Skip to content

ปรับปรุง เว็บไซต์ เยอะแยะเลย ลองกดเข้าไปเล่นดูสิ ตอนนี้ มีหมอตั้ม มาประจำที่ โรงพยาบาลแล้วนะครับ ใครมีปัญหาปลาป่วย ปรึกษาได้ครับ

โลกปลาหมอสีสายพันธุ์ แท้ๆ ทั้งจาก ทะเลสาบมาลาวี, ทังแกนยิกา, หรือ ปลาหมอสี สายพันธุ์ แท้ จาก ทวีปอเมริกา ตลอดจน ปลาหมอแคระ ชนิดต่างๆ อยากให้เว็บบอร์ด นี้ มีส่วนช่วยให้คนรักปลา รู้จัก ไม่ลืม ในสายพันธุ์ ดั้งเดิม ตามธรรมชาติของปลาในครอบครัว Cichlidae

0004912

ตำนานคนกับปลา

watermonkey
watermonkey
449
[2009-02-13 01:06:58]
อยากให้ทุกท่านเล่าตำนานเกี่ยวกับปลาหน่อยครับ

ผมอยากรู้ความผูกพันธ์ ระหว่างคนกับปลา หน่อยครับ

เช่นพระอภัยมณี กับนางเงือก

ปลาโลมาน้ำจืดที่อเมซอนกับคน ผมว่านักเลี้ยงปลารุ่นเก๋าคงมีเรื่องเล่นกันเยอะเลยครับ

แต่เรื่องระหว่าง พี่ๆกับน้องปลา นู๋ปลา หรือ เจ๊ปลา อันนี้ไม่เอาครับ 5

ความคิดเห็นที่ 1

watermonkey
watermonkey
449
[2009-02-13 01:08:07]
แก้นิดนึงครับ อิอิ

ผมว่านักเลี้ยงปลารุ่นเก๋าคงมีเรื่องเล่ากันเยอะเลยครับ

ความคิดเห็นที่ 2

popdeub
popdeub
706
[2009-02-13 01:19:24]
ไม่มีอะครับตำนาน(ยังไม่ตาย5555)

จำได้ลางๆว่าเอาปลากริมมาเลี้ยงในแก้วกัฟ เหอะๆๆๆๆ

ไม่มีปัญญาซื้อ จับเอา

ความคิดเห็นที่ 3

mootoy
mootoy
1122
[2009-02-13 01:53:50]
เดี๋ยวนี้ใช้เครื่องปั่นแล้วครับ ไม่ต้องตำนานแล้ว อิอิ

ไปละครับ ฟิ้วววววววว

ความคิดเห็นที่ 4

SynkOnize
SynkOnize
303
[2009-02-13 06:56:49]
ผมชอบหนังเรื่อง Jaw ฉลามน้อยแสนรัก

ที่ชอบคาบคนพาไปว่ายน้ำเล่น

ความคิดเห็นที่ 5

Magictod
Magictod
419
[2009-02-13 07:44:20]
ชอบมาตั้งแต่เด็ก ของเล่นไม่เคยร้องซื้อ เคยแต่ดิ้นๆๆๆ หนูจะเอาปลาอย่างเดียว โตมาเลี้ยงแต่ปลาจะเลิกเลี้ยงก็เลิกไม่ได้ อิอิ
Love Me Love My Fish

