***โทษทีครับ รู้สึกจะตู้ 36'' กรองมุมที่อยู่ตรงมุมตู้ด้านหลังขวา มีที่พ่นน้ำ พ่นฟองอากาศฟู่ๆ ออกมาน่ะครับ

อีกคำถามครับ ไอ้ฟองอากาศที่พ่นออกมามันมีส่วนทำให้น้ำดูไม่ใส่ใช่ไหมครับ มันจะมีฟองอากาศเล็กๆลอยเยอะแยะในน้ำ ผมเลยไม่เสียบสาย ใช้หัวอ๊อกกลมๆ แยกต่างหากเลย หรือว่าให้พ่นแบบเดิมดีกว่าครับ ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 1 ต้องเข้าใจหน้าที่ของสิ่งที่คุณพูดมาก่อนนะครับ หินพัมมิส[หินภูเขาไฟ] เซรามิคริง ไบโอบอล คือสับเสตรท ซึ่งมีหน้าที่ เป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียดี เพื่อ ย่อยขี้ปลาและเศษต่างๆ แต่ปัจจุบัน ไบโอบอลไม่มีความสามารถในการเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียได้แล้ว ที่นิยมและถูกคือหินพัมมิส อายุการใช้งานนาน แต่ เซรามิคริง จะเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียได้ ต้องเป็นของแท้ซึ่งจะมีรูทั่วทั้งอัน ของปลอมจะผิวเรียบๆ ซึ่งมันมีราคาแพง

ส่วนการวางนั้น มักจะเป็น ชั้น ที่ 1 ใยหยาบ 2 ใยแก้ว 3 สับเสตรท
ส่วนการวางแบบนี้เพื่อ ชั้นที่1 จะกรองเศษต่างๆ ที่มีชิ้นใหญ่เช่นขี้ปลา
และเมื่อรวมกันมากๆ คุณจะสามารถนำออกไปทิ้งได้ จะได้ไม่เปลืองใยแก้ว
ชั้นที่2 ใยแก้ว คือการกรองแบบละเอียดลงมา จับเศษที่มีขนาดเล็กมาก
ชั้นที่3 สับเสตรท จะเป็นชั้นที่ต้องท่วมน้ำตลอดเวลา เพื่อให้แบคทีเรียที่อยู่
ภายในรูของวัสดุสับเสตรทไม่ตาย และมันจะคอยย่อยสิ่งต่างๆ
การที่จะมีแบคทีเรียได้นั้น ก็เพียงแค่ปล่อยให้น้ำท่วมสับเสตรทไว้ ไม่นาน
ก็จะมีแบคทีเรียในสับเสตรทเอง

และที่คุณถามว่าจะวางอะไรในชั้นสุดท้ายนั้น ก็คือต้องวางสับเสตรทไว้ชั้นสุดท้ายเพราะชั้นสุดท้ายจะมีน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา ส่วนจะเป็นแบบไหนนั้นแล้วแต่คุณ จะหินพัมมิสทั้งหมดก็ได้ หรือสลับ พัมมิสกับเซรามิคก็ได้ ตามสบายท่าน

คำตอบที่ 2 ถ้าเลี้ยงปลาทองผมไม่แนะนำพวกหิน หรือ ทรายอะไรใต้พื้นเลย ทำความสะอาดยากและหมักหมม เพราะปลาทองขี้เก่งกว่าปลาอื่นๆนัก

คำตอบอื่นๆ ที่วัน2วันน้ำคุณขุ่นเหลืองมีกลิ่น นั้นเพราะการให้อาหารของคุณ เพราะถ้าอัดอาหารมาก ขี้ปลาก็จะมาก ทำให้คุณต้องถ่ายน้ำบ่อย สิ่งควรทำคืออัดอาหารแค่พอควร
ถ้าจะเลี้ยงแบบขุนก็ต้องทำใจว่าต้องถ่ายน้ำทุกวัน

และไอคาร์บอนก็ควรเอาไปทิ้งได้เลย ไอนี้คือตัวการสังหารหมู่มานัดต่อนัด
มันมีอายุการใช้งานสั้น เมื่อไรหมดไม่รู้ มันก็จะคายไอที่เก็บไว้มา ปลาคุณก็จะ
ตายกันทั้งตู้ การที่คุณใส่ทำให้เห็นว่าคุณศึกษามาไม่พอ ถ้าศึกษามาจริงๆ
ไอคาร์บอนมีหน้าที่แค่กรองครอลีน ซึ่งในน้ำที่คุณใช้เลี้ยงปลานั้นไม่มีครอลีน
อยู่แล้ว เพราะเราใช้น้ำกรอง ใส่ตู้ปลา ที่อาเตี่ยในร้านขายปลาเขาแนะนำเขา
แค่อยากขายของ พวกคนขายเราอย่าไปฟังแล้วเชื่อตามเขาหมด พวกนี้ต้อง
การขายของอยู่แล้วครับ

