย่างที่ว่ามาหรือปล่าว
และถ้าไม่หายก็ถามมาใหม่ครับ เผื่อว่ามีเพื่อนๆที่รู้และแก้ปัญหาให้คุณได้ก็จะได้ช่วยกันครับ
ฝากไว้อีกเรื่องว่าคุณ enola ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความรู้มากและก็เลี้ยงปลาสวยๆไว้หลายตัวครับ
ความรู้บางอย่างผมก็ได้มาจากคุณ enola ไม่มากก็น้อยครับ เรามีเรื่องที่เรารู้และไม่รู้แตกต่างกัน
ครับเพียงแต่ว่าถ้ารู้แล้วมาบอกกันมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คนที่ไม่รู้หรือรู้น้อยก็จะได้มีความรู้
เพิ่มขึ้นครับ ไหนๆก็คุยกันในเรื่องหนวดแล้วเพิ่มเติม เรื่องหนวดอีกหน่อย นะครับเอามาจากคนอื่น
เค้าเหมือนกัน ความคิดใครอ่านเอาเองนะครับ ผมเอามาแปะไว้ให้ อ่านดูเผื่อในอนาคตอาจจะเจอ
ปัญหานี้เข้าไปล่ะครับงานมารอเต็มแล้ว ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขอโทษด้วยครับ อ่านแล้วก็อย่าเพิ่งหิว
ปลาหมึกปิ้งนะครับ

หนวดปลาหมึก เป็นโรคที่แม้จะไม่อันตรายนักแต่ก็ถือได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตติดอันดับที่มักเกิดในหมู่นักเลี้ยงปลาชนิดนี้
โดยมีลักษณะคือที่หนวดของปลาจะหงิกงอและมีตุ่มขึ้นซึ่งดูโดยรวมแล้วเหมือน ?หนวดปลาหมึก? สาเหตุสำคัญของโรคนี้
ก็คืออุณหภูมิน้ำที่ร้อนเกินไป (เป็นมากในหน้าร้อน) และตู้สกปรกมีคราบเปื้อนมาก ปลาที่มีนิสัยชอบเล่นหน้าตู้โดย
ให้ใช้ปากถูไถกับตู้เป็นประจำประกอบกับตู้สกปรกจึงทำให้เกิดการติดเชิ้อจนมีอาการดังกล่าว ด้วยเป็นเพราะปัญหา
ที่เกิดกับน้ำ? ฉะนั้นการรักษาจึงค่อนข้างง่ายและไม่ยุ่งยาก เพียงแค่การดูแลรักษาความสะอาดให้ดู หมั่นค่อยเปลี่ยนน้ำ
ขัดถูตู้เป็นประจำ ปลาก็จะค่อยๆ หาหรือมีอาการดีขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีการติดเชื้อหนักเข้าก็อาจต้องถึงกับใช้ ?ด่างทับทิม?
ในการล้างหนวด แต่วิธีนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากต้องวางยาสลบปลาแล้วเอาออกมาทำด้านนอก
ปริมาณน้ำก็ต้องถูกผสมอย่างพอดีเพื่อไม่ให้เข้มข้นเกินไปมิเช่นนั้นด่างทับทิมอาจกัดหนวดขาดได้
ดังนั้นหากพบว่าเป็นในช่วงแรกๆ แนะนำให้รีบรักษาตั้งแต่ตอนนั้นเลยจะดีกว่า
*** ดูแลคุณภาพน้ำให้ดีโดยหมั่นคอยเปลี่ยนถ่ายน้ำขัดถูทำความสะอาดตู้อย่างสม่ำเสมอ เติมเกลือเพื่อปรับสภาพน้ำ
ซักเดือนละครั้ง จะช่วยป้องกันปัญหาที่ว่าได้ครับ

