Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา

0001677

ช่วยด้วยๆ จุดขาวมาเยือนอีกแล้ว กลัวตายทั้งตู้จัง !

sajja
sajja [2005-08-07 13:19:16]
ช่วยด้วยครับ น้องปลาที่บ้านกำลังเผชิญกับโรคจุดขาวระลอกที่ 2 อีกแล้ว ครั้งก่อนในตู้มีปลา 4 ตัว เลี้ยงมาได้ครบ 1 ปีพอดี เมื่อเจอโรคจุดขาวเข้า ก็ตายเรียบเลย แก้ไขรักษาอย่างไรตามในเน็ต ก็ไม่หาย อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งจากจุดขาวเพียงไม่กี่จุดก็ลามทั่วตัวแล้วก็ตายในที่สุด มาคราวนี้ซื้อมาใหม่อีก 4 ตัว ตัวละประมาณ 20 บาท กะว่าจะเลี้ยงตั้งแต่ตัวเล็กๆ ตั้งใจจะเลี้ยงให้ดีที่สุด กะว่าจะจัดการโรคจุดขาวให้ได้ หากมันมาเยือนอีกรอบ ซื้อหนังสือมาอ่าน (นี่ก็พึ่งซื้อของพี่มี่ ลักกี้ แอนด์ ไอ มาอ่านนะเนี้ย) ศึกษาในเน็ต เข้าห้องสมุด แล้วก็หาข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องจุดขาวก็เยอะมาก ตอนนี้น้องๆปลาทั้ง 4 ตัวเริ่มมีจุดขาวมาเยือนอีกแล้ว เพราะครั้งนี้ผมหมั่นส่องดูมันทุกวัน ซื้อมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้เริ่มเห็นจุดขาวผิดสังเกตที่หาง โดยเริ่มมีจุดสีขาวประมาณ 6-10 จุด ดังนั้นผมจึงไม่รอช้า รีบลงมือรักษาโดยจัดการเปลี่ยนน้ำทุกวัน 50% น้ำก่อนใส่พักไว้ 1 คืนและใส่เกลือประมาณ 2 ช้อนชาทิ้งไว้ (ใส่มาก็กลัวมาจะเค็มไป) หลังเปลี่ยนน้ำหยอดมาลาไคท์กรีนลงไป (คนขายปลาที่ร้านหยิบยี่ห้อ BIO-KNOCK ให้ ซึ่งผมก็กะจะใช้ไวท์เครน หรือซุปเปอร์อิก แต่เนื่องจากอยู่เชียงใหม่ไม่เห็นมี ก็เลยเอาตามร้านที่ให้มา เพราะยังไงก็คงเป็นมาลาไคท์กรีนเหมือนกัน) ตามจำนวน Dose ที่ระบุข้างขวด 1 หยด/น้ำ 10 ลิตร ตู้ของเรา 16 ลิตร ก็เลยใส่ไป 2 หยด ให้อาหารตามปกติ ซึ่งผมก็คิดว่ามันน่าจะดีขึ้น แต่กลับพบว่าผ่านไป 4 วัน นับตั้งแต่เห็นจุดขาว ก็รู้สึกว่าจุดขาวจะเยอะขึ้น และผมสังเกตที่กระจกตู้จะพบเหมือนถุงของเจ้าจุดขาว ที่เรียกว่า Cyst ติดเกาะกระจกอยู่จำนวนมาก แบบว่าเป็นถุงๆ เหมือนในรูปที่ผมใส่ Link อ้างอิงไว้เลย กะว่าจะถ่ายรูปมาอวดเพื่อนๆ แต่ตัวมันใสๆ และเล็กประมาณ 1 มม. เลยถ่ายไม่ติด ผมว่าผมก็ได้ศึกษาวิธีรักษาจุดขาวมาเยอะพอสมควร รู้สึกว่าจะมีหลายๆ สูตร ส่วนใหญ่ก็ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยว่าต้องใส่ยาอะไรในสัดส่วนเท่าไหร่ และแนะนำวงจรชีวิตของมัน ผมก็ลองรักษาตามที่ผมเข้าใจจากในทฤษฏีนั้นๆ ผมก็ไม่แน่ใจว่าวิธีการปฏิบัติรักษาข้างต้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน ขอคำแนะนำผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้ามากๆ ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ตู้ขนาดประมาณ 40x20x20 ซม. เลี้ยงปลาทองเล็ก 4 ตัว มีระบบกรองก้นทราย อุณหภูมิ 26 C
ข้อมูลเกี่ยวกับจุดขาวที่ได้ดูมา จริงๆ เยอะกว่านี้
http://www.ninekaow.com/wbs/view.php?sub=04&id=1350
http://www.ninekaow.com/wbs/view.php?sub=04&id=1311
http://www.e-aey.com/viewtopic.asp?GID=740
http://siamensis.org/article/a004.asp
http://www.thaireef.com/library/ich/ich.html

ความคิดเห็นที่ 1

sajja
sajja [2005-08-07 13:29:26]
รูปเจ้า Cyst ของโรคจุดขาวที่เกาะข้างๆ ตู้ (เดาเอาเองนะ) แต่คิดว่าน่าจะใช่ มันดูเหมือนในรูปที่เขาวาดเป็นวงจรชีวิตของโรคจุดขาว ขออภัยหากรูปไม่ค่อยชัด

ความคิดเห็นที่ 2

sajja
sajja [2005-08-07 13:31:32]
ตัวเก่าที่ตายไปเพราะโรคจุดขาว วิญญาณมันมาขอความช่วยเหลือเพื่อนๆ พี่ๆ

ความคิดเห็นที่ 3

sajja
sajja [2005-08-07 13:36:43]
ตู้ปลาที่เลี้ยงจ้า น้องๆ น่ารักๆ กำลังว่ายไปมาอย่างสนุกสนาน แต่กำลังเผชิญกับภัยมืดที่คลืบคลานมาอย่างน่ากลัว

ความคิดเห็นที่ 4

pas
pas (210.246.70.99) [2005-08-07 14:28:52]
วิธีรักษาของคุณไม่ถูกต้อง คุณต้องแยกปลาออกมารักษา
ต่างหาก (เพราะเชื้อโรคมันอยู่ในตู้ใต้กรวดทรายนั้นแหละ)
ส่วนตู้และวัดุที่อยู่ในตู้ทั้งหมดต้องเอามาล้างให้สะอาดแล้วแช่ด่างทับทิมชนิดเข้มข้นทิ้งไว้สัก2-3ชม. ล้างให้สะอาดอีกครั้งอย่าให้มีด่างทับทิมตกค้าง ตากแดดให้แห้ง ตามรูปเห็นมีต้นไม้อยู่ด้วยแนะนำให้ทิ้งไปเลย ถ้าจะเอาต้นไม้ใหม่มาลงควรแช่ด่างทับทิมอ่อนๆสัก 5 นาทีล้างให้สะอาด
ใช้น้ำยาล้างผัก-ผมไม้ได้ยิ่งดีก่อนเอาลงตู้

ความคิดเห็นที่ 5

dictator
dictator
19
[2005-08-07 17:31:29]
ใช่ทำตามที่คห4 บอกแหละเคยตกเลือดบ่อยๆ ปลาก็โดนแดดถ่ายน้ำบ่อยด้วย พอเอาต้นไม้น้ำออก และเอาด่างทับทิมแช่ทุกอย่างยกเว้นปลาเดี๋ยวตาย หลังจากนั้นก็ล้างน้ำจนสะอาดถึงค่อยเลี้ยงปลาใหม่ ก็หายไม่เป็นอีกเลย แนะนำว่าเวลาใส่น้ำใหม่ตอนเปลี่ยนน้ำค่อยๆเติมและติดฮีทเตอร์ไว้ด้วยอุณหภูมิได้ไม่เปลี่ยน แล้วก็ใส่เกลือเยอะหน่อยถ้าตู้24ซัก1.5กำมือได้ แล้วเติมซุปเปอร์อิ๊คก็คำนวณดีๆละกัน คอยถ่ายนำใส่ยาเดี๋ยวก้หาย

