Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา

0001299

ขอคำแนะนำว่ามือใหม่อยากเลี้ยงปลาอะไรดี

sbunlu
sbunlu (203.151.224.202) [2005-05-17 13:41:50]
สวัสดีครับ ขอรบกวนเพื่อนๆสักหน่อย ผมเป็นมือใหม่จริงๆ และอยากเลี้ยงปลาสักอย่างนะครับ จะเลี้ยงพันธ์อะไรดี แล้วต้องเตรียมตัวยังไงครับ (สงสารปลา กลัวมันจะตายเสียก่อน) เช่น ต้องเตรียมตู้ยังไง น้ำยังไง ลองหาวิธีดูเองแล้วไม่เจอเลย รบกวนด้วยนะครับ

ความคิดเห็นที่ 1

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:17:43]
ขนาดตู้อยู่ที่งบครับ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เงินคุณซื้อได้ครับ (คิดถึงที่วางด้วยนะครับ) ยิ่งใหญ่ปลายิ่งมีความสุข

ส่วนปลานั้น ต้องไปลองเดินดูครับ ว่าชอบแนวไหน เช่น

1. ปลาเล็ก + ไม้น้ำ
2. ปลาทอง ล้วนๆ
3. ปลาโหดๆ ทั้งหลาย พวกกินเนื้อ ปลาหมอสี
4. ปลาหรูๆ เช่น อโรวาน่า

ยังไงจะเลี้ยงก็เผื่อที่สำหรับตอนมันโตด้วยนะครับ ไม่ใช่แบบว่า ซื้อตู้ 36 มาแล้วเลี้ยง อะราไพม่า แบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ โตแล้วจะเอาไปปล่อยไหน

อันนี้แล้วแต่ความชอบครับ สำหรับมือใหม่ ผมแนะนำปลาทองครับ น่ารัก เลี้ยงง่าย อึด และกินเก่ง

การเลี้ยงถ้าเอาแบบละเอียด เดี๋ยวรอเพื่อนๆละกันครับ

ความคิดเห็นที่ 2

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:22:17]
แบบ ปลาเล็ก + ไม้น้ำครับ ผมว่าสวยสุดแล้วครับ

ความคิดเห็นที่ 3

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:23:22]
หรือถ้าที่บ้าน น้ำร้อน ปอมปาดัวร์ ก็ไม่เลวครับ จะเลี้ยงอะไรก็ศึกษาก่อนเลี้ยงนิดนึงครับ หลายๆชนิดก็เลี้ยงยาก ต้องเอาใจใส่มากครับ

ความคิดเห็นที่ 4

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:38:47]
อันนี้รูปตู้ตัวเองครับ ก็หัดมาไม่นานเหมือนกันครับ

ไม้น้ำแจ่มๆ ดูที่นี้เลยครับ

http://www.adaeuro.com/gallery.asp

ส่วนข้อมูลการเลี้ยงก็ที่

http://aquariathailand.pantown.com/

ความคิดเห็นที่ 5

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:40:40]
อันนี้ตู้ใหม่ครับ เพิ่งงอกมา 2 อาทิตย์แฮะๆ

ความคิดเห็นที่ 6

Polapat
Polapat [2005-05-17 16:45:18]
แต่ผมว่า ปลาทองน่ารักสุดแว้ว.... ^^


โพสไปซะเยอะ ให้คนอื่นมาตอบบ้างละกันครับ


ขอโทษครับ

ความคิดเห็นที่ 7

nono
nono (61.91.185.49) [2005-05-17 21:51:39]
ตู้ไม้น้ำจะค่อนข้างต้องการ การดูแลเยอะครับ ปุ๋ย คาร์บอน การตัดแต่ง สามารถใส่ปลาเล็กได้หลายชนิดดูมีสีสัน

ตู้ปลาทอง ต้องถ่ายน้ำบ่อยนิดนึงครับ เพราะปลาทองกินเก่งและค่อนข้างสกปรก แต่ถ้าเลี้ยงจำนวนน้อยจะไม่ค่อยมีปัญหา ไม่สามารถเลี้ยงกับปลาอื่นได้เพราะไม่แกล้งปลาอื่น ก็โดนปลาอื่นแกล้ง

ปลาโหด ทำใจนิดนึงครับ ว่าอาจจะต้องทำบาปเช่นการให้ปลาเหยื่อ จิ้งจก หรืออื่นๆ เจ้าพวกนี้ต้องคอยหาอาหารสดมาให้ครับ แต่สามารถฝึกให้กินอาหารตายได้เชน เนื้อกุ้ง กุ้งฝอยแช่แข็ง เนื้อปลา

อโร คล้ายๆปลาโหดครับ แต่ฝึกง่ายกว่าและค่อนข้างเชื่อง
สายพันธุ์สวยๆส่วนใหญ่มักจะ "แพง" แต่ว่าก็มีสายพันธุ์ถูกๆเช่นมังกรเงิน ออสเตรเลีย การเจริญเติบโตค่อนชข้างเร็วต้องเลี้ยงในตู้ใหญ่ อาจมีเพื่อนร่วมตู้ได้ เช่นพวกซัคเกอร์ นกแก้ว ตะเพียน เพื่อคอยเก็บเศษอาหาร

ขอเพิ่มอีกนิดครับ

พวกปลาบ่อ เช่นปลาแม่น้ำ ปลาคาร์พ

กินง่าย ดูสบายตา แต่ต้องมีที่ค่อนข้างเยอะ และต้องมีบ่อกรองในตัวเพื่อความสะดวกในการดูแล