Nanconnection



ก็อย่างที่คุณแนนว่าไว้แหละครับ
สำหรับหนวดปลาหมึก...สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการที่ปลาเอาหนวดถูตู้
การที่ปลาเอาหนวดถูตู้ก็มี 2 สาเหตุ
1 ปลาอ้อนขออาหาร
2 ปลาตื่นตู้ ตื่นสภาพแวดล้อม
การรักษาหนวดปลาหมึกก็แค่ขยันทำความสะอาดหน้าตู้ ดูแลสภาพน้ำ...แค่นั้นจริง ๆ ครับ
แต่...ถ้าเราไม่กำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดหนวดปลาหมึก รักษาได้ไม่นาน พอเราไม่ขัดกระจกหน้าตู้หน่อย
ก็จะเป็นอีกครับเอาใจช่วยครับ

ปิติ99

ขอบคุณนะครับ คุณเจเจและคุณEnola ผมก็คิดว่าเรื่องขนาดตู้ก็น่าจะมีส่วนเยอะเพราะเขา7-8นิ้วแล้วแต่ผมยังไม่มีเวลาไปซื้อตู้ใหม่เลยครับตัองอัดใน20นิ้วไป แต่อีก2-3อาทิตย์ผมมีโครงการเปลี่ยนตู้ไม่แน่ว่า36หรือ48 แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาคือผมไม่คิดจะซื้อกรองในตู้เพราะมันไม่ธรรมชาติเวลาดูปลา ส่วนกรองนอกตู้ก็ไม่เคยใช้ ผมก็อยากใช้กรองใต้ทรายเหมือนเดิม แต่คำถามคือการกรองแบบนี้นานๆก็ต้องล้างกรวดทรายสักทีและผมสังเกตปลามังกรเนี่ยค่อนข้างตกใจง่ายมากเวลาเปลี่ยนน้ำต่างกับตอนให้อาหารหรือเล่นกับเขามากๆเลย ตามมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่เขาเลี้ยงกันเขาใส่กรวดทรายไหมครับหรือปล่อยพื้นตู้โล่งแต่ถ้าพื้นตู้โล่งโอเคดูดน้ำออกง่ายแต่ใช้หัวทรายขี้ปลาก็ฟุ้งน่าดู ก็เลยลองถามความเห็นของพวกคุณดูรวมถึงเพื่อนๆน้องๆที่ผ่านเข้ามาอ่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

จากปัญหาที่ว่า มันต่างคนต่างใจครับ แต่ถ้าชอบสวยงามก็ปูไปเถอะครับ ถ้าเลี้ยงปลาตัวเดียวมันคงไม่ลำบากกับการทำความสะอาดหินมากนักหรอกครับ ถ้าตู้แค่48นิ้วปูหินก็60โลได้ครับ ล้างเหนื่อยหน่อย แต่ขอให้คิดให้ดีๆนะครับ ว่าเราจะใช้แบบไหน เพราะปูไปแล้วเอาออกมันเหนื่อยจริงๆครับ เคยลองแล้ว แต่สำหรับคนที่ขี้เกียจแบบผม ใช้กรองนอกครับ ง่ายดีสะดวกเวลาล้างไม่รบกวนปลาด้วยครับ ราคาก็ไม่สูงนัก พันต้นๆก็ได้ที่มีคุณภาพมาใช้แล้ว สำหรับกรองนอกควรมีการจัดทิศทางน้ำให้เศษต่างๆไหลเข้ากรองด้วยครับ จะได้ไม่รกตานัก