ความคิดเห็นที่ 6

fatfish47
fatfish47 (203.147.11.10) [2005-08-08 10:15:23]
ตามที่คุณ pas บอกเลยค่ะ
เอาใจช่วย..หายเร็วๆนะคะ

ความคิดเห็นที่ 7

sajja
sajja (202.28.250.235) [2005-08-08 21:28:33]
ขอบคุณทุกคนมากครับ วันนี้เปลี่ยนน้ำใหม่ให้ปลาแล้ว และได้ทำตามคำแนะนำของทุกท่าน เอาต้นไม้ออก เอาทรายออก ติดฮีตเตอร์เพิ่ม (32 C) พร้อมอัดอ๊อกเพิ่ม และมีปรอทไว้คอยวัดอุณหภูมิด้วย เรียกได้ว่างานนี้ทุ่มสุดตัว ใส่แบบ Full Option เลย นอกจากนี้ที่สำคัญก็พร้อมกับเปลี่ยนตู้ใหม่ด้วย ตู้ใหม่จริงๆ ซึ่งก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก เพราะตอนเอาไปล้าง ดันทำหลุดมือแตก เฮ้ย..เศร้า… นอกจากนี้แล้ว ผมก็ได้ตระเวนหายาวิเศษ Super Ich ทั่วเชียงใหม่ ตามที่เห็นหลายๆ คนแนะนำไว้ในเว็บบอร์ด ส่วนใหญ่จะเจอยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ แต่ในที่สุดเมื่อหาหลายๆ ร้านแล้วไม่เจอ ฝนก็ตกหนัก ผมจึงตัดสินใจที่จะลองกลับไปที่ร้านเดิม ซึ่งผมมักจะไปซื้อปลาที่ร้านนี้ (ร้านหลุยส์ ติด Lotus คำเที่ยง) รวมถึงเป็นร้านที่ผมเคยไปซื้อยามาแล้ว 2 ยี่ห้อ แต่ไม่เคยจะเห็น Super Ich ทั้งๆ ที่เป็นร้านใหญ่ ตอนแรกสุดผมหยิบยาเอาเองโดยใช้ยาที่เคยเห็นแม่ผมใส่ให้กลับปลาทองที่บ้านสมัยผมยังเป็นเด็กๆ ซึ่งก็เห็นว่าน่าจะใช้ได้ เพราะข้างขวดบอกว่าแก้โรคจุดขาวแล้วก็อีกเยอะแยะ แถมดูเหมือนจะมีหลายร้านขายอยู่ ชื่อขึ้นต้นด้วย Mala….. (ขอไม่บอกชื่อเต็มดีกว่า เดี๋ยวโดนฟ้อง เพราะอาจทำให้เพื่อนๆ ไม่ซื้อของเขาได้) พอใช้ไปๆ ก็ไม่เห็นหายสักที ผมก็เลยกลับไปปรึกษาคนที่ร้านอีกรอบ โดยบอกให้ทราบถึงอาการและผมก็บอกว่าน่าจะเป็นโรคจุดขาว จากนั้นเขาก็ไปหยิบยี่ห้อ Bio…… เนี้ยมาให้ บอกให้บีบใส่ทั้งหลอด เราก็ไม่เชื่อ เพราะดูจะให้ยาแรงไป แต่ผมก็ยังใส่ไปหลายหยดอยู่ จนขอบตู้ยังออกเขียวหน่อยๆ เลยครับ ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ ปลาซึมไปเรื่อยๆ ตายไปทีละตัวๆ จนหมดตู้เลย (4 ตัว) พอมาคราวนี้ ก็ลองใช้เจ้า Bio….. อีกรอบ ตามปริมาณยาระบุข้างขวด โดยเริ่มใช้ในขณะที่สังเกตเห็นโรคจุดขาวแต่เนิ่นๆ เพียงไม่กี่จุด ก็ปรากฏว่า 3-4 วันต่อมา อาการของจุดโรคขาวกลับขยายตัวมากขึ้น เหมือนยาไม่มีผลต่อเจ้าจุดขาวเลย จากเดิมที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ยอมให้ไอ่โรคจุดขาวที่แสนโหดเนี้ยมาฆ่าปลาผมเป็นรอบที่สอง ก็เลยทำทุกวิธีทางในการยับยั้งและแก้ไขมันให้ได้ ในที่สุดก็มาเจอยาที่ร้านเดิมคือร้านหลุยส์ คราวนี้ผมขอถามเฮียเจ้าของโดยตรง เขาก็บอกว่ามี ผมดีใจมาก แต่แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมตอนแรกไม่แนะนำ ก็เลยถามว่าคราวก่อนมีลูกน้องเฮียหยิบ Bio… ให้ เฮียก็บอกว่าไอ่อันที่เอาไป มันใช้ครอบจักรวาล เจอเจ้าจุดขาวจริงๆ เอาไม่อยู่หรอก ถ้าใช้ Super Ich เนี้ยถูกต้องแล้ว (ผมก็คิดว่า ถ้าได้มันมาตั้งแต่แรก ตู้แรกของผมก็คงจะไม่ตายเป็นแน่แท้) หลังจากได้ลองใช้ Super Ich แล้ว วันแรกหลังเปลี่ยนน้ำพร้อมหยด Super Ich 8 หยด/น้ำ 16 ลิตร ก็รู้สึกและสังเกตเห็นว่าปลาจะสดชื่นขึ้น เช้าวันที่สองก็รีบไปดูปลา ก็ยังเห็นสดชื่นเหมือนเดิม (ถอนหายใจทีหนึ่ง ปลายังอยู่ดีมีสุข ไม่เหมือนตู้เก่าที่แย่ลงๆ แล้วตายไปในที่สุด) เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ก็มีกำลังใจขึ้นหน่อย ตอนนี้ทั้ง 4 ตัวดูจะแข็งแรงมีความสุขดี ว่ายน้ำตลอด ขยันขออาหาร แต่ยังปรากฏจุดขาวๆ ที่หางอยู่เช่นเคย ก็หวังว่าหลังจากนี้ มันจะดีวันดีคืน

ความคิดเห็นที่ 8

sajja
sajja [2005-08-08 21:30:57]
ว้าว ตู้ใหม่ๆ ของใครเนี้ย สวยจังเลย

ความคิดเห็นที่ 9

kodomo
kodomo [2005-08-08 22:57:04]
ขอให้หายไวๆนะครับ แนะนำว่าใส่ยาสัก 2-3วัน ให่เปลี่ยนน้ำ ขัดล้างตู้ เปลี่ยนน้ำใหม่ แล้วใส่ยาตามเดิม เพื่อตัดวงจรชีวิตของ อิ๊ค และลดความหนาแน่นของเชื้อ แจ้งผลด้วยนะครับอยากรู้

ความคิดเห็นที่ 10

pas
pas (210.246.66.251) [2005-08-08 23:11:31]
ก็ขอให้หายไวๆครับ ตอนนี้ก็ถ่ายน้ำถี่หน่อยสัก 2 วันครั้ง
เห็นยังใช้แผ่นกรองใต้ทรายอยู่เอาออกเถอะครับ ตอนรักษานี่ควรให้ตู้โล่งๆหัวทรายกับฮีตเตอร์พอแล้วเชื่อโรคจะได้ไม่มีที่หลบ และถ้าปลาหายดีแล้วแนะนำให้เปลี่ยนระบบกรอง ส่วนแบบไหนนั้นก็ลองค้นกระทู้เก่าๆดู