การเตรียมตู้ ควรเลือกขนาดทีเหมาะสมกับปลา ไม่ใส่ปลาหนาแน่นเกินไป เลือกวางในตำแหน่งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำสะดวก หากวางตู้ปลาบริเวณแอร์ตก อาจจะต้องมีฮีทเตอร์ให้ปลาครับ (ยกเว้นตู้ไม้น้ำที่ชอบน้ำเย็น) ส่วน้รื่องฮวงจุ้ยเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

การเตรียมน้ำ ควรใช้น้ำประปาพักไว้สักคืนนึงให้คลอรีนระเหยออกหมดครับ

การนำปลาลงปล่อย ควรปรับอุณหภูมิ/pHเสียก่อน วิธีการปรับอุณหภูมิคือ ให้นำถุงปลาไปแช่ไว้ในน้ำที่จะเลี้ยงสัก10-30นาที แล้วหลังจากนั้น เปิดถุงปลาแล้วค่อยๆวักน้ำจากอ่างเลี้ยงใส่ในถุงจนเต็มถุงแล้วจึงปล่อยปลาครับ

หากมีปลาเก่าอยู่แล้วจะนำปลาใหม่มาร่วมด้วย ควรจะกักโรคไว้ก่อนเพื่อนกันการติดเชื้อจากปลาใหม่ มาสู้ปลาเก่าของเรา

อธิบายไม่ละเอียดมากนะครับ อาจจะดูงงๆ เดี๋ยวรอพี่ๆคนอื่นในบอร์ดมาช่วยตอบครับ

ความคิดเห็นที่ 8

มี่
มี่ (203.170.144.199) [2005-05-17 21:52:29]
-ปลาทองที่ไม่มีวุ้นค่ะ อาทิ ริวกิ้น โคเม็ท(แต่โคเม็ทนี่เหมาะกับอ่าง หรือบ่อ เพราะโตเร็วได้ประมาณปลาคาร์ฟค่ะ) ลักเล่ห์

-หากเลี้ยงรอดค่อย เขยิบมาออรันดา สิงห์ค่ะ พวกมีวุ้นเลี้ยงยากกว่า ต้องการการดูแลมากกว่าค่ะ

เลือกปลาแล้ว อย่าเพิ่งซื้อ เล็ง ๆ ไว้ก่อน เริ่มสักคู่เดียวก็พอค่ะ

ไปหาตู้ปลา หากเอาจริงและพอมีงบก็ซื้อตู้ใหญ่หนอ่ยเอาไว้เลย เพราะปลามันโต(หากมีชีวิตรอด) ตลอดค่ะ

ซื้อตู้ปลา แบบมีฝา เครื่องกรองน้ำ อุปกรณ์ตกแต่ง (ยิ่งนอ้ยยิ่งดี) น้ำยาปรับสภาพน้ำ สายยางดูดน้ำ ...

รู้สึกจะยาวค่ะ เอางี๊เดี๋ยวพี่ไปหาที่เคยเขียนส่งอความาให้ค่ะ มันสรุป ประเด็นสำคัญเอาไว้สำหรับามือใหม่ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 9

มี่
มี่ (203.170.144.199) [2005-05-17 21:53:30]
อ้อ..แต่ยังไง พี่ก็หนับหนุน ให้เลี้ยงปลาทอง คะเพราะว่า เค้ากินได้ทั้งพืชและสัตว์ค่ะ และไม่จำเป็นต้องกินปลาเหยือเป็น ๆ ค่ะ น่าสงสารปลาเหยือ่ค่ะ

ปลาทองน่ารักน่าเลี้ยงที่สุดในโลกแล้วล่ะ

ความคิดเห็นที่ 10

มี่
มี่ (203.170.144.199) [2005-05-17 21:56:01]
การเลี้ยงปลาทอง...ง่ายนิดเดียว!