ความคิดเห็นที่ 6

Jonn
Jonn [2009-02-13 07:52:39]
จ่าโพ-ชะโดดุ
จ่าโพ แห่งอำเภอศรีสวัสดิ์ เป็น ต.ช.ด.เก่า ยศสุดท้ายเป็นจ่าสิบตำรวจแต่คนทั่วไป เรียกกันว่า "จ่าโพ" และเรียกกันอย่างนี้เรื่อยมาแม้จะออกจากราชการแล้ว ส่วนคำว่า"ชะโดดุ"ในที่นี้ไม่ใช่นามสกุลหรือฉายานาม แต่เป็นการบอกประวัติหรือพฤติการณ์ของจ่าโพที่เคยปะทะกับปลาชะโดถึงเลือดถึงชีวิต มาแล้วอันปลาชะโดนั้น เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่วงศ์เดียวกับปลาช่อน แต่ก็เกล็ดเล็กและจำนวนเกล็ดมากกว่าเฉพาะแถบเส้นข้างตัวมีเกือบร้อยเกล็ดข้างลำตัว มีแถบสีดำเรียงคู่กันจากนัยน์ตาถึงหางระหว่างแถบเป็นสีแดงแถบนี้อาจแตกเป็นแต้มหรือ จุดเมื่อปลาโตเต็มที่บางท้องที่เรียกว่าปลาแมลงภู่หรือแมงภู่เพราะสีคล้ายสีตัวแมลงภู่บาง ท้องถิ่นเรียกแต่เพียง "โด" ก็มี และบางท้องถิ่นก็เรียกว่าปลาอ้ายป๊อก ตัวโตเต็มที่ขนาดโคนขา ยาวเกือบเมตร มีอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีมากและมีขนาดใหญ่ๆ ด้วยอันปลาชะโดนั้นได้ชื่อว่าเป็นปลาดุ ชะโดลูกอ่อนเคยกัดคนที่ลงไปเล่นน้ำบริเวณที่มันเลี้ยงลูกบ่อยๆ และมักอยู่ด้วยกัน 2 ตัว ผัว-เมีย ช่วยกันดูแลลูกและก็ดุทั้งตัวผู้-ตัวเมีย แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่ากัดใครถึงตาย นอกจากจ่าโพที่จะเล่าต่อไป
ในปี 2528 หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวเรื่องตำรวจถูกปลากัดตายใครที่เคยอ่านและความจำดีคงจะยังจำได้ ก็จ่าที่ผมจะเล่านี่ละครับงานอดิเรกของจ่าโพ คือ ชอบยิงปลา แกจะมีปืนลูกกรดยาวกระบอกหนึ่ง เรือพายเล็กๆ ลำหนึ่ง พายเลียบไปตามขอบอ่าง แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนต้นไม้ที่ตายแห้งเพราะน้ำท่วมซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอ่างเก็บน้ำหน้า เขื่อนคอยดูปลาผุดหรือโผล่ขึ้นมาที่ผิวน้ำแล้วยิง ส่วนมากปลาที่จ่าโพยิงจะเป็นปลาช่อนหรือปลาชะโดปลาที่ถูกยิงจะจมสู่ใต้น้ำ มีพรายน้ำเป็นฟองและเลือดปุดๆให้เห็น ผู้ยิงจะต้องดำน้ำลงไปงมจับปลาขึ้นมา เพราะถ้าปลาถูกยิงในส่วนที่ไม่สำคัญ เช่น ไม่ถูกหัวหรือกระดูกสันหลังปลาอาจจะหนีไปตายในที่ไกล ดังนั้น เมื่อยิงปลาแล้วจะต้องลงงมทันที เผื่อปลาถูกยิงในที่ไม่สำคัญนักแต่ยังอยู่ในอาการช็อคอยู่จะได้จับตัวได้ แต่ถ้าช้าไป ปลาฟื้นจากช็อคขึ้นมาจะหนีไปเสียหรือแม้แต่ปลาถูกยิงที่อวัยวะสำคัญไปไม่รอดแล้ว แต่ถ้าช้าไป พรายน้ำ ฟองอากาศ หรือเลือดที่ผุดขึ้นมาเป็นที่สังเกตได้หมดลงก็อาจจะงมหาตัวยากก็ได้
วันนั้น จ่าโพนั่งอยู่บนคาคบไม้ตายแห้ง ริมขอบอ่างด้านตะวันออก ภายใต้เงาไม้ใหญ่ที่ร่มครื้มอีกทีหนึ่ง ที่เงียบๆอย่างนี้ปลาชะโดหรือปลาช่อนขนาดใหญ่ชอบอาศัยอยู่ ห่างออกไปไม่มากนักมีชาวบ้านลงตาข่ายดักปลาอยู่ 5-6 คน เพียงชั่วโมงเศษ จ่าโพก็มีโอกาสได้ลั่นปืนลูกกรดคู่มือถึง 3 ครั้ง ครั้งละนัดและลงดำงมจับปลาขึ้นมาถึง 3 หน ได้ปลาช่อนขนาดใหญ่ 2 ตัว และปลาชะโด 1 ตัวจากนั้นก็พายเรือเลียบขอบอ่างเพื่อเปลี่ยนที่ยิงใหม่ เพราะยิงและลงงมปลาถึง 3 ครั้ง 3 หน ปลาอาจระแคะระคายหนีไปหมดแล้วก็ได้ตามธรรมดาพอตกบ่ายจ่าโพจะพายเรือกลับบ้าน