Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา

0001254

วิธีนำปลาป่วยส่งโรงพยาบาล

mimis
mimis [2005-05-09 22:03:02]
โดยปกติช่วงใกล้ ๆ สิ้นปี สังเกตได้เลยครับว่า จะมีกระทู้เกี่ยวกะเรื่องปลาป่วยมากเป็นพิเศษ ทีนี้หลายคนมั่ก ๆ ครับที่โทรมาสอบถามเรื่องเกี่ยวรายละเอียดของการรักษา

ไอ้ครั้นบอกตรง ๆ ว่า การแนะนำทางตัวอักษร หรือ โทรศัพท์ บางทีมันไม่เห็นภาพ หรือ เห็นภาพก้อคาดเดาสาเหตุของโรคยากเหลือเกิน สุดความสามารถที่อยากจะช่วยเหลือครับ เพราะบางโรคไม่สามารถที่จะบอกถึงการวิธีการรักษาได้ด้วยการมองอาการแค่ภายนอกของตัวปลา
เมื่อวันก่อนผมเพิ่งได้มีโอกาสไปคุยกะคุณหมอหนุ่ม ที่ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำจุฬาฯ เพื่อนำเนื้อหามาเรียบเรียงใหม่สำหรับตีพิมพ์ในนิตยสาร Aqua ...แต่ไอ้ครั้นจะรอบทความเต็ม ๆ ตอนหนังสือออก ก้ออาจจะช้าเกินไป เลยนำคำแนะนำของคุณหมอบางส่วนมาถ่ายทอดให้อ่านกันก่อนครับ

ข้อแนะนำเบื้องต้นเมื่อปลามีอาการป่วย หรือ มีอาการผิดปกติ
1. รักษาความสะอาดของน้ำให้ดีที่สุด
2. การเปลี่ยนน้ำ ควรระวังในเรื่องของคลอรีนและอุณหภูมิให้มากที่สุด น้ำที่เปลี่ยนควรพักไว้ไม่ให้มีคลอรีนเลย และอย่าให้อุณหภูมิต่างกันมาก(ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน บางทีอุณหภูมิน้ำใหม่กะน้ำในตู้อาจจะต่างกันถึง 5องศาC ...สำหรับปลา ถือว่าเอาเรื่องอยู่ครับ!)
3. หากเป็นโรคพื้นฐาน เช่น หางเปื่อย ตกเลือด อาจจะทดลองทำการรักษาเองในเบื้องต้น โดยการใส่เกลือ ยาเหลือง หรือ เอม๊อกซี่ และเฝ้าติดตามอาการ หากภายใน 3วัน(อย่างช้าไม่ควรเกิน5วัน) ยังไม่ดีขึ้น ควรจะนำส่งให้คุณหมอทำการตรวจอย่างละเอียด เพราะ บางโรคเป็นโรคที่ไม่สามารถวินิจฉัยได้จากอาการภายนอกได้

4. การใส่เกลือ โดยปกติใส่ที่อัตตราส่วน 0.03%ของปริมาณน้ำในตู้ปลา หรือ หากปลามีอาการป่วย ควรใส่อยู่ที่ประมาณ 1% (สำหรับปลาหมอสี อาจจะใส่ได้ถึงทีนี้เมื่อเราทอลองรักษาเบื้องต้นตามอาการที่เห็นแล้ว ชีวิตไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย ขั้นตอนต่อไปอาจจะต้องถึงมือคุณหมอแล้วล่ะครับ~!!!

ข้อแนะนำในการพาปลาไปหาหมอ~!!

1. ก่อนจะนำมาส่งตรวจ ควรงดอาหาร 1วัน และไม่ต้องใส่อาหารมาในถุงเวลาย้ายปลาด้วย (หุหุหุ...ไม่น่าเชื่อนะว่า จะมีคนกลัวปลาหิวระหว่างเดินทาง ...แต่ก้อมีหลายคนที่ทำแบบนี้จริง ๆ ครับ)

2. อัดอ๊อก และ แพ๊คถุงให้แน่นหนา ควรมีอุปกรณ์ย้ายปลาสำรองมาด้วย เช่นถุงพลาสติก กล่องโฟม หรือ อ๊อกแบบใส่ถ่าน