ความคิดเห็นที่ 11

sajja
sajja [2005-08-12 00:39:18]
ตอนนี้ปลาผมดีขึ้นมากแล้วครับ จุดขาวๆ หายไปจากหางหมดแล้ว แต่ยังควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆ และกำลังใจจากทุกคนครับ ที่สำคัญ ต้องขอบคุณยาที่ชื่อ Super Ich ครับ ช่างเหมาะกับโรคจุดขาวจริงๆ ดังที่เคยเห็นๆ ในกระทู้ต่างๆ ครับ นี่ไม่ได้โฆษณาให้นะครับ แต่ว่าไปตามที่เราเจอจริงๆ

ความคิดเห็นที่ 12

sajja
sajja [2005-08-12 01:04:46]
17 ก.ค. ตู้ปลาผมขนาด 16 นิ้ว ใช้กรองใต้กรวด มีต้นไม้และทรายในตู้ ล้างตู้ทุกอาทิตย์ น้ำมีอุณหภูมิเฉลี่ย 26 C ให้อาหารเช้า เย็น และอาจมีรอบดึกอีกบ้างเป็นบางครั้ง เดิมมีปลาอยู่ 3 ตัว ร่างกายแข็งแรงดี เลี้ยงมาได้ 1 ปีเต็ม อ้วนท้วนสมบูรณ์น่ารัก แต่วันนี้นึกอยากจะได้สมาชิกใหม่เพิ่มอีก 1 ตัว เพราะสมาชิกเก่าตายไปตัวหนึ่งเมื่อประมาณเดือนก่อน ตอนไปเลือกซื้อปลา ก็เจอเจ้านี่แหละ เห็นน่ารักดี ตัวลายๆ และก็ดูจะสมบูรณ์ไม่เป็นโรค เพราะว่ายน้ำตลอด ดูดี ขณะเอามาปล่อยก็ทำการแช่ถุงปลาที่ซื้อมากับน้ำในตู้ เพื่อปรับอุณหภูมิ จากนั้นก็ไปเที่ยวเล่น ตามสูตรให้ครบ 15 นาทีเป็นอย่างน้อย เมื่อเวลาผ่านไป 30 นาที หลังกลับมา ก็ไม่รอช้าจับมันปล่อยลงร่วมกับเพื่อนๆ และน้ำในถุงปลาก็ทิ้งไป จากนั้นหยอดยายี่ห้อ Mala… ซึ่งมีตัวยามาลาไคท์กรีนกับมาทิลีนบูล จำนวน 6 หยด เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ แต่เหตุที่ผมไม่แยกกักโรคสำหรับปลาตัวใหม่ตามคำแนะนำในหนังสือ ก็เพราะไม่มีที่กักกัน คิดว่าร้านดูแลปลามาดี คิดว่าไม่สำคัญ คิดว่าคงไม่เป็นไร …

ความคิดเห็นที่ 13

sajja
sajja [2005-08-12 01:11:04]
22 ก.ค. (5 วัน หลังใส่ปลาใหม่) ล้างตู้ปลา ล้างทราย เปลี่ยนน้ำใหม่ หลังกลับจากบ้านที่ต่างจังหวัด

ความคิดเห็นที่ 14

sajja
sajja [2005-08-12 01:21:09]
24 ก.ค. เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของปลา ปกติกินข้าวเสร็จแล้ว ก็จะยังคงว่ายน้ำเล่น แถมยังจะทำท่าเหมือนไม่อิ่ม ขอกินข้าวเพิ่มอีกเรื่อยๆ แต่วันนี้แปลกไป หลังจากกินหรือเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็จะมีบางตัวเริ่มหลบตามหลังต้นไม้ และใช้เวลาส่วนใหญ่นอนนิ่งๆ อยู่ตามพื้นตู้

ความคิดเห็นที่ 15

sajja
sajja [2005-08-12 01:31:38]
25 ก.ค. (8 วัน หลังใส่ปลาใหม่) สังเกตเห็นปลาเริ่มเกิดจุดขาวๆ บนหาง ผมก็รู้ว่ามันคงเป็นโรคแน่ๆ จากนั้นผมก็ศึกษาหาข้อมูลบนเน็ต และเดาว่ามันคงจะเป็นโรคจุดขาว ซึ่งยาที่ผมมีอยู่ ก็บอกข้างขวดว่ารักษาโรคจุดขาวได้ ผมก็เลยเริ่มหยอดยารักษาทันที ข้างขวดเขียนไว้ว่า 6 หยด/น้ำ 1 แกลอน ซึ่งน้ำของผมประมาณ 3 แกลอน ก็เท่ากับ 18 หยด แต่ผมใส่ไปประมาณ 8 หยด เพราะแค่ใส่ไป 8 หยด น้ำทั้งตู้ก็เป็นสีฟ้าแล้ว ใส่เยอะก็กลัวปลาตาย

ความคิดเห็นที่ 16

sajja
sajja [2005-08-12 01:37:02]
26 ก.ค. (9 วัน หลังใส่ปลาใหม่) จุดขาวบนหางมากขึ้นเรื่อยๆ ปลาเริ่มมีเส้นเลือดแดงๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงปกติหางจะดูใสๆ แต่นี้จะออกขุ่นมากยิ่งขึ้น โทษที วันก่อนลืมไปว่าเปลี่ยนน้ำล้างตู้ด้วย วันนี้เปลี่ยนน้ำ 50% พร้อมหยอดยาอีก 8 หยด

