กรองในที่ว่าคือ กรองมุม รึปล่าวครับ ถ้าใช่ลองเดินดูร้านฝั่งตรงข้ามพิพิธภัณฑ์เด็กดูครับ จะอยู่ร้านแรกที่มีขายตู้ปลาและของตกแต่งทั่วไปอยู่ข้างหน้าอ่ะครับ จุดสังเกตคือร้านจะอยู่ถัดมาจากที่จอดรถอ่ะครับ ผมก็ไปซื้อร้านนั้นมา ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง ตู้ขนาด 24 นิ้ว ชุดกรองมุมราคา 250 (กรองอย่างเดียวเลย อุปกรณ์ซื้อเพิ่มเอง) เป็นลัษณะกรองสำเร็จรูปครับ ซื้อมาใส่ได้เลย อ่อ อย่าลืมซื้อซิลิโคนมาติดเพิ่มด้วยนะครับ ป้องกันกรองมันลอย ลองไปถามดูก็ได้ครับ ไปบอก size ตู้ พร้อม ความสูงของตู้อ่ะครับ คิดว่าน่าจะไม่เกิน 350 มั้งครับ

พอดีวันนั้นมีคนเขาแนะนำให้ไปดูที่ร้าน เจ๊เล็ก มันเป็นกรองเพรช แตตู้ผม 30 เขาขาย 350 ไม่รวมไส้กรอง ตัวกรองเป็นกระจก อยากถามต่ออะครับ ว่าต้องซื้อซิลิโคนติดด้วยหรือป่าวครับ หรือวางใส่ได้เลย เพราะจากที่ถือวันนั้น น้ำหนักมันไม่น่าจะลอยได้เลย

กรองเพชรกับกรองมุมเป็นตัวเดียวกันครับแล้วแต่จะเรียก ตัวกรองจะติดฟิมส์สีดำมาให้เลย 350 ไม่แพงนะครับ แต่ว่าราคานี้น่าจะไม่รวมตัวปั๊มและวัสดุกรอง ส่วนวัสดุกรอง ผมแนะนำให้ซื้อหินพัมมิสและใยกรองมาใส่ก็พอครับ ไบโอบอลไม่ต้องซื้อมาหรอกครับ ไม่มีประโยชน์(ทางร้านชอบยัดเยียดให้ซื้อ) แล้วต้องลองถามทางร้านดูครับว่า ตู้ 30 ใช้ปั๊มขนาดเท่าไหร่คนขายเค้าจะบอกมา ถ้าสะดวกเดินหาข้องอท่อประปามาใส่แทนตัวท่อที่เค้าแถมมาก็ดีครับ ราคาตกตัวละไม่เกิน 20 บาท จะได้หมุนให้น้ำมันพุ่งขึ้นบนตู้ได้ น้ำจะได้ไม่วนปลาไม่เหนื่อย เพราะตัวที่เค้าแถมมาจะเป็นลักษณะพุ่งออกมาทางข้างกรองเลย มันจะทำให้น้ำวน ส่วนเรื่องซิลิโคนควรติดก้อจะดีกว่านะครับ เพราะแรงดันน้ำในตู้ค่อนข้างเยอะ อีกอย่างนึง กันตัวกรองมันเคลือนที่ด้วย ซิลิโคนหลอดละ 50 บาทเองครับ ทาแค่ด้านล่างของกรองก็พอ ประหยัดและสวยดีด้วยไม่เลอะเทอะเพราะอยู่ด้านล่างตู้มองจากข้างนอกไม่เห็น(ผมก็ทำแบบนั้น) อ่อ ข้อสำคัญก่อนการติดตัวกรองควรล้างตู้และทำความสะอาดให้แห้งนะครับ พอติดเสร็จทิ้งไว้สัก 24 ชม. หลังจากนั้นนำตู้ไปแช่น้ำต่อสัก 2-3 วัน เพื่อเป็นการล้างสารซิลิโคนที่ตกค้างออก จากนั้นถ่ายน้ำออก แล้วค่อยใส่น้ำใหม่ลงไป ทิ้งไว้จนคลอรีนจาง แล้วค่อยนำปลาลงปล่อยก็ได้ครับ

