เลี้ยงไปเลยไม่มีปัญหา ถ้าหากเริ่มจากปลายังเล็กอยู่ เลี้ยงจนโต ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะปลาจะชินกับสถาพแวดล้อม ทั้งในตู้ แล้วก็นอกตู้ โอกาสจะตกใจว่ายชนตู้ ตกใจสะบัดน้ำค่อนข้างน้อย แต่ถ้านำตัวใหญ่มาเลี้ยงในตู้นี้เลย ก็หวาดเสียวหน่อย มันอาจตกใจบ่อย แล้วรุนแรงมากขึ้น ผมเลี้ยงมาแล้วครับ 4ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ปลาเล็กครับ ตอนนี้ 20"นิดๆ แต่คิดว่าปลาของผมคงไม่โตกว่านี้แล้วครับ อาจจะโตกว่านี้ได้ ก็คงอีกนิดๆ ถามว่าปลากลับตัวลำบากมั้ย ปลาที่เริ่มเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ในตู้นี้เลย ผมว่ามันจะปรับสภาพของมันเอง จนในที่สุดปลาจะกลับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่เคยเห็นปลาที่โตแล้ว แล้วนำมาใส่ในตู้ที่มีความกว้างน้อยกว่า ปลากลับตัวลำบากมากครับ ไม่เป็นธรรมชาติครับ ข้อเสียก็คือ ปลาจะโตได้ไม่เต็มที่ เท่าที่ควรจะเป็น แต่การจะเลี้ยงในตู้ขนาดนี้ ควรเริ่มจากปลาเล็กเลยครับ ดีที่สุด ปลาจะปรับสภาพให้กลมกลืน ค่อยๆเข้ากับสถานที่ ที่มันอยู่ครับ เป็นความจริงสำหรับ คนที่มีใจรัก แต่สถานที่ไม่อำนวย ขอเพียงอย่างเดียว ต้องดูแลเขา เปลี่ยนถ่าน น้ำตามความเหมาะสม ให้อาหารที่มีประโยชน์ แล้วเล่นกับเขาบ้าง รับรองว่า ปลาสวยสมบูรณ์ครับ ถึงแม้จะเสียเปรียบในเรื่องของขนาดตู้ เพื่อนผม เขามีสถานที่จำกัดมากๆ เพราะอยู่คอนโดฯ แต่มีใจรักที่จะเลี้ยงปลาอะโรวาน่ามาก เขาเลี้ยงก่อนอีก เขาเลี้ยงในตู้48x20x20ครับ ตั้งตู้2ชั้น เลี้ยงอยู่ 2ตัว สวยมากครับ เกือบ 5ปีแล้วครับ ขนาดประมาณ 22"กว่าๆได้ครับ ในที่แคบแบบนี้ ขอเพียงอย่างเดียว ต้องดูแลเขา เอาใจใส่เขา อย่าปล่อยปะละเลย พยายามไม่ให้ปลาเครียด สำคัญตรงนี้เพื่อนผมบอก มันก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง สำหรับคนที่อยากเลี้ยงแต่สถานที่ไม่อำนวย แต่ถ้ามีสถานที่ดีๆก็ลงไปเลยใหญ่ๆ การเลี้ยงปลาแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงหลายตัวครับ เลี้ยงตัวเดียวพอ แล้วดูแลเขาดีๆ รับรองปลาสวยแน่ครับ เรื่องน้ำให้สะอาด ปลาสบายตัวไม่เป็นโรคครับ เอาไปซะยาวเลย กระจกหนา 2หุน ผมการันตี ว่า ถ้าเริ่มเลี้ยงปลาตั้งแต่เล็กๆในตู้นี้เลย ปลาไม่แสดงอาการตกใจ ในปลาโต รับรองตู้ไม่แตกง่ายๆครับ ผมเลี้ยงมาหลายปีแล้วครับ เคยเห็นร้านขายปลาที่ สาธุประดิษฐ์ 20 ตู้ 72x24x24 กระจกหนา 2หุนครึ่ง เลี้ยงอะโรวาน่าเงิน ขนาด 30"ได้ครับ เลี้ยงมา 5 ปีแล้วครับ เจ้าของปลาเป็นคนบอกเอง

ชาวสิงคโปร์ เลี้ยงอะโรฯ กันมากกว่าคนไทยเยอะ โดยเฉพาะอะโรฯสายพันธุ์เอเซีย ส่วนมากตู้ที่เค้าเลี้ยงกันคือตู้ 48 นิ้ว ครับ ถือเป็นตู้ขนาดมาตราฐานของพวกเขาเลย ครับ
อันนี้ถือเป็นข้อมูลอีกข้อหนึ่ง นะครับ ไม่ไช่ข้อเสนอแนะ นะครับ