ความคิดเห็นที่ 17

sajja
sajja [2005-08-12 02:20:53]
27 ก.ค. (10 วัน หลังใส่ปลาใหม่) จุดขาวบนหางมากขึ้นเรื่อยๆ แถมกระจายบนตัวปลาด้วย ปลาเริ่มมีเส้นเลือดแดงๆ มากยิ่งขึ้น แถมด้วยหางเริ่มเปื่อยขาดอีกต่างห่าง ช่วงนี้ปลาไม่สบาย ผมก็ไม่สบายใจด้วยเหมือนกัน ตื่นนอนก็รีบไปดูมันก่อนเลย เป็นห่วงมันมากๆ เพราะจากที่เห็นแต่ละวัน ทิศทางของอาการแต่ละตัวดูจะแย่ลงเรื่อยๆ พอตกสายๆ เย็นๆ ตัวแรกก็จากไป เป็นตัวที่ใหญ่สุด ขี้เล่นสุด รักมากที่สุด ……. เศร้า …… พอเห็นตัวแรกตาย ก็คิดว่าคงต้องเปลี่ยนยาดีกว่า เลยไปปรึกษาร้านขายปลา ร้านเขาก็บอกว่าเอานี่ไปเลย BIO… เป็นขวดแก้วทึบๆ แล้วมีจุกแบบที่ดูดยาหลอดแก้ว แล้วเขาก็บอกว่า บีบใส่ไปเต็มๆ หลอดเลยนะ ตอนนั้นในใจผมก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะอะไรจะให้ใส่เยอะขนาดนั้น ปลาคงจะต้องตายเพราะยาเยอะไปมากกว่าตายเพราะโรคแน่ๆ ยาเก่าที่ผมมี ผมคำนวณแล้วก็ควรจะหยด 18 หยด แต่ผมก็ไม่กล้าหยดตามนั้น บางทีผมก็ใส่ 8 บางทีก็แถมเป็น 10 บ้าง ดังที่ว่าเมื่อใส่เยอะเข้าๆ น้ำสีฟ้ายังไม่พอ สายยาง ขอบตู้ที่เป็นซิลิโคนเป็นสีฟ้าหมดเลย ทั้งๆ ที่ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหลังหยดยา น้ำก็ใสไม่เป็นสีฟ้าแล้ว วันนี้ได้ยามาใหม่ เห็นมีปลาตาย ผมก็เลยเปลี่ยนน้ำ 100% ล้างตู้ ล้างทราย แล้วหยดยาใหม่ ตามสูตรข้างขวด 1 หยด/10 ลิตร ตู้ผม 16 ลิตร ถ้าตามสูตรผมควรหยด 2 หยด แต่ร้านปลาบอกหมดหลอด อ่าว ! แล้วผมจะหยอดกี่หยดดี ? ก็เลยหยอดตามใจ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 5-6 หยด โอ้ๆ ลืมบอกไปว่าวันก่อน เริ่มมีแผนใหม่ เผื่อจะช่วยปลาได้บ้าง เพราะเห็นในเน็ตบอกว่าควรเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเป็นประมาณ 30 C และบอกว่าส่วนใหญ่ปลาจะเป็นโรคจุดขาวตอนอากาศเย็นๆ โดยเฉพาะช่วงหมดฝนเข้าหนาว หรือในห้องแอร์ ซึ่งตู้ปลาผมก็อยู่ในห้องแอร์ แต่ไม่ได้เปิดแอร์ทั้งวันนะ และก็ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้สัก 26-27 C ด้วย ดังนั้นส่วนใหญ่ก็น่าจะเฉลี่ยที่ 26-28 C แล้วทำไงเพิ่มอุณหภูมิละ ก็คงเหมือนไก่ไง ผมก็หาโคมอ่านหนังสือมาเปิดส่องให้เข้าตู้ปลาเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้น้ำ ฮาๆ ขำตัวเองเหมือนกัน ทำไปได้ ก็ทำไงละ ก็ไปร้านปลา ถามซื้อฮีตเตอร์เขาบอกว่าไม่ต้องหรอก แค่ยาก็น่าจะหายได้ ผมก็เลยต้องใช้เทคโนชาวบ้านอย่างที่ว่าไปก่อน แต่ผมก็พบในภายหลังจากในเน็ตว่าแสงที่จ้ามากๆ อาจจะยิ่งเพิ่มความเครียดให้กับปลาได้ ไม่น่าเลยเรา แต่เดี๋ยวก่อน ปกติตู้ปลาหรูๆ ก็จะมีหลอดไปข้างบนเหมือนกันหนิ แสงมันก็จ้าเหมือนกัน เอ๊ะ… เอาไงดีเนี้ย

ความคิดเห็นที่ 18

sajja
sajja [2005-08-12 02:28:39]
ให้เห็นจะจะ หางปลาตัวที่ตายตัวแรก หางที่เคยสวยงาม ถูกเชื้อโรคกัดกินไปวันละหน่อยๆ จนขาดวิ่นดังภาพ วันนี้ตี 2 แล้ว ไปนอนก่อนดีกว่า และขอตัวกลับบ้านไปหาแม่ก่อน วันนี้วันแม่ รอกันก่อนนะครับ แล้วอีก 2 วันจะมาเล่าต่อ

ความคิดเห็นที่ 19

kodomo
kodomo [2005-08-12 06:16:01]
ยามาลลาไคท์กรีนแบบผสมรวมหลายๆโรคเท่าที่เคยใช้ รักษาโรคเฉพาะได้ไม่ดี หรือไม่ได้ด้วยซ้ำครับ ถ้าเป็นจุดขาวควนใช้ Super ich แต่ต้น เพราะยิ่งเป็นมากจะยิ่งกำจัดยากครับ เพราะเมื่อเป็นมากครีบจะเริ่มเปื่อย จะเกิดโรคแซกซ้อนจาก แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งต้องใช้สูตรอื่นรักษาครับ

ความคิดเห็นที่ 20

sajja
sajja [2005-08-14 00:49:48]
28 ก.ค. (11 วัน หลังใส่ปลาใหม่) หลังจากวันก่อนที่ปลาตัวโปรดเป็นเหยื่อรายแรกของโรคจุดขาว วันๆ ผมก็เอาแต่หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโรคจุดขาวเพิ่มตลอด ไปกระทู้โน้น กระทู้นี้ เว็บโน้น เว็บนี้ ดูว่าจะมีแนวทางวิธีการรักษาอะไรใหม่ๆ เด็ดๆ บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีวิธีรักษาคล้ายๆ กัน สั้นๆ คือการใส่ยามาลาไคท์กรีนหรือฟอร์มาลีน นอกจากนี้หลังจากที่ปลาผมตายไป ผมก็เปลี่ยนน้ำเพื่อเอาเชื้อโรคทั้งหลายในน้ำเก่าทิ้งไป ล้างตู้อย่างดี ต้นไม้ล้างอย่างดี กรวดทรายก็แช่น้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นในตู้ซึ่งเป็นน้ำใหม่ก็ไม่น่ามีเชื้อโรคเหลืออยู่ หรือถ้าเหลือก็คงน้อยมาก หลังจากนั้นผมก็คอยแต่หวังว่ายาจะออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ตัวที่เหลืออยู่อาการดีขึ้น แต่ปรากฏว่าวันนี้อีกสามตัวที่เหลือดูจะแย่ลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบวันที่ผ่านๆ มากับวันหลังๆ ที่ได้เพิ่มอุณหภูมิให้กับน้ำ แทนที่การเพิ่มอุณหภูมิน้ำจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น กลับรู้สึกว่ามันยิ่งทำให้จุดขาวกระจายตัวและมีจำนวนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้มีอยู่สองตัวที่มีเลือดซึมออกตามร่างกายมากยิ่งขึ้น หางหายไปเกือบหมด ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ตัวสีทองก็ตายเพิ่มอีกหนึ่งตัว ตกเย็นเจ้าตันโจหัวแดงก็ไปอีกหนึ่งตัว รวมแล้ว 3 ตัว แต่ตัวที่เอามาใหม่ซึ่งเป็นตัวที่เอาเชื้อมาแพร่ในตู้ กลับเหลือรอดเป็นตัวสุดท้ายในตู้ แปลกจริงหนอ

ความคิดเห็นที่ 21

sajja
sajja [2005-08-14 00:50:41]
นี่เหยือรายที่ 3 ครับ

ความคิดเห็นที่ 22

sajja
sajja [2005-08-14 00:53:37]
29 ก.ค. (12 วัน หลังใส่ปลาใหม่) หลังจากที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับโรคจุดขาวมาหลายวัน วันนี้ตอนอวสานของเรื่องก็มาถึง ตัวสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ก็ไม่สามารถกัดฟันต่อสู้กับโรคต่อไปได้ เพราะจากเพียงจุดเล็กๆ ไม่กี่จุด ก็รุกลามแพร่ขยายมากยิ่งขึ้น เหมือนยาฆ่าเชื้อโรคไม่ทำงานและเชื้อโรคมันก็แพร่พันธุ์ได้ดีมาก โดยเฉพาะตัวนี้จะเห็นได้ชัดมากเลย กลายเป็นปุยขาวไปเลย แต่ไม่ใจว่ามันจะเป็นกลุ่มของไอ่พวกจุดขาวที่มารวมตัวกัน หรือเป็นเพราะมันติดเชื้อจนมีเชื้อรามาเกาะกลุ่ม หรือเป็นเมือกที่มันขับออกมากันแน่ อย่างไรก็ตามตัวนี้มันแปลกหน่อย ก็ตรงหางไม่เปื่อยเหมือนตัวอื่นๆ แถมยังแปลกตรงที่มันนอนแข็งตายติดอยู่กับต้นไม้ก้นตู้เลยครับ ซึ่งปกติตัวอื่นๆ จะลอยตาย แต่อย่างไรเสีย สุดท้ายก็ตายหมดตู้อยู่ดีครับ เฮ้ย เศร้าที่ซู้ด

