ปลาทอง ปลาสวยงาม ชนิดแรกๆ ที่ เชื่อว่า หลายคน คงมีโอกาสได้สัมผัส ได้เลี้ยงดู ได้หลงเสน่ห์ ความน่ารัก ความอุ้ยอ้าย ของปลาชนิดนี้ กว่าร้อย สายพันธุ์ ที่เกิดจาก ความพากเพียร พยายาม ของมนุษย์ เรา
อุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม จากเว็บช้อปปิ้งชั้นนำ
45 บาท150.00 บาท
1,200 บาท
ความคิดเห็นที่ 1
มีมี่
(203.170.133.231)
[2005-05-13 22:21:55]
ความคิดเห็นที่ 2
นุ
(203.172.117.62)
[2005-05-13 22:48:42]
ความคิดเห็นที่ 3
Nowbassist
(61.91.110.102)
[2005-05-14 00:13:25]
ความคิดเห็นที่ 4
fatfish47
(203.147.11.10)
[2005-05-14 10:58:30]
ความคิดเห็นที่ 6
มี่
(203.170.130.137)
[2005-05-14 15:16:41]
ความคิดเห็นที่ 7
JJ
(203.118.117.21)
[2005-05-14 15:21:12]
ความคิดเห็นที่ 8
JoieGirl25
(203.144.226.242)
[2005-05-16 08:13:18]
เชิญกูรูปลาทองแวะหน่อยเพคะ ถกปัญหาปลาหัวทิ่มค่ะ
ซึ่งมีข้อสังเกตุและคำอธิบายเกี่ยวกับกรณี ปลาทองหัวทิ่ม ที่แตกต่างไปจากที่มี่เคยรับรู้และเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นมาค่ะ เลยขอเอามาปรึกษาเพื่อน ๆ นะคะ เผื่อว่า หากเป็ฯเช่นที่เค้าว่า เราก็จะได้ช่วยกันแนะนำเพื่อนผู้เลี้ยงในสิ่งที่ถูกต้องได้ค่ะ
เอ่อ...แต่ว่า ...ยาวหน่อยนะคะ...
หัวข้อที่เค้าให้ข้อสังเกตุมาคือว่า เค้าคิดว่า ธาตุทองแดงอาจจะเป็นสาเหตุของการว่ายน้ำหัวทิ่ม ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นโรคเสียการทรงตัวในไม่ช้า ซึ่งรักษายากมาก ๆ
สมมุติฐานทั่วไปเกี่ยวกับอาการนี้นะคะ คือว่า ปลาที่เพิ่งซื้อมามีอาการว่ายน้ำหัวทิ่ม ภายใน 2 อาทิตย์หลังจากซื้อมา ซึ่งมีอาการคล้ายคลึงกับโรคเสียการทรงตัว ติดปรสิต และติดเชื้อแบคทีเรีย แต่เค้าคิดว่าอาจจะมีการได้รับพิษจากโลหะหนัก
ซึ่งเค้าคิดว่าเป็น "ทองแดง" และเค้าคิดว่าการรักษา(อย่างที่เวลามีใครโพส์อาการนี้มา ทุกคนทั่วโลกรวมทั้งพวกเราชาวอาณาจักรปลาทอง และมี่เอง) อย่างเช่น
-งดอาหาร
-ให้กินถั่วลันเตาปอกเปลือก
-ใส่ยาแอนตี้ปรสิตหรือ แอนตี้แบคทีเรีย
ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่การรักษาที่เหมาะสมนัก...
