เท่าที่ดู มีคำถามสีข้อใช่ไหมอ่ะครับ
1.ปลาไม่เหนื่อยหรอกครับ มันปรับตัวได้ ดีซะอีกจะได้น้ำสะอาดอยู่ตลอด จริงๆก็ควรจะมีอยู่แล้วด้วยนะ เพราะปลาทองกินเก่งขี้เยอะ น้ำขุ่นไว
2.โดนแดดดีไหม ถ้าซื้อตู้หรอ บางคนก็ไม่ได้ตั้งให้โดนนะ (แต่ปลาทองโดนแดด รำไรตอนเช้าถึงสายๆ จะทำให้สีสดใสดี) สรุปคือจะโดนก้ได้ ไม่โดนก้ได้ครับ
3.ปลาตัวเล็กๆหรอ 36* ก็ได้นะครับ แต่ถ้ามันโตๆ รอดไปทั้งหมด 7 ตัวนะ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนตู้ครับ แต่ตอนนี้ 36* ก็ได้ พอไหวๆ
4.ไม่มีปัญหาเรยครับถ้าชอบแบบนี้ก็ได้ครับ

*ส่วนตู้ปลาหรืออ่างบัว นะครับ แล้วแต่คนชอบอ่ะครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบอ่างบัวนะ น้ำมันขุ่นๆ
ที่บ้านเลี้ยงในบ่อปูน ตะไคร้ขึ้นสีเขียวๆน้ำใสๆ สวยๆ ฮ่าๆๆ

สนับสนุนตามความคิดเห็นที่ 1 ครับ

ครับตู้ปลาเลยครับ

1.สามารถมองดูปลาได้ทุกมุมมอง ชมความสวยสดงดงาม และน่ารัก ของปลาได้เต็มที่และดีที่สุด มีตู้ปลาในห้องรับแ ข ก ห้องนั่งเล่น อื่นๆ ช่วยผ่อนคลายสายตา ดูร่มเย็นร่มรื่น ชมความสวยงามของปลา

2.ตู้ปลาซื้อมาแล้วอยู่ได้นานมากเลยครับ หมายถึง ถ้าเราดูแลมันดีดีไวในที่เหมาะสมโดยแดดมันก็ทนครับ ที่สำคัญถ้าชำรุดร้านขายปลาทุกร้านก็มีบริหารซ้อมอยู่แล้ว แต่ตู้ปลาทนครับ ไม่เสียหายง่ายๆ แน่นอน

3.เมื่อเปรียบเทียบกับอ่างบัว ซึ่งทำจาก ปูนหรือหินนั้นเอง เช่น อ่างที่ปลาผม อ่างบัวลายมังกร รอบอ้าง ใบ ละ 1300 บาทรัศมี 1 เมตรกว่าๆ ประมาณ 1.5 เมตรครับ ผมปลูกบัวอยู่กลางแจ้งเลย 5 ใบ นกก็ชอบลงมากินน้ำเกาะที่ขอบอ่างกินน้ำไปทำใบบัวฉีกขาดไปด้วย แถมยังถ่ายมูลใส่ขอบอ่างปลาอีก เปื้อนไปหมดเลยครับ ยังนำพาเชื้อโรคอีก

4.ตู้ปลามันมีฝาตู้ครับ ปิด ตลอด มีช่องระบายอากาศเปิดปิดได้ตามใจชอบ ดีกว่าครับ ตัว ไม่ พึ่งประสงค์ ก็ไม่สามารถมารบกวนได้ ป้องกันได้

5.เลี้ยงปลาทองเป็นปลาสวยงามครับ สังเกตเลยมีร้านขายปลาที่ไหนโชวปลาทองในอ่างบัวไม่มีครับ

6.ปลาทอง จะอยู่ในตู้ปลาโดยส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ ดูตามร้านขายปลา บ้านคนจีนที่นิยมตั้งตู้ปลาหน้าบ้านเลี้ยงปลาเงินปลาทองตามหวงจุ้ย ก็ตู้ปลาสี่เหลี่ยมพื้นผ้าทั้งนั้นเลยครับ

7.ตู้ปลามีความสามารถพิเศษหลายๆด้าน ยกตัวอย่างเช่น โชว์ความสวยงามของเราให้ผู้อื่นได้ ชื่นชม ในระยะไกลไกล หรือ ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้ ชัดเชน ไม่เหมือนอ่างบัวครับ

