ไม่แปลกครับแต่อย่าใช้ขอนแหลมๆละกันครับเพราะฟรอนเค้าขี้ตกใจพุ่งปริ้ด โดนขอนไม้เป็นแผลได้นะครับ สำหรับผมฟรอนชอบน้ำไหลอ่อยๆไม่ถึงกับพัดจนปลิวครับ

หาขอนที่แช่น้ำแล้วนานๆ ครับ

ใส่ก็ได้นะ แล้วคอยสังเกตพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันกับของขอนไม้กับปลา

ถ้าชอบก็จัดไปยาว ๆ เลย ถ้าไม่ชอบก็เอาออกนะ

ส่วนตัวจัดซะสวย สุดท้ายมันก็จัดใหม่ให้

ขอนไม้ทำให้ ค่ PH ลดลงนะครับ ซึ่งเลคแทงจะชอบ ค่า PH ที่สูงนะครับ

แต่ก็น่าจะใส่ได้แหละคงไม่มีปัญหาอะไรครับ :D

ส่วนตัวผมมองว่าใส่ได้ครับ ในต่างประเทศก็ใช้กัน
รวมถึงในทะเลสาบก็มีซากขอนไม้เช่นกันครับ ไม่ได้มีแต่หิน

แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้หินมากกว่า เพราะเชื่อว่าทำให้ตู้ได้บรรยากาศแบบที่ปลาอยู่...?

ได้แน่นอนครับ ฟรอนชอบซะอีก

มีขอนไม้ตรงใหนก็จะกระจุกอยุ่ตรงนั้น

ระวัง ขอนแหลมๆ กับยางไม้ก็แล้วกันครับ

แล้วแต่เราเลยครับ แต่ส่วนใหญ่ฟรอนก็ขุดค้ยๆ จัดระนาบใหม่อยู่ดี

ลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ แต่ใส่น้อยๆนะเอาพองามพอ

สำคัญสุดคือขอนไม้ต้องเป็นขอนที่แช่ หรือผ่านการฟอกต้มมาจนหมดยางไม้ และขจัดสารฟอกจนสะอาดเอี่ยมเรียบร้อยดีแล้วนะครับ ไม่งั้นมันอาจจะละลายกรดฮิวมิก หรือพวกแทนนินจากยางไม้ที่มีสีอมน้ำตาลๆ ออกมา ทำให้น้ำในตู้ที่เราใส่ขอนมีสีชา ดูรบกวนสายตา อีกอย่างคือ Fron เป็นปลาที่ชอบน้ำกระด้าง และเป็นด่างเล็กน้อยครับ

เพิ่มเติมครับ เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า Frontosa ชอบน้ำนิ่งๆ

บ้างก็ว่า ฟองอากาศจากหัวทราย หรือปั๊มเจ๊ต จะทำให้ปลาเป็นกระเพาะลม (Floating)

แต่หากวิเคราะห์ดูจากข้อเท็จจริง เราก็จะพบว่า ในแหล่งกำเนิดตามธรรมชาตินั้น
น้ำใต้ทะเลสาบมันไม่ได้นิ่งนะครับ เพราะผิวน้ำที่ทะเลสาบจะถูกกระแสลม และอุณหภูมิ
ทำให้มวลน้ำเคลื่อนตัวตลอดเวลา ทำให้เกิดคลื่นและกระแสน้ำนำพาน้ำหมุนพลิกวนไปทั่วทะเลสาบ

ด้วยอุบัติการ์ทางธรรมชาติแบบนี้เอง น้ำจึงจะได้อ็อกซิเจนละลายลงไปให้ปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ที่อาสัยอยู่ในระดับน้ำลึกจนถึงก้นทะเลสาบหายใจได้ เพราะต้องไม่ลืมข้อเท็จจริงที่ว่า อ็อกซิเจนไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซต่างๆ และละลายลงในน้ำได้ หากว่ามวลน้ำนั้นอยู่ลึกลงไปเกินหนึ่งฟุต!!!