ตอนเย็นก็มักจะเอาปลาที่ได้จากการยิงไปทำอาหารชวนเพื่อนฝูงบ้านใกล้เรือนเคียงตั้งวงร่ำสุรา อาหารกันที่นอกชานเป็นที่ครึกครื้น แต่วันนี้จ่าโพไม่กลับ มืดค่ำแล้วก็ยังไม่กลับทางบ้านก็สอบถามพวกลงข่ายดักปลา "ที่พวกฉันเห็นก็เห็นจ่ายิงปลาได้ 3 ตัวแล้ว พายเรือไปหาที่ยิงในดงใผ่ได้ยินเสียงปืนอีกนัดหนึ่ง แต่พวกฉันชวนกันกลับก่อน ไม่รู้จ่ากลับแล้วหรือยัง" พวกลงข่ายดักปลาบอกเมื่อได้ความอย่างนี้ ทางบ้านจ่าโพและเพื่อนบ้านก็เห็นเป็นการผิดปกติจึงชวนกันเอาเรือออกตามในคืนนั้น นำโดยคนลงข่ายหาปลาที่เห็นเหตุการณ์ ทุกคนใจไม่ดี กลัวว่าอาจถูกงูจงอางฉกเอา เพราะบริเวณป่าร่มครื้มเหนือน้ำเป็นที่ที่งูจงอางมักไปซุ่มนอนพักผ่อน มีคนเคยถูกงูฉกตายมาแล้ว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเรือพายของจ่าโพผูกไว้กับต้นไม้ ปืนลูกกรดยาวแขวนอยู่บนกิ่งของไม้ตายแห้งต้นหนึ่ง ปลา 3 ตัวยังอยู่ในเรือ เสื้อผ้าก็แขวนไว้บนต้นไม้เดียวกับปืน แต่ จ่าโพหายไป "อยู่โคนต้นนี้แน่ ลงงมกันเถอะ" หลายคนที่ตามมาลงความเห็นเมียจ่าโพร้องไห้โฮพวกเพื่อนบ้านและเพื่อนตำรวจลงงมกัน เกือบค่อนคืนแต่ไม่พบศพหลายคนต่างเดากันไปต่างๆ บางคนว่าอาจถูกฆาตรกรรม แต่เหตุใดคนร้ายไม่เอาปืนของจ่าโพไปด้วยรุ่งขึ้น ทางญาติไปแจ้งความ เจ้าหน้าที่ส่งคนที่ดำน้ำเก่งมางม แต่ก็ไม่พบศพเมียจ่าโพแล่นไปหาหมอดู ไปหาเจ้าเข้าทรง เจ้าก็ว่าหมิ้นเจ้าทางจึงถูกลงโทษ (ตามธรรมเนียมของ
พ่อมดหมอผีซึ่งต้องว่าอย่างนั้น) วันที่ 3 ศพจ่าโพโผล่ ห่างจากที่เกิดเหตุไปเกือบ 500 ม. สภาพศพจ่าโพต่างจากศพคนตกน้ำตายทั่วไป ทั้งน่าสยดสยองและน่าอัศจรรย์ยิ่งศพขึ้นอืด นุ่งกางเกงในตัวเดียว (เพราะลงดำปลา) มือขวาแทรกอยู่ในเหงือกปลาชะโดขนาดใหญ่ตายติดแน่นอยู่กับมือ ปลาตัวนั้นมีรอยกระสุน .22 เจาะหัวด้านบนทะลุออกใต้คางเป็นแผลกว้าง (แสดงว่าเป็นกระสุนชนิดหัวเจาะรู) ที่ลำคอมีปลาชะโดขนาดใหญ่กว่าตัวแรกคาบคอตายติดอยู่ ทั้งปลาและคนสภาพขึ้นพองเช่นเดียวกัน แต่ปลาตัวที่กัดติดคอจ่าโพไม่มีรอยถูกยิงในทางชันสูตร สรุปได้ว่า จ่าโพคงยิงปลาชะโดตัวหนึ่ง (ตัวนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเมีย) แล้วลงงม แต่ปลาตัวใหญ่มาก กำหัวไม่รอบ จึงใช้มือแทรกเข้าไปในเหงือกแล้วจะลอยตัวขึ้นผิวน้ำ ปลาตัวที่กัดคอ (พิสูจน์ภายหลังว่าเป็นตัวผู้) อาจหวงคู่จึงปราดเข้ากัดคอทันที อาศัยที่มันอ้าปากกว้างเต็มที่เมื่อคาบคอแล้วอ้าปากเพื่อถอดออก
จากคอไม่ได้ หรือจะเป็นด้วยฟันฝังลึกมากด้วยธรรมดาปลาหายใจด้วยเหงือก และต้องเคลื่อนตัวไปมาด้วยจึงจะหายใจได้ดี เมื่อปลาคาบติดคอจ่าโพเสียแล้วมันก็เคลื่อนไหวไม่ได้ ประกอบกับปากอ้าเต็มที่เหงือกรัดตัว ปลาตัวนี้จึงตาย ส่วนจ่าโพนั้นไม่แน่ว่าตายเพราะขาดอากาศหายใจ หรือแผลที่คอ เพราะทั้งสองสาเหตุก็ตายได้ทั้งคู่ แต่ไม่ทราบว่าตายเพราะเหตุไหนก่อน เพราะแผลที่คอก็ถึงเส้นเลือดใหญ่เหมือนกัน โบราณท่านว่า หมองูตายเพราะงู เรื่องนี้ คนยิงปลาชะโด ก็ตายเพราะปลาชะโด เป็นเรื่องอุทาหรณ์ เล่าขานกันต่อไปได้อีกนานแสนนาน เพราะร้อยวันพันปีจะมีเรื่องอย่างนี้สักครั้ง