ฉันฝันอยากให้สัตว์ทุกชนิดมีสิทธิเสรีภาพ ได้ใช้ชีวิตในถิ่นฐานของพวกมันอย่างมีความสุข ไม่ถูกเบียดเบียนโดยมนุษย์ ฉันเคยคัดค้านการค้าขายสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ไม่เฉพาะกับปลาด้วยเหตุผลที่ว่าไม่สนับสนุนให้มีการนำสัตว์มากักขังเพื่อความ บันเทิงเริงใจของมนุษย์เพราะ ถึงแม้ว่าพวกมันจะได้รับการเลี้ยงดู อย่างดีแค่ไหน ก็คงไม่มีความสุขเท่ากับการได้อยู่ในที่เดิมตามธรรมชาติของมันและได้เป็นเจ้าชีวิตของตัวเอง “นักโทษชั้นดี” ของมนุษย์คือ คำนิยามสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ รวมทั้งปลาทองที่ฉันบอกกับหลาย ๆ คนเรื่อยมา
จริงอยู่ที่ว่าฉันเองมีสัตว์เลี้ยงในครอบครองมากมายในวัยเด็ก แต่ว่าหมา แมว นก ปลาทุกตัวที่เลี้ยงมาล้วนเป็นสัตว์ที่เร่ร่อนมาขออาศัยอยู่ที่บ้านของฉันด้วยตัวของมันเอง ไม่ก็มีผู้อื่นนำมาฝากให้เลี้ยงโดยที่ไม่ได้ซื้อหาจากไหน หากไม่รับมาก็จะเป็นการทำให้สัตว์เหล่านั้นไร้ที่พักพิง
ในบรรดาสัตว์เลี้ยงนั้นฉันเห็นว่า “ปลา” น่าสงสารที่สุดเพราะมันเป็นสัตว์ที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลยเมื่อต้องอยู่ในภาชนะ พื้นที่จำกัดที่มนุษย์จัดให้แทนที่จะได้อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ ธรรมชาติในสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การดำรงชีพ พวกมันกลายเป็นสิ่งของในครอบครองอย่างหนึ่งของมนุษย์ต้องไร้ซึ่งอิสรเสรีที่จะ ได้แหวกว่ายไปในท้องน้ำอันกว้างไกลไร้พรมแดน ชีวิตของพวกมันไม่ได้เป็นของพวกมันนานมาแล้ว แต่ชีวิตของพวกมันกลับได้ทำให้มนุษย์อย่างเรา ๆ มีอาชีพเลี้ยงตัวเอง ในเรื่องนี้ พี่บัญชาโต้วาทีกับฉันบ่อย ๆ เมื่อครั้งทำงานร่วมกันที่บริษัทเก่า กระทั่งความเห็นอันลึกซึ้งของพี่เขาต่อการเลี้ยงปลาทองเปลี่ยนมุมมองบางอย่างของฉัน
“มีบ้านอยู่ มีอาหารกินอิ่มทุกมื้อ ไม่ต้องหากินเอง ถือว่าพวกมันเกิดมามีบุญกว่าพวกเราแล้วล่ะมี่”
“ลิขิตชีวิตตัวเองไม่ได้ ต้องถูกพรากจากพ่อแม่ พี่น้อง มีตู้กระจก หรือ บ่อเล็ก ๆ แทนแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นบ้าน ไม่เคยรู้จักอาหารอื่นนอกจากที่คนจัดให้ หากโชคร้ายเจอคนที่ไม่รับผิดชอบก็เน่าตายคาตู้ ไม่เห็นจะสบายตรงไหน น่าเศร้าจะตาย มี่ว่านะ”
“ก็จริงของน้อง แต่ว่าปลาทองก็นับว่าโชคดีมากกว่าปลาอื่น ๆ ที่ต้องถูกจับกินเป็นอาหารของมนุษย์ หรือต้องตกเป็นเหยื่อของปลาใหญ่อื่น ๆ เอาง่าย ๆ มี่ลองนึกภาพปลาทองว่ายอยู่ในคลองหนองบึงแล้วเจอจระเข้หรือว่าปลาอะไรที่โตกว่ามันสิ ”
เหตุผลของพี่บัญชาเปิดมุมมองโลกอีกด้านหนึ่งให้กับฉัน และเมื่อนึกได้ว่าการค้าขายปลาทองรวมทั้งสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ได้เกิดขึ้นมานานเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว ฉันก็ต้องยอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ เมื่อไม่มีทางที่จะหยุดยั้งไม่ให้มีการนำสัตว์มาเลี้ยงได้ ฉันจึงตั้งปณิธานว่า จะพยายามเผยแผ่ความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูปลาทองที่ถูกต้องและเป็น ประโยชน์ให้กับผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่สติปัญญา และแรงใจกายจะทำได้เพื่อให้ “ชีวิตที่ไม่มีทางเลือก” ของพวกมันได้มีความร่มเย็นบ้างอย่างที่ควรจะเป็น

“ลูกค้า คือ พระเจ้า” เป็นหลักการตลาดง่าย ๆ ที่ฉันยึดเอาเป็นสรณะในการทำงานตลอดมา แต่ตอนนี้พี่บัญชากับฉันมีอีกหลักการหนึ่ง ซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนั่นคือ
“ปลาทอง คือ ผู้มีพระคุณ”...
เราเริ่มมาตรการตอบแทนผู้มีพระคุณของเราด้วยการให้พวกมันได้อยู่ในตู้อย่างไม่แออัด ตามสัดส่วน ของขนาดปลาและปริมาตรน้ำที่นิยมทั่วไปคือ ปลาขนาด 1 นิ้วหนึ่งตัว ต่อน้ำ 2 ลิตร(หากเป็นเลี้ยงเองที่บ้าน ฉันแนะนำ 4 ลิตรอย่างต่ำ) น้องปลาในร้านจึงว่ายน้ำกันได้อย่างสบายๆ เรายอมเพิ่มตู้ แต่จะไม่ยอมให้ผู้มีพระคุณของเราต้องมีชีวิตราวกับอยู่ในชุมชนแออัดโดยเด็ดขาด
“อ้า...เกือบลืมไปเลยเรา” ยังมีอีกสิ่งหนึ่งเพื่อ “ผู้มีพระคุณ” ที่ตระเตรียมมาจากบ้านเพื่อวันเปิดร้านโดยเฉพาะ ฉันคว้ากระดาษโปสเตอร์สีเขียวอ่อนแผ่นใหญ่บรรจงติดบนป้ายโฆษณาแบบมีขาตั้งที่ทาง เข้าร้าน อันนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ฉันอุตส่าห์อดตาหลับขับตานอนใช้สมองกลั่นกรองออกมา เป็นลายลักษณ์อักษร
พอติดเสร็จเรียบร้อยฉันก็ยืนยิ้มอ่านข้อความอีกครั้งหลังจากอ่านแล้วอ่านอีกเป็นล้านรอบ...