อย่างที่คุณ Enola บอกมาครับต่างคนต่างใจ
ชอบใครชอบมันครับ ไม่มีมาตราฐานหรอกครับ
ว่าจะต้องใส่หินหรือไม่ใส่ แต่ส่วนมากที่ผมเห็น
ก็คือ ปล่อยตู้โล่งๆครับ ข้อดีของตู้ที่ปล่อยไว้โล่งๆ
ก็คือ สามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าครับ
โอกาศที่จะเกิดโรคน้อยกว่าตู้ที่ใส่หินครับ
อีกอย่างปลาก็ไม่ค่อยมีตำหนิจากการไล่จับเหยื่อแล้วพลาดไปโดนหิน หรือตอไม้ ครับ ข้อเสียที่แก้ไม่หาย
ก็คือดูโล่งๆครับ เหมือนขาดอะไรไปอย่าง
ส่วนตู้ที่ใส่หิน ต้องขยันครับ ยิ่งถ้าเป็นตู้ขนาดเล็กๆ
คิดแล้วเหนื่อยครับ ตู้ใหญ่ไม่ต้องพูดถึง เพียงแต่ระยะ
เวลาการล้างต่างกันครับ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กันจำนวนปลา
ที่เลี้ยง แลอาหารที่ให้ปลากินแต่ละมื้อด้วยนะครับ
สำหรับตัวผมเองแล้วชอบใส่หินมากกว่าครับดูแล้ว
เป็นธรรมชาติกว่าที่บ้านมีสองตู้ทั้งใส่และไม่ใส่ครับ
แต่มีโครงการว่าจะใส่หลังจากที่ปลาหายป่วยแล้วครับ
ส่วนตู้ที่ผมให้ดูนี้เป็นตู้ที่ผมชอบนั่งดูเป็นพิเศษครับ
ดูแล้วเป็นการผ่อนคลาย สบายตามากครับ เป็นตู้ที่
ใส่หินครับ มีตอไม้ แล้วก็อนูเบียสล้วนๆ ระบบกรอง
เป็นกรองในตู้ มีปั๊มน้ำช่วยในตู้อีกสองตัวไว้ไล่ขี้ปลา
ใต้ตู้กับช่วยดูดขี้ปลาทิ้งเวลาเปลี่ยนน้ำ ปลามีอโรวาน่าเขียว กับปลานิลเป็นเพื่อนร่วมตู้ ขนาดตู้ 70-30-30 นิ้ว
หินเป็นหินแม่น้ำขนาดประมาณเท่ากำปั้น วางบนพื้นที่
ใช้ พลาสติกเป็นตารางวางเพื่อยกหินให้พ้นจากพื้น
ป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและเพื่อให้น้ำไหล
ได้หมุนเวียนมากยิ่งขึ้น หลอดไฟใช้หลอดผอมธรรมดา
สองหลอด กระจกข้างเป็นสีชา ด้านหน้าและหลังเป็น
กระจกใส อาหารที่ให้มีกุ้งฝอย หลักๆก็หนอนนก
ครับมื้อละสี่สิบตัว บางทีก็ห้าสิบตัวต่อมื้อ วันทำงานก็
วันละหนึ่งมื้อ วันหยุดก็เพิ่มเป็นสองมื้อเช้าเย็น น้ำเปลี่ยน
ถ่าย 30เปอร์เซ็นต์ต่อหนึ่งเดือน ใช้น้ำที่ใส่ถังรองเอาไว้
บางครั้งก็ใส่น้ำประปาโดยตรง ใส่เกลือหนึ่งกำมือทุกครั้ง
ที่เปลี่ยนน้ำ ตามธรรมเนียมบางคนใส่บางคนไม่ใส่
แล้วแต่ครับสำหรับผมใส่ครับดูปลาสดชื่นดี มีที่วัด
อูณหภูมิติดไว้ในตู้อยู่หนึ่งอัน ค่าPh ค่า ไนไตรท์ ไม่เกิน
กำหนดครับ มีปั๊มอ๊อกซิเจ่น หนึ่งตัว ครับเท่าที่นึกได้
อ้อตั้งในบ้านครับ จากที่ใส่หินในตู้นี้เกือบสองปีแล้ว
ปลายังไม่เคยเป็นโรคอะไรจะมีก็แต่ บาดแผลถลอก
บ้าง เป็นประจำครับ ระบบกรองที่ผมใช้ในตู้นี้ไม่เคยใช้
ในตู้เล็กๆครับเลยไม่รู้ว่าได้ผลอย่างไร นี่เป็นรูปตู้ที่ผม
ใส่หินครับ

ลองดูครับ

ดูรวมๆครับถ่ายไม่ค่อยดีครับแสงน้อยไป

อีกรูป

ผิดครับขอโทษที

สุดท้ายครับ

คุณJJให้ความเห็นละเอียดและชัดเจนมากเลยครับ คงเป็นแนวทางที่ดีได้นะครับ