อันนี้เรียกว่าตำนานพอได้มั้ง ความดุของไอ้ป๊อก

ความคิดเห็นที่ 7

rater
rater
176
[2009-02-13 08:15:01]
ไม่รู้จะเป็นตำนานได้หรือเปล่า เคยเล่าให้เพื่อนๆฟังบ้างแล้ว เมื่อประมาณปี 2530กว่าๆ มีพี่ชายคนหนึ่งสนิทกับผมพอสมควร ได้ผสม มาลาวีแดงซึ่งสวยมากๆๆ ทั้งสี และรูปทรง สร้างความฮือฮาให้วงการมากๆเลยครับ ราคาพ่อพันธ์ตัว champ งานประกวดใหญ่ๆในเมืองไทย แต่ก่อนประกวดที่ central ลาดพร้าว ขายได้ในราคาเกือบ 10000 บาท ส่วนลูกปลาต้องจองตั้งแต่แงะปากมาเป่าครับ ปลาสายนี้เรียกว่า ทองปานเรด ปัจจุบันไม่ทราบว่า ปลาสายนี้ยังมีหลงเหลือ อยู่บ้างหรือป่าว แถวถนนนวมินทร์ แต่ก่อนเรียกว่า ถนนสุขาภิบาล1 ส่วนผมได้มาหลายตัวเหมือนกัน แต่ส่งไปอยู่กับท่านยม หมดแล้ว เสียดายจัง อ้อลูกปลาตอนเป่านี่ตัวละ 100ได้มั้งครับ
ส่วนถ้าอยากเห็นรูปก็อยู่ในหนังสือมหัสจรรย์ปลาหมอสีนั่นแหละครับ เรื่องนี้พอจะเป็นตำนานได้หรือเปล่า 20ปีได้แล้วมั้ง

ความคิดเห็นที่ 8

AlfaMale
AlfaMale
1513
[2009-02-13 09:08:25]
---เลี้ยงปลาใหม่ๆ เวลาถ่ายน้ำ
1. ตักปลาออก
2. เอาหินไปล้างใกมัง
3. เอาตู้ไปคว่ำ ตากแดด
เป็นตำนานป่าวหว่า?

---เริ่มหลงปลาหมอสายแท้ เริ่มจาก แซงแซว ตัวละ 10.- อิอิ

---เคยฝากขาย ทาปาโจส ได้ตัวละ 1,000.- งง มาก!!!

ความคิดเห็นที่ 9

AdKOnings
AdKOnings
785
[2009-02-13 09:24:03]
เอาด้วยๆๆ
บ้านผมอยู่ ชนบทมีทุ่งนาเยอะแยะ ตอนเด็กๆไม่มีของเล่น เพราะไม่มีห้างให้เดินเล่นให้ซื้อ ผมและเพื่อนๆ ไม่มีไรทำว่างจากยิงนกและเล่นชนไก่ ก็คว้าตะกร้าไปช้อนปลากัดในทุ่งนา ลำห้วยคลองบึงมาใส่ขวดแม่โขง ตั้งเต็มห้องไปหมดและให้ลูกน้ำกิน ว่างๆก็นัดเพื่อนมากัดกัน เคยกัดมากสุด 5 ตัวในขวดเดียวกัน หนุกมากจำได้ เพาะลูกน้ำกับเปลือกขนุนจนยุงเต็มบ้านไปหมดแต่พ่อไม่ว่าโชคดีไป
พ่อชอบเลี้ยงสัตว์เลยหนับหนุนลูกๆ
ตอนนี้ก็มี จรเข้ 3 ตัว โตเกือบ2เมตรครึ่งแระ อยู่ในบ่อหลังบ้านเลี้ยงมา 12ปีแระให้กินหมูตาย
แต่ไม่ใช่จรเข้จากเลคแทงนะคับ จากฟาร์มที่ไหนก็ไม่รู้ จากนั้นผมก็พัทนามาเป็นปลาทองหัวสิงห์และก็เลคแทงคับในตอนนี้ อิอิ

