ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ
โลกปลาหมอสีสายพันธุ์ แท้ๆ ทั้งจาก ทะเลสาบมาลาวี, ทังแกนยิกา, หรือ ปลาหมอสี สายพันธุ์ แท้ จาก ทวีปอเมริกา ตลอดจน ปลาหมอแคระ ชนิดต่างๆ อยากให้เว็บบอร์ด นี้ มีส่วนช่วยให้คนรักปลา รู้จัก ไม่ลืม ในสายพันธุ์ ดั้งเดิม ตามธรรมชาติของปลาในครอบครัว Cichlidae
อุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม จากเว็บช้อปปิ้งชั้นนำ
160 บาท189.00 บาท
260 บาท312.00 บาท
ความคิดเห็นที่ 1
ความคิดเห็นที่ 2
ความคิดเห็นที่ 3
ความคิดเห็นที่ 5
ความคิดเห็นที่ 6
ความคิดเห็นที่ 5
dollcat002
ขอบคุณมากครับ ผมอยากเลี้ยงพันธ์คาปัมป้า อยากทราบว่าราคาตัวละเท่าไรครับตัวผู้เมียนี่ราคาต่างกันไหมครับ มีงบหมื่นนึง
หืออออ มีงบหนึ่งหมื่น "เรื่องนี้ถึงครูอังคนาเเน่" 
ความคิดเห็นที่ 7
ความคิดเห็นที่ 8
ความคิดเห็นที่ 9
ความคิดเห็นที่ 10
ความคิดเห็นที่ 11
ขอบคุณมากครับ แล้วไม่ทราบว่าถ้าผมใช้ตู้ 60 นิ้ว ควร สูง ลึก อย่างต่ำเท่าไหร่ดี เพราะเห็นราคาตัว 60x18x20 ถูกมากก ^ ^
60-20-20 ก็กำลังดีแล้วครับ ประหยัดงบด้วย 
ความคิดเห็นที่ 10
puregun
ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดครับ ว่า ถ้าเราตั้งตู้ฟรอนในห้องนอน (เปิดแอร์นอนตอนกลางคืน) จะมีปัญหาหรือสงผลเสียต่อปลาไม๊ครับ เพราะอุณหภูมิ คงจะขึ้นลงมาก ในห้องนอนตอนเปิดแอร์กลางคืนอุณหภูมิในห้องประมาณ 24-26 องศาอะครับ ส่วนกลางวันไปเปิดก็ร้อนอยู่ T T
จริงแล้วกลางวัน หากปิดฝาและไม่ติดพัดลมระบายความร้อนอุณหภูมิในร่มก็อาจพุ่งไปแตะ หรือเกิน 30 ได้ แต่ถ้าใช้ฝาเป็นแบบตะแกรงปิด มีพัดลมเป่า อุณหภูมิจะลงมาอยู่ที่ 27 เย็นสบายสำหรับฟรอน ส่วนตอนกลางคืนหากเปิดแอร์แล้วอุณหภูมิแกว่งน้ำเย็นเกินไปก็ติด Heater ในตู้ โดยตั้งไว้ที่ 27 ก็ได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 13
ความคิดเห็นที่ 14
ความคิดเห็นที่ 15
ความคิดเห็นที่ 17
ความคิดเห็นที่ 15
puregun
ความคิดเห็นที่ 12
rome
ตู้ 60*20*20 กระจก สองหุน กรองข้างเต็ม กว้าง 7 นิ้ว ไม่เอาฝา ราคาประมาณ 2000 บาท
ตอนสั่งบอกไปว่า เอาหวีบนและหวีล่างด้วย หวีล่างยกจากพื้น 3 นิ้ว ท่อน้ำจากปั้มให้ไปปล่อยปลายตู้ น้ำจะได้ flow
ทรายดำปูพื้น ใช้ 20 กิโลกรัม ประมาณ 500 -600 บาท
หรือ
หินคิริก้า เบอร์ 3 ราคา 400 บาท ใช้ถุงเดียวอยู่
วัสดุกรอง ใช้หินคิริก้า เบอร์ 7-8 ประมาณ 2 กระสอบ ราคา 800 บาทใยแก้ว ใส่ช่องกรอง 60 บาท
หลอดไฟ โตชิบ้า จำรุ่นไม่ได้ ประมาณ 200 บาท รางท๊อป ประมาณ 350 บาท