ความคิดเห็นที่ 23

sajja
sajja [2005-08-14 00:56:59]
30 ก.ค. (เริ่มต้นวันใหม่) หลังจากที่ปลาตายหมดตู้ ก็ได้แต่ทำใจ และคิดว่าจะเริ่มต้นใหม่ โดยก่อนอื่นก็คิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะจัดการเจ้าเชื้อโรคร้ายไม่ให้มันกลับมาระบาดในตู้ใหม่ได้อีก เริ่มจากผมก็ทำการล้างตู้ด้วยน้ำยาล้างจานและคว่ำไว้ให้แห้ง 1 วัน ต้นไม้เอาทิ้งไปเลย กรวดทรายนำไปแช่ในน้ำร้อนแล้วคนๆ ให้ทั่วประมาณ 5 นาที แผ่นกรองและหัวพ่นน้ำก็นำไปล้างผ่านน้ำร้อนและก็ตากไว้ให้แห้งเช่นกัน หลังจากที่เมื่อวานทำความสะอาดตู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นกับชีวิตครอบครัวน้อยๆ ตัวใหม่ทั้งหลาย ก็ได้ไปเดินหาปลาจากร้านเดิมที่ผมมักไปประจำนั่นคือร้านหลุยส์ ข้างโลตัสคำเที่ยง เชียงใหม่ ก็ได้มาใหม่ 4 ตัวด้วยกัน น่ารักทั้งนั้น และยังซื้อต้นไม้มาใหม่กะให้พวกมันใช้เป็นที่พักผ่อน เป็นแหล่งอาหาร และที่ระบายอารมณ์ นอกจากนี้เมื่อใส่น้ำใหม่ปลาใหม่ก็หยอดยา BIO… ตามสูตรข้างขวด 1 หยด/น้ำ 10 ลิตร ตู้ของเรา 16 ลิตร เลยใส่ไป 2 หยด ทำเคร่งครัดตามเอกสารแป๊ะ ซึ่งดูเหมือนว่าตู้ใหม่นี้คงจะไปได้ดี

ความคิดเห็นที่ 24

sajja
sajja [2005-08-14 01:00:01]
31 ก.ค. - 3 ส.ค. ทุกอย่างดูราบรื่น ทุกตัวน่ารักมาก เจ้าทองตัวใหญ่ก็เอาแต่กินและกิน ไอ่เจ้าตัวที่เป็นลายแดงขาวอีกตัวหนึ่ง มันซ่ามากๆ ช่วงให้อาหาร ขณะที่ตัวอื่นกำลังเมามันกับการกินอาหาร มันจะชอบวิ่งไปไล่ตัวโน้นตัวนี้ บางทีก็ว่ายหนี บางทีก็สู้กัน หมุนตัวกันไปกันมา แล้วไอ่ตัวที่ถูกไล่บางทีก็จะต้องยอมคายอาหารเม็ดออกมา ฮ่าๆ เสร็จเจ้าตัวลายมัน ร้ายจริงๆ แต่ก็น่ารักดี ตัวที่เหลือก็อยู่อย่างสงบสุข

ความคิดเห็นที่ 25

sajja
sajja [2005-08-14 01:05:07]
4 ส.ค. (5 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) จากที่ผมคอยตรวจดูอาการของทุกๆ ตัวทุกๆ วัน ดูๆ ส่องๆ ดูเหมือนจะมีอะไรผิดปกติเริ่มเกิดขึ้นที่เจ้าทองตัวใหญ่เป็นตัวแรก มีอาการเป็นจุดใสๆ ที่หางประมาณ 5-6 จุด ดูเหมือนสิ่งที่ผมกังวลมาตลอดกำลังจะเป็นจริง มันกลับมาหลอกหลอนอีกแล้ว แน่นอนน่าจะการเริ่มต้นของไอ่เจ้าโรคจุดขาว มันต้องกลับมาเยือนอีกแล้วเป็นแน่แท้ ผมก็เลยรีบจัดการเปลี่ยนน้ำและล้างตู้ทันที ใส่ยา BIO… 2 หยด

ความคิดเห็นที่ 26

sajja
sajja [2005-08-14 01:08:48]
5 ส.ค. (6 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) ดูเหมือนจากจุดใสๆ เริ่มเป็นสีขาวขุ่นขึ้นและมีมากยิ่งขึ้น เจ้าตัวลายขาวแดงรู้สึกว่าก็จะเริ่มมีจุดใสๆ 2-3 จุดเช่นกัน นั่นเป็นทิศทางที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ ในวันนี้ผมทำการถ่ายน้ำ 50% ใส่ยา BIO… 2 หยดเพิ่มเติม

ความคิดเห็นที่ 27

sajja
sajja [2005-08-14 01:14:13]
6 ส.ค. (7 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) ดูเหมือนเจ้าทองตัวใหญ่จะมีจุดขาวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก หางจากที่ใสๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นขุ่นๆ แต่มันก็ยังว่ายน้ำเป็นปกติ เจ้าตัวลายขาวแดงรู้สึกว่าก็จะพัฒนาจากจุดใสๆ ก็กลายเป็นขาวขุ่นๆ 6-8 จุด ไอ่ทองอีกตัวหนึ่งถึงแม้จะไม่ปรากฏจุดขาว แต่ก็มีอาการที่แสดงถึงความผิดปกติที่น่าเป็นห่วงยิ่งไม่แพ้กัน คือมันเริ่มแอบหลังต้นไม้ สถานะการณ์ในวันนี้ดูเหมือนจะเป็นทิศทางที่แย่ลง และวันนี้ผมก็ทำการถ่ายน้ำ 50% ใส่ยา BIO… 2 หยดเพิ่มเติมเช่นเคย และภาวนาว่าวันถัดไปมันจะดีขึ้น

ความคิดเห็นที่ 28

sajja
sajja [2005-08-14 01:24:03]
7 ส.ค. (8 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) ภาพรวมเหมือนๆ วันก่อนๆ จุดขาวเยอะขึ้น หางขุ่นไม่ใส บางตัวเริ่มเห็นเลือดเป็นเส้นๆ บนหางมากยิ่งขึ้น สองตัวชอบหลบหลังต้นไม้ สถานะการณ์แย่มากๆ เรารู้ว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างคงจะต้องเสียปลาครอบครัวใหม่นี้ไปแน่ๆ จึงได้ลงมือโพสต์ปัญหาไว้ในเว็บบอร์ดกระทู้นี้ และหลังจากที่ตั้งกระทู้ไว้เสร็จ ก็ตั้งใจจะออกเดินทางไปหายา Super Ich ให้ได้ ดังที่กล่าวมาไว้ในความเห็นที่ 1 และต่อๆ มาแล้ว วันนี้จัดการเปลี่ยนน้ำ ล้างตู้ เปลี่ยนตู้ใหม่ ใส่ฮีตเตอร์ 32C แช่ทรายในน้ำร้อน ล้างต้นไม้ แล้วก็หยด Super Ich 8 หยด/น้ำ 16 ลิตร (สูตรข้างขวด 1 หยด/น้ำ 2 ลิตร)