ไอเดียนี้เกิดจากการที่ฉันย้อนคิดกลับไปตอนเลี้ยงเจ้าลัคกี้ใหม่ ๆ ตอนนั้นฉันกระหายความรู้เพื่อที่จะช่วยชีวิตลูกปลาที่น่าสงสารจึงตะลอนหาข้อมูลตามร้าน ขายปลาหลายแห่ง คนขายปลาตามร้านต่าง ๆ ที่ฉันบุกไปพบคงจะรู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องคอยตอบคำถามยืดยาวไม่รู้จบของ ผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้(ขนาดเดินหนี แกล้งไม่ได้ยิน ฉันก็ยังอดทนยืนตื้ออยู่จนได้ข้อมูลที่ต้องการ) ก็ไอ้นิสัยขี้สงสัยน่ะ มันติดตัวมาจากการทำงานที่ฉันมีหน้าที่ล้วงความลับเกี่ยวกับกิจการและหนี้สินของลูกค้า ที่มากู้เงิน ให้ได้ความจริงมากที่สุด เพื่อให้บริษัทมีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการปล่อยสินเชื่อนั้น ๆ
การหมั่นทำตัวเป็นคน “ไม่รู้” ฉันว่ามันมีประโยชน์และจำเป็นอย่างยิ่งในการเลี้ยงปลาหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ หากคุณรู้สึกสงสัยอะไร ให้ถามเยอะ ๆ เข้าไว้ ไปร้านไหนก็ถามซ้ำ คำถามเดียวกัน คนตอบต่างกัน อาจจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่เหมือนกัน แต่ก็แน่นอนว่า ข้อมูลผิด ๆ เพี้ยน ๆ ก็มากซึ่งต้องใช้ความสามารถส่วนตัวในการแยกแยะ
อย่างเรื่องการซื้อตู้ก่อนซื้อปลาเป็นต้น ฉันพบว่าผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงปลาส่วนมาก(รวมฉันด้วยคนเมื่อห้าปีที่แล้ว) ไม่ได้ซื้อตู้มาเซ็ตน้ำเอาไว้ก่อน แต่มักจะซื้อปลามาพร้อมกับตู้และอุปกรณ์อีกมากมาย เมื่อกลับมาถึงบ้านก็รองน้ำประปาใส่ตู้ เสร็จแล้วหยดยาฆ่าคลอรีน ยาอะไรต่อมิอะไร ตามที่คนขายแนะนำ รอประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ใส่ปลาลงไป แน่นอนว่าเฉพาะปลาที่ “บึก” มียีนดีแข็งแรงเท่านั้นที่จะรอดชีวิตเพื่อเผชิญชะตากรรมต่อไป บ่อยครั้งที่ได้ยินว่า ปลาที่ซื้อมาทั้งหมดมากกว่าสิบตัว ตายยกฝูง...
เรื่องปริมาตรน้ำที่สมดุลกับจำนวนและขนาดของปลาก็เช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะแนะนำกันที่
ปลาทองขนาด 1 นิ้ว 1 ตัว ต่อน้ำ 1-2 ลิตร
แต่อัตราส่วนที่ฉันใช้ประจำคือ 4 ลิตรซึ่งใกล้เคียงกับ ของชาวต่างชาติที่ตั้งเอาไว้ที่
ปลาทองขนาด 1 นิ้ว 1 ตัว ต่อน้ำ 1 แกลลอน หรือราว 3.8 ลิตร หรืออีกสูตรสำหรับพื้นผิวหน้าน้ำที่สัมผัสกับอากาศต่อปลาทองหนึ่งตัว คือ
ปลาทองขนาด 1 นิ้ว 1 ตัว ต่อพื้นผิวน้ำที่สัมผัสกับอากาศ 30 ตารางนิ้ว
จุดนี้ทำให้ความหมายของคำว่า “นักโทษชั้นดี” กลายเป็น “นักโทษชั้นวีไอพี”
รูปทรงของตู้ก็อีกปัญหาหนึ่ง หากไม่กลัวเสียชื่อโรงเรียนสตรีล้วนสมัยมัธยมที่ขึ้นชื่อเรื่องการอบรมกุลสตรีแล้วละก็ ฉันอยากจะกระโดดตบศีรษะคนที่เอาปลาไปเลี้ยงในโถแก้วเล็ก ๆ หรือในตู้ทรงลึกจริง ๆ ก็โถแก้วน่ะมันเป็นอะไรที่ไม่สมควรนำมาเลี้ยงปลาทองเลยสักนิดเดียว เพราะปลาทองโตเร็ว อึเก่ง น้ำเสียเร็ว ถึงแม้ว่าคนเลี้ยงจะยอมดูแลใกล้ชิด หมั่นเปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอ และขยายขนาดโถตามการเติบโตของปลา(หากปลายังมีชีวิตอยู่นะ) ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยเพราะเท่ากับว่าคุณไปหยุดการเติบโตของปลาเอาไว้(เหมือนปลูกบอนไซ) ไม่ให้เขาได้เติบโตตามลักษณะเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติ
เรื่องนี้ถึงกับต้องประณามกันเลยทีเดียวสำหรับคนรักสัตว์อย่างฉัน เหมือนกับที่เข้าไปอ่านกระทู้ปลาทองที่เว็บแห่งหนึ่งเมื่อไม่นาน ผู้คนนักเลี้ยงปลาทองทั่วสารทิศต่างโพสท์เข้าไปตำหนิหญิงคนหนึ่งซึ่งโพสท์รูปโถแก้ว เลี้ยงปลาทองของตัวเอง อย่างภูมิใจที่ว่า ปลาทองโคเม็ทขนาด 5 นิ้วของตัวเองมีอายุอยู่ในนั้นถึง 8 ปี การณ์กลับกลายเป็นว่า ไม่มีใครชื่นชมเธอเลยแม้แต่น้อยกลับมีแต่การต่อว่าเธอว่าโหดร้ายมาก ในการกักขังโคเม็ทซึ่งสามารถโตได้ถึง 2 ฟุต ในโถแก้วเล็ก ๆ ทำให้มันไม่เติบโตทั้ง ๆ ที่มีอายุ ถึง 8 ปีแล้วก็ตาม โคเม็ทเป็นปลาทองที่แข็งแรง ปราดเปรียวว่องไวปานปลาคาร์ฟก็ไม่ปาน โถแก้วเรียกได้ว่าเป็น “นรก” สำหรับปลาประเภทนี้เลยทีเดียว
การเลี้ยงปลาทองในตู้ปลาทรงลึกก็เป็นอะไรที่ร้ายกาจมากเช่นกัน “ทรงลึก” ในที่นี้หมายถึง มีความสูงของตู้มากกว่าความยาวและความกว้างของตู้เกินสองเท่า มันน่าเศร้ามากจริง ๆ ที่ว่า หนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาทองมีขายออกเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ฉันก็ยังเห็นการเลี้ยงปลาทองในตู้น้ำลึกอยู่เป็นประจำ สภาพปลาทองที่ถูกจับไปใส่ในตู้แบบนั้นมันสะเทือนใจเอามาก ๆ อย่างที่เพิ่งเจอมาก็อีกเช่นกัน