พี่พอจะมีรูปไหมอะครับ แล้วอีกอย่างตู้ผมมันมีคานอะครับ ผมกลัวว่าถ้าติดซิลิโคนแล้วเวลาจะเปลี่ยนไส้กรองแล้วมันจะลำบาก เพราะมันจะติด แต่ตู้ผมสูงประมาณ 20 แต่กรองที่ไปดูสูง 15 น้ำผมใส่ประมาณ 18 ปลาผมตัว 3 นิ้วไม่รวมหาง กลัวมันจะติดเข้าไป(เผื่อมันซน) อยากถามว่า ถ้าใส่น้ำประมาน 18 นิ้ว กรองสูง 15 นิ้วจะพอหรือป่าวครับ ถ้ามีรูปที่พี่ทำ รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ

ถ้ากรองมีระดับความสูงเท่าไหร่ ความสูงของน้ำในตู้ก็มีระดับความสูงเท่ากรองครับ ยกตัวอย่างคือ ถ้าซื้อกรองสูง 15 นิ้ว ระดับน้ำในตู้ก็จะมีความสูงได้เพียง 15 นิ้ว เพราะระบบกรองจะมีการทำงานแบบระบบน้ำล้น(อาศัยหลักการเดียวกับกาลักน้ำ) มันจะรักษาระดับน้ำโดยอัตโนมัติ ผมแนะนำให้ไปดูกรองของตู้ 30 นิ้วเลยดีกว่าครับ มีขายครับ เพราะเท่าที่บอกมา ความสูง 15 นิ้ว มันจะเป็นกรองที่ใช้กับตู้ 24 นิ้วนะครับ ซึ่งเป็นขนาดที่ผมใช้อยู่ ตอนไปซื้อไปบอกคนขายว่า ตู้ 30 นิ้วสูง 20 นิ้ว มันจะมีรุ่นที่ทำไว้สำเร็จรูปแล้วครับ หรือถ้าบอกว่ากลัวติดคาน ผมแนะนำ เล่นกรองบนไปเลยครับ สามารถวางบนคานได้เลย ราคาพอๆกับกรองเพชรครับ เลือกรุ่นที่ใช้กับตู้ 30 ครับ ข้อดีคือ มีอุปกรณ์มาให้ครบชุดเลย ไม่ต้องซื้อปั๊มเพิ่มด้วย เพราะตัวกรองสามารถวางอยู่บนคานตู้เลย อีกอย่างเวลาล้างสะดวกด้วย เลี้ยงปลาไม่เยอะไม่ต้องกลัวน้ำเสียง่ายครับ แต่ยังงัยก็ควรถ่ายน้ำ 30 เปอร์เซ็น ทุกอาทิตย์นะครับ ครบ 1 เดือน ค่อยถ่าย 100 เปอร์เซ็น

เปรียบเทียบราคาให้ดูคร่าวๆนะครับ

กรองเพชร ประกอบด้วย
ตัวกรอง 350
วัสดุกรอง (ใยแก้ว+หินพัมมิส) 150
ปั๊มน้ำ 100
ซิลิโคน 50
รวม 650 โดยประมาณ
คุณสมบัติ คือ ระบบชีวภาพในน้ำจะทำงานได้ดีมาก แต่ข้อเสียคือ เปลืองพื้นที่ตู้พอสมควร ถอดล้างยากพอสมควร ต้องรักษาระดับน้ำในช่องกรองให้ท่วมปั๊มอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นปั๊มไหม้แน่ๆ

กรองบน ประกอบด้วย
ตัวกรอง(กรอง+ปั๊ม) 300 -350 (เลือกซื้อรุ่นที่รองรับตู้ 30-36 นิ้วนะครับ ใส่วัสดุกรองได้เยอะ)
วัสดุกรอง (ใยแก้ว+หินพัมมิส) 100
รวม 450
คุณสมบัติ คือ ระบบชีวภาพในน้ำจะทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง ติดตั้งง่าย ถอดล้างสะดวก เพราะตัวกรองอยู่บนตู้ ข้อเสียคือ ที่ใส่วัสดุกรองเล็กไปนิดนึง และไม่สามารดปิดฝาตู้ได้(ถ้ามี)