ความคิดเห็นที่ 29

sajja
sajja [2005-08-14 01:29:32]
8 ส.ค. (9 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) ดูเหมือนว่า Super Ich จะเป็นยาวิเศษสำหรับโรคจุดขาวจริงๆ สถานะการณ์ไม่แย่ลงเหมือนที่ผ่านๆ มา ตัวที่เป็นจุดขาวก็ยังมีจุดขาวเหมือนเดิม หางขุ่นเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนจะไม่มากยิ่งขึ้น ตัวที่เคยหลบๆ หลังต้นไม้ ก็กลับมาว่ายน้ำดังเดิม กระปรี้กระเป่าเหมือนไม่ได้เป็นโรคอะไร ซึ่งตรงนี้ถึงแม้ว่าจะเห็นมีโรคจุดขาวอยู่ทั่วไป แต่ผมรู้สึกและคิดว่าสถานะการณ์ที่ปลามันกระปรี้กระเป่านี้น่าจะเป็นสถานะการณ์ที่ดีขึ้น ดีใจจัง … แต่ก็ยังกังวลอยู่ ….จากคำแนะนำของคุณ pas ที่บอกว่าให้เอาทรายและต้นไม้ออก ก็ทำให้ผมกังวลและกลัวว่ามันน่าจะเป็นที่พักอาศัยของโรคจุดขาวจริงดังที่คุณ pas ว่า ผมก็เลยรีบจัดการเปลี่ยนน้ำอีกรอบ ล้างตู้อีกรอบ จากที่กังวลและกลัวโรคจุดขาวมากๆ จึงล้างตู้ด้วยน้ำยาล้างจานซัลไล (เห็นเขาบอกว่ามันแรงและใช้แช่ฆ่าเชื้อโรคพวกเครื่องมือแพทย์ได้ มันก็น่าจะใช้ได้ผลกับเจ้าโรคจุดขาวด้วย แต่ไม่รู้นะว่าจริงไหม อย่าพึ่งเชื่อตามผม เพราะผมเป็นประเภทเทคโนชาวบ้าน ไม่ใช่มืออาชีพนะครับ อะแด๊บเอาเสียส่วนใหญ่) นอกจากใช้ซัลไลล้างตู้แล้ว ก็ยังใช้แช่พวกแผ่นกรอง ที่พ่นน้ำ สายยาง จุกยาง ฯลฯ แต่อย่างไรเสียผมก็ล้างน้ำแบบฉีดแรงๆ นานๆ ถูๆ พิถีพิถันหน่อย เพื่อไม่ให้ซัลไลตกค้างอยู่หรือตกค้างให้น้อยที่สุด กลัวเป็นอันตรายต่อปลาตัวน้อยๆ เช่นกัน จากนั้นก็ใส่น้ำประปาที่ใส่เกลือเม็ดไว้ด้วย 3 ช้อนชาและพักไว้ 1 วันเต็มจนเต็มตู้ เปิดกรอง เปิดอ๊อกหัวทราย จากนั้นก็ใส่ยา Super Ich 8 หยด ดูอาการปลา แล้วก็ให้อาหารตามปกติ

ความคิดเห็นที่ 30

sajja
sajja [2005-08-14 01:31:45]
9 ส.ค. (10 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) วันนี้ปลากระปรี้กระเป่าเหมือนเมื่อวาน สถานะการณ์ดูจะดีขึ้น หางใสขึ้นแต่ยังเห็นเป็นจุดขาวๆ อยู่ วันนี้ทำการเปลี่ยนน้ำ 50% ใส่ Super Ich 6 หยด แล้วก็ให้อาหารตามปกติ

ความคิดเห็นที่ 31

sajja
sajja [2005-08-14 01:33:48]
10 ส.ค. (11 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) วันนี้ปลากระปรี้กระเป่าเหมือนเมื่อวาน สถานะการณ์ดูจะดีขึ้น หางใสขึ้น และจุดขาวๆ ลดจำนวนลงเหลือเพียงไม่กี่จุด วันนี้ทำการเปลี่ยนน้ำ ล้างตู้ด้วยซัลไลและแช่อุปกรณ์ต่างๆ ด้วยซัลไลเช่นวันที่ 8 ส.ค. ใส่ Super Ich 8 หยด แล้วก็ให้อาหารตามปกติ

ความคิดเห็นที่ 32

sajja
sajja [2005-08-14 01:35:42]
11 ส.ค. (12 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ปลาทุกตัวกระปรี้กระเป่า ไม่เห็นจุดขาว ถึงแม้จะพยายามส่อง จะเพ่งยังไง ก็มองไม่เห็นมันเลย วันนี้ทำการเปลี่ยนน้ำ 50% ใส่ Super Ich 6 หยด แล้วก็ให้อาหารตามปกติ

ความคิดเห็นที่ 33

sajja
sajja [2005-08-14 01:43:06]
12 ส.ค. (13 วัน หลังเริ่มตู้ใหม่) วันนี้ทำการเปลี่ยนน้ำ 50% ใส่ Super Ich 6 หยด แล้วก็ให้อาหารตามปกติ นอกจากนี้กลางคืนวันที่ 11 ส.ค. และเข้าสู่วันที่ 12 ส.ค. หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดการโรคจุดขาว ก็กะว่าจะรวบความความเป็นไปและรายละเอียดต่างๆ ไว้ในเว็บ เพื่อจะถ่ายทอดความรู้ให้กับเพื่อนๆ มือใหม่ที่เป็นเหมือนผม ซึ่งผมเชื่อว่าข้อมูลนี้น่าจะช่วยให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลง ทิศทางการพัฒนา สถานะการณ์ และสามารถเข้าใจโรคจุดขาวมากยิ่งขึ้น เพื่อใช้สำหรับรักษาโรคจุดขาวให้กับน้องๆ ปลาที่น่ารักของทุกๆ คนต่อไป
ภาพประกอบนี้น่าจะเหมาะสุดสำหรับคนรักปลาทั้งหลาย ภาพจากปกของพี่มีมี่ คุณอนินทยา หนังสือลัคกี้ แอนด์ ไอ ปลาวุ่นๆ ป่วนหัวใจ หาซื้อได้แล้วตามร้านหนังสือทั่วไปจ้า หนังสือดีช่วยโฆษณาเสียหน่อย

