Arowazone เว็บบอร์ด สำหรับ เพื่อนๆ ที่รักการเลี้ยงปลาในครอบครัว Osteoglossidae ไม่ว่าจะเป็นอะโรวาน่าจากทวีปเอเชีย อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย หรือ อัฟริกา ไว้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
อุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม จากเว็บช้อปปิ้งชั้นนำ
ความคิดเห็นที่ 1
น้องเล็กก่ะ
(61.19.192.140)
[2004-02-12 11:10:29]
ความคิดเห็นที่ 2
ระเบิดทราย
(203.149.40.32)
[2004-02-12 11:23:29]
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่แตก
(210.86.156.97)
[2004-02-12 18:59:29]
เอาของเก่ามาเล่าใหม่เรื่อง คาร์บอน
มาทำความเข้าใจเรื่องวัสดุกรองกัน \"ถ่านคาร์บอน\"
ที่ผ่านๆมาเห็นหลายๆกระทู้ถามถึงวัสดุกรองต่างๆ เช่น ถ่านคาร์บอน ซีรามิคริง ซีโอไลท์ รวมถึงการใช้หลอด uvเอแล้วผมจะเริ่มยังไงดีน้อ แต่ล่ะเรื่องก็ต้องพูดกันยาวๆทั้งนั้น ถ้างั้นเริ่มจากตัวที่คุ้นๆกันก่อนดีกว่า คือ ถ่านคาร์บอน
จากหลายๆกระทู้ที่เห็นๆ post กันมาพอจะรวบรวมคำถาม
ได้ว่า ถ่านคาร์บอนคืออะไร วางไว้ชั้นไหนของระบบกรอง ปลาแพ้คาร์บอนหรือเปล่า จำเป็นต้องใช้ไม๊ เดี๋ยวเราค่อยๆ
ทำความเข้าใจไปพร้อมกันดีกว่าอ้อแล้วพอจะรวบรวมแนวคิดของเพื่อนๆได้ว่า บางคนบอกว่าใช้ตลอดเวลา บางคนใช้เป็นครั้งคราว บางคนบอกไม่เห็นต้องใช้เลยส่วนตัวผมเองมีตู้ปลา 10 ตู้ ทำทั้ง 3 วิธีเลยครับขอเริ่มจากถ่านคาร์บอน(Activated Carbon)เลยล่ะกันครับลำดับแรกก็ควรรู้นิยามก่อนนะครับ ก็คือถ่านไม้ที่บริษัทผู้ผลิตใช้กระบวนการเผาด้วยความร้อนสูงแล้วอัดแก๊สออกซิเจนเข้าไปทำให้เกิดรูพรุนเล็กๆจำนวนมาก มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการเลือกวัสดุที่นำมาเผาดังนั้นจะเห็นว่าเจ้าถ่านActivated Carbonมีหลายเกรดหลายราคา ว่ากันต่อจากกระบวนการผลิตดังกล่าวทำให้เจ้าถ่านคาร์บอนนี้มีคุณสมบัติดูดซับ (Adsorption)ไม่ใช่ดูดซึมนะครับ(Absorbption) แปลตรงๆก็คือดูดซับสารต่างๆมาติดไว้โดยสารนั้นยังคงรูปเดิมแต่ออกฤิทธิ์ออกเดชไม่ได้นั่นเองโดยทั่วไปเราใช้กันเพื่อดูดซับสารที่มีกลิ่น สารที่มีสีในน้ำ รวมถึงคลอรีนในน้ำด้วย แต่ถ่านคาร์บอนจะไม่มีผลเรื่องการกรองเชื้อโรค
