Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา

0008676

จากวันนั้นที่เลี้ยงปลาทอง วันนี้เราได้อะไรบ้าง เพื่อนๆ มาแจมกันครับ

Sweethome
Sweethome
117
[2012-06-14 16:20:55]

สวัสดีครับ

ประมาณ 10 ปีก่อน ผมกลับมาเลี้ยงปลาทองเพราะสงสัยว่า ตอนเด็กๆ ทำไมเลี้ยงดีอย่างไรปลามันตายทุกที มันคาใจผมมานานมาก ผมอ่านเว็บเยอะมากหนังสือก็มี จนพบจุดหลักคือ น้ำ และ อากาศ เป็นหลัก

น้ำต้องไม่มีสารเคมี เช่น ครอลีน จัดการได้ด้วยการพักน้ำ สัก 2-3 วัน ในภาชนะเปิดฝา เน้นพื้นที่ผิวน้ำกว้างๆ ดังนั้น กะละมังจะดีกว่า ขวดน้ำ จริงไหม ตอนนั้นใจร้อนใช้น้ำยาขจัดครอลีน ทีหลังเลิกครับ มันก็เป็นสารเคมีเหมือนกัน

อ๊อกซิเจน อ่านๆ ไปพบว่า การเกิด 24 ชั่วโมงใช่แน่ๆ พอมาทำก็พบว่า ใช่เลย ปลามักตายหลังมาหายใจที่ผิวน้ำ แต่เปิดอ๊อกจะพบว่า ไม่มีอาการดังกล่าวเลย คือเวลาจะตาย เพราะขาดอากาศมันจะมีขั้นตอน การตายครับ

1.ปลาเริ่มนิ่งไม่ว่าย

2.เริ่มหุบอากาศทีผิวน้ำแล้ว

3.ตาย หรือ กลายเป็น Swim Bladder หัวทิ่มไปเลย หากพบตอนต้นๆ เอาไปไว้ด้านหน้าตัวพ่นน้ำแรงๆ สักพักปลาจะฟื้น และว่ายปกติแต่จะเอ๋อๆ คล้ายคนสมองตายไปแป๊บแล้วฟื้น น่ะครับ ผมเคยช่วยมามีประสบการณ์นิดหน่อย แต่ช้ากว่านั้น ก็ไม่ทันครับ ต้องรักษาอีกแบบ

มันต้องเข้ากระบวนการ 1 2 3 ดังนั้นหากกันกระบวนการต้นๆ ได้ มันก็ไม่ตาย ง่ายๆ ครับ ก็เปิดปั๊มเสียก็สิ้นเรื่อง

กลับมาน้ำอีกที พอน้ำผ่านปลาไม่ช็อค ก็ต้องมีการรักษาสภาพน้ำ จะกรอง จะอะไร ต้องเปลี่ยนน้ำ ผมเองชอบเปลี่ยนน้ำเกือบ 100 % แต่อย่าทำตามผม เพราะผมดูแลปลาดีๆ คือ ไม่ปล่อยให้น้ำแ้ห้งจนปลาตาย และค่อยๆ ปล่อยน้ำ บริสุทธิ์เข้าไปเรื่อยๆ อย่าเร็วเกินไป แท็งค์ยิ่งเล็กห้ามทำครับ เพราะแป๊บมันเต็มแล้ว พวกหางนกยูงราคาแพงๆ บอบบาง รายเรียบครับ หางนกยูงหรือปลาทองในตู้เล็กมากๆ ผมแนะนำว่า ช้อนออกเบาๆ ใส่น้ำแล้วค่อยช้อนเข้านะครับ

ห้ามเอาไปเล่านะครับว่า เปลี่ยนน้ำ 100 % ได้เพราะมันมีขั้นตอนของมันครับ เปลี่ยนแบบ 20 % ทุก 4 วันสำหรับตู้ปลาใดๆ ที่มีพลพรรคพอสมควร นี่น่าจะใช้ได้นะผมว่า แต่ระวังเรื่องน้ำนะครับ ต้องไม่มีสารเคมี นั่นคือทุก 20 วันก็เหมือนคุณได้น้ำใหม่ทั้งตู้น่ะครับ ยังลดพวกไนเตรตได้อีกด้วย