อาทิตย์ก่อนฉันแวะไปหาเพื่อนที่โบรกเกอร์หลักทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสาทร ทันทีที่ก้าวเข้าบริษัทนั้นสายตาก็สะดุดหยุดอยู่ที่ตู้ปลาขนาดใหญ่สองใบขนาบซ้ายขวา เคานท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ภายในตู้ปูพื้นทรายปักไม้น้ำอย่างงดงาม รูปทรงของตู้เป็นแบบน้ำลึก คือ มีความสูง(ราว 80 เซนติเมตร) ยาวกว่าด้านยาวและด้านกว้างของตู้มาก ปัญหาคือ ภายในสองตู้เลี้ยงปลาทองราวสิบกว่าตัวซึ่งฉันจำได้แค่ ออรันดาและรันชู!!!... แค่เห็นออรันดาฉันก็เซ็งสุด ๆ แต่พอหันไปเห็นรันชูขนาดเขื่องราวห้าตัวในตู้ด้านซ้ายมือฉันก็หดหู่จนพูดไม่ออก พวกมันมีท่าทางซึม และนอนกบดานอยู่บนพื้นตู้ บางตัวที่ว่ายน้ำอยู่ ก็ว่ายแบบล้าเต็มที
หากเป็นเมื่อก่อนเกิดเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิฉันคงโว๊กว๊ากโหวกเหวกโวยวายราวคนบ้าอยู่ตรงนั้น แต่คราวนี้ อารมณ์ฉันเย็นลงอย่างประหลาดและพยายามมองสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปตามธรรมชาติ เกิด ดับ และชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ ฉันสอบถามความเป็นมาของเหล่าปลาที่น่าสงสารจากประชาสัมพันธ์สาวหน้าตาสวยงาม สองนางที่นั่งอยู่ ได้ความว่ามีคนคอยเอาปลามาเปลี่ยน ฟังแค่นั้นก็เลิกซักต่อเพราะไม่กล้ารับรู้อะไรลึกซึ้งชัดเจนไปกว่านั้น จากนั้นก็ได้แต่อธิบายให้กับทั้งสองฟังว่า ปลาทองเป็นปลาน้ำตื้น พวกมันจะได้รับความทรมานเมื่ออยู่ใต้น้ำลึกขนาดนั้นและจะเจ็บป่วยตายในไม่ช้า สุดท้ายก็ได้แนะนำไปว่าขอให้เปลี่ยนประเภทปลาที่เลี้ยง(เพราะตู้เป็น แบบบิลท์อินคงเปลี่ยนตู้ไม่ได้) ยังมีปลาสวยงามอีกมากมายที่จะลงตู้ลึกแบบนั้นได้
นี่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว ฉันยังไม่กล้ากลับไปดู เพราะงานยุ่งมากและหากยังเป็นเช่นเดิมอยู่อีกฉันอาจจะอกแตกตาย เพื่อนหลายคนบอกให้ฉันฝึกปล่อยวางให้มากขึ้น การไม่รู้ไม่เห็นในบางครั้งน่าจะดีกว่า
การเซ็ตน้ำในตู้ปลาให้ปราศจากสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายก่อนที่จะปล่อยปลาลงไปก็มีความ สำคัญสำหรับการรอดชีวิตของปลาทองอย่างมาก นา แม่บ้านสาวรุ่นที่ฟิตเนสที่ฉันรู้จักคนหนึ่งเป็นคนชอบเลี้ยงปลาเช่นกัน แต่ปกติเลี้ยงแต่หางนกยูงในอ่างมังกรเล็ก ๆ อยู่มาวันหนึ่งก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเข้ามาหาฉันที่ห้องออกกำลังกาย
“พี่มี่คะ พี่เลี้ยงปลาทองอยู่ใช่ไหมคะ เห็นวิทย์เค้าบอก” วิทย์ คือเด็กหนุ่มมือทำแซนด์วิชและเครื่องดื่มที่มุมกาแฟและของว่างเล็ก ๆ ที่ฟิตเนสแห่งนั้น วิทย์ชอบเลี้ยงปลาเป็นชีวิตจิตใจ ฉันจึงคุยกับเขาบ่อย ๆ เรื่องเทคนิคต่าง ๆ แต่ตอนนี้วิทย์เล่นฟลาวเวอร์ฮอร์นอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างเราจึงจางลง...
“ใช่ค่ะทำไมเหรอ จะเปลี่ยนจากหางนกยูงมาเป็นปลาทองเหรอ”
“จริง ๆ หนูเคยเลี้ยงปลาทองมาสองรอบนะ แต่ไม่กี่เดือนก็ตายไปหมดแล้ว เศร้าเลยหยุดไปพักนึง พอดีเมื่อวันเสาร์ไปเดินซันเดย์อดใจไม่ไหวเลยหิ้วไอ้ที่มันมีวุ้นที่หัวน่ะพี่ตัวสีส้มน่ะ ตัวประมาณสองนิ้วครึ่งพี่ ซื้อมาสี่ตัว” ฉันเดาเอาว่าไม่ออรันดาก็หัวสิงห์ ขนาดกำลังดีเชียว
“ทีนี้ไม่รู้เป็นอะไร กลับถึงบ้านก็ใส่ตู้เก่าที่เคยเลี้ยงเมื่อก่อน ตื่นเช้ามาตายเกลี้ยงเลย กลุ้มเลยพี่” แววตาของเด็กสาวมีความรู้สึกผิดอยู่เต็มเปี่ยม
“ใช้น้ำที่ไหนใส่ให้พวกมันคะ” ถามกลับไปอย่างเนือย ๆ ใจฉันมันเย็นชาไปเสียแล้วกับเรื่องราวเหล่านี้ หากเป็นเมื่อก่อนคงร้องไห้โฮไปเป็นวัน ๆ
“น้ำก๊อกค่ะพี่ ”
“รองน้ำทิ้งไว้คืนนึงก่อนหรือเปล่า หรือว่าใส่น้ำยาฆ่าคลอรีนลงไปด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าพี่ กลับถึงบ้านก็รองน้ำ เสียบสายออกซิเจนแล้วเทปลาใส่เลย”...
ฉันจับนาเลคเชอร์ยาว เรื่องอันตรายของคลอรีนในน้ำประปาและวิธีการเซ็ตน้ำง่าย ๆ รวมทั้งความสำคัญของการแช่ถุงใส่ปลาลงในน้ำใหม่ราว 20 นาทีก่อนที่จะเทลงในตู้ แล้วจึงปล่อยตัวไป นาฟังแล้วสารภาพว่าเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าสิ่งที่เธอทำมานั้นมันเป็น การฆ่าปลาที่เคยเลี้ยงมานักต่อนัก เมื่อปลาที่เลี้ยงเอาไว้ตายลงแม้จะเพียงไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือนหลังจากซื้อมา เธอกลับคิดว่าเป็นธรรมชาติของปลาที่จะต้องตายในเวลาเช่นนั้น ไม่เคยเอะใจมาก่อนว่าเป็นเพราะวิธีการเลี้ยงที่ผิด ๆ ต่อจากนี้ไปเธอจะไปหาซื้อคู่มือการเลี้ยงปลาทองที่ถูกวิธีมาศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะ เริ่มเลี้ยงรุ่นใหม่ เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยทีเดียว

นอกจากโปสเตอร์ “การเลี้ยงปลาทอง...ง่ายนิดเดียว” แผ่นนี้แล้ว ฉันยังวางโครงการเอาไว้ว่าจะขุดคุ้ยข้อมูลเก่าเก็บเมื่อครั้งเลี้ยงดูเจ้าลัคกี้รวมทั้งศึกษา หาความรู้ใหม่ ๆ เอามาประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รับรู้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปค้นคว้า เสียเงินทอง หรือเสียสุขภาพจิตไปคอยกังวลเวลาที่น้องปลาเกิดอาการผิดปกติเหมือนคราวฉัน ประสบการณ์ลองผิดลองถูกของฉันนั้น แลกมาด้วยเวลา หยาดเหงื่อและน้ำตารวมทั้งชีวิตน้อย ๆ ที่น่าสงสารอีกหลายชีวิตที่ต้องสูญเสียไปด้วยความไม่รู้
ฉันไม่ต้องการให้ใครต้องเสียเวลามาเดินทางซ้ำเส้นทางเดียวกันนี้อีกโดยไม่จำเป็น...

ความคิดเห็นที่ 11

มี่
มี่ (203.170.144.199) [2005-05-17 22:00:10]
ช่องว่างที่ข้อมูลหายไปคือข้อมูลพวกนี้ค่ะ ไม่รู้ทำไมก๊อบมาไม่ได้ อยุ่ในตารางน่ะค่ะ


การเลี้ยงปลาทอง...ง่ายนิดเดียว

จะดีแค่ไหนกันหากคุณจะมีปลาทองน่ารัก ๆ สักสองสามตัวที่ใจจดใจจ่อเฝ้ารอคุณตื่น รอคุณอยู่ที่บ้านและรับฟังความลับทุกอย่างของคุณโดยไม่ปริปาก เป็นเพื่อนแท้ที่จะไม่มีวันหักหลังคุณ...

Lucky Fish Shop ขอเสนอขั้นตอนสำหรับการเลี้ยงปลาทองในตู้ ที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตกับเจ้าปลาเพื่อนยากได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดาย

1. ตอบตัวเองก่อนว่าคุณจะเลี้ยงปลาทองพันธุ์ไหน ขนาดเท่าไหร่ จำนวนเท่าใด(ดู ๆ เอาไว้อย่าเพิ่งซื้อ)

2. ซื้อตู้ปลาพร้อมฝาปิด ขาตั้งหรือที่ตั้งตู้ซึ่งมีความมั่นคงแข็งแรง- เลือกตู้ที่มีหน้ากว้างและไม่ลึกจนเกินไปในขนาดที่เหมาะกับปลาของคุณ(ให้ยึดเกณฑ์ ปลาขนาด 1 นิ้ว 1 ตัว ต่อน้ำ 2-4 ลิตรเป็นอย่างต่ำ)

3. หาอุปกรณ์ที่จำเป็นดังต่อไปนี้
• เครื่องกรองน้ำ(ระบบจุลินทร์ทรีย์ชีวภาพจะดียิ่ง)
• กระชอนช้อนปลาและขัน/กระบวยตักน้ำก้านยาว(ที่แผนกพลาสติกในซุปเปอร์มาร์เก็ต)
• ยาปรับสภาพน้ำ(Water Conditioner)
• อาหารปลา