ความคิดเห็นที่ 34

sajja
sajja [2005-08-14 03:01:36]
บทสรุปสำหรับการรักษาโรคจุดขาว
บทสรุปนี้ได้จากประสบการณ์ของผมนะครับ น่าจะเหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ เช่นเดียวกับผม หากผิดพลาดประการใด เซียนปลาทองทั้งหลายโปรดช่วยแนะนำด้วย
1) หากพบว่าปลาทองของท่านมีอาการซึม ชอบแอบอยู่ใต้ต้นไม้หรือซอกตู้ นอนนิ่งๆ อยู่ก้นทราย ไม่ค่อยสนใจจะกินอาหาร และที่สำคัญมีจุดใสๆ หรือจุดขาวๆ เริ่มปรากฏบนแผ่นหาง ให้รีบหาสาเหตุ ชนิดของโรค และวิธีการรักษาโดยด่วน หรือจะให้ดีก็พาไปหาสัตวแพทย์ครับ
2) ควรขนขวายหาความรู้เรื่องโรคจุดขาวให้มากโดยด่วน ตั้งแต่มันคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร วงจรชีวิตเป็นอย่างไร อาการ และการรักษาเป็นอย่างไร ซึ่งหาได้ตามเว็บใน link ที่ว่าไว้ด้านบน หรือ search จาก google หรือกระทู้ต่างๆ โดยใช้ key word ว่า โรคจุดขาว
3) เมื่อหาความรู้ได้แล้ว ควรกลั่นกรองและพิจารณาถึงข้อมูลที่ได้รับ จงอย่าเชื่อทั้งหมด โดยเฉพาะข้อมูลที่ได้จากคนขายปลาหรือร้านปลามากนัก เพราะบางร้านก็ใช่ว่าจะมีความรู้จริงในเรื่องนี้ และต่อให้เป็นร้านปลาใหญ่ๆ น่าเชื่อถือก็เถอะ อาจจะเจอลูกจ้างที่ไม่ได้เรื่องก็เป็นได้เช่นกัน เหมือนที่ผมได้รับยาและวิธีการใช้ยาที่ผิดๆ จากร้านขายปลามารักษาปลาของผมจนมันตายครับ
4) ยาที่ดีมีคุณภาพและเหมาะกับการรักษาโรคนั้นๆ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด ยาที่ข้างขวดเขียนไว้ครอบจักรวาลว่ารักษาได้สารพัดโรค อาจจะรักษาได้บ้าง แต่ผมว่ายามันไม่เข้มข้น ปริมาณยาไม่ชัดเจน และอาจส่งผลให้ไม่สามารถรักษาโรคได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร*** โดยเฉพาะโรคจุดขาวนี้ ผมคิดว่ายารักษาโรคจุดขาวเป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับแรกที่ต้องขนขวายหายาดีมาใช้ให้ได้ เพราะโรคจุดขาวมันขยายพันธุ์ได้เร็วมากๆ หากยาไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะไม่สามารถกำจัดเจ้าโปรโตซัวจุดขาวนี้ได้ ทั้งนี้หากเราเข้าใจวงจรชีวิตของโรคจุดขาวหรือเจ้าอี๊คนี้ มันจะมีวงจรชีวิตอยู่ 2 ช่วงหลักๆ คือ 1-อยู่ในตัวปลาเพื่อกัดกินเลือดเนื้อของปลาเป็นอาหาร 2-หลังจากอิ่มหมีพลีมันในตัวปลาแล้วมันก็จะออกจากตัวปลาเพื่อขยายพันธุ์ ซึ่งรายละเอียดอยู่ใน http://siamensis.org/article/a004.asp ตอนที่มันอยู่ในตัวปลาจะเห็นเป็นจุดขาวๆ ทำยังไงก็กำจัดมันไม่ได้ จนกว่ามันจะออกจากตัวปลามา ซึ่งเมื่อมันออกจากตัวปลามาเราก็จะสามารถกำจัดมันได้โดยยาที่เราใส่ลงไปนั่นเอง รวมถึงการเปลี่ยนน้ำเก่าทิ้ง ทำความสะอาดตู้และอุปกรณ์ด้วย ดังนั้นช่วงที่มันออกจากตัวปลาจึงต้องอาศัยยาที่ดีกำจัดมันนั่นเอง ซึ่งการที่ปลาตู้แรกของผมตายหมดและตู้ใหม่นี้ที่เกือบตายหมด ก็เพราะยาที่ผมใส่ช่วงแรกไม่สามารถฆ่าเจ้าอี๊คได้นั่นเอง มันก็เลยขยายพันธุ์ทวีคูณไปเรื่อยๆ จนปลาตายในที่สุด

ความคิดเห็นที่ 35

sajja
sajja [2005-08-14 03:02:01]
5) จากข้อ 4 การเพิ่มอุณหภูมิให้น้ำจะช่วยกระตุ้นให้วงจรชีวิตของเจ้าอี๊คมันเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นดาบสองคม 1-หากเราเร่งวงจรชีวิตมัน ก็จะทำให้มันออกจากตัวปลาเร็วขึ้น ขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น จำนวนอี๊คมากยิ่งขึ้น กลับเข้าตัวปลาเพื่อกัดกินเลือดเนื้อปลาเร็วยิ่งขึ้น ปลาอ่อนแอมากขึ้น ซ้ำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็ตายเร็วขึ้น 2-แต่ถ้าหากเราเร่งวงจรชีวิตมัน มันออกจากตัวปลาเร็วขึ้น เจอยาดีที่มีประสิทธิภาพ มันก็จะตายและหมดไปเร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง รวมถึงบางท่านบอกว่าการเพิ่มอุณหภูมิจะช่วยทำให้ปลาแข็งแรงขึ้น แต่ผมว่าถ้าไม่สามารถกำจัดเจ้าอี๊คได้ อุณหภูมิที่จะช่วยให้ปลาแข็งแรง ก็คงสู้เจ้าอี๊คที่มีมากกว่าไม่ได้แน่
6) การเปลี่ยนน้ำ หรืออุณหภูมิของน้ำ หรือสภาพของน้ำที่แตกต่างกันมากๆ อาจส่งผลให้ปลาช๊อกตายหรืออ่อนแอลงได้ ซึ่งตู้แรกที่ปลาผมตายหมดอาจมีบางส่วนที่ถึงแม้ว่าผมจะคาดว่าอุณหภูมิของน้ำจะไม่แตกต่างกัน แต่ผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญและสนใจสักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก ดังนั้นต่อไปในการักษาจะเห็นว่าผมใส่ใจเรื่องอุณหภูมิที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันของน้ำเก่าและใหม่ด้วย
7) ปลาต้องการน้ำที่สะอาด ปกติผมจะเปลี่ยนน้ำให้ปลาทุกอาทิตย์ เพราะผมใช้ระบบกรองแบบใต้กรวดและน้ำไม่มีการหมุนเวียนและบำบัดเลย จึงต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ แต่อยู่มาวันหนึ่งผมขี้เกียจล้างตู้ทุกอาทิตย์ ก็เลยเปลี่ยนน้ำ 50% อาทิตย์นี้ และก็กะว่าจะข้ามไปล้างตู้ในอาทิตย์ที่ 2 ซึ่งมันส่งผลเสียต่อปลาครับ สังเกตได้จากการมีเส้นเลือดที่หางมากยิ่งขึ้นและทำให้ปลาอ่อนแอลง ภูมิคุ้มกันก็อ่อนลงเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มันเป็นโรคจุดขาวนี้ได้ ทั้งนี้หลังจากนี้ไป ผมกะว่าจะเปลี่ยนเป็นระบบกรองบนตู้ครับ ลองดูรายละเอียดเกี่ยวกับความสำคัญของการกรองน้ำได้ที่ http://ranchushop.com/Board/comment.asp?webboard_id=3516
8) จากความผิดพลาดที่ผมปล่อยปลาใหม่ลงบ่อโดยไม่กักกันจนเป็นเหตุให้เกิดโรคระบาดจนมาถึงทุกวันนี้ ต่อไปผมจะกักกันปลาไว้อย่างน้อย 3 วันและใส่ยาฆ่าเชื้อให้กับปลาใหม่ทุกวันทั้ง 3 วัน ก่อนที่จะนำไปปล่อยรวมกับปลาเก่า

ความคิดเห็นที่ 36

sajja
sajja [2005-08-14 03:03:39]
9) สูตรที่ผมใช้รักษาแล้วปลาหายป่วย และคงจะใช้ต่อไปในอนาคต คือ
9.1 ใช้ยา Super Ich*** 1 หยด/น้ำ 2 ลิตร ทุกวันจนกว่าปลาจะหาย และใส่ย้ำอีกทุกอาทิตย์หรือใส่ตอนเปลี่ยนน้ำ เพราะวงจรชีวิตของเจ้าอี๊คนี้ยาวถึงประมาณ 12-16 วัน ซึ่งมันอาจจะกลับมาใหม่ได้อีก
9.2 รักษาความสะอาดของน้ำและลดปริมาณของเจ้าอี๊คโดยการเปลี่ยนน้ำหรือล้างตู้และอุปกรณ์ทั้งหมดในตู้ตามที่ว่าไว้ในกระทู้ ทำตู้ให้โล่งที่สุดเท่าที่จะโล่งได้ อย่าให้มีต้นไม้หรือกระถาง อุปกรณ์ประกอบที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะหินและทราย เพราะจะเป็นที่เกาะอาศัยของเจ้าอี๊คที่ออกจากตัวปลามาขยายพันธุ์
9.3 ใส่อ๊อกหัวทราย เพื่อช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำให้กับปลา ปลาจะได้แข็งแรง
9.4 มีถังซึ่งพักน้ำประปาไว้ 1 วันและใส่เกลือไว้ 2-3 ช้อนชา/น้ำ 10 ลิตร และเมื่อจะย้ายปลาใส่น้ำใหม่หรือถ่ายน้ำ จะพยายามทำให้น้ำมีอุณหภูมิใกล้เคียงกันมากที่สุด (ผมใช้น้ำในกาต้มน้ำร้อนผสมเพิ่ม เพื่อเพิ่มอุณหภูมิ)
9.5 ใส่ฮีตเตอร์ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 30C