การวินิจฉัยโรค ว่ายน้ำหัวทิ่มในปัจจุบัน
หากเป็นสาเหตุจากน้ำที่ใช้เลี้ยง การรักษาคือ
-ทดสอบค่าต่างๆ ในน้ำ เปลี่ยนถ่ายน้ำ แล้วทดสอบใหม่
หากวินิจฉัยว่าเป็นโรคเสียการทรงตัว รักษาโดยอย่างที่บอกมาแล้ว - งดอาหาร ให้กินถั่วลันเตาปอกเปลือก แช่อาหารในน้ำก่อนให้กิน
หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ให้ยาแอนตี้ไบโอติค
หากเกิดจากปรสิต ให้ยาแอนตี้ปรสิต
ทั้งหมดนี้ ร่วมกับการแช่ปลาในน้ำเกลือเข้มข้น คือใส่เกลือ 0.3% ของปริมาตรน้ำ
โดยทั่วไปเมื่อมีคำถามเข้ามาบอกอาการว่ายน้ำหัวทิ่ม เราก็จะวิเคราห์ว่าเป็นโรคเสียการทรงตัวทันที
ข้อสังเกตของโรคนี้ และโรคเสียการทรงตัว เกิดจากสาเหตุหลายปัจจัย และมักจะเกิดกับปลาทองประเภทที่มีลักษณะสีสันที่สวยงาม(แฟนซี) และมีรูปร่างกลม อย่างเช่น ออรันดา ริวกิ้น แฟนเทล เป็นต้น ดูอาการได้จากปลาที่มักจะลอยตัวอยู่บริเวณผิวน้ำ หรือไม่ก็เอาแต่กบดานอยู่ที่ก้นตู้ตลอดเวลา(จาก koivet.com)
ทั่วไปจะคิดว่าเป็นเพราะว่าเยื่อบุผิวภายในถุงลมของปลาถูกกระทบจากสิ่งปฏิกูลในน้ำ ทำให้ปลาไม่สามารถควบคุมกระบังลมได้ ทำให้การงดอาหาร ถั่วลันเตาปอกเปลือก หรือการให้ปลาถ่ายท้อง เป็นการรักษาที่แนะนำกันมานานแสนนาน
การวินิจฉัยโรคหัวทิ่มเป็นโรคเสียการทรงตัว ดังกล่าว ส่วนใหญ่แล้วคุณจะเสียปลาหัวทิ่มนั้นไปภายใน หนึ่งอาทิตย์หรือไม่ก็สิบวัน และตัวอื่นๆ ก็จะตายตามกันไปหากคุณไม่ได้ยับยั้งปรสิต และจัดการกับการลุกลามของโรคภายในตู้
อะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้
หากค่าต่าง ๆ ในน้ำนั้นอยู่ในระดับที่ถูกต้องแล้ว ในการศึกษาค่า จีเอช เคเอช และพีเอช เค้าพบว่าน้ำไม่ใช่มีส่วนประกอบแค่ ไฮโดรเจน เป็นไปได้ไหมที่ แอมโมเนีย ไนไตร์ท หรือไนเตรท เป็นตัวทำทำให้เกิดโรคนี้
คนผู้หนึ่งซื้อปลาที่ดูแข็งแรงกลับมา ภายในไม่กี่วันจากนั้นมันก็เกิดอาการหัวทิ่ม สมมุติว่าปลาตัวนี้แข็งแรงดี คนซื้อและคนขายอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน บริเวณใกล้กัน ใช้น้ำจากแหล่งเดียวกัน เจ้าของร้านขายปลาอาจจะ มีน้ำที่ดีกว่า หรือว่ามีตู้ที่ใหม่กว่า ทำให้ปลาได้น้ำที่สดใหม่กว่า (ไม่มีแอมโมเนีย ไนไตร์ท ไนเตรท) และไม่มีการเลี้ยงแน่นเกินไป แต่...ปลาก็ยังคงหัวทิ่มและตาย ไปในที่สุด
ทำไมปลาที่เกิดอาการนี้ ถึงได้ ตายภายใน 24 ชั่วโมงหรือ บางตัวอาจจะหลังจากนั้นเป็นอาทิตย์ ๆ ทั้ง ๆ ที่ได้ให้กินถั่วลันเตาปอกเปลือก ใส่ยา รวมทั้งใส่เกลือแล้ว
อะไรทำให้เกิดอาการนี้ขึ้น มีปัจจัยอื่น ๆ อีกไหม
ทองแดง...
อันที่จริงแล้วนั้น น้อยมากที่ทองแดงจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในน้ำดื่มน้ำใช้ การเจือปนของทองแดงในน้ำส่วนใหญ่เกิดจากระบบการจัดส่งน้ำ ท่อส่งน้ำที่เป็นสนิม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเคมีของน้ำ
สาเหตุที่ทำให้เกิดการกัดกร่อนนั้น มาจากภาวะความเป็นกรด และอุณหภูมิของน้ำที่สูง ส่วนประกอบของสารละลายของแข็งต่ำ คาร์บอนไดออกไซด์ หรือออกซิเจนละลายในน้ำสูง
จริง ๆแล้วนั้น น้ำอ่อนจะมี สิ่งกัดกร่อนมากกว่าน้ำกระด้างเสียอีก เนื่องจาก ภาวะความเป็นกรดสูงกว่า
พิษของทองแดงต่อมนุษย์ อาจก่อให้เกิดการ ระคายเคืองในลำไส้ ปวดท้อง อาการอาเจียน หากได้รับในปริมาณสูงก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ มันจะถูกแพร่สู่กระแสโลหิตและไปทั่วเนื้อเยื่อ จะสะสมเข้มข้นอยู่ที่ตับ ไต หัวใจ กล้ามเนื้อและสมอง ร่างกายเองก็พยายามที่จะล้างพิษทองแดง มันจะผลิตสารตัวหนึ่งออกมา ชื่อว่า Metallothionein
Metallothionein เป็นโปรตีนตัวหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ยับยั้งโลหะในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการกำจัดพิษของโลหะหนัก มันจะไปขัดขวาง zinc, cadmium, copper, mercury และ silver มันจะจดจำสารเหล่านี้ได้ เมื่อเจอก็จะเข้าไปยับยั้ง
และนี่คือคำอธิบายที่ว่า ทำไม อาการหัวทิ่มมักจะเกิดกับปลาที่ซื้อมาใหม่ ๆ เท่านั้น นั่นเป็นเพราะปลาเก่าที่อยู่ในตู้อยู่แล้ว จะมีสาร Metallothionein อยู่ในตัวมันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ทองแดงที่ไม่ได้ถูกยับยั้งจะผ่านทางกระแสเลือดเข้าไปยังตับ ซึ่งก็จะทำให้ตับอักเสบขยายใหญ่ขึ้น ...นี่คือผลที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในมนุษย์ แล้วถ้าเป็นปลาทองล่ะ..