ด้วยเหตุผลนี้เองครับ ที่อย่างน้อย เราก็ต้องทำให้น้ำในตู้ปลาเรามีกระแสน้ำหมุนเวียน เพื่อพามวลน้ำด้านล่างพลิกกลับขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ อันได้แก่ การใส่หัวทรายพ่นฟองอากาศ การติดตั้งปั๊มเจ๊ตพ่นน้ำ และแม้แต่การติดกรองระบบต่างๆ ซึ่งก็คือการเคลื่อนมวลน้ำด้านล่างตู้ขึ้นมาแลกเปลี่ยนก๊าซอ็อกซิเจนลงไปให้ปลา รวมทั้งแบคทีเรียในระบบกรองชีวภาพได้ใช้ครับ..... ไม่งั้นตายหมด หรือไม่ก็อึดอัดอยู่แบบป่วยๆ

เลิกเชื่อความคิดเดิมๆ เหล่านั้นได้แล้วครับ และอยากจะบอกว่า ไม่ว่าปลาชนิดไหนก็ตาม ที่อยู่ในตู้ที่มีกระแสน้ำหมุนเวียนถ่ายเทดีนั้น มันก็ย่อมจะมีสุขภาพแข็งแรงดีกว่าปลาในตู้น้ำนิ่งๆ บางที่หลายคนอาจเถียงว่า ปลาที่เค้าเลี้ยงก็น้ำนิ่ง ปลาก็อยู่ได้ปรกติ
แต่ลองเทียบดูว่า มีปลาในตู้นั้นที่เคยสูญเสียไปจากอาการป่วยบ่อยๆ เพราะ ท้องอืดตาย อาหารไม่ย่อย ติดเชื้อแบคที่เรีย เชื้อรา เป็นไวรัสขุยขาว หายใจหอบแรง ฯลฯ บ้างหรือไม่ คำตอบเหล่านี่ อย่างน้อยก็ไม่เคยเกิดกับปลาที่ผมเลี้ยงมาเป็นร้อยๆ หลายรุ่นหลายขนาดแม้แต่ตัวเดียว!!!

ทำไมหน่ะหรือครับ

โดยปรกติ ถ้าในตู้เรามีกระแสน้ำหมุนเวียนดี เราจะเห็นพฤติกรรมของ Frontosa ที่คล้ายๆ กันอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากที่มันกินอาหารอิ่มดีแล้ว Frontosa ก็จะพากันไปลอยตัวนิ่งๆ หันหน้าทวนกระแสน้ำที่จะไหลพาเอาน้ำที่มีอ็อกซิเจนปริมาณมากกว่าบริเวณน้ำนิ่ง เพื่อที่มันจะได้ใช้ในกระบวนการย่อยอาหารที่เพิ่งกินเข้าไป

หากน้ำนิ่ง ๆ เราจะพบว่าพวกมันจะพยายาม Up take ก๊าซอ็อกซิเจนเข้าไปเพิ่มเติมในกระแสเลือดให้มากที่สุด ด้วยการหายใจหอบถี่แรงๆ

แต่ในตู้เลี้ยงที่มีกระแสน้ำหมุนเวียนดีๆ นั้น เราจะเห็นมันเพียงแค่เผยอเหงือเพียงเบาๆ ปล่อยให้กระแสน้ำที่มีอ็อกซิเจนสูงพัดผ่านเหงือกโดยไม่ต้องออกแรงมาก ซึ่งแน่นอนว่าในสภาวะเช่นนี้ ระบบการย่อยอาหาร และการสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ของตัวปลาก็ย่อมดีกว่าในสภาพน้ำนิ่งๆ ครับ

อันนี้เป็น Frontosa ในตู้ยักษ์บ้านป๋าโรม แห่ง "ปลาบ้านโรม" ที่ในตู้จะมีกระแสน้ำไหลเอื่อย
ตลอดเวลาจากแรงส่งน้ำกลับจากปั๊ม Fox ตัวใหญ่ในระบบกรอง จะเห็ว่าพวกมันกำลังลอยตัวนิ่งอย่างผ่อนคลาย หันหน้าทวนกระแสน้ำ

โทรเฟียส ที่บ้านผมก็เเอบหย่อนขอนไม้ลงไป สวยดีเเต่ตอนนี้เอาออกเเล้วครับอยู่ดีดีลอยขึ้นมาเฉยเลย