ถ้าเป็นอย่างที่คุณ คห.1 กล่าวไว้ ผมถือว่าโชคดีมากๆครับ
สำหรับผม คนที่เคยมีประสบการณ์ เรื่องตู้ 60*20*20 2 หุนแตกมา
แล้วจากการใช้เพียง8เดือน คงจะไม่อยากเสี่ยงอีกครับ (โอ้....ผม
เหนื่อยสุดๆตอนเช็ดน้ำ เกือบ 400 ลิตรครับและก็ถือเป็นโชค ของ
ผม มากๆอีกเช่นกันที่ตู้ของผมแตกตอนที่ผมกำลังนั่งกินข้าวอยู่ครับ
แต่ถ้าแตกตอนผมไม่อยู่บ้านผมคงเสียใจมากๆครับ

ถ้าเป็นผม ตู้ 60*20*20 ควรจะใช้กระจก 2.5 หุนครับ

มาอ่านด้วยคนครับ เรื่องตู้นี่เป็นเรื่องที่ถ้าพูดไปแล้ว
ก็เป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกครับ เข้าใจว่าผู้ที่เลี้ยง
ปลาที่อยากจะเริ่มด้วยตู้ที่มีขนาดใหญ่ และที่เห็นขายกัน
อยู่ก็จะเป็นขนาด 60-20-20 นิ้ว และขนาดกระจกก็เป็น
สองหุน ทีนี้ที่หลายๆคนรวมทั้งผมด้วยนะครับบอกว่า
ถ้าจะให้ดี น่าจะเป็น 60-24-24 นิ้ว กระจก 3-4 หุนจะดีกว่า
ครับ ที่บอกอย่างนี้ก็เผื่อไว้ครับ เผื่อไว้เพราะเมื่อซื้อมา
แล้วนั้นก็ต้องใช้เลี้ยงกันนานครับ ถามว่ามีโอกาศแตกไหม
ก็มีครับเหมือนตู้ เลี้ยงปลาทั่วๆไป ขึ้นอยู่ตั่งแต่การ
ประกอบตู้ใช้วัสดุเกรดไหน ฝีมือการประกอบ การขนส่ง
ตลอดจนกระทั่งการวางตู้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ได้ระดับ
ไม่ลาดเอียง หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆนะครับที่ทำกัน
ตู้ 60-20-20นิ้วกระจก2หุน ก็เลี้ยงได้ครับ เลี้ยงได้
อย่างไรก็อย่างที่ คุณไม่แตก อธิบายไว้ข้างต้นนะครับ
แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ อย่างที่คุณระเบิดทราย
หรือเพื่อนๆคนอื่นๆก็จะทราบก็เลย เผื่อเอาไว้ไม่อยาก
ให้เกิดขึ้นอีกครับ
ส่วนที่ คุณลุงดำพูดมานั้นก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจครับ
โดยส่วนตัวก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงนะครับ ว่าสะดวก
อย่างไหน หรือมีกำลังเท่าไหร่ ไม่มีกฎตายตัวครับ
ว่าจะต้องเป็นอย่างที่บอกๆกันมา การเลี้ยงทีเหมาะสม
กับความพร้อมของผู้เลี้ยงเองนั้น เชื่อว่าเป็นสิ่งที่
น่าจะมาก่อน ส่วนสิ่งไหนที่เห็นว่าเหมาะสมก็ปรับ
ตามเวลาและประสบการณ์ของผู้เลี้ยงเองครับ
โดยส่วนตัวนั้นดีใจที่มีผู้มาร่วมแลกเปลี่ยนควาคิดเห็น
กันครับ

มาแจม

ถ้าลงปลาเล็กในตู้ใหญ่แล้วครีบลู่ ก็ลองกันตู้แล้วค่อยขยายตามการเจริญเติบโตของปลาก็ได้ครับ

คือว่าตอนตั้งตู้ไอ้แผ่นโฟมที่รองข้างใต้ พอใส่นำแล้วเอามือจับดูปรากฏว่ามันโยกเยกได้(คือไม่โดนกดทับลงมา)แค่ส่วนที่เฉพาะตรงขอบแถวๆกลางตู้น่ะครับ ตรงอื่นแน่นดีจะเป็นอะไรไหมครับ กังวลมาก ใส่น้ำใส่ปลาแล้วด้วย ไม่อยากยกเพราะหนักมากไม่มีใครช่วย
คือลัษณะขาตั้งที่วางเป็นแบบ s 2ชั้น