น้ำประปา 375 ลิตร ประมาณ 3-5 บาท แช่น้ำทิ้งไว้ 3-5 วัน แล้วถ่ายออก เติมน้ำใหม่อีก 5 บาท
ตาข่ายกันปลากระโดด ขายเป็นเมตร จำราคาไม่ได้ + ท่อประปา 4 หุน ประมาณ 1 เส้น 60 กว่าบาท พร้อมข้องอ 8 ตัว ๆละประมาณ 5 บาท เอาไว้ทำโครง รวมประมาณ 250 บาท
พัดลมเป่าผิวน้ำ 1 ตัว ประมาณ 350 บาท
เกือบลืมขาตู้ อีกประมาณ 2 พันกว่า ๆ
รวมค่าตู้ 6720 บาท
เหลืออีก 3,280 บาท(10,000 - 6720)
ถ้าจะซื้อ Frontosa blue zaire ขนาดไม่เกิน 1.5 นิ้ว ได้ไม่เกิน 2 ตัว
การเลือกซื้อฟรอนโปรดศึกษาให้ดีก่อนนะครับ มันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกันในการดูปลา ใจเย็น ๆ ค่อยเลือกซื้อเติมไปเรื่อยๆ จะสนุกกว่าซัดตูมเดียวจบ
ขอให้สนุกกับการเลี้ยง และอยู่กับพี่น้องสายแท้ในห้องนี้ไปนาน ๆ นะครับ
โหละเอียดยิบเลยครับ ขอบคุณมากครับ ขอถามเรื่องฝาอีกนิดครับ ถ้าเราเอาฝาด้วยจะไม่เวิคหรอครับ ทำตาข่ายฝาไม่เป็น กลัวทำไม่ดีแล้วปลาหลุด T T
เอ่อแล้ว บลูแซมเบียตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ แอบชอบเจ้าตัวนี้ แต่จริงๆยังไม่เคยเห็นตัวเต็มๆเลย ไนgoogle ก็มีไม่กี่รูป ไม่รู้ใช่แซมเบียป่าวครับ มีใครมีเจ้าตัวนี้ขอชมภาพหน่อยครับ ^ ^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลละเอียดๆ อีกครั้งนะครับ ขอบคุณมากจริงๆครับ พี่ๆ
ละเอียดกว่านี้ไม่มีอีกเเล้วครับ กัน 
ความคิดเห็นที่ 18
ความคิดเห็นที่ 19
ความคิดเห็นที่ 18
puregun
ถามอีกนิดครับว่า กรองใน นี่จะมีผลมากในเรื่องอุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำภายในตู้ จนเป็นผลเสียต่อฟรอนป่าวครับ
พอดีมีคนเค้าแนะนำว่าถ้า ใช้ระบบกรองในกับฟรอน ควรติดกรองฟองน้ำ แล้วในช่วงกลางวันให้ปิดกรองข้างใช้แต่กรองฟองน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิ แล้วเปิดกรองข้างตอนกลางคืนอะครับ
เลยอยากถามความเห็นพี่ๆว่าควรทำตามนี้ไม๊ครับผม ^ ^
แยกเป็นสองประเด็นนะ คือเรื่องอุณหภูมิ กับเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานของระบบกรอง
ประเด็นแรก อันนี้ประสบการณ์ตรงเลย คือก่อนหน้านี้ผมสั่งตู้ 48 20 20 จากร้านราคาประหยัด แถวหลัง JJ Mall เอามาใส่เสือตอ ซึ่งมันเป็นตู้กรองเพชร คือกั้นมุม และจะมีปั๊มเจ๊ต ใยกรอง ไบโอบอลมาให้สำเร็จรูบแบบรวมชุด ปรากฏว่า พอใส่น้ำเปิดปั๊มรันกรอง อุณหภูมิน้ำตู้บนที่ใส่เสือตอนี่ สูงถึง 33-34 เกือบจะวิกฤติ ปลาเสือตองี้ตัวซีด อ้าปากพะงาบๆ ส่วนกระทิงไฟก็ตัวถอดสีจนซีดเผือด ขึ้นลอยหัว!