แค่เนี๊ย ยาวไปป่าวเนี๊ย

ความคิดเห็นที่ 10

phatphon
phatphon
1113
[2009-02-13 09:56:02]
ตำ ... นาน ก็แหลกหมดอะซิคับ หุหุ อะล้อเล่ง ๆ

ปล. นานมาก จำมะค่อยได้แว้ว ตัวแรกคงเป็นปลากัด อะคับ

ความคิดเห็นที่ 11

orakodn
orakodn [2009-02-13 11:37:44]
เลี้ยงปลาแรก ๆ ก็พวกปลาทองสมัยยังเรียนอยู่ทำเหมือนธุชเลย กว่าจะล้างตู้เสร็จแต่ละครั้ง ยุ่งยากเหลือเกิน

พอจบทำงานแล้ว มีบ้านเองก็เลี้ยงปลามังกรก่อน ค่อย ๆ ศึกษาพวกสายพันธุ์แท้ ทำไปทำมา ตอนนี้ปาเข้าไป 7 ตู้แล้ว ตอนนี้พยายามหักห้ามใจว่าไม่เพิ่มตู้อีกแล้ว

ความคิดเห็นที่ 12

rome
rome
2515
[2009-02-13 11:40:56]
อ่านแล้วสนุกดีครับ

ความคิดเห็นที่ 13

keekie
keekie
578
[2009-02-13 12:13:00]
กาลครั่งหนึ่งนานแล้วววววว........นานนนนนนจนจำไม่ได้..จบ..อิอิ

ความคิดเห็นที่ 14

watermonkey
watermonkey
449
[2009-02-13 13:33:24]
Jonn เรื่องมันมากครับ ถ้ามีอีกอย่าลืมเล่าสุ่กันฟังอีกน่ะครับ สนุกดีครับ

mootoy keekie ผมว่าเเล้วเชียวต้องมามุขนี้


ใครมีเรื่องตำนาน เรื่องเล่าๆ อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังน่ะครับ

ความคิดเห็นที่ 15

bergkit17
bergkit17 [2009-02-13 16:30:39]
ตำนานของผมก็คือ เลี้ยง ฟาเวอร์ฮอร์น ในโหลปลากัด .... เฉิ่มมากครับ คือ มีคนฝากปลาให้ผมเลี้ยง เป็นลูกปลาน่ะครับ ...พอดีไม่มีตู้ใส่ เหลือบไปเห็นโหล ปลากัด ก็จัดแจง ใส่ปั้ม ปิดฝา ... เลี้ยงเกือบ 3 อาทิตย์ ...ปรากฏเอาไปให้เค้า ... 5555 ปลาตัวนี้กลายเป็นปลาแคระไปเลย โตได้แค่ 3 นิ้วเอง ...

ความคิดเห็นที่ 16

Jonn
Jonn [2009-02-13 18:33:54]
เป็นเรื่องที่ผมก๊อปมาอีกทีนะครับ ความจริงเรื่องนี้ผมจำได้นิดหน่อย เพราะเคยเป็นข่าวดังอยู่หลายปี
ลองค้นดูก็เห็นมีคนเล่าเอาไว้ละเอียดเหมือนกันครับ

ความคิดเห็นที่ 17

mootoy
mootoy
1122
[2009-02-14 02:12:35]
Jonn เรื่องมันมากครับ ถ้ามีอีกอย่าลืมเล่าสุ่กันฟังอีกน่ะครับ สนุกดีครับ

mootoy keekie ผมว่าเเล้วเชียวต้องมามุขนี้


ใครมีเรื่องตำนาน เรื่องเล่าๆ อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังน่ะครับ

watermonkey

แซวเล่นนะครับ อย่าไปฟ้องครูธุชนะกลัวโดนมาตรา 69 ครับ

ความคิดเห็นที่ 18

chairau
chairau
733
[2009-02-14 08:16:57]
จำได้แต่ว่าซื้อปลาครั้งแรกที่สนามหลวง สนามหลวงจริงๆ

ความคิดเห็นที่ 19

mootoy
mootoy
1122
[2009-02-15 00:36:26]
โห คุณปู่แจ๊คครับไปซื้อแต่ปลาอย่างเดียวหรือปล่า ไม่ได้แวะแผงหนังสือใช่ไหมครับ
ด้านบน

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนทำรายการ

เข้าระบบ