หากมีปลาป่วยตายในตู้ ควรเอาน้ำออกให้มากที่สุด เพราะเราไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไร แต่หากใครไม่ชัวร์ก็สัก 50-60 % ก้ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่ปล่อยน้ำเข้าช้าๆ ครับ เอามือสัมผัสน้ำหน่อยในฤดูที่อากาศรุนแรงว่า ร้อน หรือ เย็นเกินไปไหม ด้วย การปล่อยเข้าช้าๆ มันจึงค่อนข้างปลอดภัย

แต่ผมขอเสนอไอเดียทำงานหนักครับ คือควรมี ถัง บ่อ หรือ ตู้อนุบาล ที่พร้อมใช้เอาไว้ครับ เวลาเกิดการตายติดๆ กัน จะได้ ล้างตู้มันไปเลย ตากแดด เอาให้เชื้อมันตายยยยยยย จะดีกว่า เพราะยังไง ยามันก็เป็นสารเคมีใช่ไหม

จากประสบการณ์ของผม ไม่มีกรองแบบทางการ เป็นกรองทำเองเ็ล็กในตู้ใหญ่ ที่เอาไปดูดฝุ่นมากกว่า แต่เปลี่ยนน้ำทุก 4-5 วันปลาที่อ่อนไหวง่าย ยังแข็งแรง บอกแล้วขอให้ น้ำและอากาศดี อยู่ได้ครับ

เอ้าจากการเลี้ยงปลาทองก็พบว่า แค่ความพร้อมของเราไม่พอครับ ต้องมีเรื่อง วินัย ด้วย คุณควรทำ ลิสต์อย่างหนึ่งไว้กับตัวคือ ก่อนออกจากบ้านต้องดูอะไรบ้าง

ปลาทองผมตายยกครอกมาแล้ว 2 ครั้ง เลี้ยงจากตัวเท่านิ้วโป้งผม จนใหญ่เกือบเท่ากำมือ ตายในวันเดียว เพราะปลั้กไฟหลุด ดังนั้น ในลิสต์ผมจะต้องดูปลั้กก่อนเสมอว่าแน่น ไม่แน่นผมซื้อเปลี่ยนเลยครับ

อีกข้อ ภาพลวงตา นี่ทำปลาตายมามาก เช่น บางคน ไม่ยอมปิดเปิดไปตู้ปลา ที่สวิทช์ แต่ใช้การดึงปลั้กใช่ไหม แต่ สมองมันจำว่า ต้องปิดๆๆๆ พอวันหนึ่งเผลอ จะออกจากบ้าน ปิดๆๆๆ ใจมันคิด ก็กดสวิตช์รวม ปิดเลย เห็นไฟปิดก็ออกไป แต่อ๊อกซิเจนทุกตู้ปิดหมด ด้วย กลับมาปลาไปสวรรค์ยกบ้านก็มีนะครับ

อีกแบบไฟดับ อันนี้อย่ามาอ้างครับ หากอยู่บ้าน นั่นเพราะคุณขี้เกียจ ก็เปลี่ยนน้ำสิครับเห็นปลาขึ้นผิวน้ำก็เปลี่ยนอีก 50 % ประมาณนี้ จนไฟมา หากมันยังไม่ขึ้น รอหน่อยครับ ให้มันเริ่มนิ่งๆ ค่อยเปลี่ยน

หากไฟดับ แล้วกลับมาติด หากเกิน 30 นาที อย่าเผลอนะครับ ส่วนมาก น้ำจะดันเข้าสายอ๊อกซิเจน บางตู้ ลมไม่ออกนะครับ ปรับด้วย บางตู้ อ๊อกซิเจนที่หมดไปตอนไฟดับ กับจำนวนทีปั้มเข้าไล่ไม่ทันกัน ปลา็ก็ตายอยู่ดี หากยังไงเปลี่ยนน้ำครับ ต้องดูอาการปลาครับ