ความคิดเห็นที่ 37

golfac
golfac [2005-08-14 12:04:04]
โห เท่าที่เห็นภาพนี่ น่ากัวมากๆเลยนะคับเนี่ย

ความคิดเห็นที่ 38

poonaldo
poonaldo (58.136.74.205) [2005-08-14 12:12:10]
เป็นประโยชน์มากๆครับ

ความคิดเห็นที่ 39

cat
cat
362
[2005-08-15 09:49:17]
อากาศที่เชียงใหม่ ค่อนข้างแกว่งมาก กลางคืนหนาวจัด กลางวันร้อน ปลาจะเป็นจุดขาวได้ง่าย รักษาความสะอาดของน้ำ กะ ใช้ ฮีตเตอร์ ดีที่สุดครับ

ความคิดเห็นที่ 40

Nick
Nick (61.91.254.170) [2005-08-22 20:17:26]
ขอบคุณมากครับ สำหรับการรักษาโรคจุดขาว ของผมก็ตายไปหลายสิบตัว ด้วยสาเหตุให้ไรทะเลโดยไม่ได้ล้างหรือแช่ด่างทับทิมก่อน รักษาเท่าไร ก็ตายเท่านั้น เป็นอย่างเดียวกับที่คุณเล่าไว้ ยาขวด ๆ ที่มีขายนั้น ผมเองก็ชักไม่แน่ใจว่ามีแต่สีหรือเปล่า ไม่ได้ผลเลย ที่ กทม.ยา Super Ich หาได้ไม่ยาก ผมจะหาเก็บไว้ครับ เพราะยังไม่เข็ด เริ่มเลี้ยงอีกแล้ว แฮ่ะ ๆ

ความคิดเห็นที่ 41

simmon
simmon (192.168.1.240) [2005-10-10 20:41:56]
จุดขาวร้ายจริงๆ
ลูกปลาทองประมาณ 3 สัปดาห์ตายเรียบเลย อือๆช่วงนี้สอบเลยไม่ค่อยได้กลับบ้าน น้องปลาน้อยตายเรียบเลย แง้อุตสาห์ป้อนไรมา
เด๋วทำใจก่อน แล้วจากเพาะใหม่

ความคิดเห็นที่ 42

แอม
แอม (58.10.219.240) [2005-12-21 14:42:49]
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ เพราะมีปัญหาเหมือนกัน
จะรีบกลับไปรักษาลูกๆก่อนที่จะตายไปก่อน
ขอขอบคุณที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์มากกๆค่ะ

ความคิดเห็นที่ 43

kopipe
kopipe [2007-09-06 20:41:28]
เป็นกระทู้ที่ยอดเยี่ยมครับ
ถือว่านำประสบการณืมาใช่แบบมีประโยชน์
ผมเองกำลังเจอปัญหานี้เหมือนกัน
รักษาไม่หายซะที 2-3 อาทิตแล้ว
จาก 9 ตัวเหลืออยู่ 5 แต่ผมก็ใช่ super ich นะ
แต่ไงก็จะลองอีกที
ขอบคุณมากๆครับสำหรับประสบการณ์

ความคิดเห็นที่ 44

sajja
sajja [2007-09-10 22:02:50]
ขอกลับมาสรุปอีกรอบหลังจากมีประสบการณ์ผ่านมา 2 ปี
ซึ่งผมพบว่าปัญหาต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นนั้น ก็เพราะ
ความอ่อนประสบการณ์ของผม ขาดความเข้าใจเรื่องธรรมชาติ
ไม่เข้าใจน้ำ ไม่เข้าใจปลา ไม่เข้าใจความสำคัญของคำว่า
"ระบบนิเวศ" และสิ่งที่ได้ทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
นอกจากคอยตามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างเดียว

วันนี้จึงขอมาสรุปว่าทั้งหลายทั้งปวงจะไม่เกิดขึ้น ถ้าปลาสุขภาพแข็งแรง
น้ำต้องสะอาดมาอันดับ 1 ไม่ใช่แค่เห็นว่าใสๆ เท่านั้น ของเสียต้องน้อยด้วย
ระบบกรองต้องดีเหมาะสมกับจำนวนของเสียจากปลา (ขี้)
ปลาเยอะได้ถ้าปลาตัวเล็กหรือขี้น้อย แต่สำหรับปลาทองขี้เยอะแน่นอนครับ
ตู้เล็ก ปลาเยอะ ขี้เยอะ มีแต่ป่วยกับตายเท่านั้น รักษาเก่งยังไง
ใช้ยาดีแค่ไหน 3 วันดี 4 วันไข้ เดี๋ยวก็ตาย

สรุป คือ ปัจจัย 4 เหมือนคนครับ
1) ที่อยู่อาศัย : น้ำสะอาด ปริมาณเหมาะกับปลา และกรองดีมีคุณภาพ
ทั้งนี้ผมว่าปัจจัยนี้สำคัญที่สุด
2) อาหาร : ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน
3) เครื่องนุ่งห่ม : อุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป และไม่แกว่ง
4) ยารักษาโรค : เมื่อป่วย ได้ยาดีและถูกกับโรค

สุดท้ายสำคัญที่สุดของที่สุด เหมือนพระเจ้าของปลา
เป็นผู้กำหนดชี้เป็นชี้ตายให้กับปลาเหล่านั้น ก็คือ...
ความรู้ของผู้เลี้ยงมันนั่นเองว่าจะเจ๋งหรือเจ้งแค่ไหน?

ปล. ตอนนี้ผมเลิกเลี้ยงปลาทองไปแล้ว เนื่องจากตู้มันเล็กไปหน่อย
ขนาดเลี้ยงแค่ตัวเดียว สักพักก็ตกเลือดๆ ซึ่งเกิดจากน้ำไม่สะอาด
เพราะปลาทองขี้เยอะ นับวันพอมันโตมากขึ้น ก็กินเยอะ ขี้เยอะ น้ำเลยเสีย
น้ำเสีย สักพักปลาก็อ่อนแอ โรคก็ตามมา รวมถึงจุดขาวด้วยครับ
เนื่องจากผมพักหอพัก เลยยังไม่อยากมีตู้ใหญ่ รอให้ลงตัว รับรองตู้งอกแน่
ตอนนี้หันมาเลี้ยงพวกนีออน ม้าลาย น้ำผึ้ง และปลูกไม้น้ำแทน

จบการรายงาน
THE END

ความคิดเห็นที่ 45

bowclub
bowclub [2007-09-26 12:54:52]
กลับมาเลี้ยงปลาทองเมื่อไรบอกกล่าวกันได้นะครับ อ่านบทความนี้แล้วได้ความรู้ในการดูแลปลาทองมากขึ้นเยอะเลย เนื้อหาละเอียดมาก

ความคิดเห็นที่ 46

sajja
sajja [2007-09-27 11:06:20]
แนวทางการรักษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยคุณหมอ RoF
http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board2&topic=351&action=view

ความคิดเห็นที่ 47

princess4
princess4 [2008-08-03 22:25:55]
ข้อมูลดีจริงๆๆ

ชื่นชมครับๆๆ
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