ตอบข้อที่1น้ะครับ พยายามให้น้ำท่วมกรองเข้าไว้ครับ เปรียนสัก20%ต่อวันหรือวันเว้นวันก็ดีครับ

ตอบข้อที่2 ถ้าปกติตู้ที่ยังไม่เซ้ตจะมีฟองอากาศลองสังเกตดูครับ จาเป็นฝอยๆๆๆอยู่ในน้ำ ถ้าเริ่มไหม่ก็ซ์อจุรินทรีเข้มข้นมาไส่เร่งก็ดีครับประมาณ 2อาทิต ถึง 1เดือนก็เซตและครับ ถ้ามันเซตเรียบร้อยแล้วก็จะมีข้อสังเกตที่ง่ายๆครับ น้ำจะใสเห็นได้ชัด (หรืออีกวิธีวิธีนี้เคยโดนอยู่ มือเป็นแผลอะครับตอนจับปลาดันเอามือลงน้ำ จะคร้ายๆไฟรั่วอะครับ-*-จุรินทรีมันทำปะติกิริยากะแผล-*-อันนี้โดนเองน้ะครับ)

ตอบข้อ3ครับ เซรามิคริงอะครับ ใช้ได้ เวลาเซตระบบกรองอยากไห้เอาวัสดุกรองไส่ถุงอะครับมันจะล้างง่ายกว่าที่จะไส่ไปโดยตรงเวลาล้างก็ล้านในตู้หละครับแล้วดูดขี้ทิ้ง จิรินทรีก็จะอยู่ในตู้ไม่ไปไหนอะครับแต่จะเริ่มเซตระบบไวกว่าครั้งแรกประมาณ1เท่าตัว
มีความรู้เท่านี้หละครับ ที่เหลือผิดพลาดประกาณได ต้องขอคำชี้แนะจากพี่ๆด้วยครับ ขอบคุนครับ

ตามด้านบนว่าเลยคับ

ขอบคุณครับคุณbirdtero

ตอบข้อ 2 ครับ

การดูว่าจุลินทรีย์เซ็ตตัวแล้วหรือยังนั้น นอกจากการวัดคุณภาพน้ำ ถ้าดูด้วยตาเปล่าก็สังเกตุตะกอนฝุ่นสีน้ำตาลในกรองครับ เป็นตัวบอกได้ ถ้าเริ่มเกิดขึ้นก็แสดงว่ามีแบคทีเรียเข้ามาแล้ว ถ้าเริ่มเยอะก็ดูดทิ้งบ้าง

เรื่องฟองละเอียดๆนั่นเพราะน้ำมีความหนืดสูงขึ้นหรือน้ำเก่าครับ อาจจะเกี่ยวข้องกับการเข้าสู่จุดสมดุลของระบบกรองหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจครับ

แต่เรื่องแบคทีเรียทำปฏิกริยากับแผลเมื่อเอามือจุ่มน้ำตามที่บอก ไม่น่าจะใช่ครับ ผมว่าไฟดูดมากกว่า

แบคทีเรียในน้ำใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการทำงานย่อยแอมโมเนีย 1 โมเลกุลต่อแบคทีเรีย 1 ตัว (ผลกาศึกษาเทียบย้อนจากการนับ โคโลนี) ใช้เวลาประมาณ 5-10 วินาทีในการเกาะจับวัตถุ อันนี้บอกเล่นๆ


แต่ที่บอกจริงๆคือ แผล (สด) ของคนจะมี antibody สารต่อต้านเชื้อโรค เม็ดเลือดขาว จำนวนมากอยู่ ลำพังการจุ่มมือในน้ำแค่ไม่กี่นาทียังไม่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงครับ

http://www.aqua-medical.com