ตอบความคิดเห็นที่ 7ครับ อยากทราบว่า ระดับน้ำในตู้ ให้ดูจากขอบตู้ว่า ระดับอยู่ที่เดียวกันหรือไม่ครับ ถ้าระดับน้ำไม่อยู่ในแนวเดียวกัน แสดงว่าพื้นเอียงครับ ให้หาอะไร ที่มีความแข็งแรงพอ มารองขาตู้ครับ ให้ระดับน้ำอยู่แนวเดียวกัน น้ำก็จะกระจายน้ำหนัก ได้ทั้วแผ่นโฟมครับ....
เป็นประสบกราณ์ส่วนตัว ในรูปแบบของผม ที่เลี้ยงมา (อาจจะโชคดีมาก)ที่ตู้ไม่แตก ผมไม่แน่ใจว่าการแตกของตู้ที่เกิดจากความเครียดของน้ำ จะทำให้ตู้แตกตรงส่วนใด แต่ที่แน่ใจ ก็คือ มันจะทำให้ตู้แตก ด้านข้าง แต่เท่าที่ทราบมาจากความรู้ที่เรียนมา ตู้แตกที่ก้น ไม่ได้เกิดจากความเครียดของน้ำครับ เกิดจากการกระจายน้ำหนักที่ไม่ดีของก้นตู้ มีหลายสาเหตุครับ ผมมีเพื่อน ที่ขายปลาแม่น้ำอยู่นะครับ คุณคงนึกออกว่าปลาแม่น้ำเรามีอะไรบ้างที่ตัวโตๆ ตู้60นิ้ว กระจกหนา2หุน นี้ละครับ 8ปีแล้วครับ ครับ ผมเคยเจอตู้แตก กรณีปลาตกใจ ตู้แตกต่อหน้าครับ แตกด้านข้างลากยาว มีครับนั้นคืออาการของปลาที่ตกใจ ไม่ได้เกิดจากการวางตู้ ไม่ดี ไม่ใช่ผมโชคดีคนเดียว ก็มีอีกหลายคนที่โชคดีครับ ผมรู้จักดี ยังเคยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เวลาที่ มีคนเขาบอกกระจกหนา 2หุน เลี้ยงปลาอะโร แล้วตู้จะแตก แต่ก็ไม่เคยได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ ที่กล่าวมานี้ไม่ได้เข้ามาขัดแย้งอะไรนะครับ หากรู้สึกว่าผมเขียนไม่ดี ก็ขอแสดงความเสียใจ และขอโทษมานะที่นี้ด้วยนะครับ..............
สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นเลี้ยงปลา ผมกล่าวมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้ามีสถานที่ ก็ลงดีๆใหญ่ๆไปเลย กระจกมันจะหนาไปตามตู้ครับ ตู้ใหญ่กระจกก็ควรจะหนาตามครับ 3-4หุนนี้ปลอดภัยครับ.......ขอบคุณที่อ่านครับ

ตอบคห7 นะครับ เวลาจะเสริมขา ต้องเอาน้ำออกอย่างน้อย 60% ก่อนนะครับ (ถ้าให้ดีเอาออกซัก 80%) อย่าไปโยกตู้ตอนที่มีน้ำอยู่เต็มเป็นอันขาด อันตรายมากครับ

เข้ามาอ่านอีกรอบครับ และขอตอบคุณไม่แตกนะครับ
อาจจะไม่ตรงกับเรื่องที่เจ้าของกระทู้ตั้งแต่ก็เป็นเรื่อง
ที่เกี่ยวเนื่องกัน ขอใช้สถานที่นี้ตอบด้วยก็แล้วกันนะครับ
เท่าที่ผมอ่านคำตอบที่คุณไม่แตก บอกมานั้นไม่เห็นว่า
มีสิ่งไหนที่เป็นการไม่ดี หรือไม่เหมาะสม การที่มีความ
คิดเห็น แตกต่างกัน ในที่นี้ผมเห็นว่าเป็นการแลกเปลี่ยน
ความรู้กันนะครับ ประสบการณ์ของแต่ละคนนั้นมีค่า
และมีประโยชน์กับเพื่อนๆ รวมทั้งตัวผมเองด้วยครับ
โดยส่วนตัวนั้น ยินดีรับฟังและขอบคุณสำหรับความรู้
ที่เอามาให้ด้วยครับ และก็เชื่อว่าเพื่อนๆไม่ได้คิดเลย
ครับว่า การที่ไม่เห็นด้วยหรือมีความคิดที่แปลกออกไปนั้น
เป็นสิ่งที่ไม่สมควร หรือไม่ดีแต่อย่างไรครับ

เขาก็อยากได้กันทั้งนั้นแหละกระจก 3-4 หุนน่ะ แต่ราคามันแตกต่างกันมาก ทั้งที่ขนาดตู้ก็เท่ากันหรือต่างกันไม่มาก มันอยู่ที่งบประมาณบอกตรงๆว่า ตู้ 60-24-24 + ทองอินโด+กรองนอกอย่างถูกๆ+อุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ มันตั้งเกือบ 30000 แล้วนะครับ ถ้าซื้อ 60-20-20 กระจก 2 หุน จะประหยัดลงตั้งประมาณ 5-6 พันนะครับ สำหรับคนบางคนอาจไม่มาก แต่สำหรับผมแล้ว กินได้เป็นเดือนครับ