ขนาดตู้นี้ผมต้องพยายามช่วยให้เย็นด้วยการปิดไฟตู้ปลา เผยอฝา (แต่ยังไม่ได้ติดพัดลม) ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ยังร้อนจนเอามีแตะกระจกรู้สึกอุ่นๆ ได้เลย นี่ถ้าเป็นปลาหมอบางชนิด คงกลับแอฟริกาไปนานแล้ว
ในขณะที่ตู้อีกใบที่วางข้างล่างไซส์เท่ากัน และปิดฝากันปลาโดดด้วยกระจกเกือบมิด แต่ตู้ล่างนี้เป็นตู้เก่าดั้งเดิมมีกรองกั้นมุมติดตั้งปั๊มเจ๊ตแต่เดิมมาเช่นกัน อุณหภูมิน้ำแค่ 29 ! ต่างกัน 5-6 องศา
ผมรู้เลยทันทีว่าตัวก่อปัญหาคือ "ปั๊มเจ๊ต" จึงถอดเอาปั๊มตู้บนที่น้ำร้อนกว่าออกมาดูหน้าตายี่ห้อหน่อย ปรากฏว่าเป็นปั๊มเจ๊ตยี่ห้อ "Sonic" ที่ขนาดจับตัวปั๊มยังอุ่นได้โล่ห์ แล้วน้ำจะไปเหลือ! 
ผมจึงเอาปั๊มสำรองตัวเล็กติดไว้แทนชั่วคราก่อน และรีบบึ่งไปหาปั๊มเจ๊ตตัวใหม่จาก JJ เอายี่ห่อดีหน่อย ของ Resun ซึ่งขนาดกำลังเป่าน้ำแรงกว่ายังไม่ทำให้เกิดความร้อน คือเพียง 29-30 ปลอดภัยกับปลา จึงอยากให้พึงเลือกปั๊มที่มีคุณภาพมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา "ร้อน"
ความคิดเห็นที่ 20
ประเด็นที่สอง คือเรื่องประสิทธิภาพ ! อันนี้ซีเรียสครับ 
กล่าวคือในระบบกรองกั้นที่มีวัสดุกรองต่างๆ เพื่อให้แบคทีเรียที่เกาะอาศัยบนพื้นผิววัสดุกรองเป็นตัวย่อยสลายของเสีย อันเรียกกันว่า "กรองชีวภาพ" นั้น สิ่งที่จำเป็นเหนืออื่นใดคือ "อ็อกซิเจน" ที่จะถูกนำพามากับน้ำที่ไหลหมุนเวียนผ่านชั้นวัสดุกรอง โดยแบคทีเรียจะใช้อ็อกซิเจนในการหายใจ และย่อยสลายของเสียเพื่อการดำรงชีวิต
หากขาดตรงนี้ แม้ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแบคทีเรียที่ใช้อ็อกมันจะ "ตาย" 
แล้วก็จะมีแบคทีเรียตัวอื่นที่ไม่ใช้อ็อกเข้าแทนที่ ซึ่งจะก่อผลเสียมากมายต่อระบบการบำบัดน้ำในตู้ปลา ที่เราเรียกว่าภาวะ "กรองล่ม" ประสิทธิภาพการทำงานลดลง กรองไม่เสถียร
เมื่อพิจารณาร่วมกับประเด็นแรก จะเห็นว่าตัวปัญหาคือการเลือกอุปกรณ์ที่ด้อยคุณภาพมาใช้ แต่เรากลับจะมาแก้ปัญหาด้วยการลดทอนคุณภาพระบบกรองโดยการปิดกรองเพื่อไม่ให้น้ำร้อน
มันจะยิ่งพากันพังและพังครับ 
ความคิดเห็นที่ 21
ความคิดเห็นที่ 20
Chanin09
ประเด็นที่สอง คือเรื่องประสิทธิภาพ ! อันนี้ซีเรียสครับ
กล่าวคือในระบบกรองกั้นที่มีวัสดุกรองต่างๆ เพื่อให้แบคทีเรียที่เกาะอาศัยบนพื้นผิววัสดุกรองเป็นตัวย่อยสลายของเสีย อันเรียกกันว่า "กรองชีวภาพ" นั้น สิ่งที่จำเป็นเหนืออื่นใดคือ "อ็อกซิเจน" ที่จะถูกนำพามากับน้ำที่ไหลหมุนเวียนผ่านชั้นวัสดุกรอง โดยแบคทีเรียจะใช้อ็อกซิเจนในการหายใจ และย่อยสลายของเสียเพื่อการดำรงชีวิต