8.อ่างบัวถ้าเราอยากจะไปชมปลาสวยงามของเราดูน้องปลาทองว่ายไปมาก็ต้อง ยื้นหน้า เข้าไปดูในอ่างบัวเท่านั้น มองได้แค่มุมๆ เดียว ครับไม่ คือเลย อ่างบัวไว้ปลูก บัว + เลี้ยงปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาม้าลาย ปลาบอลลูน พอครับ

9.ผมเชื่อว่าหลายๆท่านก็สนับสนุนตู้ปลาอย่างแน่นอน 7 หมื่น ล้าน % เทคะแนนให้ตู้ปลาครับ

10.ตู้ปลาแต่ละขนาดจะซื้อขนาดไหนดี ผมคิดว่าไม่ต้องไปดูจำนวนปลาและขนาดปลาเลยครับเพราะปลามีน้อยซื้อเพิ่มได้ ตัวเล็กอยู่ เลี้ยงให้โตได้ครับ เพราะถ้าดูแค่นี้สมมุติ น้องปลาทองคุณตัวเล็ก ขนาด 1 นิ้ว อยู่ 8 ตัว จึงตัดสินใจเลือกตู้ 24 หรือ 36 มาลงซื้อมาแล้วเปลี่ยนไม่ได้น่ะครับ พอเลี้ยงปลาไปปลาโตขึ้นจาก 1 นิ้ว เป็น 4-5 นิ้ว ทั้ง 8 ตัวเอาละตู้แคบไป หรือถ้าคุณ ไปเจอปลาทองสวยๆน่ารักๆ อีกอยากซื้อมาเลี้ยงเพิ่มเติม ตู้มันก็แคบไป สิ่งสำคัญคือ

ต้องดูกำลังทรัพย์เรา + พื้นที่ๆจะสามารถวางตู้ปลาได้ ดู 2 อย่างเป็นพอครับ

ถ้ามีพื้นที่พอว่างตู้ปลาขนาดไหนได้เอา ใหญ่ๆ ไปเลยครับเช่น มีพื้นที่ติดผนังห้องว่าง 2 เมตร ซื้อตู้ปลา 48 นิ้วไปเลยครับ เพื่อรองรับอนาคตปลาทองตัวใหญ่ๆจะได้ไม่แออัดครับลงได้พอดีเลยครับ

ตู้ปลาใบใหญ่ๆก็ดูดีครับ

พื้นที่กว้างด้วยดูแลระบบน้ำดีดี

ระบบกรองก็มีให้เลือกหลายแบบครับระบบกรองดีน้ำก็สะอาดเสมอ

การเปลี่ยนถ่ายน้ำแล้วแต่เราสะดวกเลย และแล้วแต่คุณภาพน้ำด้วย

11. ตู้ปลา มีให้เลือกหลายชนิดครับ

1) ตู้ปลาธรรมดาๆ ตู้ปลาขอบอะคีลิค
2) ตู้ปลาเฟอร์นิเจอร์แล้วแต่จะพิจารณา ซื้อตัวไหน ขนาด เท่าไหร่

12.ระบบกรองในตู้ปลามีให้เลือกหลายระบบมากมายครับ

อาจพูดได้สบายๆเลยครับระบบกรองทุกชนิดสามารถใช้ในตู้ปลาได้หมดครับ

กรองบนตู้
กรองในตู้
กรองมุมตู้
กรองใต้ตู้
กรองก้นตู้
กรองข้างตู้
กรองติดตู้
กรองแขวน
กรองพื้นตู้
กรองนอก
ตู้กรองถังนอกตู้
บ่อกรองนอกตู้


สามารถประยุกต์ใช้ได้หมดเลยครับอุปกรณ์กรองอื่นๆ

แบบพอเพียงกรองฟองน้ำ เป้นต่อเสียบต่อกับสายปั้มลม เป็นกรองที่ประหยัดไฟที่สุด ใช้เพียงปั้มลมเครื่องช่วย ออกซิเจนเท่านั้น ก็เพิ่มออกซิเจนในน้ำได้ตามปกติ เพียงเสียบต่อกับกรองฟองน้ำแทนการเสียบสายลมกับหัวทรายสุดยอดแห่งตู้ ครับ อิอิ ขอให้ คุณโชคดีครับ และมีความสุขกับ ตการเลี้ยงปลาครับ