ผมบอกแล้วมันมีอะไรให้ครูพักลักจำเพียบ

ดังนั้นซื้อๆ พวกปั้มถ่านไว้บ้างก็ดี คือประคองอ๊อกซิเจนไว้ยังดีครับ

เอ้าวันนี้เท่านี้่ก่อน เพื่อนๆ มีแง่มุมอื่นๆ มาเล่ากันครับ

รูปนี้จากอินเตอร์เน็ตครับ แปลกดี

ความคิดเห็นที่ 1

lukyim
lukyim
543
[2012-06-14 20:28:16]

สิ่งที่ได้จากการเลี้ยงปลาคือ "ความสุข" "ความรัก" "ความเอาใส่ใจ" "ความห่วงใย"


ถึงแม้ต้องเหนื่อยกับการเปลี่ยนน้ำ ทุกวันเช้า เย็น ก็ตาม อาหารเริ่มตั้งแต่ ฮิคาริดำ หนองแดง เต้าหู้ ไรทะเล ถ้าไปทำงาน ก็ให้เช้า กับเย็น ถ้าวันหยุดให้ทั้งวัน แต่ให้ที แต่ทีล่ะน้อยๆ บ่อยๆ เรื่องค่าไฟนี่ ปั้ม 4 ตัว ฮีตเตอร์ 4 อัน



ส่วนการเตรียมความพร้อมนี่ ปั้ม กับ ฮีตเตอร์ มีสำรอง อย่างละ 2 อัน เพราะก่อนหน้านี้ ฮีเตอร์เสียไปอัน ฝนตกหนังด้วย ปลาหนาวแย่เรย

ความคิดเห็นที่ 2

Sweethome
Sweethome
117
[2012-06-15 13:02:26]

ครับ นักเลี้ยงปลา ต้องเปลี่ยนน้ำ เก่งๆ เห็นด้วยครับ เมือเราทำเองจะทำให้เราเกิดความผูกพันกับปลาของเราอีกด้วย

ความคิดเห็นที่ 3

lukyim
lukyim
543
[2012-06-15 14:38:47]

นั้นสิ ยังขาด "ความผูกพัน"

ความคิดเห็นที่ 4

nyjeep
nyjeep
667
[2012-06-15 22:53:27]

ลองแบบผมดูไหมครับ เดี๋ยวนี้สบายเลย เริ่มจาก "ระบบ" ที่ดี
- ผมเลี้ยงในอ่าง 140x110x25 ใช้กรองถัง 155 ลิตร ปีนึงล้างสักครั้งนึง
- จ๊อกน้ำดีลงอ่าง 24 ชม
- น้ำล้นออกต่อน้ำทิ้ง ต่อไปยังต้นไม้
- ปั๊มล้มขนาด 35 l/min ต่อหลายอ่าง หลายตู้
- เสริมปั๊มลมแบตเตอรี่ 4 หัว ๆฟดับ ปัีมทำงานอัตโนมัติ ไฟมา ตัดสู่การทำงานปกติ
- อาหารธรรมดา ๆ ถุงละไม่ถึง 200 บาท อยากเร่งสี ใช้ " ผำ" ธรรมชาติ ๆ
- ฮิตเตอร์ เลิกใช้ เปลืองไฟ ใช้ โพม ปิดข้างอ่าง กลางคืนปิดบนอ่าง อุณภูมิหน้าหนาว 22 องศา ปลาไม่เป็นอันตราย เพราะ ปริมาณน้ำในอ่างเยอะ อุณภูมิไม่แกว่ง อุณภูมิจะค่อย ๆ เพิ่ม หรือ ลด ปลา ปรับตัวได้เอง

ความคิดเห็นที่ 5

toytoy27
toytoy27
391
[2012-06-16 08:04:12]

จากวันที่เลี้ยงปลาทอง ได้อะไร ตออบคือ ได้จ่ายค่าน้ำ ค่าอาหาร เพิ่มม 555 เวลาเปลี่ยน้ำบ่อย โดนแม่ด่าอีก 55 แต่สิ่งที่ปลาทองให้กลับมา มีทั้งความรัก ความสนุก ความผููกพัน เวลารู้สึกไม่ดีมาดูโมจิ(ปลาตัวแรกที่เลี้ยง) ว่ายน้ำ หน้ามันบวมๆ ดูแล้วตลก ก็หายเศร้าไปเลยยย