หากขาดตรงนี้ แม้ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแบคทีเรียที่ใช้อ็อกมันจะ "ตาย"
แล้วก็จะมีแบคทีเรียตัวอื่นที่ไม่ใช้อ็อกเข้าแทนที่ ซึ่งจะก่อผลเสียมากมายต่อระบบการบำบัดน้ำในตู้ปลา ที่เราเรียกว่าภาวะ "กรองล่ม" ประสิทธิภาพการทำงานลดลง กรองไม่เสถียร
เมื่อพิจารณาร่วมกับประเด็นแรก จะเห็นว่าตัวปัญหาคือการเลือกอุปกรณ์ที่ด้อยคุณภาพมาใช้ แต่เรากลับจะมาแก้ปัญหาด้วยการลดทอนคุณภาพระบบกรองโดยการปิดกรองเพื่อไม่ให้น้ำร้อน
มันจะยิ่งพากันพังและพังครับ
โห เข้าใจชัดเจนเลยครับผม ^ ^ ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย จริงๆผมไม่มีความรู้เรื่องกรองเลย รู้แค่ว่ามันมีไอเจ้าแบททีเรียนี่แหละอาศัยอยู่ในชั้นกรองแถวไบโอบอล,ประการัง แต่ไม่รุ้ว่าเค้าใช้ออกซิเจน 555 เข้าใจแล้วครับ ความรู้ๆ เดี๋ยวต้องรีบไปหาอ่านพวกบทความเรื่องระบบกรองซะแล้ว
ขอบคุณมากๆครับผม
ความคิดเห็นที่ 22
ความคิดเห็นที่ 23
ความคิดเห็นที่ 24
อิ อิ ป๋าโรม
ความคิดเห็นที่ 12
rome
ตู้ 60*20*20 กระจก สองหุน กรองข้างเต็ม กว้าง 7 นิ้ว ไม่เอาฝา ราคาประมาณ 2000 บาท
ตอนสั่งบอกไปว่า เอาหวีบนและหวีล่างด้วย หวีล่างยกจากพื้น 3 นิ้ว ท่อน้ำจากปั้มให้ไปปล่อยปลายตู้ น้ำจะได้ flow
ทรายดำปูพื้น ใช้ 20 กิโลกรัม ประมาณ 500 -600 บาท
หรือ
หินคิริก้า เบอร์ 3 ราคา 400 บาท ใช้ถุงเดียวอยู่
วัสดุกรอง ใช้หินคิริก้า เบอร์ 7-8 ประมาณ 2 กระสอบ ราคา 800 บาทใยแก้ว ใส่ช่องกรอง 60 บาท
หลอดไฟ โตชิบ้า จำรุ่นไม่ได้ ประมาณ 200 บาท รางท๊อป ประมาณ 350 บาท
น้ำประปา 375 ลิตร ประมาณ 3-5 บาท แช่น้ำทิ้งไว้ 3-5 วัน แล้วถ่ายออก เติมน้ำใหม่อีก 5 บาท
ตาข่ายกันปลากระโดด ขายเป็นเมตร จำราคาไม่ได้ + ท่อประปา 4 หุน ประมาณ 1 เส้น 60 กว่าบาท พร้อมข้องอ 8 ตัว ๆละประมาณ 5 บาท เอาไว้ทำโครง รวมประมาณ 250 บาท
พัดลมเป่าผิวน้ำ 1 ตัว ประมาณ 350 บาท
เกือบลืมขาตู้ อีกประมาณ 2 พันกว่า ๆ
รวมค่าตู้ 6720 บาท
เหลืออีก 3,280 บาท(10,000 - 6720)
ถ้าจะซื้อ Frontosa blue zaire ขนาดไม่เกิน 1.5 นิ้ว ได้ไม่เกิน 2 ตัว
การเลือกซื้อฟรอนโปรดศึกษาให้ดีก่อนนะครับ มันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกันในการดูปลา ใจเย็น ๆ ค่อยเลือกซื้อเติมไปเรื่อยๆ จะสนุกกว่าซัดตูมเดียวจบ
ขอให้สนุกกับการเลี้ยง และอยู่กับพี่น้องสายแท้ในห้องนี้ไปนาน ๆ นะครับ
อิ อิ เป็นป๋าโรม มั๊งครับ ที่แนะนำให้ใช้เคริก้า อะครับ