4. ศึกษาคำแนะนำในการใช้งานของอุปกรณ์ทุกอย่างให้เข้าใจ โดยเฉพาะการใช้เครื่องกรองน้ำ

5. จัดการเซ็ตน้ำในตู้ปลา
• รองน้ำใส่ตู้ แล้วหยดน้ำยาปรับสภาพน้ำตามปริมาณที่ระบุข้างขวด
• เสียบปลั๊กเครื่องกรองน้ำและปล่อยให้เครื่องทำงาน 3 วัน ก่อนที่จะนำปลามาใส่ในตู้***

6. ซื้อปลาที่ต้องการ
เลือกปลาที่มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรค สังเกตได้จาก การว่ายน้ำอย่างเป็นธรรมชาติ ครีบหลังตั้งตรง ไม่ซึมหรือนอนก้นตู้ ลำตัวสีสด ไม่มีบาดแผล ช้ำเลือด เกล็ดถลอก ครีบขาดแหว่ง ฯลฯ ให้เห็น
***หากต้องการเลี้ยงปลาจำนวนมาก อย่าซื้อปลาคราวเดียวทั้งหมด ให้ทยอยซื้อปลาครั้งละ 2-3 ตัว

7. ใส่ปลาลงตู้
• แช่ปลาทั้งถุงพลาสติกไว้ในตู้ 15-20 นาทีก่อนที่จะค่อย ๆ เทปลาลงในตู้
• หากจะใส่ปลาเพิ่มให้ทำหลังจากนี้ 2-3 สัปดาห์และเพียงหนึ่งคู่ต่อ 2-3 สัปดาห์
• ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ น้ำภายในตู้ปลาอาจจะขุ่น มีฟอง หรือ มีกลิ่น ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำ 20 % ทุกวันกระทั่งหมดปัญหา หรือใส่น้ำยาปรับสภาพน้ำให้ใสแล้วค่อยใส่ปลาเพิ่ม

8. ให้อาหารเป็นเวลาอย่างน้อยวันละสองมื้อ(เช้า-เย็น)
• อาหารแห้ง ไม่ว่าจะเป็นแบบจมน้ำหรือลอยน้ำ ควรนำไปแช่น้ำราว 2-3 นาที ก่อนให้ปลากิน
• อาหารสด ควรล้างให้สะอาด หรือแช่สารละลายด่างทับทิมราว 5 นาที ก่อนให้ปลากิน
***ข้อควรระวัง-หลังจากหยอดอาหารลงตู้แล้ว 5 นาที ให้ตักอาหารที่เหลือทิ้ง อย่าเสียดาย

9. เปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอ
ปลาทองต้องการน้ำสะอาด ๆ ใหม่ ๆ มันไม่สามารถมีชีวิตยืนยาวอยู่ได้ในน้ำเก่า
• เปลี่ยนถ่ายน้ำ 20% สัปดาห์ละสองครั้ง หรืออย่างน้อย 30 % สัปดาห์ละครั้ง
• ล้างทำความสะอาดทุกสิ่งภายในตู้ปลาเดือนละครั้ง

10. ปลาก็เหงาเป็นนะ
หาเวลาว่างทักทายปลาของคุณบ้าง แค่คำว่า สวัสดีจ๊ะ สบายดีไหม หิวหรือเปล่า จ้องตาพวกเขา ส่งยิ้มให้ โบกมือทักทาย แค่นี้ไม่เสียเวลาสักเท่าไหร่ แต่จะทำให้ปลารู้สึกคุ้นเคยกับคุณและมีสุขภาพจิตดีขึ้น

ขอโทษทีถ้ายาวไป

ความคิดเห็นที่ 12

Polapat
Polapat (58.8.155.236) [2005-05-17 22:04:35]
เริศ ^^

ความคิดเห็นที่ 13

Dumbo
Dumbo (58.10.78.73) [2005-05-17 22:31:19]
สุดยอด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! >O

ความคิดเห็นที่ 14

JJ
JJ (203.118.123.162) [2005-05-18 07:45:35]
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ

ความคิดเห็นที่ 15

Polapat
Polapat [2005-05-18 11:42:18]
สำหรับคนที่สนใจก่อนที่จะเลี้ยงไม้น้ำ ผมอยากให้ข้อคิดเล็กๆน้อยๆไว้พิจารณานะครับ

อ่านซักนิดก่อนคิดจะเริ่มเลี้ยง

ไม่ว่าใครที่เห็นตู้ไม้น้ำสวยๆคงไม่มีใครไม่อยากได้มาไว้ในบ้าน ก่อนจะเริ่มเลี้ยงลองถามตัวเองดูก่อนนะครับ

1 คุณพร้อมที่จะดูแลมันได้สม่ำเสมอแค่ไหน ตู้ไม้น้ำไม่ใช่ตู้โชว์ที่จะซื้อมาแล้วทิ้งไว้ได้เลยโดยไม่ต้องทำอะไร แต่ต้องอาศัยการดูแลอย่างสม่ำเสมอและมีความอดทน ถึงจะคงความสวยงามไว้ได้ในระยะยาว

2 งบประมาณ ตู้ไม้น้ำเมื่อเทียบกับตู้ปลาอาจจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าอยู่ซักหน่อย โดยหลักๆแล้ว จะแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน
1 ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งตู้ยิ่งใหญ่จะยิ่งราคาสูงทั้งในเรื่องของราคาตู้ ชุดไฟ วัสดุรองพื้น กรองปุ๋ยและจำนวนต้นไม้ ลองคำนวณงบคร่าวๆดูก่อน
2 ค่าใช้จ่ายในการดูแล อันประกอบไปด้วยค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมา ค่าปุ๋ย ค่าต้นไม้ในกรณีซื่อหามาเพิ่มหรือทดแทนที่ตายไป ค่าน้ำค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และค่าเปลี่ยนหลอดไฟและวัสดุสิ้นเปลืองบางอย่างที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา


3 คุณมีความรู้ในการที่จะเลี้ยงไม้น้ำแค่ไหน ถ้าพอมีอยู่บ้างก็ลองเริ่มเลี้ยงและค่อยๆเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย แต่ถ้ายังไม่มี ผมแนะนำให้หาความรู้ซักนิด ไม่ว่าจะอ่านตามเวปต่างๆ หรืออ่านหนังสือ
การที่เรามีความรู้ความเข้าใจในงานอดิเรกที่เราจะทำจะทำให้เราสนุกและประสบความสำเร็จในการเลี้ยงได้ดียิ่งขึ้น ไม่เกิดความท้อแท้เมื่อมันล้มเหลว เมื่อมีความรู้ความเข้าใจที่ดี จะทำให้เราฉลาดเลือกที่จะซื้อของมาใช้หรือสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องซื้อของแพงจนเกินความจำเป็นช่วยประหยัดงบไปได้อีกเยอะครับ

ถ้าคุณพร้อมแล้ว ยินดีต้อนรับสู่โลกสีเขียวใต้น้ำครับ

เลี้ยงไม้น้ำต่างจากเลี้ยงปลาตรงไหน

หลายๆคนที่เคยเดินไปเจอตู้เลี้ยงปลาที่มีพรรณไม้น้ำอยู่เต็มสวยงาม แทบทุกคนอยากจะมีแบบนี้บ้าง แต่คงไม่รู้ว่าจะเริ่มเลี้ยงอย่างไร หลายๆคน ก็เคยลองซื้อต้นไม้มาเลี้ยงในตู้ปลา ซึ่งก็อยู่ได้ชั่วระยะหนึ่ง ถ้าไม่โดนปลากินก็เน่า หรือเหลืองตายไปในที่สุด ทำให้เกิดความท้อใจในการเลี้ยงไม้น้ำให้สวยงามอย่างที่ใจหวัง ธรรมชาติของไม้น้ำที่เป็นพืชนั้น ย่อมต่างจากสัตว์น้ำที่ ต้องการแค่น้ำ อาหาร และ ออกซิเจนในการดำรงค์ชีวิต แต่มีปัจจัยอื่นๆอีกที่แตกต่างออกไป ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของต้นไม้และ สามารถจำลองสภาวะให้เหมือนกับในธรรมชาติให้มากที่สุด เราก็สามารถที่จะเลี้ยงพรรณไม้น้ำได้สวยงามสมบูรณ์ได้ดีอย่างที่ตั้งใจ

ธรรมชาติของพืช มีปัจจัยหลักๆที่ต้องการในการดำรงค์ชีวิตและเจริญเติบโต คือ แสงสว่าง น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์และ ธาตุอาหารที่จำเป็น นอกจากนั้น อุณหภูมิที่เหมาะสม ค่าความเป็นกรด ด่าง ความกระด้างของน้ำ และออกซิเจน ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้พรรณไม้น้ำมีการเติบโตสมบูรณ์ ไม่ต่างกับที่สิ่งมีชีวิตต่างๆต้องการเช่นกัน

เมื่อเราทราบถึงปัจจัยต่างๆที่มีความจำเป็นในการเลี้ยงดูพรรณไม้น้ำแล้ว เรามีดูกันถึงรายละเอียดต่างๆของปัจจัย ที่จำเป็นในการเลี้ยงพรรณไม้น้ำเพิ่อที่เราจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในการเลี้ยงพรรณไม้น้ำของเราได้อย่างมีความสุขต่อไป


เผื่อสนใจไม้น้ำครับ

ความคิดเห็นที่ 16

mrtoru
mrtoru [2005-05-18 14:16:10]
อึ้ง...........ทึ่ง...........มากครับคุณมี่

ความคิดเห็นที่ 17

sbunlu
sbunlu (203.151.224.111) [2005-05-18 15:55:30]
เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 18

เอกซิดนีย์ ครับผม
เอกซิดนีย์ ครับผม (220.236.136.170) [2005-05-18 21:22:16]
เป็นพระคุณอย่างสูงเลยจ้า

ความคิดเห็นที่ 19

มี่
มี่ (203.170.159.73) [2005-05-18 21:40:14]
คุณ Polapat คะ ค.ห. 5 สวยมาก ๆ ค่ะ (ชุดครัวค่ะ สีครีม สีโปรดเลยค่ะ) ดูคลาสสิคจังเลย...

ว่าจะชมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มัวแต่โพสท์เลยลืม

ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่สละเวลาอ่านค่ะ

ความคิดเห็นที่ 20

Polapat
Polapat (58.8.157.109) [2005-05-19 00:01:10]
หง่า

ขอบคุงครับ


ติดตามอ่านผลงานของคุณมี่อยู่เหมือนกันครับ

^^

ความคิดเห็นที่ 21

แมน
แมน (203.209.127.20) [2005-05-19 02:09:37]
คุณมี่มีร้อยนิ้ว แน่..แน่....

ความคิดเห็นที่ 22

fatfish47
fatfish47
2
[2005-05-19 11:02:52]
ปลาทองค่ะ..คุณโพสต์มาในห้องนี้..คงต้องมีใจให้ปลาทองแน่นอน...(ทึกทักเอาเอง)..555...ชอบฮอลันดาค่ะ...
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