ฟองอากาศจากที่พ่นน้ำของกรอง ไม่มีผลแต่อย่างใดทีทำให้น้ำดูไม่ใสครับ
ถ้าคุณไม่ใช่ที่พ่นน้ำนั้น กรองก็จะใช้ไม่ได้ เพราะน้ำมันไม่หมุนเวียนในกรอง
ทำให้น้ำไม่ผ่านชั้นต่างๆของกรอง การที่จะทำให้น้ำใส นั้นคือกรองทำงานดี
คุณถ่ายน้ำเป็นประจำ และคุณไม่ได้ให้อาหารมากจนเกินไป ปลาทองมันกิน
ได้ตลอดแหละครับ แค่เช้า เย็นก็พอ สำหรับการเลี้ยงแบบปกติอ่ะนะ

ยินดีที่ได้ช่วยเหลือนะครับ มีอะไรสงสัยถามมาเรื่อยๆเลยครับ ^ ^ [ว่างๆควรศึกษาเพิ่มเติมอีกนะครับ]

อย่าไปพึ่งน้ำยาน้ำใสนะครับ ไอพวกนี้ก็แค่หลอกตา และมักเป็นสาเหตุให้ปลาตาย

อยู่บ่อยๆ สิ่งที่ควรทำคือ อัดอาหารแต่พอประมาณ ถ่ายน้ำเป็นประจำ เท่าที่ดูของคุณ60

ปลาทอง4ตัว สัปดาห์ละครั้งก็ได้ครับ ครั้งละ 30-50% และหมันดูกรองว่าขี้ปลาเยอะหรือยัง

ถ้าเยอะก็ยกใยหยาบไปล้างทำความสะอาด เท่านี้น้ำปลาใส หน้าคนเลี้ยงก็ใสครับ ^ ^

หลังจากได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆแล้ว ก็นำวัสดุกรองมาอัดได้ดังภาพครับ ...

ตอนแรกใส่อย่างที่คุณ bobov4 แนะนำปรากฏว่าดูๆชั้น 2 มันโล่งๆไปบังเอิญซื้อใยมา 3 แบบเลย ก็เลย เอา 3 อย่างยัดชั้น 2 ไปเลย เวลาทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใยก็เปลี่ยนแต่ชั้นบนสุดชั้นเดียว (เปลี่ยนบ่อยสุด) ชั้น 2 ก็จะสกปรกน้อยหน่อย ^^

ทิ้งไว้คืนนึงก็เป็นดังนี้ เดี๋ยวดูไปเรื่อยๆ น่าจะดีขึ้น ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยเข้ามาแนะนำ และคุณ bobov4 มากครับ

แถมรูป ปลาทองเล่นฟิตเนส (มันคิดว่าเป็นลู่วิ่งมั๊ง) เปิดอากาศออกช่องนี้ทีไรมันจะมาเล่นทุกที
มาว่ายๆ แล้วก็ปล่อยให้น้ำพัดหงายท้อง แล้วก็มาเล่นใหม่ ^^''

ปล.ผมเอาท่อ PVC มาดัดให้น้ำที่ออกจากปั๊มพัดขึ้นด้านบน ไม่งั้นพัดตรงๆแล้วมันจะไปกระทบกระจกด้านข้าง(ซ้าย) แล้วพัดย้อนพวกเศษต่างๆที่พื้นฟุ้งน่ะครับ

ใช่เลยครับ ขอแค่สับเสตรทจมน้ำก็พอครับ ตู้สวยครับ หินก็สวย ปลาก็อ้วนน่ารักดี ^ ^

ตู้ที่ผมเลี้ยงอยู่ ชั้นบน ใส่ใยแก้วละเอียดปานกลางซ้อนกับละเอียด ชั้นกลางและชั้นล่างที่มีปั๊มน้ำผมใส่หินพิมมัสเต็ม2ชั้นเลยครับ
ให้น้ำท่วมหินพิมมัสทั้ง2ชั้น รับรองน้ำใสแจ๋วครับเปลี่ยนน้ำ20เปอร์เซนต์ต่อสัปดาห์ครับหรือ10เปอร์เซนต์ก็ได้ครับ อาทิตย์ละ2ครั้ง ก็ได้ครับ
ยังไงลองดูนะครับ