ตู้ปลาที่นิยมซื้อกันส่วนใหญ่ก็ ตู้ปลาขอบอะคลีลิค

ราคา ตู้ปลา ขาตั้งตู้ ฝาตู้ พร้อมตู้กรอง ครบชุด

24 นิ้ว 1,700 - 2,000 บาท
30 นิ้ว 2,650 - 3,200 บาท
36 นิ้ว 3,000 - 3,600 บาท
42 นิ้ว 3,400 - 3,700 บาท
48 นิ้ว 4,350 - 4,700 บาท

ราคาโดยประมาณน่ะครับก็ราคาราวๆนี้ละครับ

สมมุติ คุณ ตั้งตู้ปลาอยู่หน้าบ้าน เลี้ยงปลาทองอัดสวยงามแสนจะน่ารัก + อวบจัง อยู่ในตู้ปลา

ของคุณ ผมขับรถผ่านหน้าบ้านของ คุณ ผมก็ได้ ชื่นชม ปลาทองอันสวยงามของคุณ เช่นกัน ถึง

แม้จะเป็น เวลาไม่กี่วินาทีที่ขับรถผ่านหน้าบ้านคุณก็ตาม

ผมขอเสนอเลี้ยงในอ่างครับ สำหรับผมนะครับ
1. ถ่ายน้ำง่าย ไม่เลอะเทอะ ถ้าทำระบบน้ำเข้า น้ำทิ้ง ไว้เรียบร้อยแล้ว
2. ถ้าขี้เกียจอย่างผม ผมก็ทำระบบน้ำหยดไว้ ไม่ต้องยุ่งยากเปลี่ยนน้ำทุก x วัน ครั้งละ x% เดือนนึงก็ล้างกรองสักครั้ง

3. ที่กล่าวมาทั้ง 2 ข้อ ผมเคยเลี้ยงในตู้ แต่ไม่เคยไปรอดสักครั้ง ไม่เกิน 3 วันคราบเมือกเต็มตู้ ต้องมาขัดทุกวัน ๆ ผมเป็นคนมือถี่ไปหน่อย ชอยให้อาหารหลายมื้อ อึปลาเลยลอยเต็มตู้ จนทนไม่ไหว เอาปลาไปล่อยในกะละมังทุกครั้งเลย ( พยายามเอาใส่ตู้หลายครั้งแล้ว)

ตามความคิดเห็นที่ 6 ใช่เลยครับ

ตู้ปลามันทำความสะอาดยากมากๆ ต้องระมัดระวังกระจกด้วย ฝาดโดนมันที ก็มีเสียว เหอๆ

เลี้ยงในอ่างสะดวกสบายที่สุดครับ เพราะ อ่างปลาถ้าทำเองด้วยแล้วเซตระบบน้ำเข้า ออก ระบบกรอง ระบบต่างๆ หมุนเวียนแล้วแต่เราต้องการได้สบายๆเลย มันสะดวก สบาย กว่า เยอะเลย ถ้าเป็นอ่างที่ทำเองน่ะ

เช่น อ่างมีระบบน้ำล้น น้ำทิ้ง กันน้ำท่วมอ่าง น้ำเกิณระดับที่กำหนด ตู้ปลาไม่มีครับ

อ่างที่ซื้อมาก็ได้ครับแล้วแต่สะดวก แต่อ่างปลาจะมีน้ำหนักมากหน่อย ต้องหาคนช่วยยกครับ

ส่วนอ่างที่ทำขึ้นเองมันก็ย้ายไปไหนไม่ได้ เพราะฉนั้นหาที่เหมาะๆ ลงไปเลย

ส่วนตู้ปลามันย้ายไปไหนมาไหนก็ได้ครับแล้วแต่สะดวกชอบแบบไหน น่ะ

ถ้าเป็นอ่างปลาทำเองแจ่มสุดๆครับ หาดูแบบได้ตามฟาร์มเลย

กะละมัง ศก 80 ซ.ม. ถังกรอง 20 ลิตร ปั๊มน้ำ 600 L/Hr
ปลา 2 ตัว
เอาลงได้ 4-5 วัน

ความคิดเห็นที่8..น่ารักดีครับ55..