สรุป คือ ถ้าในลักษณะตู้แบบของคุณ เป็นผมจะเลือกกรองบน เพราะ ตู้ที่ว่าคือตู้ที่มีคานอยู่ด้านข้าง ทำให้สามารถวางตัวกรองได้พอดี แต่ถ้าเป็นกรองเพชร จะลำบากในการติดตั้ง และ ล้างเป็นอย่างมาก เพราะ ตัวกรองเราต้องไปสอดไว้ใต้คาน ทั้งนี้และทั้งนั้น การเลือกระบบกรองควรเลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตู้ที่มีอยู่ด้วยครับ จึงจะเหมาะสมที่สุด

ตอนนี้ผมก็ใช้กรองบนอยู่นะ แต่ใจผมพอได้เห็นกรองเพรชแล้วก็อยากได้ แต่ยังไม่มีความรู้เรื่องของการดูแรรักษาซักเท่าไหร่ แต่พอได้รู้ว่ามันต้องอาศัยฝีมือซักหน่อยในการติดซิลิโคน + ถอดล้างลำบากแล้ว ผมเริ่มจะเปลี่ยนใจ แต่ลึกๆก็อยากได้อยู่ดี ผมใช้กรองบนของอันนี้อะครับ แต่เปลี่ยนตัวปั้มน้ำเป็น Sonic AP1600 มันจะดูดแรงกว่าตัวที่ให้มาได้ไวเท่าตัว แต่เสียอยู่อย่างนึง กระบะใส่ไส้กรองข้างบนมันสั้นมากๆ ยาวประมาณ 10 นิ้วเองอะครับ หรืออาจจะน้อยกว่านั้น อยากหากระบะกรองอันใหม่ที่ใหญ่ๆยาวๆ แต่หาไม่เจอซักที ถ้ากรองเพรชไม่ต้องติดซิลิโคนนี่ผมไม่ต้องคิดไรเลยนะเนี่ย ซื้อแบบไม่ต้องปรึกษาใครเลย - -" สงสัยต้องหากรองบนขนาดซักตู้ 60 มาใส่ตู้ 30 ละม้าง . . . .

ก้อเข้าท่านะครับ ลองดัดแปรงโดยซื้อรุ่นที่ตัวใหญ่ๆ สำหรับตู้ใหญ่ๆ มาใส่ตามแนวยาวของตู้ดูดิครับ แทนที่เราจะใส่ตามแนวขวาง แค่นี้เราก้อได้พื้นที่สำหรับเอาไว้ใส่วัสดุกรองเพิ่มขึ้นแล้ว อ่อ ว่างๆถ่ายรูป คานตู้มาให้ดูก้อดีนะครับ เผื่อจะมีโอกาสกลับมาเล่นกรองเพชรได้ เดี๋ยวถ้ายังงัยผมช่วยพิจารณาดูก็ได้ครับ ถ้ามันพอจะใส่ได้ก็สอยมาเลย อิอิ ลืมบอกไป แปะซิลิโคนไม่ยากอย่างที่คิดครับ

นี่ครับ คานตู้ วันนี้ไปดู ราคากรองของตู้ 48 มา กล่องกรองใหญ่กว่าของเดิมเท่าตัว ราคาแค่ 230 มั๋ง นะครับ หลงๆลืมๆ แต่ไม่เกิน 250 แน่นอน แล้วก็ขอดูกรองเพรชด้วย ผมคิดว่า เอากรองบนดีกว่า คุณภาพด้อยกว่ากันไม่เยอะ ดีตีงที่ไม่เกะกะตา และไม่เปลืองเนื้อที่ รอมีเงิน แล้วจะไปสอย

อันนี้เป็นกล่องกรองที่ใช้อยู่ ดัดแปลงเล็กน้อย ผมเอาฟิวเจอร์บอร์ดมาตัดคั่น ทำสูงต่ำ ทำให้น้ำล้น จะได้กรองน้ำได้เยอะๆ ลองดูครับๆ