3. ควรนำน้ำเก่าที่ใช้เลี้ยงปลามาด้วยเพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคที่อาจจะเกิดจากคุณภาพน้ำ เช่น ความเค็ม ความกระด้าง pH ฯลฯ จะให้ดีควรนำอึปลา หรือ อะไรก้อตามที่เป็นสิ่งแปลกปลอมที่มีอยู่ในตู้มาให้คุณหมอตรวจสอบด้วย(เช่น พวกคราบเมือกที่เป็นเส้น ๆ หรืออื่น ๆ )

4. เตรียมข้อมูลในการเลี้ยง การเปลี่ยนถ่ายน้ำ การให้อาหาร และ การรักษาเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการตรวจวินิจฉัย

5. อย่านำปลาป่วยทิ้งไว้ในที่ ๆ มีอากาศร้อน เช่น ทิ้งไว้ในรถระหว่างเดินทาง3% แต่ไม่ควรเกินกว่านั้น)

ค่าใช้จ่ายในการรักษา

1. ในกรณีที่จำเป็นจะต้องทำการเอ็กเรย์ ค่าเอ็กเรย์จะอยู่ที่ประมาณ 150-250บาท/ตัว ขึ้นอยู่กับขนาดปลา

2. ค่ารักษาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80-150บาทต่อครั้ง หรือต่อตัว ซึ่งอาจจะมากกว่านี้ก้อได้ตามแต่คอร์สการรักษา (แต่ส่วนตัวผม รวมค่าX-rayแล้วยังไม่เคยเกิน 400บาท/ครั้ง เลยครับ)

ค่าบริการต่าง ๆ จัดว่าถูกมาก ๆ ครับ สำหรับการตรวจรักษาปลาที่สถาบันแห่งนี้ เพราะสถาบันนี้จัดขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการบริการประชาชนเป็นหลัก


การรับฝากปลาเพื่อทำการรักษา

โดยปกติทางศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จะพยายามรักฝากปลาเพื่อทำการรักษาในเคสที่จำเป็น เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสถานที่และบุคลากร(มีคนเปลี่ยนน้ำแค่คนเดียวเองอ่ะนะ~!)

ปัญหาที่พบมากที่สุดในการรับฝากคือ เจ้าของนำปลามารักษาแล้วไม่ยอมมารับกลับไป ซึ่งทำให้เป็นภาระในเรื่องของสถานที่ และ ตู้รับฝากปลาป่วยซึ่งมีจำนวนจำกัด ดังนั้นใครที่คิดจะนำปลาไปฝากแบบไม่คิดจะไปรับคืน(..จะทิ้งว่างั้นเหอะ!) กรุณามีความรับผิดชอบมากกว่านี้หน่อยนะครับ เพราะ คุณหมอบ่นมาว่า บางครั้งมีปลาที่อยู่ในสภาพที่ควรจะเข้ารับการดูแลโดยตรง(อาการหนัก) กลับไม่มีสถานที่ให้นำปลามาทำการรักษาได้ เพราะมีปลาเก่าที่เจ้าของไม่ยอมมาเอาคืนค้างตู้อยู่

ส่วนอัตตราค่าบริการในการรับฝากปลาเพื่อทำการรักษาจะอยู่ที่ 200/ตัว สำหรับปลาเล็ก และ 400-500บาทสำหรับปลาใหญ่(อาจจะต้องทำการรักษาในบ่อพัก) ทางศูนย์จะทำการรักษาให้จนปลาอยู่ในสภาพที่พร้อมจะให้เจ้าของนำกลับไปดูแลได้ต่อไปได้

ส่วนปลาป่วยทั่วไปที่เจ้าของสามารถทำการรักษาและดูแลได้เองนั้น ทางศูนย์ฯ จะให้คำแนะนำในการดูแล เพื่อให้เจ้าของนำปลากลับไปรักษาต่อเองที่บ้านครับ


สิ่งที่คุณหมอ ฝากย้ำเพิ่มเติมมาคือ หากทำการรักษาในระยะแรก ยังไม่มีอาการที่ดีขึ้นภายใน 3-5วัน ควรนำมาส่งแพทย์ได้แล้วครับ เพราะ ส่วนใหญ่รอให้อาการสาหัสหนักหนาเกินไป...จนบางครั้งเกินเยียวยา แล้วค่อยหิ้วเอามาให้ .....เจอแบบนี้เข้า คุณหมอก้อต้องหนักใจแหล่ะครับ!!!