ความคิดเห็นที่ 6

toytoy27
toytoy27
391
[2012-06-16 08:04:12]

จากวันที่เลี้ยงปลาทอง ได้อะไร ตออบคือ ได้จ่ายค่าน้ำ ค่าอาหาร เพิ่มม 555 เวลาเปลี่ยน้ำบ่อย โดนแม่ด่าอีก 55 แต่สิ่งที่ปลาทองให้กลับมา มีทั้งความรัก ความสนุก ความผููกพัน เวลารู้สึกไม่ดีมาดูโมจิ(ปลาตัวแรกที่เลี้ยง) ว่ายน้ำ หน้ามันบวมๆ ดูแล้วตลก ก็หายเศร้าไปเลยยย

ความคิดเห็นที่ 7

Sweethome
Sweethome
117
[2012-06-17 15:17:33]

แจ่มครับผม

ความคิดเห็นที่ 8

chun2010
chun2010
35
[2012-06-22 13:27:13]

วันแรก ๆ ที่เลี้ยงคือมีความอยาก..กับ...ความกลัว อยากเลี้ยงเพราะเค้าน่ารัก แต่ก็กลัวว่าเค้าจะตายเพราะเราเลี้ยงไม่เป็น เคยเลี้ยงมาเมื่อหลายปีก่อนแล้วตายทำใจไม่ได้เลิกเลี้ยงไปเลย จนปลายปีที่แล้วก็รู้สึกว่าอยากเลี้ยงอีกแล้ว (ใจมันสั่งมา) ก็มีบางส่วนตายอีก...เหลือเจ้า 2 ตัวนี้ ในใจคิดว่าถ้าเจ้าสองตัวนี้ตายอีกต่อไปนี้จะไม่เลี้ยงอีกแล้วเพราะทำใจไม่ได้ แต่ที่ไหนได้เจ้าสองตัวนี้อึดมาก ทุกวันนี้ความกังวลก็ยังมีแต่น้อยมากเพราะเริ่มมั่นใจในการเลี้ยงมากขึ้น อีกอย่างเดี๋ยวนี้มีช่องทางหาความรู้ได้มากขึ้น สงสัยก็มีคนเข้ามาช่วยให้คำแนะนำ

เดี๋ยวนี้เลิกงานก็รีบกลับบ้าน...ไปดูเจ้าสองปุ๊กลุ๊ก...พอเค้าเห็นเราเค้าก็กระดี๊กระด๊า (ไม่ได้รักอะไรเราหรอก) ขอกินอาหาร นั่งดูเค้าเป็นชั่วโมง ๆ ก็ไม่เบื่อ บางทีก็เอาแว่นขยายมาส่องดู (แบบตรวจสุขภาพหน่ะ...เผื่อเห็นอะไรผิดปกติ)

อีกอย่าง...ต้องขอขอบคุณคุณ Sweethome มาก ๆ เลยค่ะที่ครั้งก่อน (ที่ถามเรื่องอ่างผสมปูน) แล้วคุณ Sweethome ทักขึ้นมาเรื่องสัดส่วนของอากาศ พอโดนทักก็เลยไปปรับระดับอากาศเพิ่มขึ้น เห็นผลทันตาเลยค่ะ...คือเจ้าสองตัวเค้าดูสดชื่นขึ้น สีสันแจ่มใส เมือกน้อยลง เพราะก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเล็กเค้ามีเหมือนก้อนไขมันเล็ก ๆ ขึ้นที่วุ้นแต่พอโดนท่ออ๊อกซิเจนมันก็ปลิวหลุดออกแล้วก็ตัวเค้าดูขุ่น ๆ เล็ก ๆ เข้าใจว่าเป็นเมือก แต่ตอนนี้ร่างเริงทั้งคู่เลยค่ะ...ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ (ตอนนี้ก็เหลือแค่รอตู้ใหม่มาค่ะ คิดว่าจะขยายตู้เป็น 36 นิ้ว)


สรุปว่าทุกวันนี้มีความสุขกับการนั่งมองหน้าแป้น ๆ ตัวกลม ๆ ของเจ้าปลาทองค่ะ

ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