เรื่องปะการังเป็น buffer ช่วยคงค่า pH และความกระด้างให้เหมาะกับพวกปลาจากแทงกันยิกา และมาลาวีก็ถูกต้องแล้วครับ แต่เราอาจไม่จำเป็นต้องเอาไปทำเป็นวัสดุกรองก็ได้ (เหตุผลด้านล่างที่จะกล่าวต่อไป) โดยเราสามารถเลือกเอามาปูแต่งพื้นตู้ หรืออาจจะใช้เปลือกหอยนางรมแทนก็เป็นตัว buffer ได้เช่นกัน นอกจากนี้ปัจจุบันในบ้านเรายังมีวัสดุกรองคล้ายๆ เซรามิกริงค์ที่ทำจากสารจำพวกแคลเซี่ยมคาร์บอเนตที่สามารถนำมาใส่ในระบบกรองเพื่อช่วยปรับ pH และความกระด้างให้สูงได้ทดแทนปะการังที่ค่อนข้างจะขัดกับแนวอนุรักษ์นิยม
และนอกจากนั้น ในการจะรักษาค่า pH และความกระด้างให้เหมาะกับปลาเลคแทง ตอนนี้ก็มีผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จำพวกแร่ธาตุเสริมต่างๆ เข้ามาไว้เติมลงในตู้หมอเลคแทง ซึ่งช่วยให้ pH และค่าต่างๆ ในน้ำเหมาะแก่การเลี้ยงโดยไม่ต้องพึ่งปะการังแล้วครับ และเร็วๆ นี้เห็นว่าทางร้านปราณี ก็กำลังให้ทีมวิจัยผลิตแร่ธาตุเพื่อปลาหมอเลคโดยเฉพาะออกมาขายคนไทยราคาประหยัดอีกด้วย
ส่วนที่หลายคน รวมทั้งป๋าโรมแนะนำให้ใช้เคริก้านั้น จริงๆ ก็คือทางเคริก้าเค้าเคลมว่าพื้นที่ผิวของเคริก้า มีมากกว่าวัสดุกรองแบบ Pack base ตัวอื่นๆ อะครับ ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะมากกว่าปะการังเป็นเท่าตัว จึงต่างแนะนำให้ใช้เพราะราคาไม่แพงกว่าปะการัง หากจะเลือกวัสดุแบบวางนิ่งในช่องกรองอะนะครับ
ว่ากันที่จริงยังมีตัวเลือกอื่นๆ อีกหลายอย่างนะ ลองไปศึกษาข้อมูลเรื่องวัสดุสำหรับกรองชีวภาพดู ยกตัวอย่างเช่นพวกใยกรองแบบในบ่อกรองปลาคาร์ฟ (Japanese filter mat, Matala) ซึ่งก็มีพื้นที่ผิวสูงมากถึง 350-500 ตรม/ตลม ซึ่งมากกว่าปะการัง 3-5 เท่าตัว
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอื่นเช่น Moving bred ที่ตัววัสดุกรองเป็นเม็ดโครงสร้างพลาสติกที่มีค่าความถ่วงจำเพาะพิเศษ แต่ละเม็ดมีพื้นที่ผิวมหาศาลจากการออกแบบโครงสร้าง จึงมีคุณสมบัติให้แบคทีเรียกเกาะและทำงานได้สูงสุด ด้วยลักษณะกึ่งลอยกึ่งจม move ไปมาในช่องกรองจากแรงฟองอากาศที่เป่า ที่จะสามารถให้พื้นที่ผิวทำงานสูงกว่าวสัดุอื่นๆ เป็นสิบเท่าตัว
รูปข้างล่างนี้เป็นส่วนช่องกรองข้างของตู้ปลาบ้านป๋าโรม ที่ใช้ Moving bred เป็นวัสดุกรองแทนพวก Pack base ครับ
ความคิดเห็นที่ 25
ความคิดเห็นที่ 24
Chanin09
อิ อิ ป๋าโรม
ความคิดเห็นที่ 12
rome
ตู้ 60*20*20 กระจก สองหุน กรองข้างเต็ม กว้าง 7 นิ้ว ไม่เอาฝา ราคาประมาณ 2000 บาท
ตอนสั่งบอกไปว่า เอาหวีบนและหวีล่างด้วย หวีล่างยกจากพื้น 3 นิ้ว ท่อน้ำจากปั้มให้ไปปล่อยปลายตู้ น้ำจะได้ flow
ทรายดำปูพื้น ใช้ 20 กิโลกรัม ประมาณ 500 -600 บาท
หรือ
หินคิริก้า เบอร์ 3 ราคา 400 บาท ใช้ถุงเดียวอยู่