และ....หากเกิดความแคลงใจ สงสัยว่า เอ๊ะ!! ทำไมอยู่ดี ๆ ปลามันถึงตายได้หว่า???

ที่นี่ก้อมีบริการชันสูตรให้ด้วยครับ!!!

วิธีการก้อคือ... นำปลาที่ตาย(ใหม่ ๆ ) ใส่ถุงพลาสติกหลาย ๆ ชั้นหน่อย มัดปากถุงให้แน่น ๆ แล้วแช่ในถังน้ำแข็งหิ้วตรงมาที่ ศูนย์วิจัยได้เลย(...แต่เข้าไปที่ตึกพยาธินะครับ อยู่ด้านหลังอาคาร60ปี คณะสัตว์แพทย์ศาสตร์) หรือ หากไม่สะดวกที่จะหิ้วมาในทันที วิธีเก็บรักษาสภาพคือ นำปลาที่มัดปากถุงไว้แล้วแช่ในตู้เย็น แต่อย่าแช่ช่องฟรีซนะครับ เพราะ จะทำให้เซลล์เสียสภาพและไม่สามารถจะนำมาทำการพิสูทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำปลาป่วยไปทำการรักษาที่ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาฯ ผมจะให้ที่อยู่ไว้นะครับ...

ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ.อังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

โทร....(02)251-8887 , (02)218-9510 , (02)218-9514
เวลาเปิดของศูนย์ คือ จ.-ศ. เวลา 8.00-16.00น. ปิด ส.-อา.ครับ เวลาปิดรับเคสสุดท้ายคือเวลา 15.30น. เผื่อเวลาในการเดินทางซะหน่อย เพราะไปช้ากว่านี้ จะไม่ทันเวลานะครับ

ไม่ใช่มี่เขียนค่ะ มาจากเพื่อนนักเขียนที่ นิตยสาร อควา โดย Gold-E www.Fishroom

ขอขอบคุณมาก ณ โอกาสนี้ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1

chatkoy
chatkoy [2005-05-09 23:24:57]
ขอบคุณมากครับคุณ mimis ผมได้ความรู้จากคุณเยอะมากๆๆๆ เลย ^๛^

ความคิดเห็นที่ 2

fatfish47
fatfish47 (203.147.11.10) [2005-05-11 10:48:11]
ตามมาอ่านค่ะ..เคยไปมาหลายครั้งแล้ว..คุณหมอที่นั่นใจดีด้วยล่ะ...แรกๆตู้ยังไม่ค่อยแน่นยังพอรับปลาไข้ได้..หลังๆไปนี่ไม่เคยได้นอน รพ. เลย..เต็มอ่ะ...ฉีดยาแล้วก็เอากลับ...รู้สึกคนจะพาปลามาหาหมอมากขึ้นค่ะ..

ความคิดเห็นที่ 3

mimis
mimis [2005-05-11 21:32:51]
เหอ...เหอ...คือว่าเราต้องหาข้อมูลน่ะค่ะ เลยได้ผ่านตาเยอะมาก จริง ๆ แล้วในคอมพ์ฯ ทีครบสูตรเลยนะคะ จากทั่วโลกเลย ไม่ทันแปล เอาไว้เป็ฯข้อมูลเขียนหนังสือค่ะ

แต่ว่าหลังจากอ่านมาทั่วแล้วก็พบว่า เว็บปลาทองของไทยเรานั้น แปลของเขามาตรง ๆ ก็หลายค่ะ

แต่ก็เหมือนการอ่านหนังสือน่ะนะคะ อ่านเจออะไรดี ๆ ก็เอามาฝากกันค่ะ

ความคิดเห็นที่ 4

JoieGirl25
JoieGirl25 (203.144.226.242) [2005-05-12 10:00:07]
ออ ของตากุมภ์นี่เอง ตัวเป็นๆฮาดีนะคะ พี่มี่
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