ความกระด้างของน้ำ รวมถึงโลหะหนักต่างๆยกเว้นมีโลหะหนักติดมากับตะกอนแล้วตะกอนไปติดตามรูพรุนของถ่านฯอีกทีคราวนี้ก็มาถึงคำถามที่ถามกันว่าจะวางถุงคาร์บอนส่วนไหนของการกรอง บางคนบอกว่าวางไว้บนสุดแหล่ะดีหยิบเปลี่ยนง่ายหน่อยบางคนก็ว่าวางไว้ส่วนล่างสุดแหล่ะจะได้ไม่สกปรกง่ายก็ถูกทั้งคู่ล่ะครับแต่ขอให้เข้าใจวิธีการดูดซับของเจ้าถ่านคาร์บอนก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าถ่านคาร์บอนจะดูดซับสารต่างๆได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อได้สัมผัสกับน้ำได้มากที่สุด ดังนั้นถ้ากรณีกรองข้างตู้น้ำไหลลงช่องกรองทางด้านบนถ้าวางไว้ชั้นบนสุดพวกขี้ปลา พวกตะกอนต่างๆมันจะอุดรูถ่านคาร์บอนทำให้เสียคุณสมบัติการดูดซับไปและ ถ่านฯจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าปกติมากๆ ดังนั้นถ้าจะให้เจ้าถ่านคาร์บอนทำงานได้เต็มที่ก็ควรวางไว้บริเวณน้ำที่ผ่านการกรองทางกายภาพมาแล้วที่นิยมก็คือวางไว้ตำแหน่งสุดท้ายของช่องกรองเพื่อให้ดูดซับสารพิษ คลอรีน สี กลิ่นต่างๆก่อนปล่อยเข้าสู่ตู้ปลาต่อไป แบบบางตู้ของผมเป็นกรองข้างเต็มพื้นที่ก็จะวางไว้บน power head เลยพอได้ระยะหนึ่งก็หยิบทิ้งได้สะดวก แต่ถ้าเป็นกรองข้างแบบไม่เต็มพื้นที่ตามหลักก็คงวางไว้ชั้นที่ 2 หรือ 3 แต่กรณีอย่างนี้ผมคงไม่ใช้คาร์บอนเพราะขี้เกียจไปรื้อชั้นใยแก้วชั้นไบโอบอลเพื่อเปลี่นถ่านฯ แต่ถ้าใครขยันทำก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไปครับคำถามต่อมาปลาแพ้ถ่านคาร็บอนหรือไม่ อย่างที่บอกตอนต้นเจ้าถ่านฯนี่ก็มีหลายเกรดนะครับผมก็คงบอกไม่ได้ว่ายี่ห้อไหนเกรดดี
ดังนั้นถ้ากรณีเป็นถ่านใหม่แล้วจากกระบวนการผลิตทำให้มีสารอื่นปนเปื้อนแล้วล้างไม่สะอาดผมก็ว่าผงถ่านคงจะไประคายเคืองปลาได้เหมือนกันแต่ถ้าเป็นเกรดที่ใช้กับการกรองน้ำดื่มแล้วเราล้างน้ำให้สะอาดก่อนใช้ผมก็ว่าปลาไม่น่าจะแพ้นะ ก็ทางการแพทย์ยังใช้ให้คนกินเลยเวลาใคร
กินยาพิษยาฆ่าแมลงต่างๆเข้าไปหลังจากล้างท้องเสร็จก็จะตามด้วยให้คนไข้กินผงถ่านคาร์บอนเพื่อให้ไปดูดซับสารพิษค้างไว้ ป้องกันไม่ให้สารพิษถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และร่างกายคนเราก็ไม่ดูดซึมเจ้าถ่านคาร์บอนด้วยจะขับถ่ายออกหมดชักจะนอกเรื่องสรุปว่าเวลาซื้อใช้ก็แนะนำซื้อเกรดดีๆหน่อยจะได้ไม่มีปัญหาส่วนตัวเวลาซื้อก็ซื้อตามร้านที่ขายเครื่องกรองน้ำดื่มนี่ล่ะครับ ดังนั้นถ้าจะให้ตอบจริงๆก็คงบอกว่าถ่านคาร์บอนมีอายุการใช้งานสั้นเมื่อดูดซับสารปนเปื้อนต่างๆแล้วจะสะสมบนผิวถ่าน รวมถึงรูของถ่านด้วยจนเต็ม คราวนี้เมื่อถ่านหมดคุณสมบัติการดูดซับโดยสิ้นเชิงเค้าเรียกกันว่า Break Through เจ้าถ่านนี้ก็พร้อมจะปล่อยสารที่ติดกับมันคืนสู่ระบบครับ รวมถึงเจ้าเชื้อโรคต่างๆที่อาศัยอยู่ตามรูของถ่านจะเติบโตได้อย่างดีและมากๆด้วยเพราะมีสารอินทรีย์ที่เป็นอาหารของเชื้อโรคเหล่านี้อยู่เพรียบ เพื่อนๆคงคิดตามทันนะครับว่าอันตรายจะเกิดกับปลาจะมีมากขนาดไหนอย่างนี้ล่ะครับที่เข้าใจกันว่าแพ้คาร์บอน คำถามสุดท้ายจะใช้ถ่านคาร็บอนได้นานเท่าไหร่ก็คงตอบว่าขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยเช่น ถ้ากรณีเป็นเครื่องกรองน้ำไว้เติมน้ำใส่ตู้ปลา เดือนหนึ่งจะเปิดใช้ก็ 2 ครั้งแล้วน้ำที่กรองก็เป็นน้ำประปาที่ดูใสๆ ก็อาจจะปีนึงเปลี่ยนที หรือก่อนจะหมดอายุการใช้งานตามเครื่องกรองแต่ละชนิดบอกไว้ก็ดีครับ แต่ถ้าบางคนไว้บนสุดของกรองข้างวางวไว้บนใยแก้วน้ำสกปรกผ่านถ่านฯก่อนถึงใยแก้วอีกอย่างนี้ผมว่าเดือนนึงก็เต็มทนแล้วล่ะครับ แต่ถ้าวางไว้ส่วนของน้ำที่สะอาดที่สุดก่อนปล่อยน้ำเข้าตู้ปลาอย่างนี้ก็นานหน่อยอาจจะ 3- 6 เดือนแล้วแต่วัสดุกรองอื่นๆที่ใช้ร่วมด้วยรวมถึงความหนาแน่นของปลาในตู้ ประเภทของอาหารที่ให้ปลากินสรุปนะครับ คงไม่มีใครผิดใครถูกว่าระบบกรองตู้ปลาควรใช้คาร์บอนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเพื่อนๆเองครับอิอิ
จากคุณ : festae2002
ส่วนจะทราบได้อย่างไรครับว่าถ่านคาร์บอนมีอายุการใช้งานนานเท่าไรก็ลองอ่านคำถามที่มีการตอบเพื่อนๆไว้
บ้างแล้วนะครับ
คาร์บอนถ้าใช้จนหมดประสิทธิภาพการดูดซับแล้วต้องทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ครับ แต่ช่วงที่ยังไม่หมดสภาพสามารถนำ
มาล้างตะกอนต่างๆออกเพื่อให้คาร์บอนใช้ความสามารถการดูดซับที่เหลือไปเรื่อยๆจนหมดสภาพแล้วทิ้งได้ครับ
ตอบคุณ อ่องตวน ถ้าเป็นกรณีการกรองน้ำกินของคนเขาให้ไว้ 1 ปี กรณีน้ำใช้ 2 ปีแต่โดยทั่วไปจะให้เปลี่ยนก่อนกำหนดของบริษัทที่ผลิตเครื่องกรองชนิดนั้นๆบอกไว้แต่กรณีกรองตู้ปลารายงานการทดลอง งานวิจัยมันมีไม่มากเหมือนของคน ดังนั้นจะได้จากการสังเกตเช่น
กรองกลิ่นไม่ได้แล้ว น้ำไม่ใสแล้วมีสีเหลืองๆ
หรือขี้ตะกอนต่างๆจับคาร์บอนจนดูสกปรกมาก จากกรณีที่ยกตัวอย่างมาต้องดูระบบกรองของตู้ที่สมมุติด้วย
ผมสมมุติต่อว่าระบบกรองของตู้ที่คุณยกตัวอย่างมี ใยแก้ว ไบโอบอล ปะการัง โดยไม่มี เซรามิคริงค์ชนิดมีรูพรุน
(กรณีกรองน้ำดื่มของคนถ้ามีเซรามิคที่มีรูพรุนใช้ร่วมด้วยจะยืดอายุการใช้งานของถ่านคาร์บอนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า)เป็นผมก็คงใช้ไป 3 เดือนแล้วทิ้งเลยแต่ระหว่างนี้อาจเอาถุงคาร์บอนมาล้างขี้ตะกอนออกเป็นระยะๆได้ครับ
จากคุณ : festae2002