วัสดุกรอง ใช้หินคิริก้า เบอร์ 7-8 ประมาณ 2 กระสอบ ราคา 800 บาทใยแก้ว ใส่ช่องกรอง 60 บาท
หลอดไฟ โตชิบ้า จำรุ่นไม่ได้ ประมาณ 200 บาท รางท๊อป ประมาณ 350 บาท
น้ำประปา 375 ลิตร ประมาณ 3-5 บาท แช่น้ำทิ้งไว้ 3-5 วัน แล้วถ่ายออก เติมน้ำใหม่อีก 5 บาท
ตาข่ายกันปลากระโดด ขายเป็นเมตร จำราคาไม่ได้ + ท่อประปา 4 หุน ประมาณ 1 เส้น 60 กว่าบาท พร้อมข้องอ 8 ตัว ๆละประมาณ 5 บาท เอาไว้ทำโครง รวมประมาณ 250 บาท
พัดลมเป่าผิวน้ำ 1 ตัว ประมาณ 350 บาท
เกือบลืมขาตู้ อีกประมาณ 2 พันกว่า ๆ
รวมค่าตู้ 6720 บาท
เหลืออีก 3,280 บาท(10,000 - 6720)
ถ้าจะซื้อ Frontosa blue zaire ขนาดไม่เกิน 1.5 นิ้ว ได้ไม่เกิน 2 ตัว
การเลือกซื้อฟรอนโปรดศึกษาให้ดีก่อนนะครับ มันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกันในการดูปลา ใจเย็น ๆ ค่อยเลือกซื้อเติมไปเรื่อยๆ จะสนุกกว่าซัดตูมเดียวจบ
ขอให้สนุกกับการเลี้ยง และอยู่กับพี่น้องสายแท้ในห้องนี้ไปนาน ๆ นะครับอิ อิ เป็นป๋าโรม มั๊งครับ ที่แนะนำให้ใช้เคริก้า อะครับ
เรื่องปะการังเป็น buffer ช่วยคงค่า pH และความกระด้างให้เหมาะกับพวกปลาจากแทงกันยิกา และมาลาวีก็ถูกต้องแล้วครับ แต่เราอาจไม่จำเป็นต้องเอาไปทำเป็นวัสดุกรองก็ได้ (เหตุผลด้านล่างที่จะกล่าวต่อไป) โดยเราสามารถเลือกเอามาปูแต่งพื้นตู้ หรืออาจจะใช้เปลือกหอยนางรมแทนก็เป็นตัว buffer ได้เช่นกัน นอกจากนี้ปัจจุบันในบ้านเรายังมีวัสดุกรองคล้ายๆ เซรามิกริงค์ที่ทำจากสารจำพวกแคลเซี่ยมคาร์บอเนตที่สามารถนำมาใส่ในระบบกรองเพื่อช่วยปรับ pH และความกระด้างให้สูงได้ทดแทนปะการังที่ค่อนข้างจะขัดกับแนวอนุรักษ์นิยม
และนอกจากนั้น ในการจะรักษาค่า pH และความกระด้างให้เหมาะกับปลาเลคแทง ตอนนี้ก็มีผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จำพวกแร่ธาตุเสริมต่างๆ เข้ามาไว้เติมลงในตู้หมอเลคแทง ซึ่งช่วยให้ pH และค่าต่างๆ ในน้ำเหมาะแก่การเลี้ยงโดยไม่ต้องพึ่งปะการังแล้วครับ และเร็วๆ นี้เห็นว่าทางร้านปราณี ก็กำลังให้ทีมวิจัยผลิตแร่ธาตุเพื่อปลาหมอเลคโดยเฉพาะออกมาขายคนไทยราคาประหยัดอีกด้วย
ส่วนที่หลายคน รวมทั้งป๋าโรมแนะนำให้ใช้เคริก้านั้น จริงๆ ก็คือทางเคริก้าเค้าเคลมว่าพื้นที่ผิวของเคริก้า มีมากกว่าวัสดุกรองแบบ Pack base ตัวอื่นๆ อะครับ ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะมากกว่าปะการังเป็นเท่าตัว จึงต่างแนะนำให้ใช้เพราะราคาไม่แพงกว่าปะการัง หากจะเลือกวัสดุแบบวางนิ่งในช่องกรองอะนะครับ
ว่ากันที่จริงยังมีตัวเลือกอื่นๆ อีกหลายอย่างนะ ลองไปศึกษาข้อมูลเรื่องวัสดุสำหรับกรองชีวภาพดู ยกตัวอย่างเช่นพวกใยกรองแบบในบ่อกรองปลาคาร์ฟ (Japanese filter mat, Matala) ซึ่งก็มีพื้นที่ผิวสูงมากถึง 350-500 ตรม/ตลม ซึ่งมากกว่าปะการัง 3-5 เท่าตัว
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอื่นเช่น Moving bred ที่ตัววัสดุกรองเป็นเม็ดโครงสร้างพลาสติกที่มีค่าความถ่วงจำเพาะพิเศษ แต่ละเม็ดมีพื้นที่ผิวมหาศาลจากการออกแบบโครงสร้าง จึงมีคุณสมบัติให้แบคทีเรียกเกาะและทำงานได้สูงสุด ด้วยลักษณะกึ่งลอยกึ่งจม move ไปมาในช่องกรองจากแรงฟองอากาศที่เป่า ที่จะสามารถให้พื้นที่ผิวทำงานสูงกว่าวสัดุอื่นๆ เป็นสิบเท่าตัว
รูปข้างล่างนี้เป็นส่วนช่องกรองข้างของตู้ปลาบ้านป๋าโรม ที่ใช้ Moving bred เป็นวัสดุกรองแทนพวก Pack base ครับ
โอ้ว ขอโทษครับดูชื่อlogin คลาดไป แหะๆ ในรูปนี่คือที่ป๋าโรม(ขออนุญาตเรียกป๋าตามนะครับ^ ^) บอกว่าให้ทำหวีล่างยกจากพื้น 3 นิ้ว คือเป็นหวีแบบแนวนอนแบบในรูปใช่ป่าวครับ แล้วหวีบน ก็จะเป็นแนวตั้งปกติใช่ป่าวครับ ^ ^ เจ้า moving bred นี่ราคาสูงไม๊ครับผม
ขอบคุณอีกทีครับ ^ ^
ความคิดเห็นที่ 27
ความคิดเห็นที่ 28
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ
เข้าระบบกระทู้น่าสนใจอื่นๆ
หาเรื่องเที่ยวสวนนนนนนนนนนนน
วันอาทิตย์นี้มีใครว่างบ้าง เห็นพี่อ้อกลับมาจากขอนแก่นเลยชวนเดินสวนเลย5555ใครว่างไปเจอกันเน้อ สมาชิก พี่อ้อ ผม พี่หมู พี่แพน แบบว่าบังคับกันเลยพี่บอยด้
เอามาอวด ขอบอกว่าสวย
ใครเจ๋งกว่านี้ มีอีกป่าว เอามาอวดหน่อย๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕+ขอบคุณบอย มากเลยนะครับ เดี๋ยวขึ้นกรุงเทพ ชามะนาว หวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยบ นะจุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นอกเรื่อง สมาชิกห้องสายแท้ถ่ายภาพปลาสวยๆ ทั้งนั้น
อยากทราบว่าใช้กล้องอะไรกันบ้าง แล้วมีวิธีถ่ายอย่างไร มาเล่าหรือสอน มือใหม่บ้างนะคะถ่ายหลายรูปมากๆถึงจะชัดซักภาพยิ่งเป็นปลาตัวเล้กๆยิ่งยาก ส่วนมากจะได้
ทาปาโจส กำลังโตครับ ใครอยากได้แจกครับ
หลังจากที่มาถามว่าเลี้ยงกันยังไง ก็ได้สัก 2-3 อาทิตย์ โตเท่าใบมะขามแล้วครับใครสนใจแวะมาเอาได้นะครับ เพราะตอนนี้ ในตู้ใหญ๋ กำลังวางไข่อีก 2 คอกอ่าจะเลี
ช่วยแนะนำหน่อยครับผมมือใหม่อยากเลี้ยงฟรอน
ผมมีตู้48*20*20 อยากเลี้ยงฟรอนโตซ่า อยากทราบว่า
1.เลี้ยงได้กี่ตัวครับ ในใจอยากเลี้ยง5-6
2.พี่ๆคิดว่าตู้นี้สามารถเลี้ยงได้สักกี่ปีอะคับ ถึงจะอัพตู้
3.ผมจะปูพื้นด้วยปะการัง00 อยากทราบว่าต้องปูเยอะแค่ไหนมากน้อยมีผลไหมคับหรือตามใจเรา