ตับของปลาทองอยู่บริเวณ ด้านหน้าของร่างกาย ตรงกลางระหว่างเหงือกทั้งสองข้าง เมื่อได้รับทองแดงในปริมาณที่เป็นพิษทำให้ตับของมันตรงตำแหน่งนั้น อักเสบ ขยายใหญ่ขึ้น เป็นสาเหตุให้มันหัวทิ่ม กระบังลมจึงได้รับผลกระทบไปด้วย
น้ำที่ปลอดภัยสำหรับการดื่ม ต้องมีค่าทองแดงต่ำกว่า 1.3 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่ง ที่ระดับ 1.3 มก. ต่อลิตรนั้น เป็นระดับที่สุงสุดสำหรับการเจือปนในน้ำดื่ม และต้องมีการบำบัดน้ำนั้นโดยทันที
มีรายงานถึง การเสียชีวิตของมนุษย์ ที่ระดับทองแดงในน้ำ 2 มก. ต่อ ลิตร และพบว่าเนื้อเยื่อตับของผู้เสียชีวิตมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ระดับทองแดง สำหรับปลาทองคือ 0.4 พีพีเอ็ม (ในน้ำกระด้าง)
มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปริมาณพิษจะลดลงเมื่อภาวะความเป็นด่างและ total organic carbon เพิ่มขึ้น
พิษที่แท้จริงของทองแดงในตู้ปลาจะขึ้นอยู่กับความเสถียรของสาร Metallothionein และ ค่าพีเอช และ ภาวะความเป็นด่างของน้ำภายในตู้ สารประกอบอินทรีย์อื่น ๆ ในน้ำ
วิธีจัดการกับทองแดง คือ การใส่น้ำยาปรับสภาพน้ำ ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ มันจะกำจัดคลอรีน และสารโลหะหนัก เช่นทองแดง สังกะสี ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรจะลงทุนซื้อชุดทดสอบค่าพีเอช แอมโมเนีย ไนไตร์ท ไนเตรท มาตรวจสอบอยู่เป็นระยะ
หากตรวจพบ ค่าพีเอชเป็นกรด (ปลาทองค่าพีเอชอยู่ที่ .2-7.6) ก็ต้องหาน้ำยาที่ปรับสภาพน้ำให้เป็นด่าง หากค่าพีเอชเป็นด่างมากไป ก็ต้องใส่น้ำยาปรับให้มันลดลงมาอยุ่ในระดับที่ไม่อันตราย
หากน้ำปะปาของคุณมีปริมาณทองแดงที่สูง แต่ต่ำกว่า 1.3 พีพีเอ็ม และคุณมีท่อทองแดงซึ่งอาจจะกำลังเป็นสนิม การใส่น้ำยาตามโดสข้างขวดหนึ่งโดสอาจจะไม่พอที่จะกำจัดเจ้าพวกทองแดงในน้ำออกได้ทั้งหมด
หากปลามีธาตุทองแดงในปริมาณที่ตับไม่สามารถจัดการกับมันได้ จะส่งผลลัพธ์ที่ความล้มเหลวของระบบภายในและสู่ความตายในที่สุด
คำแนะนำสำหรับ การรักษาเร่งด่วน
การใส่น้ำยาปรับสภาพน้ำในปริมาณมากกว่าปกติ สองหรือสามเท่า จะสามารถกำจัดทองแดงให้หมดไปจากตู้ปลาได้